วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 05:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2019, 05:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี
ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเอง
เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่า.. อย่าทำ”
หลวงปู่ไม อินทรศิริ





"เราสร้างความดีกับใคร เราก็ดีใจ
ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้ ในทำนองเดียวกัน
การทำความชั่ว ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้"
หลวงปู่จรัญ ฐิตธัมโม





"ทุกอย่างในโลกนี้ มันถูกอยู่แล้ว
มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้น ที่ผิด"
หลวงปู่ชา สุภัทโท





"ต้องเน้นการหาความรู้
มากกว่าการให้ความเห็น
ต้องให้การแสดงความเห็นนั้น
ตั้งอยู่บนฐานของความรู้ ที่มั่นคงที่สุด

เวลานี้ มีปัญหามากเหลือเกิน
คนชอบแสดงความเห็น
โดยไม่หาความรู้เลย"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)






เรื่อง "ปทปรมะ มืดบอดหมดคุณค่าความเป็นมนุษย์"

เวลาดูโลกดูด้วยความอ่อนใจ ผู้ที่มืดนี้ก็เรียกว่าหมดคุณค่าเอาเลย มนุษย์ทั้งคนนี้ละ อยู่ด้วยกันอย่างนี้ ผู้มันมืดขนาดหมดคุณค่าเลย นั่นท่านเรียกว่า "ปทปรมะ" เข้าใจไหม แย็บขึ้นมาก็มีลักษณะอะไร ๆ แย็บขึ้นมาสูงขึ้น ๆ แย็บขึ้นมาถึงพวกปทปรมะ แล้วก็พวกเนยยะ พวกวิปจิตัญญู พวกเนยยะ ดูขึ้นเป็นขั้นๆ ไปถึงขั้นพวกเนยยะนี้ พอลากพอเข็นไปได้ ทั้งจะขึ้นทั้งจะลง เนยยะ คือ พอแนะนำสั่งสอนไปได้ถ้าเผลอก็ลงได้ ถ้าเจ้าของเอาจริงเอาจัง ดีดได้ ๆ อันนี้ทั้งขึ้นทั้งลงได้ด้วยกันหมด เนยยะ อันที่สามนี้มีแต่จะขึ้น ๆ ถ่ายเดียวคำว่าลงไม่มี มีแต่จะขึ้น แต่ช้ากว่าอุคฆฏิตัญญู อุคฆฏิตัญญูนี้พร้อมแล้วที่จะผางออก ถ้าเป็นวัวก็รออยู่ปากคอก คอยแต่จะเปิดประตูคอกนี้พุ่งเลย นี่ประเภทอุคฆฏิตัญญู ผู้ที่จะรู้เร็วผ่านได้เร็ว มีเป็นขั้น ๆ มาอย่างนั้น เรามาก็พิจารณา

แล้วที่กล่าวเหล่านี้มีในสัตว์โลกนี้ทั้งนั้น นั่นมันแยกนะ ประเภทเยี่ยมมี ในกองที่ว่าอิดหนาระอาใจนี่แหละ มันมีอยู่ในนั้น มันแยกของมันเองนะ "อุคฆฏิตัญญู" ประเภทที่รอที่จะข้ามผึง ๆ มี แล้ว "วิปจิตัญญู" ลดกันกว่านั้นก็มี จะขึ้นจะออก ๆ "เนยยะ" นี่กำลังแย่งตำแหน่งกันระหว่าง เสื่อกับหมอนกับทางจงกรม เข้าใจไหม นี่กำลังแย่งกันไป แย่งกันมา พวกปทปรมะนั้น เป็นร่างมนุษย์เฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรติดตัวเลย นี่แหละพวกที่ตายแล้วก็ไม่มีความหมายอะไร ลงผึงเลย ลงไปอีกตามเดิม ไม่มีทางขึ้น ไม่มีประโยชน์ติดตัวเลยแม้นิดหนึ่ง ลงถ่ายเดียว จำให้ดีคำนี้น่ะ ถอดออกมาจากหัวใจมาสอนพี่น้องทั้งหลาย โกหกเหรอ

นี่แหละท่านว่า ประเภทถังขยะ คำว่าถังขยะนั้นมี ๔ ประเภท อยู่ในถังขยะอันเดียวกันเข้าใจไหม ประเภทที่เยี่ยม คือ อุคฆฏิตัญญู นี่ในถังขยะอันนี้แหละ ประเภทวิปจิตัญญู ลดกันลงมาก็อยู่ในถังขยะอันนี้ ประเภทเนยยะ ก็มีอยู่ในถังขยะอันนี้ ประเภทปทปรมะก็มีเต็มอยู่ในถังขยะนี้ โลกอันนี้เป็นโลกสมมุติเป็นโลกถังขยะ เจือปนไปด้วยสิ่งดีสิ่งชั่ว สับสนปนเปกันอยู่ในกองถังขยะนี้ เข้าใจไหมล่ะ แยกออกเป็นสี่ประเภทในถังขยะนี้ ทีนี้มันก็แยกแยะ ๆ พิจารณา แล้วทีนี้ก็ขึ้นมาอีกอันหนึ่งนะ ตอนที่เหมือนว่าทอดอาลัยตายอยากกับโลกที่จะไม่สั่งสอนใคร เรียกว่าทำความขวนขวายน้อย

สักเดี๋ยวก็ผุดขึ้นมาอีกนะ นี่แหละที่จะให้มีแก่ใจ ผุดขึ้นมาอีก ถ้าว่าธรรมเป็นของวิเศษเลิศเลอไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ แล้วเราเป็นเทวดามาจากไหน เอาตรงนี้นะขึ้นตรงนี้ขึ้นในจิต เราเป็นเทวดามาจากไหน ทำไมจึงรู้ได้ รู้ได้เพราะเหตุใด นี่คำว่าเพราะเหตุใด มันก็จับสายทางนั่นซี เรารู้ได้เพราะอะไร มันก็มีสายทางมา ตามทางที่พระพุทธเจ้าสอนว่า การให้ทานรักษาศีลภาวนา นี้คือทางเดินเข้ามา เข้าใจไหมล่ะ เข้ามาจุดนี้ ทางอื่นไม่มี นี่รู้ได้เพราะเหตุใดมันก็วิ่งย้อนหลังมา เป็นทางที่เราเดินมาแล้วทั้งนั้น ๆ มาถึงจุดนี้ อ๋อ ขึ้นยอมรับที่นี่ อ๋อได้ ถึงไม่มากก็ได้ นั่น มีแล้วนะที่นี่ ปฏิเสธไม่ได้เลย บอกว่าได้ไม่มากก็ได้ ถึงไม่มากก็ได้อยู่ มีแก่ใจเริ่มที่จะแนะนำสั่งสอนผู้ที่สมควรจะสอน อยู่ในป่าในเขาพระเณรก็รุม ๆ อยู่นั้นแหละ

(โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)






อย่าไปดูถูกเหยียดหยามคนนั้นคนนี้
มันเกิดอยู่กับกรรมของแต่ละคน
ใครจะไปแต่งกรรมให้กันไม่ได้
เราเป็นคนด้วยกันก็แต่งกรรมดี
คือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เอาเป็นหลักใจ
เห็นคนอื่นเขาไม่ดีก็อย่าไปดูถูกเหยียดหยามเขา
ให้คิดว่าเราก็อยู่ในท่ามกลางแห่งฟืนแห่งไฟเหมือนกัน
เพราะกิเลสเป็นตัวยุแหย่ก่อฟืนก่อไฟให้เผาไหม้ตลอด
ให้ระงับกันลงด้วยความให้อภัยซึ่งกันและกัน
นั่นเป็นของดิบของดีนะ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน







ธรรมะพระพุทธเจ้าข้อ ขันติ คือความอดทน มีอยู่ ทำไมไม่เอามาใช้..
คนอื่นไม่ดี เราจะไม่ดีตามเขาหรือ ทำความดีของเราไปสิ ทำให้มันล้นทับความไม่ดีไปเลย ทำได้ไหม?

ธรรมะใต้กุฏิ...
หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต

ให้ไว้เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๘


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2019, 05:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
“ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี
ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเอง
เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่า.. อย่าทำ”
หลวงปู่ไม อินทรศิริ





"เราสร้างความดีกับใคร เราก็ดีใจ
ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้ ในทำนองเดียวกัน
การทำความชั่ว ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้"
หลวงปู่จรัญ ฐิตธัมโม





"ทุกอย่างในโลกนี้ มันถูกอยู่แล้ว
มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้น ที่ผิด"
หลวงปู่ชา สุภัทโท





"ต้องเน้นการหาความรู้
มากกว่าการให้ความเห็น
ต้องให้การแสดงความเห็นนั้น
ตั้งอยู่บนฐานของความรู้ ที่มั่นคงที่สุด

เวลานี้ มีปัญหามากเหลือเกิน
คนชอบแสดงความเห็น
โดยไม่หาความรู้เลย"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)






เรื่อง "ปทปรมะ มืดบอดหมดคุณค่าความเป็นมนุษย์"

เวลาดูโลกดูด้วยความอ่อนใจ ผู้ที่มืดนี้ก็เรียกว่าหมดคุณค่าเอาเลย มนุษย์ทั้งคนนี้ละ อยู่ด้วยกันอย่างนี้ ผู้มันมืดขนาดหมดคุณค่าเลย นั่นท่านเรียกว่า "ปทปรมะ" เข้าใจไหม แย็บขึ้นมาก็มีลักษณะอะไร ๆ แย็บขึ้นมาสูงขึ้น ๆ แย็บขึ้นมาถึงพวกปทปรมะ แล้วก็พวกเนยยะ พวกวิปจิตัญญู พวกเนยยะ ดูขึ้นเป็นขั้นๆ ไปถึงขั้นพวกเนยยะนี้ พอลากพอเข็นไปได้ ทั้งจะขึ้นทั้งจะลง เนยยะ คือ พอแนะนำสั่งสอนไปได้ถ้าเผลอก็ลงได้ ถ้าเจ้าของเอาจริงเอาจัง ดีดได้ ๆ อันนี้ทั้งขึ้นทั้งลงได้ด้วยกันหมด เนยยะ อันที่สามนี้มีแต่จะขึ้น ๆ ถ่ายเดียวคำว่าลงไม่มี มีแต่จะขึ้น แต่ช้ากว่าอุคฆฏิตัญญู อุคฆฏิตัญญูนี้พร้อมแล้วที่จะผางออก ถ้าเป็นวัวก็รออยู่ปากคอก คอยแต่จะเปิดประตูคอกนี้พุ่งเลย นี่ประเภทอุคฆฏิตัญญู ผู้ที่จะรู้เร็วผ่านได้เร็ว มีเป็นขั้น ๆ มาอย่างนั้น เรามาก็พิจารณา

แล้วที่กล่าวเหล่านี้มีในสัตว์โลกนี้ทั้งนั้น นั่นมันแยกนะ ประเภทเยี่ยมมี ในกองที่ว่าอิดหนาระอาใจนี่แหละ มันมีอยู่ในนั้น มันแยกของมันเองนะ "อุคฆฏิตัญญู" ประเภทที่รอที่จะข้ามผึง ๆ มี แล้ว "วิปจิตัญญู" ลดกันกว่านั้นก็มี จะขึ้นจะออก ๆ "เนยยะ" นี่กำลังแย่งตำแหน่งกันระหว่าง เสื่อกับหมอนกับทางจงกรม เข้าใจไหม นี่กำลังแย่งกันไป แย่งกันมา พวกปทปรมะนั้น เป็นร่างมนุษย์เฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรติดตัวเลย นี่แหละพวกที่ตายแล้วก็ไม่มีความหมายอะไร ลงผึงเลย ลงไปอีกตามเดิม ไม่มีทางขึ้น ไม่มีประโยชน์ติดตัวเลยแม้นิดหนึ่ง ลงถ่ายเดียว จำให้ดีคำนี้น่ะ ถอดออกมาจากหัวใจมาสอนพี่น้องทั้งหลาย โกหกเหรอ

นี่แหละท่านว่า ประเภทถังขยะ คำว่าถังขยะนั้นมี ๔ ประเภท อยู่ในถังขยะอันเดียวกันเข้าใจไหม ประเภทที่เยี่ยม คือ อุคฆฏิตัญญู นี่ในถังขยะอันนี้แหละ ประเภทวิปจิตัญญู ลดกันลงมาก็อยู่ในถังขยะอันนี้ ประเภทเนยยะ ก็มีอยู่ในถังขยะอันนี้ ประเภทปทปรมะก็มีเต็มอยู่ในถังขยะนี้ โลกอันนี้เป็นโลกสมมุติเป็นโลกถังขยะ เจือปนไปด้วยสิ่งดีสิ่งชั่ว สับสนปนเปกันอยู่ในกองถังขยะนี้ เข้าใจไหมล่ะ แยกออกเป็นสี่ประเภทในถังขยะนี้ ทีนี้มันก็แยกแยะ ๆ พิจารณา แล้วทีนี้ก็ขึ้นมาอีกอันหนึ่งนะ ตอนที่เหมือนว่าทอดอาลัยตายอยากกับโลกที่จะไม่สั่งสอนใคร เรียกว่าทำความขวนขวายน้อย

สักเดี๋ยวก็ผุดขึ้นมาอีกนะ นี่แหละที่จะให้มีแก่ใจ ผุดขึ้นมาอีก ถ้าว่าธรรมเป็นของวิเศษเลิศเลอไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ แล้วเราเป็นเทวดามาจากไหน เอาตรงนี้นะขึ้นตรงนี้ขึ้นในจิต เราเป็นเทวดามาจากไหน ทำไมจึงรู้ได้ รู้ได้เพราะเหตุใด นี่คำว่าเพราะเหตุใด มันก็จับสายทางนั่นซี เรารู้ได้เพราะอะไร มันก็มีสายทางมา ตามทางที่พระพุทธเจ้าสอนว่า การให้ทานรักษาศีลภาวนา นี้คือทางเดินเข้ามา เข้าใจไหมล่ะ เข้ามาจุดนี้ ทางอื่นไม่มี นี่รู้ได้เพราะเหตุใดมันก็วิ่งย้อนหลังมา เป็นทางที่เราเดินมาแล้วทั้งนั้น ๆ มาถึงจุดนี้ อ๋อ ขึ้นยอมรับที่นี่ อ๋อได้ ถึงไม่มากก็ได้ นั่น มีแล้วนะที่นี่ ปฏิเสธไม่ได้เลย บอกว่าได้ไม่มากก็ได้ ถึงไม่มากก็ได้อยู่ มีแก่ใจเริ่มที่จะแนะนำสั่งสอนผู้ที่สมควรจะสอน อยู่ในป่าในเขาพระเณรก็รุม ๆ อยู่นั้นแหละ

(โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)






อย่าไปดูถูกเหยียดหยามคนนั้นคนนี้
มันเกิดอยู่กับกรรมของแต่ละคน
ใครจะไปแต่งกรรมให้กันไม่ได้
เราเป็นคนด้วยกันก็แต่งกรรมดี
คือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เอาเป็นหลักใจ
เห็นคนอื่นเขาไม่ดีก็อย่าไปดูถูกเหยียดหยามเขา
ให้คิดว่าเราก็อยู่ในท่ามกลางแห่งฟืนแห่งไฟเหมือนกัน
เพราะกิเลสเป็นตัวยุแหย่ก่อฟืนก่อไฟให้เผาไหม้ตลอด
ให้ระงับกันลงด้วยความให้อภัยซึ่งกันและกัน
นั่นเป็นของดิบของดีนะ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน







ธรรมะพระพุทธเจ้าข้อ ขันติ คือความอดทน มีอยู่ ทำไมไม่เอามาใช้..
คนอื่นไม่ดี เราจะไม่ดีตามเขาหรือ ทำความดีของเราไปสิ ทำให้มันล้นทับความไม่ดีไปเลย ทำได้ไหม?

ธรรมะใต้กุฏิ...
หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต

ให้ไว้เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๘

:b8: :b8: :b8:

สร้างเหตุเช่นไรก็ย่อมจะได้รับผลเช่นนั้นเอง


ทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว ทำตัวทั้งดีและชั่วก็ย่อมจะได้รับผลทั้งดีและชั่ว
:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร