วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 00:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 274 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
ลองปฏิบัติให้ได้ฌาณนะครับ พอเมื่อปฏิบัติไป จะเข้าใจรู้จัก วิจาร วิจารคืออะไร ก็ตัวรื่องราวของสิ่งที่ตรึกนั้นแหละคือวิจาร เพื่อละอกุศลวิตก และอกุศลวิจาร การกรรมฐานจึงมี พุทโธ เป็นวิตก มีวิจารคือลม แต่คิดว่าถึงพูดไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ คนที่ท่องจำกับคนที่ปฏิบัติจะเรียนรู้ ทำความรู้ความเข้าใจมาต่างกัน ส่วนคนที่มีทั้งปริยัติ ปฏฺบัติ ถึง ปฏิเวท ก็จะรู้ทั้ง 2 อย่าง ไม่มีสิ่งใดขัดกันเลย ซึ่งผมก็ชี้แจงครบทั้ง 2 อย่าง ลองปฏิบัติดูก่อนครับแล้วจะเข้าใจ คนที่ท่องจำโดยมากรู้จักแต่วิตก วิจารรู้แต่บัญญัติ รู้แต่ว่าตรอง รู้แต่ว่าแนบอารมณ์ แต่ไม่เคยเข้าใจจริงๆว่าคืออะไร ซึ่งจะมีแค่คนที่ปฏิบัติเท่านั้นที่จะเห็น วิตก แยกวิจาร ครับ


ก๊ากๆๆๆ

นี่คือความรู้ผิดๆ ของคุณแค่อากาศ ที่ไม่ได้ผ่านการศึกษา 84000 พระธรรมขันธ์มาเรย

เรยไม่รู้ว่าวิปัสสนา ไม่ได้มีฌาน เป็นอารมณ์
แต่ ฌาน ที่ถูกต้อง จะเกิดขึ้นประกอบ กับ มรรคจิต เป็นไปด้วยอำนาจของวิปัสสนา
เมื่อบุคคลนั้นๆ บรรลุวิปัสสนาญาน

ที่ถูกต้อง ตามพุทธวิชาตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วิปัสสนา จึง ไม่ต้องเจริญ ฌาน


นี่แค่คำของคุณแค่อากาศ ไม่กี่บันทัด ยังมั่วแหลก ผิดเพี้ยนไปจากพระปริยัติ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลายประการ

นับเป็นตัวอย่าง คนที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์มาเรย


สาธุ พูดดีๆก็เป็นนี่ น่ารักขึ้นเยอะเลยนะเม อย่างนี้มันดูเมงามขึ้นมาเลย ถ้าลดความไร้สาระตามกิเลสลงได้จะงามกว่านี้มาก

..คนที่รู้จักพุทโธแค่คำบริกรรมก็เข้าใจอย่างเมพูดนั่นแหละ แต่ที่ปฏิบัติจริงคนที่ถึงพุทโธ ท่านมีจิตเป็นผู้รู้ คือรู้เห็นของจริงต่างหากจากสมมติกิเลสของปลอม จิตเป็นผู้ตื่น ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอมจิตน้อมลงตรงมรรคผลนิพพาน ทำความแยบคายเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม เป็นจิตของคนถึงพุทโธ พุทโธเป็นพระอริยะสัจ ๔ รู้ทุกข์ เห็นสมุทัย ตื่นจากทุกข์ ละสมุทัย ตื่นจากสมุทัยเดินมรรค ถึงมรรค เบิกบานด้วยผล ผลอันเบิกบานพ้นแล้วจากสมมติกิเลวของปลอมคือนิโรธ นี่คือจิตเป็นพุทโธ

..ที่เมกล่าวมา การอาศัยท่องจำคิดตามเอามันไม่เห็นจริงหรอก ทุกวันนี้ที่เมท่องจำก็ยังไม่เห็นจริงเลย เห็นแต่ตัวหนังสือ คนที่เห็นจริงถึงมรรคถึงผล ความคิดจะไม่มีอกุศล จะไม่มีวาจาประการใดด้วยกิเลส ไม่กระทำด้วยกิเลส ใจปล่อยละ วางง่าย ฉลาดในธรรม
..ที่เมพูดมาล้วนพยายามกล่าวพูดตามความการบรรลุธรรมสายสุกขวิปัสสก เพราะปฏิบัติไม่มากบรรลุไว แต่ต่อให้อ่านจำให้ตายหากเหตุไม้เต็มก็ได้แค่ท่องจำ สายนี้ท่านจะอาศัยอุปจาระฌาณ เข้าได้หลายๆชั่วโมงไม่อาศัยฌาณทำวิปัสสนา ซึ่งท่านไปไวจริง ปัญญามากแต่เห็นไม่ครบหมด ไม่ใช่สายนี้ท่านไม่มีสมาธิ ไม่เจริญสมาธิ หรือไม่เจริญถึงฌาณ แต่ว่าท่านใช้อุปจาระสมาธิโยนิโสมนสิการ
..ส่วนในวิชชา ๓ เตวิชโช ขึ้นไปท่านเข้าปฏิบัติกรรมฐานตามที่พระพุทธศาสดาตรัสสอน กรรมฐาน ๔๐ ครบลงฌาณ เข้าฌาณทำวิปัสสนา สมดั่งพระพุทธศาสดาตรัสไว้ในแต่ละฌาณบรรลุธรรมได้ด้วยฌาณนั้นๆ ทำให้เห็นเยอะกว่าสุกขวิปัสสก
..คนอาศัยเวทนาลัดทำอรูปบ้าง เรียนอรูปโดยไม่ทำรูปฌาณบ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่าบรรลุธรรม หรือได้ปฏิสัมทัปปัตโต :b53: :b53:

ขออนุโมทนาครับ

:b8: :b8: :b8:

รู้สึกออกนอกทางหัวข้อกระทู้มาเยอะเลย กลายเป็นเอาความหลงมาโม้กัน :b32: :b32: :b32:

ก๊ากๆๆๆ

คุณแค่อากาศ แสดงความตื้นเขินเขลาเบาปัญญาซ้ำซากอีกแล้ว

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์

พูดถึงฌาน แต่ไม่รู้ว่า

ฌานคือสมถะ ไม่ใช่วิปัสสนา
กัมฐาน 40 กอง เป็นสมถะ
ไม่ใช่วิปัสสนา

ไม่รู้ว่า

วิปัสสนา ที่ถูกต้อง ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดง

คือการกำหนดปรมัตถ์ เพื่อประจักษ์ในไตรลักษณ์ แทงตลอด ในญาน 16

ก๊ากๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
ลองปฏิบัติให้ได้ฌาณนะครับ พอเมื่อปฏิบัติไป จะเข้าใจรู้จัก วิจาร วิจารคืออะไร ก็ตัวรื่องราวของสิ่งที่ตรึกนั้นแหละคือวิจาร เพื่อละอกุศลวิตก และอกุศลวิจาร การกรรมฐานจึงมี พุทโธ เป็นวิตก มีวิจารคือลม แต่คิดว่าถึงพูดไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ คนที่ท่องจำกับคนที่ปฏิบัติจะเรียนรู้ ทำความรู้ความเข้าใจมาต่างกัน ส่วนคนที่มีทั้งปริยัติ ปฏฺบัติ ถึง ปฏิเวท ก็จะรู้ทั้ง 2 อย่าง ไม่มีสิ่งใดขัดกันเลย ซึ่งผมก็ชี้แจงครบทั้ง 2 อย่าง ลองปฏิบัติดูก่อนครับแล้วจะเข้าใจ คนที่ท่องจำโดยมากรู้จักแต่วิตก วิจารรู้แต่บัญญัติ รู้แต่ว่าตรอง รู้แต่ว่าแนบอารมณ์ แต่ไม่เคยเข้าใจจริงๆว่าคืออะไร ซึ่งจะมีแค่คนที่ปฏิบัติเท่านั้นที่จะเห็น วิตก แยกวิจาร ครับ


ก๊ากๆๆๆ

นี่คือความรู้ผิดๆ ของคุณแค่อากาศ ที่ไม่ได้ผ่านการศึกษา 84000 พระธรรมขันธ์มาเรย

เรยไม่รู้ว่าวิปัสสนา ไม่ได้มีฌาน เป็นอารมณ์
แต่ ฌาน ที่ถูกต้อง จะเกิดขึ้นประกอบ กับ มรรคจิต เป็นไปด้วยอำนาจของวิปัสสนา
เมื่อบุคคลนั้นๆ บรรลุวิปัสสนาญาน

ที่ถูกต้อง ตามพุทธวิชาตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วิปัสสนา จึง ไม่ต้องเจริญ ฌาน


นี่แค่คำของคุณแค่อากาศ ไม่กี่บันทัด ยังมั่วแหลก ผิดเพี้ยนไปจากพระปริยัติ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลายประการ

นับเป็นตัวอย่าง คนที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์มาเรย


สาธุ พูดดีๆก็เป็นนี่ น่ารักขึ้นเยอะเลยนะเม อย่างนี้มันดูเมงามขึ้นมาเลย ถ้าลดความไร้สาระตามกิเลสลงได้จะงามกว่านี้มาก

..คนที่รู้จักพุทโธแค่คำบริกรรมก็เข้าใจอย่างเมพูดนั่นแหละ แต่ที่ปฏิบัติจริงคนที่ถึงพุทโธ ท่านมีจิตเป็นผู้รู้ คือรู้เห็นของจริงต่างหากจากสมมติกิเลสของปลอม จิตเป็นผู้ตื่น ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอมจิตน้อมลงตรงมรรคผลนิพพาน ทำความแยบคายเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม เป็นจิตของคนถึงพุทโธ พุทโธเป็นพระอริยะสัจ ๔ รู้ทุกข์ เห็นสมุทัย ตื่นจากทุกข์ ละสมุทัย ตื่นจากสมุทัยเดินมรรค ถึงมรรค เบิกบานด้วยผล ผลอันเบิกบานพ้นแล้วจากสมมติกิเลวของปลอมคือนิโรธ นี่คือจิตเป็นพุทโธ

..ที่เมกล่าวมา การอาศัยท่องจำคิดตามเอามันไม่เห็นจริงหรอก ทุกวันนี้ที่เมท่องจำก็ยังไม่เห็นจริงเลย เห็นแต่ตัวหนังสือ คนที่เห็นจริงถึงมรรคถึงผล ความคิดจะไม่มีอกุศล จะไม่มีวาจาประการใดด้วยกิเลส ไม่กระทำด้วยกิเลส ใจปล่อยละ วางง่าย ฉลาดในธรรม
..ที่เมพูดมาล้วนพยายามกล่าวพูดตามความการบรรลุธรรมสายสุกขวิปัสสก เพราะปฏิบัติไม่มากบรรลุไว แต่ต่อให้อ่านจำให้ตายหากเหตุไม้เต็มก็ได้แค่ท่องจำ สายนี้ท่านจะอาศัยอุปจาระฌาณ เข้าได้หลายๆชั่วโมงไม่อาศัยฌาณทำวิปัสสนา ซึ่งท่านไปไวจริง ปัญญามากแต่เห็นไม่ครบหมด ไม่ใช่สายนี้ท่านไม่มีสมาธิ ไม่เจริญสมาธิ หรือไม่เจริญถึงฌาณ แต่ว่าท่านใช้อุปจาระสมาธิโยนิโสมนสิการ
..ส่วนในวิชชา ๓ เตวิชโช ขึ้นไปท่านเข้าปฏิบัติกรรมฐานตามที่พระพุทธศาสดาตรัสสอน กรรมฐาน ๔๐ ครบลงฌาณ เข้าฌาณทำวิปัสสนา สมดั่งพระพุทธศาสดาตรัสไว้ในแต่ละฌาณบรรลุธรรมได้ด้วยฌาณนั้นๆ ทำให้เห็นเยอะกว่าสุกขวิปัสสก
..คนอาศัยเวทนาลัดทำอรูปบ้าง เรียนอรูปโดยไม่ทำรูปฌาณบ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่าบรรลุธรรม หรือได้ปฏิสัมทัปปัตโต :b53: :b53:

ขออนุโมทนาครับ

:b8: :b8: :b8:

รู้สึกออกนอกทางหัวข้อกระทู้มาเยอะเลย กลายเป็นเอาความหลงมาโม้กัน :b32: :b32: :b32:

ก๊ากๆๆๆ

คุณแค่อากาศ แสดงความตื้นเขินเขลาเบาปัญญาซ้ำซากอีกแล้ว

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์

พูดถึงฌาน แต่ไม่รู้ว่า

ฌานคือสมถะ ไม่ใช่วิปัสสนา
กัมฐาน 40 กอง เป็นสมถะ
ไม่ใช่วิปัสสนา

ไม่รู้ว่า

วิปัสสนา ที่ถูกต้อง ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดง

คือการกำหนดปรมัตถ์ เพื่อประจักษ์ในไตรลักษณ์ แทงตลอด ในญาน 16

ก๊ากๆๆๆ


.. จนถึงป่านี้ยังไม่รู้อีกหรือว่าเขาพูดอะไร :b32: :b32: :b32: ไม่แปลกใจเลยที่เมยังทำได้แค่อัตตาสมมติกิเลสตน

.. คนที่ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคุณ มีแต่โทษ มักจะมองสิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่ออก ตีความไม่ได้เพราะรู้และเข้าใจน้อย จนทุกวันนี้ยังไม่เห็นเมสร้างประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาหรือใคร นอกจากเพ้อตามกิเลสตน น่าสงสาร อย่างว่าแหละทำสะสมปัญญามาได้แค่นี้ :b26: :b5: :b5:

.. สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดคนที่ปฏิบัติแสวงหาทางพ้นทุกข์ คนที่จิตเดิน จิตทำกิจเข้ารู้เริ่องไปแล้วว้าคืออะไร เขาจะเข้าใจ สังเกตุไหมคนปฏิบัติจริงเขาจะรู้เรื่องว่าคืออะไร ส่วนคนที่ยังได้แค่จดจำหลงตำราก็จะเห็นแบบเมเห็นนี้ล่ะ

.. แปลกใจไหมทำไมเมคุยกับใครไม้ได้สักคน ไปกระทู้ไหนเขาก็เลิกคุยกัน เพราะเขาระอากิเลสเมไงครับ คนที่กิเลสเยอะมักหาขออ้างเพื่อทำตามกิเลสตนเสมอ คนฉลาดเขารู้ที่พูดนี้แล้วแก้ไข คนจัญไรชอบแถเพ้อไปเรื่อย

อย่างนี้จะเอาอะไรไปบอกใครได้หนอนอกจากทำลายพระพุทธศาสนา ทำให้มากอย่าติดสมมติกิเลสให้มากนะเม จิตใจจะดีขึ้นแจ่มใสขึ้น

:b1: :b1: :b1:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ



.. โดยจริตนิสัย ขันธสันดานของเมก็มักจะจดจำแล้วเอาไปโม้ระรานคนอื่นต่อ ด้วยอยากให้ผู้อื่นชใ ยอมรับในตน เห็นว่าตนรู้ตนเก่ง :b32: :b32: แล้วผมจะไปหลงตามเอาของจริงบอกเมไปให้ไปโม้ระรานคนอื่นต่อเพื่ออะไร
.. ก็เหมือนที่ท่องจำอภิธรรมพูดว่ารู้วิปัสสนา แล้วเห็นอะไร รู้อะไรนอกจากตัวหนังสือครับ กล่าวได้แต่ในตัวหนังสือตำราเท่านั้นยังทำเก่งระรานเขาทุกคนที่เขาตั้งกระทู้สนทนาธรรมถึงขนาดนี้ เมื่อเมทำได้แค่นี้จะมีค่าอะไร ถึงจะบอกของจริงไปก็ได้แค่จำไปโม้ระรานคนอื่น คนที่เขาปฏิบัติรู้จริงตรามพนะพุทธศาสดาตรัสสอนจะไม่มีกสรกระทำแบบเมนะครับ ขอแจ้งไว้เพิ่อผ๔้ไม่รู้เข้ามาใหม่จะได้เข้าใจด้วยว่าไม่ใช่คนปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาจะเป็นแบบนี้ ไม่อย่างคนคนที่เริ่มสนใจมาเห็นเมเข้สก็แตกกระเจิงแล้ว

เหมือนที่เขาคุยกันเรื่องพรหมวิหาร ๔ กับ มหาสติ เทียบกับสิ่งที่เมเข้าไปมั่วทำลายการสนทนาธรรมของเขา แอบอ้างโม้ว่ารู้วิปัสสนา สติปัฏฐาน ๔ พอหลอกถามให้พูดแค่นั้น เมก็เอาอะไรไม่รู้มาเพ้อโม้ไปพลิกตามตำราแทบไม่ทัน :b32: :b32: :b32:

หลายๆเรื่อง หลายๆกระทู้ที่เมขายตัวเองนะ แม้ตอนนี้ก็ยังประกาศตนเป็นพวกใจชั่วไปทุกกระทู้ คนเขาเห็นแล้วก็ระอาใจ สงสารเม เพราะกิเลสหนา เก็บกดกิเลสมากก็อาศัยเวบธรรมะมาระบายกิเลส ซงการกระทำของเมเป็นเรื่องปรกติของคนหลงสมมติกิเลสทำ แต่อยากได้รับความนับถือ การยอใรับจากคนอื่นจึงพยายามจะทำแบบนี้ซึ่งยอ่งทำยิ่งขายตนเองยิ่งให้เขารู้ปมด้อยของเมมาก

กลับตัวตอนนี้เสียเม เป็นดีพร้อมปฏิบัติแล้วจะคุยด้วยนะครับ แค่มาหลอกถามจำเอาไปโม้ไม่เกิดประโน์ที่จะคุยหรือบอก

เตือนแนะนำเพราะหวังดีนะครับ รับความจริงของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าเขารังเกียจตน เขานะอาเพราะอะไรก็แก้ตนเองไม่ได้ ขนาดเป็นคนดีในเวบธรรมแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปเอาอะไรได้อีก

รักนะจุ๊บๆจึงเตือนสติ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 08 ก.พ. 2019, 14:54, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถ้ายอมรับกันว่า นี่ก็เป็นธรรมะ (ไม่ยอมรับก็แล้วไป) แล้วหัวเราะได้ไหม ?


ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้า ได้ตรัสแสดงเหตุผลในการที่จะมีทรัพย์ หรือประโยชน์ที่ควรถือเอาจากทรัพย์สมบัติ แก่อนาถบิณฑิกคฤหบดี โดยตรัสให้เหมาะกับสภาพสังคมสมัยนั้น พึงพิจารณาจับเอาสารัตถะตามสมควร ดังต่อไปนี้


"ดูกรคฤหบดี ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะทั้งหลาย มี ๕ ประการ ดังนี้ คือ


๑) ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร เก็บรวบรวมขึ้นด้วยกำลังแขน อย่างอาบเหงื่อต่างน้ำ ซึ่งเป็นของชอบธรรม ได้มาโดยธรรม อริยสาวก ย่อมเลี้ยงตัวให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแลตนให้เป็นสุขโดยชอบ ย่อมเลี้ยงมารดาบิดา...บุตรภรรยา คนรับใช้กรรมกรคนงาน ให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแลให้เป็นสุขโดยชอบ นี้คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๑


๒) อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม อริยสาวก ย่อมเลี้ยงมิตรสหาย และผู้ร่วมกิจการงานทั้งหลาย ให้เป็นสุข ให้เอิบอิ่ม เอาใจใส่ดูแลให้เป็นสุขโดยชอบ นี้คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๒


๓) อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม อริยสาวก ย่อมป้องกันโภคะจากยันตราย ที่จะเกิดแต่ไฟ น้ำ พระราชา โจร หรือทายาทอัปรีย์ ทำตนให้สวัสดี นี้คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๓


๔) อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม อริยสาวก ย่อมกระทำพลีกรรม ๕ อย่าง คือ ญาติพลี (สงเคราะห์ญาติ) อติถิพลี (ต้อนรับแขก) ปุพพเปตพลี (ทำบุญอุทิศผู้ล่วงลับ) ราชพลี (บำรุงราชการ-เสียภาษี) เทวตาพลี (ถวายเทวดาหรือบำรุงศาสนา) นี้คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๔


๕) อีกประการหนึ่ง ด้วยโภคะที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร....ได้มาโดยธรรม อริยสาวก ย่อมประดิษฐานทักขิณาอันส่งผลสูง อันอำนวยอารมณ์ดีงาม มีผลเป็นสุข เป็นไปเพื่อสวรรค์ ในสมณพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นจากความมัวเมาประมาท ตั้งอยู่ในขันติโสรัจจะ ซึ่งฝึกฝนตนเอง ทำตนเองให้สงบ ทำตนเองให้หายร้อนกิเลสได้ นี้คือ ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ข้อที่ ๕

"คหบดี ประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะมี ๕ ประการเหล่านี้แล"


"ถ้าเมื่ออริยสาวกนั้นถือเอาอยู่ ซึ่งประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ๕ ประการเหล่านี้ โภคะหมดสิ้นไป เขาย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า อันใดเป็นประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ประโยชน์เหล่านั้นเราก็ถือเอาแล้ว และโภคะของเราก็หมดสิ้นไป โดยนัยนี้ อริยสาวกนั้นก็ไม่มีความเดือดร้อนใจ

"และหากว่า เมื่ออริยสาวกนั้นถือเอาอยู่ ซึ่งประโยชน์ที่ควรถือเอาแห่งโภคะ ๕ ประการเหล่านี้ โภคะทรัพย์เพิ่มพูนยิ่งขึ้น โดยนัยนี้ อริยสาวกนั้นก็ไม่มีความเดือดร้อนใจ เป็นอันไม่มีความเดือดร้อนใจทั้งสองกรณี" *(องฺ.ปญฺจก.22/41/48)



สาธุท่านกรัซกาย ที่ท่านยกมานี้เข้สกับหัวข้อกระทู้ดีด้วยครับ แม้จะยกมาคุยแสดงกับท่านทริปเปิ้ลเอสก็มีประโยชน์มากครับ

ขออนุโมทนาครับ

เมื่อมีโภคะ ๕ ประการ ก็ต้องมี..
๑. หัวใจนักปราชญ์ สุ จิ ปุ ลิ
๒. หัวใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ
๓. ทรัพย์ ๕ ประการ
๔. อริยะทรัพย์ ๗ ประการ

ฯลฯ

..เชิญยกหัวข้อสนทนาครับเพื่อสติปัญญาในการดำรงชีพด้วยธรรม อันเป็นเหตุสะสมใน สุจริต ๓ นั่นเองซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ ที่กล่าวทั้งเหตุ กล่าวทั้งปัจจัย กล่างทั้งผล สาธยายให้เจริญง่าย และ สามารถเจริญเหตุสะสมได้ไม่ว่าฆราวาส หรือสงฆ์ ทำให้ธรรมมะไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่น่าเบื่อปฏิบัติยากอักต่อไปครับ



เชิญท่านเจ ท่านกรัซกาย ท่านอ๊บ ท่านทริปเปิ้ลเอสคุยต่อครับ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าแต่ว่า รู้สึกเหมือนท่านเอกอนหายไปนะครับ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ



.. โดยจริตนิสัย ขันธสันดานของเมก็มักจะจดจำแล้วเอาไปโม้ระรานคนอื่นต่อ แล้วจะไปหลงตามเอาของจริงบอกเมไปให้ไปโม้ระรานคนอื่นต่อเพื่ออะไร
.. ก็เหมือนที่ท่องจำอภิธรรมพูดว่ารู้วิปัสสนา แล้วเห็นอะไร รู้อะไรนอกจากตัวหนังสือครับ กล่าวได้แต่ในตัวหนังสือตำราเท่านั้นยังทำเก่งระรานเขาทุกคนที่เขาตั้งกระทู้สนทนาธรรมถึงขนาดนี้ เมื่อเมทำได้แค่นี้จะมีค่าอะไร ถึงจะบอกของจริงไปก็ได้แค่จำไปโม้ระรานคนอื่น

เหมือนที่เขาคุยกันเรื่องพรหมวิหาร ๔ กับ มหาสติ เทียบกับสิ่งที่เมเข้าไปมั่วทำลายการสนทนาธรรมของเขา แอบอ้างโม้ว่ารู้วิปัสสนา สติปัฏฐาน ๔ พอหลอกถามให้พูดแค่นั้น เมก็เอาอะไรไม่รู้มาเพ้อโม้ไปพลิกตามตำราแทบไม่ทัน :b32: :b32: :b32:

หลายๆเรื่อง หลายๆกระทู้ที่เมขายตัวเองนะ แม้ตอนนี้ก็ยังประกาศตนเป็นพวกใจชั่วไปทุกกระทู้ คนเขาเห็นแล้วก็ระอาใจ สงสารเม เพราะกิเลสหนา เก็บกดกิเลสมากก็อาศัยเวบธรรมะมาระบายกิเลส ซงการกระทำของเมเป็นเรื่องปรกติของคนหลงสมมติกิเลสทำ แต่อยากได้รับความนับถือ การยอใรับจากคนอื่นจึงพยายามจะทำแบบนี้ซึ่งยอ่งทำยิ่งขายตนเองยิ่งให้เขารู้ปมด้อยของเมมาก

กลับตัวตอนนี้เสียเม เป็นดีพร้อมปฏิบัติแล้วจะคุยด้วยนะครับ แค่มาหลอกถามจำเอาไปโม้ไม่เกิดประโน์ที่จะคุยหรือบอก

เตือนแนะนำเพราะหวังดีนะครับ รับความจริงของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าเขารังเกียจตน เขานะอาเพราะอะไรก็แก้ตนเองไม่ได้ ขนาดเป็นคนดีในเวบธรรมแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปเอาอะไรได้อีก

รักนะจุ๊บๆจึงเตือนสติ


ก๊ากๆๆๆ

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่คุณแค่อากาศ จะรังเกียจพระปริยัติ พระอภิธรรม ที่เม แสดงให้ดู
ว่าขัดแย้งกะการปฎิบัติส่งเดชไม่เอาไหน ของคุณ
ที่ขัดแย้งต่อพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก

คุณแค่อากาศ ไร้ยางอาย ไม่มีความละอายใจ ที่ไม่ได้เรียนพระปริยัติ
ได้แต่แสดงความรู้ผิดๆๆ ออกมา


เรยปฎิบัติส่งเดช เทียบลงพระปริยัติ เทียบลงพระอภิธรรม ไม่ได้เรย

ได้แต่กล่าวความรู้ผิดๆๆ ออกมา ขัดแย้งพระธรรม
ไม่มีพระปริยัติที่ถูกต้อง ตามพระไตรปิฎก ไม่ถูกต้อง

ยังไม่ละอายใจ




ก๊ากๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามไปหลายหน ไม่ตอบ

และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 14:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ



.. โดยจริตนิสัย ขันธสันดานของเมก็มักจะจดจำแล้วเอาไปโม้ระรานคนอื่นต่อ แล้วจะไปหลงตามเอาของจริงบอกเมไปให้ไปโม้ระรานคนอื่นต่อเพื่ออะไร
.. ก็เหมือนที่ท่องจำอภิธรรมพูดว่ารู้วิปัสสนา แล้วเห็นอะไร รู้อะไรนอกจากตัวหนังสือครับ กล่าวได้แต่ในตัวหนังสือตำราเท่านั้นยังทำเก่งระรานเขาทุกคนที่เขาตั้งกระทู้สนทนาธรรมถึงขนาดนี้ เมื่อเมทำได้แค่นี้จะมีค่าอะไร ถึงจะบอกของจริงไปก็ได้แค่จำไปโม้ระรานคนอื่น

เหมือนที่เขาคุยกันเรื่องพรหมวิหาร ๔ กับ มหาสติ เทียบกับสิ่งที่เมเข้าไปมั่วทำลายการสนทนาธรรมของเขา แอบอ้างโม้ว่ารู้วิปัสสนา สติปัฏฐาน ๔ พอหลอกถามให้พูดแค่นั้น เมก็เอาอะไรไม่รู้มาเพ้อโม้ไปพลิกตามตำราแทบไม่ทัน :b32: :b32: :b32:

หลายๆเรื่อง หลายๆกระทู้ที่เมขายตัวเองนะ แม้ตอนนี้ก็ยังประกาศตนเป็นพวกใจชั่วไปทุกกระทู้ คนเขาเห็นแล้วก็ระอาใจ สงสารเม เพราะกิเลสหนา เก็บกดกิเลสมากก็อาศัยเวบธรรมะมาระบายกิเลส ซงการกระทำของเมเป็นเรื่องปรกติของคนหลงสมมติกิเลสทำ แต่อยากได้รับความนับถือ การยอใรับจากคนอื่นจึงพยายามจะทำแบบนี้ซึ่งยอ่งทำยิ่งขายตนเองยิ่งให้เขารู้ปมด้อยของเมมาก

กลับตัวตอนนี้เสียเม เป็นดีพร้อมปฏิบัติแล้วจะคุยด้วยนะครับ แค่มาหลอกถามจำเอาไปโม้ไม่เกิดประโน์ที่จะคุยหรือบอก

เตือนแนะนำเพราะหวังดีนะครับ รับความจริงของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าเขารังเกียจตน เขานะอาเพราะอะไรก็แก้ตนเองไม่ได้ ขนาดเป็นคนดีในเวบธรรมแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปเอาอะไรได้อีก

รักนะจุ๊บๆจึงเตือนสติ


ก๊ากๆๆๆ

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่คุณแค่อากาศ จะรังเกียจพระปริยัติ พระอภิธรรม ที่เม แสดงให้ดู
ว่าขัดแย้งกะการปฎิบัติส่งเดชไม่เอาไหน ของคุณ
ที่ขัดแย้งต่อพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก

คุณแค่อากาศ ไร้ยางอาย ไม่มีความละอายใจ ที่ไม่ได้เรียนพระปริยัติ
ได้แต่แสดงความรู้ผิดๆๆ ออกมา


เรยปฎิบัติส่งเดช เทียบลงพระปริยัติ เทียบลงพระอภิธรรม ไม่ได้เรย

ได้แต่กล่าวความรู้ผิดๆๆ ออกมา ขัดแย้งพระธรรม
ไม่มีพระปริยัติที่ถูกต้อง ตามพระไตรปิฎก ไม่ถูกต้อง

ยังไม่ละอายใจ




ก๊ากๆๆ




ยังไม่รู้ตัวอีกหราเม :b32: :b32: :b32:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
และคุณแค่อากาศ ก็ มาตอบคำถามเสียดีๆดีกว่า

มัวแต่แถไปทางอื่น


ตอบมาซะดีกว่า นะค๊ะ

สังขารคืออะไร ?
การเห็นสังขาร ของคุณนักปฎิบัติ น่ะ
การเห็นเป็นยังไง ?ลักษณะที่เข้าไปเห็น ?ผลที่เข้าไปเห้น? เป็นยังไง
ได้โปรด ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ

เชิญอาจารย์ที่คุณแค่อากาศ แนะนำ มาช่วยตอบก็ได้นะค๊ะ



.. โดยจริตนิสัย ขันธสันดานของเมก็มักจะจดจำแล้วเอาไปโม้ระรานคนอื่นต่อ แล้วจะไปหลงตามเอาของจริงบอกเมไปให้ไปโม้ระรานคนอื่นต่อเพื่ออะไร
.. ก็เหมือนที่ท่องจำอภิธรรมพูดว่ารู้วิปัสสนา แล้วเห็นอะไร รู้อะไรนอกจากตัวหนังสือครับ กล่าวได้แต่ในตัวหนังสือตำราเท่านั้นยังทำเก่งระรานเขาทุกคนที่เขาตั้งกระทู้สนทนาธรรมถึงขนาดนี้ เมื่อเมทำได้แค่นี้จะมีค่าอะไร ถึงจะบอกของจริงไปก็ได้แค่จำไปโม้ระรานคนอื่น

เหมือนที่เขาคุยกันเรื่องพรหมวิหาร ๔ กับ มหาสติ เทียบกับสิ่งที่เมเข้าไปมั่วทำลายการสนทนาธรรมของเขา แอบอ้างโม้ว่ารู้วิปัสสนา สติปัฏฐาน ๔ พอหลอกถามให้พูดแค่นั้น เมก็เอาอะไรไม่รู้มาเพ้อโม้ไปพลิกตามตำราแทบไม่ทัน :b32: :b32: :b32:

หลายๆเรื่อง หลายๆกระทู้ที่เมขายตัวเองนะ แม้ตอนนี้ก็ยังประกาศตนเป็นพวกใจชั่วไปทุกกระทู้ คนเขาเห็นแล้วก็ระอาใจ สงสารเม เพราะกิเลสหนา เก็บกดกิเลสมากก็อาศัยเวบธรรมะมาระบายกิเลส ซงการกระทำของเมเป็นเรื่องปรกติของคนหลงสมมติกิเลสทำ แต่อยากได้รับความนับถือ การยอใรับจากคนอื่นจึงพยายามจะทำแบบนี้ซึ่งยอ่งทำยิ่งขายตนเองยิ่งให้เขารู้ปมด้อยของเมมาก

กลับตัวตอนนี้เสียเม เป็นดีพร้อมปฏิบัติแล้วจะคุยด้วยนะครับ แค่มาหลอกถามจำเอาไปโม้ไม่เกิดประโน์ที่จะคุยหรือบอก

เตือนแนะนำเพราะหวังดีนะครับ รับความจริงของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าเขารังเกียจตน เขานะอาเพราะอะไรก็แก้ตนเองไม่ได้ ขนาดเป็นคนดีในเวบธรรมแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปเอาอะไรได้อีก

รักนะจุ๊บๆจึงเตือนสติ


ก๊ากๆๆๆ

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่คุณแค่อากาศ จะรังเกียจพระปริยัติ พระอภิธรรม ที่เม แสดงให้ดู
ว่าขัดแย้งกะการปฎิบัติส่งเดชไม่เอาไหน ของคุณ
ที่ขัดแย้งต่อพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก

คุณแค่อากาศ ไร้ยางอาย ไม่มีความละอายใจ ที่ไม่ได้เรียนพระปริยัติ
ได้แต่แสดงความรู้ผิดๆๆ ออกมา


เรยปฎิบัติส่งเดช เทียบลงพระปริยัติ เทียบลงพระอภิธรรม ไม่ได้เรย

ได้แต่กล่าวความรู้ผิดๆๆ ออกมา ขัดแย้งพระธรรม
ไม่มีพระปริยัติที่ถูกต้อง ตามพระไตรปิฎก ไม่ถูกต้อง

ยังไม่ละอายใจ




ก๊ากๆๆ




ยังไม่รู้ตัวอีกหราเม :b32: :b32: :b32:


ก๊ากๆๆ

ถามไปหลายหน ไม่กล้าตอบ

เพราะคุณแค่อากาศ ปฎิบัติส่งเดช ปริยัติก็ไม่เรียน
เรยปฎิเวธผิดๆๆๆ

ไม่ละอายใจเหรอ ที่เม เอาพระปริยัติ มาแย้งได้ตลอด
ว่า คุณได้แต่แสดงความรู้ผิดๆๆ เข้าใจผิดๆๆ ไม่ตรงตามพระไตรปิฎก

ไม่ได้ เอาเรื่องส่วนตัวมาปรักปรำใดๆ

ก๊ากๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 15:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำนะคะ

ให้เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่

เป็นธรรมะของกรูแค่อากาศ
กรู ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระสูตร
กรู ไม่เอาปฎิบัติตามตามที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตามพระไตรปิฎก
ห้ามเอามาแสดงให้กรู เพราะกรู ไม่ชอบ มันขัดอารมณ์กรูนัก

กรูจะเอาแต่ ธรรมของกรู

จะส่งเดช จะแย้งพระอภิธรรม พระปริยัติ พระสูตร กรูไม่เอา กรูไม่สน
กรูจะปฎิบัติ ปฎิเวธแบบกรู

เมจะได้เทคุณไป

บ๊ายบายค่ะ


ก๊ากๆๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 16:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แนะนำนะคะ

ให้เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่

เป็นธรรมะของกรูแค่อากาศ
กรู ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระสูตร
กรู ไม่เอาปฎิบัติตามตามที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตามพระไตรปิฎก
ห้ามเอามาแสดงให้กรู เพราะกรู ไม่ชอบ มันขัดอารมณ์กรูนัก

กรูจะเอาแต่ ธรรมของกรู

จะส่งเดช จะแย้งพระอภิธรรม พระปริยัติ พระสูตร กรูไม่เอา กรูไม่สน
กรูจะปฎิบัติ ปฎิเวธแบบกรู

เมจะได้เทคุณไป

บ๊ายบายค่ะ


ก๊ากๆๆๆๆ



ยังไม่ได้เป็นแฟนเลย จะเทได้ไง :b32: :b32: :b32:

เพราะอ่านเรียนอภิธรรมแล้วปฏิบัติไม่ได้เข้าไม่ถึง ก็อัตตาตัวหนังสือแล้วบ้าแบบเมไงจ๊ะ เขาถึงไม่ยกอ้างกัน ถึงเรียนมาก็ไม่เอามาโม้ แต่เอาเป็นแนวทางอ้างอิงปฏิบัติเท่านั้น

สงสัยเมเป็นหนักแระขุดไม่ขึ้น
ขนาดพุทโธยังไม้รู้จักความหมายเลยว่า พุทโธ คืออะไร ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานคืออะไร พระพุทธเจ้ารู้อะไร ตื้นอะไร เบิกบานอะไร บัญญัติพุทธะใช้เรียกอะไรใคร เพราะอะไร แต่อ้างไปอภิธรรมโน้น :b32: :b32:

อยากให้คนอื่นยอมรับ อยากให้เขาทำตามตนจนเสียจริต แต่ไม่มีปัญญาพอที้จะชี้ชัดชักนำได้

นี่ล่ะนะเขาว่าคนโง่ใช้กิเลสบังคับผู้อื่นให้ทำตาม คนฉลาดเขาทำให้คนอื่นเห็นชัดใจแล้วน้อมทำตามด้วยใจ

คนฉลาดมักแกล้งโง่ คนโง่มักอวดฉลาด เห็นชัดแจ้งใจดี อิอิ

น่าสงสาร น่าสงสาร

เหมือนคนโง่ไม่รู้ว่าปัสสัทธิดับความฟุ้งซ่าน พอเขาบอกก็ด้าเขาใหญ่ว่าไม่ตรงอภิธรรม ไม่มีใน ๘๔๐๐๐ พระธัมขันธ์ ซึ่งแท้จริงคือตัวเองนั่นแหละโง่แล้วอวดฉลาดไปด่าเขา แบบเมทำนี่แหละ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 17:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แนะนำนะคะ

ให้เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่

เป็นธรรมะของกรูแค่อากาศ
กรู ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระสูตร
กรู ไม่เอาปฎิบัติตามตามที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตามพระไตรปิฎก
ห้ามเอามาแสดงให้กรู เพราะกรู ไม่ชอบ มันขัดอารมณ์กรูนัก

กรูจะเอาแต่ ธรรมของกรู

จะส่งเดช จะแย้งพระอภิธรรม พระปริยัติ พระสูตร กรูไม่เอา กรูไม่สน
กรูจะปฎิบัติ ปฎิเวธแบบกรู

เมจะได้เทคุณไป

บ๊ายบายค่ะ


ก๊ากๆๆๆๆ



ยังไม่ได้เป็นแฟนเลย จะเทได้ไง :b32: :b32: :b32:

เพราะอ่านเรียนอภิธรรมแล้วปฏิบัติไม่ได้เข้าไม่ถึง ก็อัตตาตัวหนังสือแล้วบ้าแบบเมไงจ๊ะ เขาถึงไม่ยกอ้างกัน ถึงเรียนมาก็ไม่เอามาโม้ แต่เอาเป็นแนวทางอ้างอิงปฏิบัติเท่านั้น

สงสัยเมเป็นหนักแระขุดไม่ขึ้น
ขนาดพุทโธยังไม้รู้จักความหมายเลยว่า พุทโธ คืออะไร ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานคืออะไร พระพุทธเจ้ารู้อะไร ตื้นอะไร เบิกบานอะไร บัญญัติพุทธะใช้เรียกอะไรใคร เพราะอะไร แต่อ้างไปอภิธรรมโน้น :b32: :b32:

อยากให้คนอื่นยอมรับ อยากให้เขาทำตามตนจนเสียจริต แต่ไม่มีปัญญาพอที้จะชี้ชัดชักนำได้

นี่ล่ะนะเขาว่าคนโง่ใช้กิเลสบังคับผู้อื่นให้ทำตาม คนฉลาดเขาทำให้คนอื่นเห็นชัดใจแล้วน้อมทำตามด้วยใจ

คนฉลาดมักแกล้งโง่ คนโง่มักอวดฉลาด เห็นชัดแจ้งใจดี อิอิ

น่าสงสาร น่าสงสาร

เหมือนคนโง่ไม่รู้ว่าปัสสัทธิดับความฟุ้งซ่าน พอเขาบอกก็ด้าเขาใหญ่ว่าไม่ตรงอภิธรรม ไม่มีใน ๘๔๐๐๐ พระธัมขันธ์ ซึ่งแท้จริงคือตัวเองนั่นแหละโง่แล้วอวดฉลาดไปด่าเขา แบบเมทำนี่แหละ


ก๊ากๆๆ

นี่แหละตัวอย่าง ความเขลาเบาปัญญา ของคุณแค่อากาศ

ปฎิบัติแบบกรู เชื่อว่า บริกรรมพุทโธแล้วกรูจะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ตามคำแปล

เพราะเขลาเบาปัญญาไม่เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียนพระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์เรย

เรยเข้าใจผิดๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่รู้ว่า

การบริกรรมพุทโธ เป็นสมถะ ไม่สามารถทำให้เป็นพระอนาคามีบุคคลได้
ไม่สามารถทำให้ บรรลุ วิปัสสนามรรค ผล นิพพานได้

เพราะพระพุทธเจ้า ท่านตรัสว่า

การปฎิบัติตาม สติปัฎฐาน 44 บรรพพะ เท่านั้น
เป็นทางเดียวเท่านั้น

ที่ทำให้ผู้ปฎิบัติ บรรลุ วิปัสสนา มรรค ผล นิพพานได้

ก๊ากๆๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำนะคะ

ให้เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่

เป็นธรรมะของกรูแค่อากาศ
กรู ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระสูตร
กรู ไม่เอาปฎิบัติตามตามที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตามพระไตรปิฎก
ห้ามเอามาแสดงให้กรู เพราะกรู ไม่ชอบ มันขัดอารมณ์กรูนัก

กรูจะเอาแต่ ธรรมของกรู

จะส่งเดช จะแย้งพระอภิธรรม พระปริยัติ พระสูตร กรูไม่เอา กรูไม่สน
กรูจะปฎิบัติ ปฎิเวธแบบกรู



ก๊ากๆๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.พ. 2019, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แนะนำนะคะ

ให้เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่

เป็นธรรมะของกรูแค่อากาศ
กรู ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระสูตร
กรู ไม่เอาปฎิบัติตามตามที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ตามพระไตรปิฎก
ห้ามเอามาแสดงให้กรู เพราะกรู ไม่ชอบ มันขัดอารมณ์กรูนัก

กรูจะเอาแต่ ธรรมของกรู

จะส่งเดช จะแย้งพระอภิธรรม พระปริยัติ พระสูตร กรูไม่เอา กรูไม่สน
กรูจะปฎิบัติ ปฎิเวธแบบกรู

เมจะได้เทคุณไป

บ๊ายบายค่ะ


ก๊ากๆๆๆๆ



ยังไม่ได้เป็นแฟนเลย จะเทได้ไง :b32: :b32: :b32:

เพราะอ่านเรียนอภิธรรมแล้วปฏิบัติไม่ได้เข้าไม่ถึง ก็อัตตาตัวหนังสือแล้วบ้าแบบเมไงจ๊ะ เขาถึงไม่ยกอ้างกัน ถึงเรียนมาก็ไม่เอามาโม้ แต่เอาเป็นแนวทางอ้างอิงปฏิบัติเท่านั้น

สงสัยเมเป็นหนักแระขุดไม่ขึ้น
ขนาดพุทโธยังไม้รู้จักความหมายเลยว่า พุทโธ คืออะไร ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานคืออะไร พระพุทธเจ้ารู้อะไร ตื้นอะไร เบิกบานอะไร บัญญัติพุทธะใช้เรียกอะไรใคร เพราะอะไร แต่อ้างไปอภิธรรมโน้น :b32: :b32:

อยากให้คนอื่นยอมรับ อยากให้เขาทำตามตนจนเสียจริต แต่ไม่มีปัญญาพอที้จะชี้ชัดชักนำได้

นี่ล่ะนะเขาว่าคนโง่ใช้กิเลสบังคับผู้อื่นให้ทำตาม คนฉลาดเขาทำให้คนอื่นเห็นชัดใจแล้วน้อมทำตามด้วยใจ

คนฉลาดมักแกล้งโง่ คนโง่มักอวดฉลาด เห็นชัดแจ้งใจดี อิอิ

น่าสงสาร น่าสงสาร

เหมือนคนโง่ไม่รู้ว่าปัสสัทธิดับความฟุ้งซ่าน พอเขาบอกก็ด้าเขาใหญ่ว่าไม่ตรงอภิธรรม ไม่มีใน ๘๔๐๐๐ พระธัมขันธ์ ซึ่งแท้จริงคือตัวเองนั่นแหละโง่แล้วอวดฉลาดไปด่าเขา แบบเมทำนี่แหละ



ก๊ากๆๆ


นี่คือตัวอย่างของคนที่ไม่เอาพระธรรม ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าแสดง

ไม่เอาพระปริยัติ ไม่เอาพระอภิธรรมไม่เรียนพระไตรปิฎก84000
ปฎิบัติแบบกรู ปฎิเวธแบบกรู
ค้านคำสอนพระพุทธองค์ตลอด

แถมเข้าใจผิดๆๆ ว่า คนเรียนพระอภิธรรม คนเอาพระปริยัติของพระพุทธเจ้า มาสอบทาน เป็นบ้า

คิดว่าคนที่เข้าไปหาไปคุยด้วย เพราะกรูฉลาด กรูปฎิบัติดี

แต่ที่แท้ บรมเขลา



เพราะไม่รู้ว่า ในพระไตรปิฎก มีคนที่ไม่เอาธรรมของพระพุทธเจ้า อย่างนั้น


"ถ้าอย่างนั้น คนฉลาด ๆ จักไปสู่สำนักของพระสมณโคดม ส่วนคนโง่ ๆ จักมาสู่สำนักของเรา"


ก๊ากๆๆๆๆๆ


แก้ไขล่าสุดโดย โลกสวย เมื่อ 08 ก.พ. 2019, 17:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 274 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 59 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร