วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 16:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หนังสื่อเรื่อง "ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตยืนยาว และมีความสุข"

โดยนายแพทย์ เฉก ธนะสิริ

เรื่องของสุขภาพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนต้องการมีสุขภาพดี แต่ไม่ปฏิบัติตามหลักของสุขภาพและอนามัยส่วนบุคคล กลับปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่กับสุขภาพของตนเองเท่าที่ควรอันเป็นเหตุให้ร่างกายทรุดโทรม ตรงกันข้ามมีคนจำนวนมากกลับไปสนใจสิ่งอื่นๆ มากกว่าตนเอง เช่น พยายามนำรถยนต์คันสวยงามไปอู่เพื่อให้ช่างตรวจสอบเครื่องยนต์อยู่เสมอ
นำสุนัขที่เลี้ยงไว้ที่บ้านไปให้สัตวแพทย์ตรวจตามคำสั่งของสัตวแพทย์ แต่ในปีหนึ่ง ๆ เขาไม่เคยตรวจสอบสุขภาพของตนเองเลย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนบางคนจึงอายุสั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 ม.ค. 2019, 18:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(คำนำบางนำของผู้เขียน)

เหตุจูงใจให้เขียนเรื่องนี้ขึ้น เพราะผู้เขียนมีบิดาที่มีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตแข็งแรงสมบูรณ์ยากที่จะมีบุคคลวัยใกล้เคียงกันเทียบได้

ตลอดชีวิตของท่านเกือบจะไม่เคยได้ยินคำว่า ปวดหัว เป็นหวัด ไอ ตัวร้อน เมื่อย ปวด แม้จะเข้าสู่วัยชรามากถึง ๙๐ ปี ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏอาการหลงหรือเลอะเลือน ความทรงจำดีตลอด แม้ในขณะนอนป่วยครั้งสุดท้ายในชีวิตก็ไม่กระวนกระวาย ไม่สั่งเสียเรียกหาหรือแสดงความห่วงใยวิตกกังวลแม้แต่น้อย ท่านได้ใช้ชีวิตทั้งทางโลก และทางธรรมอย่างมีความสุขกายสุขใจตามควรแก่อัตภาพ แม้กาลเวลาใดที่มีปัญหาเดือดร้อนใจเกิดขึ้นท่านก็สามารถตัดความวิตกกังวลได้โดยสิ้นเชิง ไม่มีการเก็บเอามาเป็นอารมณ์ ยังคงกินได้นอนหลับโดยตลอดจนกระทั่งบั้นปลายของชีวิต

เมื่อล้มหมอนนอนเสื่อแล้ว หลังจากนั้นอีกประมาณ ๒ เดือน ก็ค่อยงอมและมอดดับไป โดยไม่มีอาการเจ็บปวดอย่างใดทั้งสิ้น ทั้งๆที่ได้ตรวจทางการแพทย์พบทั้งเบาหวาน วัณโรคปอดและมะเร็งปอด ที่ลามไปจากอวัยวะส่วนอื่น แต่ตรวจไม่พบว่ามาจากที่ใด และสงสัยว่าลามไปที่ตับด้วย
สำหรับสองโรคแรกนั้น ได้ตรวจพบเมื่ออายุประมาณ ๖๐ ปี ทั้งสองโรคไม่มีอาการอย่างใดเลย ตรวจจากพยาธิสภาพแล้วหมอแปลกใจที่ไม่มีอาการเจ็บปวดแม้แต่น้อย ทั้งนี้ เป็นเพราะพ่อออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจริงๆ ด้วยการเดินไกลทุกวันทุกโอกาส จนตลอดอายุขัยของท่าน และในตอนเย็นก่อนอาหารท่านจะสวดมนต์ไว้พระ ทำสมาธิเป็นประจำเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ จึงช่วยให้พ่อมีสุขภาพกายและจิตดีเยี่ยม โรคภัยไม่สามารถลุกลามและไม่มีอาการเท่าที่ควร

อาการต่างๆ ที่ไม่ปรากฏนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า เป็นด้วยอำนาจของพลังจิต จากการปฏิบัติสมาธิเป็นประจำจนสามารถแยกกายกับจิตได้ หรือเรียกว่า สมาธิแยกเวทนา เพราะจิตรู้ว่างไม่เกาะเกี่ยวกับกาย จึงสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของตัวเองได้

ระหว่างการป่วยของพ่อ ผู้เขียนนอนเฝ้าปฏิบัติท่านทุกคืน ท่านได้ปฏิบัติสมาธิสวดมนต์ขณะนอนป่วย ตั้งแต่จำบทสวดมนต์ได้หมดจนหลงๆลืมๆ จนที่สุดชีวิตของท่านก็ค่อยๆมอดดับไปเปรียบเสมือนตะเกียงลานที่ดับทั้งแสงและเสียงลาน เพราะหมดทั้งลาน ไส้ และน้ำมันโดยแท้
ฯลฯ

ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแพทย์ที่สนใจและปฏิบัติเรื่องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและการ”พักจิต”อย่างสม่ำเสมอติดต่อกันไม่ต่ำกว่า ๑๒ ปี และในระยะประมาณ ๕-๖ ปี ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาที่ผู้เขียนมี ”เวลานอก” ให้โอกาสผู้เขียนได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติทางด้านจิตบ้างตามสมควร

นอกจากนั้น ยังได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้จากครูอาจารย์และผู้สูงอายุอีกหลายท่าน ตลอดจนได้ศึกษาจากตำราและเอกสารต่างๆ มาเสนอประกอบบทความนี้ ซึ่งปรากฏอยู่ท้ายเล่มเพื่อสำหรับท่านผู้สนใจจะได้ค้นคว้าอานประกอบได้สะดวกยิ่งขึ้น

เรื่องของจิต เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ผู้เขียนอยากจะกล่าวว่า เป็นหัวใจของการดำรงชีวิตที่จะประกอบสัมมาชีพโดบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างมีประสิทธิภาพ และมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขแท้จริง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เข้าใจและอธิบายยาก หากไม่ได้ปฏิบัติด้วยตัวเอง ผู้เขียนรู้ไม่ลึกซึ้งดีพอ จึงจำเป็นต้องอ้างอิงท่านผู้รู้แท้จริงในด้านต่างๆ เอาไว้ท้ายเล่ม ฯลฯ

ดังได้ทราบเรียนให้ท่านผู้อ่านได้ทราบในตอนต้นแล้ว ถึงเหตุดลใจให้เขียนเรื่องนี้เพราะธรรมฉันทะของผู้เขียนเองอันสืบเนื่องมาจากความมีสุขภาพกาย และจิต ของผู้เขียน นับว่าดีเลิศจนชีวิตหาไม่ทั้งๆที่ความรู้อันลึกซึ้งในเรื่องของจิตของผู้เขียนนั้นน้อยเต็มที

ส่วนเรื่องกายนั้น เพราะเป็นแพทย์จึงพอทราบบ้าง ฉะนั้นจึงเชื่อว่าเนื้อหาของเรื่องและความคิดเห็นตลอดจนหลักวิชาอภิจิตวิทยาหรือหลักธรรมก็ดีที่ไม่ถูกต้อง ผู้เขียนใคร่ขอประทานอภัยท่านผู้รู้ และจะเป็นพระคุณอย่างสูงถ้าหากท่านจะได้กรุณาแจ้งให้ผู้เขียนทราบในส่วนที่ไม่ถูกต้องนั้น

ฯลฯ

(น.พ.เฉก ธนะสิริ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 ม.ค. 2019, 18:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"สุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบเป็นไม่มี"

"ผู้มีความสุขที่สุดในโลก ได้แก่บุคคลที่ได้สร้างความสุขให้ผู้อื่นและตัวเองได้มากที่สุด"

เรามักจะได้ยินได้ฟัง และจากการพินิจพิจารณาตัวของเราเองแล้วจะเห็นว่า ชีวิตเรานี้มันสั้นนัก วันเวลาผ่านไปแต่ละวันแต่ละปีช่างรวดเร็วจริงๆ เรายังจำได้ ยังกับว่า เมื่อวานนี้เองว่าเรายังเป็นเด็กซุกซนวิ่งเล่นอยู่หยกๆ บัดนี้เรามีอายุล่วงเข้าปูนนี้แล้ว

ถ้าเราไม่คิด หรือไม่ตระเตรียมตัวเตรียมใจในเรื่องเหล่านี้แล้ว เราเองก็จะเกิดความรู้สึกเสมอๆว่า นี่ถ้าเราได้ปฏิบัติหรือได้กระทำสิ่งนั้นสิ่งนี้เสียตั้งแต่เมื่อนั้นเมื่อนี้ เราก็คงจะดีกว่านี้

แต่อย่าไปคิดถึงมันให้เสียเวลาเลย เพราะมันได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว วันเวลาที่ผ่านไปนั้น เราจะจับเอามาถอยหลังตั้งต้นกันใหม่ก็เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น พึงควรจะคิดจะทำอะไรทันทีเสียแต่วันนี้ หรือปัจจุบันนี้ จะไม่ดีกว่าหรือ


เราจะไม่คิดบ้างเลยหรือ และเราจะไม่ลองปฏิบัติด้วยตัวของเราเพื่อตัวของเราเองบ้างหรือว่า จะทำอย่างไร เราจึงจะมีชีวิตที่มีความสุขทั้งทางโลกผสมธรรม มีอายุยืนยาวตามสมควร และในที่สุดเมื่อจะตายก็น่าจะตายอย่างสงบ หมดอายุขัยไม่ทรมาน และไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานหรือผู้ใกล้ชิด


สิ่งเหล่านี้ จะทำได้ จะต้องมีการฝึกกาย ฝึกจิต เตรียมกาย เตรียมใจ ตลอดจนควรจะต้องเตรียมตายให้พร้อมด้วย ทำได้อย่างนี้แล้วท่านก็จะเป็นผู้ที่มีความสุขที่คนอื่นอิจฉา


หากท่านคิดอย่างนี้แล้ว ผู้เขียนก็ใคร่ขอเชิญท่านค่อยๆอ่านบทความนี้ อ่านแล้วคิดถามตัวท่านเองตามไปด้วยว่าจริงอย่างที่เขียนหรือไม่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 ม.ค. 2019, 18:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในหัวข้อเรื่องนี้ มีคำอยู่ ๓ คำ คือ

๑.ชีวิต
๒.อายุยืนยาว
๓.ความสุข

คำแรก คือ "ชีวิต" ในที่นี้ หมายถึงชีวิตมนุษย์เราท่าน ชีวิตของเรานี้ประกอบด้วยเซลล์ชนิดต่างๆมากมายหลายหมื่นชนิด แต่ละชนิดก็จะประกอบด้วยเซลล์ของแต่ละชนิดๆ อีกมากมายหลายล้านเซลล์ ประกอบกันเป็นเรือนร่างของเรา หรือเป็นชีวิตมนุษย์เรานี่เอง

มีความจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ในเรื่องชีวิตมนุษย์ ว่ามนุษย์นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรเสียก่อน

ชีวิตมนุษย์นั้นเกิดจากการผสมพันธ์ุระหว่างชาย กับ หญิง ซึ่งมีตัวอสุจิของชายเพียง ๑ ตัวเท่านั้น ในจำนวนหลายล้านตัวที่สามารถวิ่งชอนไชเข้าไปผสมพันธ์ุ กับ ไข่ในรังไข่ของหญิง แล้วก็จะเจริญเติบโตในครรภ์มารดาจนครบกำหนดคลอดออกมา อย่างไรก็ดี จำต้องนำเอาความรู้อันลึกซึ้งของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านมี "ธาตุรู้" ด้วยญาณว่า ชีวิตจะเกิดขึ้นได้นั้น นอกจากอสุจิ กับ ไข่จะผสมกันและมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแล้ว ยังมีตัวกลางอีกคือ "ปฏิสนธิวิญญาณ" หรือ "กรรม" เข้าไปมีบทบาทให้แต่ละชีวิตแตกต่างกันไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

ยิ่งยาวก็ยิ่งร่วงโรย ไม่น่าปราถนาเลยสำหรับผมตอน
นี้ ฟันก็หายไปหลายเล่มละ จะทานอะไรแต่ละอย่างลำบาก
ลำบน ทานร้อนไปก็ไม่ได้ เย็นไปก็ไม่ได้ ยังดีที่ปฏิบัติธรรม
มาบ้างเลยทำใจปล่อยวางได้บ้าง มิงั้นคงหงุดหงิดน่าดู จิตเป็น
นายกายเป็นบ่าว คนโดยส่วนมากจะบริหารแต่ร่างกายไม่ค่อย
บริหารจิตเท่าไหร่ เรื่องเพื่อสุขภาพอ่านที่นี้เพิ่มเติมครับ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=56941

ยังไงตอนมีชีิวิตอยู่ใครๆก็ปราถนาสุขภาพดีแข็งแรงกันทั้งนั้น
แต่การใช้ชีิวิตของคนยุคนี้โดยส่วนมากแล้ว ดำรงชีวิตไปในทาง
ที่ค่อนข้างจะทำลายตัวเองมากกว่ารักษาครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2019, 19:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

กรรมอดีต + กรรมปัจจุบัน = สุขภาพและอายุ

ทางพระพุทธศาสนาเราท่านก็บอกไว้แล้วว่าการไม่เบียดเบียน
การไม่ฆ่าสัตว์ และการรักษาศีลก็จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้มีอายุยืน
และแข็งแรง รวมทั้งการภาวนาเพราะจะทำให้จิตสงบ เกิดปัญญา
รู้จักพิจาณา และปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลดความยึดมั่นถือมั่นลงไปด้วย

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทแทรก

"ภิกษุทั้งหลาย เพราะความประชุมพร้อมแห่งปัจจัย ๓ ประการ จึงมีการตั้งครรภ์ เมื่อใดมารดาบิดาร่วมกัน มารดาคราวมีฤดู ทั้งสัตว์ที่จะเกิดก็ปรากฏ, เพราะความประชุมพร้อมแห่งปัจจัย ๓ ประการอย่างนี้ จึงมีการตั้งครรภ์, มารดาอุ้มท้องประคับประคองครรภ์นั้นตลอดเวลา ๙ เดือนบ้าง ๑๐ เดือนบ้าง ด้วยความเสียงชีวิตเป็นอย่างมาก ทั้งเป็นภาวะอันหนัก ครั้นล่วงเวลา ๙ เดือน หรือ ๑๐ เดือนแล้ว มารดาก็คลอดทารกในครรภ์ ด้วยความเสี่ยงชีวิตเป็นอันมาก อย่างเป็นภาระอันหนัก แล้วเลี้ยงทารกที่เกิดนั้น ด้วยโลหิตของตน ภิกษุทั้งหลาย ในธรรมเนียมของอริยชน ถือน้ำนมของมารดานี้ว่า คือ โลหิต" (ม.มู.12/452/487)

(พุทธธรรม หน้า ๑๐๒๖)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องกรรมพุทธศาสนิกชนบ้านเราพูดกันมากมายหลายนัยหลายแนว นี่ตัวอย่างสั้นๆ

กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (สํ.สฬ.18/217/166) เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และ โยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"

ท้ายสุด ปรโตโฆสะอย่างเดียว ไม่พอให้ลุสัจธรรม โยนิโสมนสิการ เป็นตัวชี้ขาด

(พุทธธรรม หน้า ๘๗๗)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อ กท.

ผู้เขียนใคร่ขอพูดถึง “กรรม” ซึ่งแปลว่า “การกระทำ” สักเล็กน้อย มนุษย์บางคน หรือคนบางศาสนาไม่เชื่อในเรื่องของกรรม แต่เขาเชื่อว่า การกระทำสิ่งนั้น เมื่อกระทำไปแล้วก็สิ้นสุด แต่พุทธศาสนาสอนตรงกันข้าม ฉะนั้น จึงมีคำพูดถึง “กฎแห่งกรรม” ตลอดไปจนถึงเรื่องของตายแล้วเกิดใหม่

พุทธศาสนาไม่ต้องการให้มนุษย์งมงายหรือคิดมากไปในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ฉะนั้น ท่านจึงพูดถึงแต่กรรมหรือการกระทำที่เป็นปัจจุบัน ท่านสอนให้ทำกรรมดี ก็จะได้ผลตอบสนองทีดีแน่นอน จึงมีคำสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งตรงกับหลักวิทยาศาสตร์ในเรื่อง Action – Reaction หรือหลัก ธรรมชาติวิทยา (Low of Nature)

เรื่อง “ปฏิสนธิวิญญาณ” นี้เป็นสิ่งน่าสนใจมาก ผู้เขียนได้เคยไปฟังปาฐกถาของ Professor Francis story บรรยายหัวข้อเรื่อง “ระลึกชาติ” (Reincarnation หรือ Rebirth) เมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว ที่สมาคมค้นคว้าทางจิต (เดิมตั้งอยู่ในบริเวณวัดมงกุฎกษัตริย์) ก่อนจะเล่าว่า ท่านผู้นี้บรรยายว่าอย่างไร ผู้เขียนขออธิบายถึงอาจารย์ผู้นี้เพื่อท่านผู้อ่านได้ทราบพื้นฐานของท่าน

อาจารย์ผู้สนใจศึกษาวิชาอภิจิตวิทยา (Parapsychology) ได้รับทุนจาก University of Verginia ให้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้ ท่านจึงเดินทางไปศึกษาเรื่อง ”ระลึกชาติ” ในหลายประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ท่านเคยบวชเป็นพระในพุทธศาสนาเป็นเวลา ๔ ปี ณ ประเทศศรีลังกา และศึกษาวิชานี้ไปด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปาฐกถาในวันนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า ”ปฏิสนธิวิญญาณ” หรือ ”กรรม” เข้ามามีบทบาทในชีวิตที่เกิดขึ้นได้อย่างไรโดยศึกษาจากปรากฏการณ์แท้จริงที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ หลายแห่งในโลก

ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ปฏิสนธิวิญญาณรูปร่างอย่างไร หรือมีสูตรหรือสมการอย่างไร รู้แต่เพียงเรื่องของกรรมพันธุ์ (Genetic) ว่า มี Gene หรือ Chomosome อยู่ในตัวอสุจิของพ่อและในไข่ของแม่ ก็รู้เพียงพื้นๆ แค่นั้นเอง

นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายอยากรู้ต่อไปว่า "ปฏิสนธิวิญญาณ" หรือ "กรรม" ที่ถ่ายทอดมาถึงลูกหลานนั้นเป็นอย่างไร ก็ได้แต่ศึกษา ย้อนจากผลมาหาเหตุ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปาฐกถาในวันนั้น เล่าถึงเรื่องเด็กระลึกชาติได้ในประเทศศรีลังกา (ระหว่างที่เขาบวชพระอยู่ที่นั่น) เด็กคนนี้พออายุได้ประมาณ ๙ ขวบ ก็บอกกับพ่อแม่ของเขาว่าเขามิใช่ลูกของพ่อ เขาเป็นน้องของพ่อซึ่งถูกลงโทษแขวนคอด้วยข้อหาใช้มีดฆ่าสาวคู่รัก ซึ่งไม่ยอมแต่งงานด้วย ระหว่างที่เขากำลังถูกแขวนคอเขาก็คลุ้มคลั่งตะโกนลั่นๆว่า เขาจะกลับมาเกิดอีกเพื่อแก้แค้นคู่รักที่ไม่ยอมแต่งงานด้วย

ในที่สุด ๑๐ ปี ต่อมาเขาก็มาเกิดในครรภ์ของพี่สะใภ้ดังกล่าว เขาสามารถชี้ที่ทางที่เขาเคยอยู่ ชี้ญาติพี่น้องในชาติก่อนของเขาได้ถูกต้องทุกอย่าง

แต่เขาเกิดมาพิการ คือ มือขวา (ที่เคยจับมีดจ้วงแทงคนรักของเขา) นิ้วติดกันทั้ง ๕ นิ้ว อยู่ในท่ากำมือ เหยียดไม่ออก คอของเขามีรอยแผลเป็นแต่กำเนิดเป็นรอยขวั้นรอบๆ คอ (ถูกแขวนคอ) หน้าอกเบื้องซ้ายมีรอยแผลเป็นแต่กำเนิด เป็นรูบุ๋ม (เขาแทงคู่รักด้วยมีดตรงหน้าอกเบื้องซ้าย)

เด็กคนนี้เล่าอย่างถูกต้องว่า ชาติก่อนเขาถูกแขวนคอ เขาดิ้นเขาร้องอย่างไร ในที่สุดรู้สึกวูบตกลงไปในท่ามกลางไฟที่ลุกโพลงและรู้สึกรุ่มร้อนทุรนทุรายแล้วก็ดับไป มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อตอนกลับมาเกิดใหม่

Professor ท่านนี้ได้ศึกษาเรื่องคล้ายคลึงอย่างหลายแห่งในโลกนี้ ศึกษาถึงอดีตชาติและพยายามจะศึกษาย้อนหลังด้วยการสะกดจิตมนุษย์ให้ถอยหลังอายุลงไปจนถึงชาติปางก่อน ว่าได้ทำกรรมอะไรมาเมื่อชาติก่อน พยายามหาคำอธิบายว่า ทำไมมนุษย์เราจึงเกิดมาไม่เหมือนกัน ก็แล้วบางคนเกิดมาก็พิการแต่กำเนิด เรื่องมันเป็นมาอย่างไร พยายามหาหลักวิชาการทางวิทยาศาสตร์อธิบาย สัพพัญญูรู้แจ้งของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ให้ถ่องแท้ได้ แต่มันมีปรากฏการณ์ให้เห็นกันอยู่ชัดๆ อย่างนี้แหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านคงจะทราบแล้วว่า เรื่องนี้มนุษย์เราคงสงสัยไม่สิ้นสุดและคงจะพิสูจน์ไม่ได้ไปอีกนานเท่านาน ท่านจึงอุตส่าห์เป็นห่วง ยังสั่งเสียด้วยว่า อย่าไปสนใจให้เสียเวลา ท่านจึงเพียรสั่งสอนให้ปฏิบัติ ปฏิบัติชอบอยู่ในสัมมาอาชีพ กระทำแต่กรรมที่ดีในชาตินี้ให้เป็นนิจสินก็ชอบก็ควรแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องข้างหน้าให้เสียเวลาเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 19:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ต่อ กท.

ผู้เขียนใคร่ขอพูดถึง “กรรม” ซึ่งแปลว่า “การกระทำ” สักเล็กน้อย มนุษย์บางคน หรือคนบางศาสนาไม่เชื่อในเรื่องของกรรม แต่เขาเชื่อว่า การกระทำสิ่งนั้น เมื่อกระทำไปแล้วก็สิ้นสุด แต่พุทธศาสนาสอนตรงกันข้าม ฉะนั้น จึงมีคำพูดถึง “กฎแห่งกรรม” ตลอดไปจนถึงเรื่องของตายแล้วเกิดใหม่

พุทธศาสนาไม่ต้องการให้มนุษย์งมงายหรือคิดมากไปในสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ฉะนั้น ท่านจึงพูดถึงแต่กรรมหรือการกระทำที่เป็นปัจจุบัน ท่านสอนให้ทำกรรมดี ก็จะได้ผลตอบสนองทีดีแน่นอน จึงมีคำสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งตรงกับหลักวิทยาศาสตร์ในเรื่อง Action – Reaction หรือหลัก ธรรมชาติวิทยา (Low of Nature)

เรื่อง “ปฏิสนธิวิญญาณ” นี้เป็นสิ่งน่าสนใจมาก ผู้เขียนได้เคยไปฟังปาฐกถาของ Professor Francis story บรรยายหัวข้อเรื่อง “ระลึกชาติ” (Reincarnation หรือ Rebirth) เมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว ที่สมาคมค้นคว้าทางจิต (เดิมตั้งอยู่ในบริเวณวัดมงกุฎกษัตริย์) ก่อนจะเล่าว่า ท่านผู้นี้บรรยายว่าอย่างไร ผู้เขียนขออธิบายถึงอาจารย์ผู้นี้เพื่อท่านผู้อ่านได้ทราบพื้นฐานของท่าน

อาจารย์ผู้สนใจศึกษาวิชาอภิจิตวิทยา (Parapsychology) ได้รับทุนจาก University of Verginia ให้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้ ท่านจึงเดินทางไปศึกษาเรื่อง ”ระลึกชาติ” ในหลายประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ท่านเคยบวชเป็นพระในพุทธศาสนาเป็นเวลา ๔ ปี ณ ประเทศศรีลังกา และศึกษาวิชานี้ไปด้วย

:b8:

อนุโมทนา สาธุกับ อาจารย์ผู้สนใจศักษา

อยากรู้ต้องลองดู ด้วยการเอาตัวเข้าบวชปฏิบัติธรรมเลย

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2019, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

เมื่ออายุเลยวัยเติบโตแล้วก็ควรคุมเรื่องอาหารการกิน
ดื่ม ลดลงให้เหมาะสมกับถานะสภาพของตน ย่อมจะยังชีวิต
ให้ยาวยืนไปได้อีกทั้งสุขภาพก็ดี ดูพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติ
ชอบสิครับ ท่านทานน้อย แต่มีอายุยืนเพราะอะไร s006 s006 s006

และความจริงอีกเรื่องคือ บุคคล ๒ กลุ่มคือ กลุ่มหนึ่งชอบ
ทำบุญ อีกกลุ่มหนึ่งไม่ชอบทำ สอง กลุ่มๆ ไหนมีอายุยืนกว่า
แข็งแรงกว่า และความจำดีกว่า s006 s006 s006

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 36 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 105 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร