วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 13:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2018, 09:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"เมื่อเกิดอารมณ์หงุดหงิด ไม่พอใจ
เราชอบระบายความรู้สึกออกไป
โดยการดุ หรือพูดอะไร ให้คนอื่นเจ็บใจ

แต่ถ้าเรารู้สึกตัว แล้วไม่พูดอย่างนั้น
เราก็จะได้ธรรมะหลายข้อ
ความรู้สึกตัวว่า กำลังหงุดหงิด คือ ตัวสติ
และการที่ไม่ทำตามความรู้สึกนั้น คือ ความอดทน

เมื่อความเศร้าหมองในใจเราหาย
เกิดสำนึกในความไม่เที่ยงของอารมณ์
ความไม่เป็นตัวตนของอารมณ์นั่นคือ ตัวปัญญา

การปฏิบัติในชีวิตประจำวันเป็นอย่างนี้"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







"ทำบุญกับพระที่ไหนๆ
ก็ต้องไม่ลืมพระที่บ้าน
พ่อแม่เรานี่แหละ
อย่ามองข้ามท่านไป"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ






"ความดี กับ ความไม่ดี
ขึ้นอยู่กับเหตุ คือเราทำไว้
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับคนพูด"
หลวงปู่ศรี มหาวีโร




ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน

หมายความว่า
เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็พอใจกับมัน
นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้
ต้องเริ่มต้นจากการรู้จักเพียงพอก่อน
เมื่อรู้จักพอแล้ว
ก็ไม่ต้องหาเงินมาก
เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก
ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)





ความโกรธตัวนี้มันเผาผู้เป็นเจ้าของก่อน
มันไม่ไปเผาคนอื่น
ถ้าผู้มีธรรมในใจแล้ว เขาไม่สนใจแล้ว เขาสบายแล้ว
บ้าก็อยู่ที่ปากเขา จะดีก็อยู่ที่ปากของเขา
เราจะไปสนใจอะไร ผู้เห็นอรรถเห็นธรรมเป็นอย่างนั้น

โอวาทธรรม :องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร
วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี





เรื่อง "อัศจรรย์ที่หัวใจดวงนี้สิ้นกิเลส ไม่ใช่อัศจรรย์ที่ตัวหนังสือตำราคัมภีร์ใบลานเปล่า"

(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

เอาเถอะเรียนมาจบไหนก็เถอะ สาธุ ไม่ได้ประมาทนะ จบพระไตรปิฎกก็จบเถอะ ได้แต่ความจำทั้งนั้นแหละความจริงไม่ได้ กิเลสไม่หลุดลอยไปเลย แต่ถ้าลงได้ปฏิบัติจนก้าวเข้าสู่ภาวนามยปัญญานี้แล้ว จะได้เห็นกิเลสพังลงไปๆ โดยลำดับลำดา สิ่งไม่รู้ก็รู้สิ่งไม่เคยเห็นก็เห็น เห็นขึ้นมาอย่างประจักษ์ใจ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยคาดเคยคิดเคยฝันว่าจะเห็นจะรู้จะละจะสังหารกันได้ มันก็สังหารกันได้ต่อหน้าต่อตานี้จะว่าไง

ธรรมพระพุทธเจ้าไม่อัศจรรย์อะไรจะอัศจรรย์ในโลกนี้ เอาเข้ามาปฏิบัติซีเราเป็นพวกนักปฏิบัติแท้ๆ ให้ท่านพูดอยู่เฉยๆ ทำไม ให้มันเห็นประจักษ์ในใจเจ้าของดูซิ ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นโมฆะจริงๆ เหรอในโลกอันนี้ สอนโลกมันถึงไม่ได้เรื่องได้ราว ก็เพราะโลกนี้ถูกกิเลสปิดบังหมด เมื่อธรรมแทรกเข้ามาถูกกิเลสปัดออกๆ ให้เหลือแต่มันหุ้มห่อจิตใจอยู่มิดมืดแปดทิศแปดด้านอยู่เท่านั้นเอง มันถึงไม่ได้เห็นสิ่งที่เป็นของมีอยู่ทั้งหลาย ทั้งบาปทั้งบุญทั้งนรกสวรรค์นิพพาน ทั้งกิเลสทั้งธรรมมีอยู่ในหัวใจดวงนี้ หัวใจดวงนี้จะเป็นผู้รู้ผู้เห็นมันก็รู้เห็นไม่ได้เพราะถูกปิดบัง เอาให้มันถึงเหตุถึงผลดูซิ มันต้องรู้ ทำไมจะไม่รู้

นี่เราพูดถึงเรื่องสิ่งที่เป็นที่รู้ ว่าปิดไม่อยู่ คือหลักธรรมชาติแห่งการปฏิบัตินี่ละ เอาปฏิบัติลงไป สิ่งไม่เคยรู้-รู้ สิ่งไม่เคยเห็น-เห็น สิ่งที่ท่านว่าอัศจรรย์ๆ ยังไง พระพุทธเจ้าอัศจรรย์ ท่านสิ้นกิเลสท่านสิ้นยังไง ให้มันเห็นในหัวใจเจ้าของซิ กิเลสเป็นยังไงมันก็หายสงสัยเท่านั้นซิ จะเอาอะไรมาสงสัย และกราบพระพุทธเจ้าอย่างราบเลย







ธรรม(ทำ)ทำยุไส่ ยุไส่จังสิเป็นธรรม??
ธรรมมะมันบ่ได่อยู่ที่อายุ
ธรรมมะมันบ่ไม่ได้อยู่ที่เพศ
ธรรมะมันบ่ได้อยู่ที่ว่ามาก่อน
มาหลังหรืออยู่ดนกว่าหมู่(อยู่นานกว่าเพื่อน)
แต่มันอยู่ที่เจ้าของเองนั้นล่ะ เฮ็ดให้มันเห็น,
ให้มันถึง, ให้มันเห็นฮอดใจเจ้าของ,
ถ้าเห็นแล้ว มันสิฮู้เองเห็นเองนั้นล่ะ
คนที่ยุไกลแต่เขามีปัญญา_เขาเก็บกินเบิ่ด
แต่คนยุใกล้_กลับบ่ได่หยัง_ได่แต่เกาะแข้งเกาะขาเพิ่นซื่อๆกะมีหลายยุเด้

"เฮ็ดทานมาหลาย รักษาศีลมาดน
กะบ่แน่ว่าสิบ่ตกนรก ถ้าบ่มีสติและปัญญารักษา
รักษาหยัง...?? กะรักษาใจเจ้าของนั่นแหลว
บ่ให้เผลอไปเฮ็ดชั่ว มีศีลแต่บ่มีสติปัญญากะมีโอกาสพลาดพลั้งได้คือกันเด้"

โอวาทคำสอนหลวงปู่ใหญ่
หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร
วัดป่าวิเวกพัฒนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2018, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

อ้างคำพูด:
ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน

หมายความว่า
เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็พอใจกับมัน
นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้
ต้องเริ่มต้นจากการรู้จักเพียงพอก่อน
เมื่อรู้จักพอแล้ว
ก็ไม่ต้องหาเงินมาก
เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก
ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)

Kiss Kiss Kiss
ขออนุญาติเพิ่มเติม การทำความพอใจให้เกิดนั้นคือการ
พิจารณาให้เห็นประโยชน์ของสิ่งที่มีอยู่ให้มากให้บ่อยๆ
แล้วจะเกิดความพอใจครับ

อ้างคำพูด:
ความโกรธตัวนี้มันเผาผู้เป็นเจ้าของก่อน
มันไม่ไปเผาคนอื่น
ถ้าผู้มีธรรมในใจแล้ว เขาไม่สนใจแล้ว เขาสบายแล้ว
บ้าก็อยู่ที่ปากเขา จะดีก็อยู่ที่ปากของเขา
เราจะไปสนใจอะไร ผู้เห็นอรรถเห็นธรรมเป็นอย่างนั้น

โอวาทธรรม :องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร
วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

Kiss Kiss Kiss

ความโกรธ เกิดความไม่รู้ เกิดจากเหน็ดมากจากการงาน....
เกิดจากความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เกิดจากการสูญเสียสิ่ง
อันเป็นที่รักที่ชอบใจ เกิดจากความไม่ได้ดังใจ......

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 73 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร