ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56892 |
หน้า 29 จากทั้งหมด 33 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 00:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 ก.พ. 2019, 17:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คุณโรสดู ฟัง คลิปนี้สิ ฟัง ดูแล้วรู้สึกคิดยังไง เล่าให้ฟังที https://www.youtube.com/watch?v=AZf46II_Pcc |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 ก.พ. 2019, 17:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง
เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา |
เจ้าของ: | Rosarin [ 06 ก.พ. 2019, 18:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 ก.พ. 2019, 19:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า |
เจ้าของ: | Rosarin [ 08 ก.พ. 2019, 09:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 ก.พ. 2019, 03:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 11 ก.พ. 2019, 03:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac คริคริ จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสาน....... โห การเห็นของคุณยายโรส เป็นแบบนี้เหรอคะ หนูว่าไม่เหมือนกะการเห็นเรยหละค่ะ น่าจะเป็นการไหลเรื่อยเปื่อย ไปตามน้ำมั๊งคะ ? เหมือนภาษิต คนไม่ดีตกน้ำก็ไหล ตกไฟก็ไหม้เรย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 ก.พ. 2019, 03:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac คริคริ จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสาน....... โห การเห็นของคุณยายโรส เป็นแบบนี้เหรอคะ หนูว่าไม่เหมือนกะการเห็นเรยหละค่ะ น่าจะเป็นการไหลเรื่อยเปื่อย ไปตามน้ำมั๊งคะ ? เหมือนภาษิต คนไม่ดีตกน้ำก็ไหล ตกไฟก็ไหม้เรย คนที่ไม่รู้จักกิเลสคือคนไม่รู้จักตนเองตามเป็นจริงแปลว่าเป็นคนไม่มีปัญญาเข้าใจลืมตาสว่างคิดน่ะมืด กิเลสนอนในจิตเธอแค่กระพริบตากิเลสเธอไหลออกมาเต็มเลยไม่เห็นรึกระพริบตาดับครบ6ทางแร๊ววววว ที่เห็นคนสัตว์วัตถุจำอยู่นั่นฉันดีฉันเก่งกว่าคนอื่นมองให้ชัดๆสิไม่ได้มีจิตรู้รูปารมณ์ทีละ1ทางคิดไม่มีแสง555 |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 11 ก.พ. 2019, 03:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac คริคริ จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสาน....... โห การเห็นของคุณยายโรส เป็นแบบนี้เหรอคะ หนูว่าไม่เหมือนกะการเห็นเรยหละค่ะ น่าจะเป็นการไหลเรื่อยเปื่อย ไปตามน้ำมั๊งคะ ? เหมือนภาษิต คนไม่ดีตกน้ำก็ไหล ตกไฟก็ไหม้เรย คนที่ไม่รู้จักกิเลสคือคนไม่รู้จักตนเองตามเป็นจริงแปลว่าเป็นคนไม่มีปัญญาเข้าใจลืมตาสว่างคิดน่ะมืด กิเลสนอนในจิตเธอแค่กระพริบตากิเลสเธอไหลออกมาเต็มเลยไม่เห็นรึกระพริบตาดับครบ6ทางแร๊ววววว ที่เห็นคนสัตว์วัตถุจำอยู่นั่นฉันดีฉันเก่งกว่าคนอื่นมองให้ชัดๆสิไม่ได้มีจิตรู้รูปารมณ์ทีละ1ทางคิดไม่มีแสง555 อ่อ คุณยายโรสคะ เม ขอแนะนำเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ว่าให้คุณยายโรสไปหัดเรียนพระอภิธรรม ศึกษาปฎิจจสมุบาท 12 องค์ธรรม สายดับนะคะ ขี้เกียจพูดแระ หนูลาคุณยายโรส นะคะ ไปหาสามีดีก่า อ่อ สามีจิปฎิปัณโน น่ะค่ะ คริคริ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 ก.พ. 2019, 03:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac คริคริ จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสาน....... โห การเห็นของคุณยายโรส เป็นแบบนี้เหรอคะ หนูว่าไม่เหมือนกะการเห็นเรยหละค่ะ น่าจะเป็นการไหลเรื่อยเปื่อย ไปตามน้ำมั๊งคะ ? เหมือนภาษิต คนไม่ดีตกน้ำก็ไหล ตกไฟก็ไหม้เรย คนที่ไม่รู้จักกิเลสคือคนไม่รู้จักตนเองตามเป็นจริงแปลว่าเป็นคนไม่มีปัญญาเข้าใจลืมตาสว่างคิดน่ะมืด กิเลสนอนในจิตเธอแค่กระพริบตากิเลสเธอไหลออกมาเต็มเลยไม่เห็นรึกระพริบตาดับครบ6ทางแร๊ววววว ที่เห็นคนสัตว์วัตถุจำอยู่นั่นฉันดีฉันเก่งกว่าคนอื่นมองให้ชัดๆสิไม่ได้มีจิตรู้รูปารมณ์ทีละ1ทางคิดไม่มีแสง555 อ่อ คุณยายโรสคะ เม ขอแนะนำเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ว่าให้คุณยายโรสไปหัดเรียนพระอภิธรรม ศึกษาปฎิจจสมุบาท 12 องค์ธรรม สายดับนะคะ ขี้เกียจพูดแระ หนูลาคุณยายโรส นะคะ ไปหาสามีดีก่า อ่อ สามีจิปฎิปัณโน น่ะค่ะ คริคริ อุชุแปลว่าตรง อุชุปฏิปัณโณ คือผู้รู้ตรงทาง คิดให้ตรงทาง คิดน่ะมืดสนิท คิดพร้อมแสง คือเห็นผิดไงคะ จิตคิดนึกในความมืด ได้ยินเสียงในหัวตัวเองไหม ตาไม่บอดดูสิเห็นไม่มีเสียงปน เพราะเห็นไม่มีโสตปสาทะรูปปนไม่มีมโนทวารปนด้วยไม่มีอะไรปนกันเลยนะเดี๋ยวนี้รู้คืออุชุตรงทีละ1สัจจะ |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 11 ก.พ. 2019, 04:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: Kiss สุตมยปัญญาคือปริยัติคือสัจญาณ=ปัญญารู้ชัดว่าเห็นตรงทางมีแค่สี1สีเห็นผิดอยู่เนี่ย จิตทางอื่นไม่เห็นทางอื่นๆมืดคิดเกิดในมืดเสียงเกิดในมืดเนี่ยคิดอ่านปนเสียงปนแสงผิดไหมคะ ความจริงตรงปรมัตถ์รู้ตรงสัจญาณที่กายตนเองเท่านั้นส่งออกไปดูอะไรบอกว่าสีดับในตาดำมืดมิดเลยเนี่ย แสงสีเป็นรูปปรมัตถ์1เดียวที่มีแสงสว่างตาไม่บอดก็ดูให้เข้าใจ อีก27รูปเกิดในความมืดเสียงมืดคิดมืดรู้สึกต่างๆล้วนมืดทำได้แค่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้ คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆคือพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ สีที่ว่านี้ หมายถึงสีอะไร เขียว เหลือง แดง ฯลฯ อ้างคำพูด: นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง เพื่อนๆผมเค้านั่งกันบางท่านก็เห็นแสงสว่าง บางท่านก็หลับตาแต่เห็นทุกอย่างเหมือนลืมตา เวลาศึกษาเนี่ยรู้ความจริงของแต่ละ1ทางที่กายตัวเองมีทีละ1ทางไม่เกิดปนกัน จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสานเฉพาะการเห็นไม่มีอย่างอื่นปนคือ 1มีจิต+2มีอายตนะทางตาคือปสาทรูปภายในตาดำ(มีตาและตาไม่บอดลืมตาดู)+3มีสีสันวรรณะที่มหาภูตรูป สีเกิดพร้อมแสงกระทบที่ประสาทตาดับในตาตอนลืมตาดูอยู่เนี่ยมืดแล้วมิดเลยคิดนึกจำรู้สึกในมืดมีมืดไหม ที่มองเห็นคนสัตว์วัตถุเต็มไปหมดเป็นสัญญาจำอดีตสีที่ดับไปแล้วหลากสีดับนับไม่ถ้วนจำนิมิตสีเห็นผิดอยู่ไง อ้างคำพูด: คนที่จะไปทำจนเห็นสีได้จริงๆ คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปชาติสุดท้ายโน่นแน่ะตนเป็นใครล่ะอัครสาวกก็ไม่ คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า สัจจะทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า จะท่องทุกคำในพระไตรปิฎกได้ก็ไม่ใช่สัจจะของตัวเอง ไม่คิดเลยเหรอว่าปัจจุบันขณะมันมีนิดเดียวก่อนกระพริบตา คิดตรงแค่1คำยังไม่เป็นประโยคเลยกิเลสในจิตไหลครบ6ทางแล้ว เอาคำตถาคตไปไว้ที่ไหนเพราะคำตถาคตตรงสัจจะที่รู้ได้ทัน1ธัมมะ และตรงที่คิดได้ทัน1คำวาจาสัจจะตรง1ตัวจริงธัมมะยังไม่ถึงสติเจตสิกเลย ฌานจิตไม่ใช่ปัญญา ฌานจิตนั้นเสื่อมได้ง่ายมาก ปัญญา=ญาณ=วิปัสสนา=สัมมาทิฏฐิ เกิดตอนฟังคำสอนเข้าใจสัจจะที่กายใจกำลังมี https://youtu.be/ewClhL_02Ac คริคริ จิตเห็นคือจักขุวิญญาณตรงปัจจุบันขณะเกิดจากธัมมะ3ประสาน....... โห การเห็นของคุณยายโรส เป็นแบบนี้เหรอคะ หนูว่าไม่เหมือนกะการเห็นเรยหละค่ะ น่าจะเป็นการไหลเรื่อยเปื่อย ไปตามน้ำมั๊งคะ ? เหมือนภาษิต คนไม่ดีตกน้ำก็ไหล ตกไฟก็ไหม้เรย คนที่ไม่รู้จักกิเลสคือคนไม่รู้จักตนเองตามเป็นจริงแปลว่าเป็นคนไม่มีปัญญาเข้าใจลืมตาสว่างคิดน่ะมืด กิเลสนอนในจิตเธอแค่กระพริบตากิเลสเธอไหลออกมาเต็มเลยไม่เห็นรึกระพริบตาดับครบ6ทางแร๊ววววว ที่เห็นคนสัตว์วัตถุจำอยู่นั่นฉันดีฉันเก่งกว่าคนอื่นมองให้ชัดๆสิไม่ได้มีจิตรู้รูปารมณ์ทีละ1ทางคิดไม่มีแสง555 อ่อ คุณยายโรสคะ เม ขอแนะนำเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ว่าให้คุณยายโรสไปหัดเรียนพระอภิธรรม ศึกษาปฎิจจสมุบาท 12 องค์ธรรม สายดับนะคะ ขี้เกียจพูดแระ หนูลาคุณยายโรส นะคะ ไปหาสามีดีก่า อ่อ สามีจิปฎิปัณโน น่ะค่ะ คริคริ อุชุแปลว่าตรง อุชุปฏิปัณโณ คือผู้รู้ตรงทาง คิดให้ตรงทาง คิดน่ะมืดสนิท คิดพร้อมแสง คือเห็นผิดไงคะ จิตคิดนึกในความมืด ได้ยินเสียงในหัวตัวเองไหม ตาไม่บอดดูสิเห็นไม่มีเสียงปน เพราะเห็นไม่มีโสตปสาทะรูปปนไม่มีมโนทวารปนด้วยไม่มีอะไรปนกันเลยนะเดี๋ยวนี้รู้คืออุชุตรงทีละ1สัจจะ คริคริ เม ประกาศ แนะนำคุณยายโรส เป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ให้ไปเริ่มศึกษาพระอภิธรรม ให้ไปศึกษาปฎิจจสมุบาท 12 องค์ธรรม สายดับ จะได้ไม่มาไหลตามอวิชชา แล้วไปเรียกการไหลตามอย่างนั้นว่าการเห็น |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 ก.พ. 2019, 04:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
เมเคยดูหนังใบ้ไหมคะ ชาลีแช็ปปิ้นมีแต่ภาพ นั่นแหละแค่เห็นไม่มีเสียงปน จิต6ทาง6วิถีเหมือนวิถีกระสุนค่ะ |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 11 ก.พ. 2019, 04:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
Rosarin เขียน: Kiss เมเคยดูหนังใบ้ไหมคะ ชาลีแช็ปปิ้นมีแต่ภาพ นั่นแหละแค่เห็นไม่มีเสียงปน จิต6ทาง6วิถีเหมือนวิถีกระสุนค่ะ คริคริ คุณยายโรสคะ เม ประกาศแนะนำให้คุณยายโรสเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะคะ ก่อนที่จะปิดการแนะนำ ให้คุณยายโรส ไป หัดเรียนพระอภิธรรมเบื้องต้นให้ดีๆนะคะ สอบลงพระไตรปิฎกด้วย ศึกษาองค์ธรรมตาม ปฎิจจสมุบาทให้ดีๆนะคะ แปลความหมายให้ออกนะคะ ระหว่างจิตจริงๆ และจิตเจตสิก ว่าจิตคืออะไรแน่ จะได้ไม่มามั่วอย่างนี้ค่ะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 ก.พ. 2019, 04:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยเรื่องความไม่รู้และขาดสุตมยปัญญา |
โลกสวย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss เมเคยดูหนังใบ้ไหมคะ ชาลีแช็ปปิ้นมีแต่ภาพ นั่นแหละแค่เห็นไม่มีเสียงปน จิต6ทาง6วิถีเหมือนวิถีกระสุนค่ะ คริคริ คุณยายโรสคะ เม ประกาศแนะนำให้คุณยายโรสเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะคะ ก่อนที่จะปิดการแนะนำ ให้คุณยายโรส ไป หัดเรียนพระอภิธรรมเบื้องต้นให้ดีๆนะคะ สอบลงพระไตรปิฎกด้วย ศึกษาองค์ธรรมตาม ปฎิจจสมุบาทให้ดีๆนะคะ แปลความหมายให้ออกนะคะ ระหว่างจิตจริงๆ และจิตเจตสิก ว่าจิตคืออะไรแน่ จะได้ไม่มามั่วอย่างนี้ค่ะ ยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนว่าตัวเองเห็นผิดถึงจะเข้าใจคำสอน เพราะปัญญารู้จักกิเลสก็เห็นผิดอยู่เดี๋ยวนี้เห็นแต่กิเลสตัวเองไหล เห็นไม่ใช่คิดไม่ใช่คนไม่ใช่สัตว์เห็นเป็นเห็นดับแล้วค่ะเมเห็นกิเลสไหมคะ คิดนึกมืดรู้สึกเย็นร้อนก็มืดเกิดไม่พร้อมเห็นเพราะเห็นเป็นรูปารมณ์เดียวที่มีแสงค่ะเม555 |
หน้า 29 จากทั้งหมด 33 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |