วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 15:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2018, 02:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เก่งนำเสนอเรื่องร้าย เพราะมีเชื้อร้ายประจำในนิสัย จะพูด ทำ คิด ก็ติดแค่ความร้าย ซึ่งเป็นนิสัยมาร ทำลายสถาบันความดี ประกาศเป็นศัตรูนิมิตรหมายแห่งความดี ห้ามการให้ ใจร้ายไปทุกเรื่อง

รู้ทันจะคิดดับๆ ก็ใจดีได้ทุกเรื่อง ไม่บ้า ยึดติดกับความเดือดร้อน ไม่เป็นลูกช่างว่า ทุกประการ


จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2018, 05:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เป็นลูกช่าง..ว่า..แต่ก็ว่าไปแล้วละ..
:b32: :b32: :b32:

muisun เขียน:
เก่งนำเสนอเรื่องร้าย เพราะมีเชื้อร้ายประจำในนิสัย จะพูด ทำ คิด ก็ติดแค่ความร้าย ซึ่งเป็นนิสัยมาร ทำลายสถาบันความดี ประกาศเป็นศัตรูนิมิตรหมายแห่งความดี ห้ามการให้ ใจร้ายไปทุกเรื่อง
[/quote]

ผัสสะ..อันใด..ก็ให้..เห็นกรรม...กิเลส..อวิชชา..ฯ เห็นวิชา.. ในอันนั้น...

เห็นกรรม..กิเลส..อวิชชา..ของใครๆแล้ว..ก็ให้มาเห็น..กรรม..กิเลส..อวิชชาของเรา

เห็นแล้ว...ใจก็ไม่รู้จะไปโทษอะไรใคร

ถ้าอยากจะโทษอะไรสักอย่าง.....ก็ให้โทษอวิชชา..

ทำไมจึง...โทษอวิชชา?

ก็เพราะอวิชชา..ความไม่รู้..หลงนามรูปว่าเป็นตน...จึงคิดจะรักษา
เพราะคิดจะบำรุงรักษานามรูป...จึงเกิดกิเลสนานับประการ
บำรุงตนด้วยบุญกุศล...ก็สู่โลกสุคติชั่วคราว
บำรุงตนด้วยอวิชชา ไม่สนใจบาปบุญคุณโทษ...ก็สู่โลกทุคติ...มีวิบากเป็นที่ไม่สะดวกกายไม่สำราญใจ

คราวใด..ผัสสะ..กับความไม่สะดวกกายไม่สบายใจ...ก็ให้สาวไปให้ถึงอวิชชา

อย่าสักแต่ว่า..ไม่คิดไม่ปรุง.ให้มันดับไป..โดยไม่ทำความรู้..เห็นโทษในอวิชชา..ที่เกิดมาเป็นคนรับผลของมันอยู่ทุกวี่ทุกวัน

นี้แหละจึงว่า.."ถ้าอยากจะโทษอะไรสักอย่าง.....ก็ให้โทษอวิชชา"..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2018, 11:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


84000 พระธรรมขันธ์ สอนให้ดับความรู้ไม่ทันเพียงอย่างเดียว พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสอนให้ดับความชอบ ชัง เฉย สามอย่างก็ให้ละความเฉยเพราะรู้ไม่ทันเพียงอย่างเดียว

ความอยากร้ายมุ่งทำลายว่ากันก็ดับเกลี้ยงไม่เหลือหรอ รู้ทันจะคิดดับๆ ก็ดับเฉพาะปัจจุบัน ไม่ใช่หน้า หลัง อนาคตหรืออดีต ตรงกับจิตดวงเก่าดับไปและจิตดวงใหม่เกิดขึ้นจะเห็นของจริงเป็นปรมัตต์ ไม่มีบัญญัติตัวตนเรา เขา นี่แหละอารมณ์สักแต่ว่าที่ผู้รู้ทันเท่านั้นจึงจะเห็น สมพุทธพจน์ที่ทรงตรัสว่า ถ้ารู้ทันเขาก็ดับหลุดพ้น ถ้ารู้ไม่ทันเขาก็ยึดเข้าไปในการปรุงแต่งทั้งปวง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร