ผู้ที่บรรพชาน่ะทำอะไร...จิตเห็นสีดับเพียง3ขณะยังไม่กะพริบตาก็มีกิเลสแล้ว
เห็นเงินน่ะบุญเก่าคือวิบากกรรมดีเก่าส่วนรับเงินน่ะรอตกนรกได้เลย
สิกขาบทมีไว้ให้ทำตามไม่ใช่อาบัติได้บ่อยๆถามว่ารับเงินปลงอาบัติ
กับผู้บวชที่ไม่รับเงินนั้นรับทุกคนไม่ใช่เหรอคะแล้วจะปลงกะใคร
ถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ต้องรู้ตัวน๊าตายคาจีวรไปอบายภูมิค่ะ
ลาสิกขาจึงพ้นโทษตกนรกครองจีวรทำนิสัยเดิมที่รับเงินไม่ได้

อ้า วนไปบรรพชา เห็นแสงสีเสียงอีก คิกๆๆ

วิถีจิตมี6ทางจิตตั้งมั่นตรงทางคือเป็นสมาธิทุกขณะจิตแต่ผิดที่เห็นไม่ตรงตามคำสอนจึงมีมิจฉาทิฏฐิขาดฟัง
1ทางตามีสภาพเดียวที่มีแสงมีแค่สีกระทบกลางตาตอนลืมตาดับทันทีมืดต่ออีก5ทางแสงดับคิดนึกรู้สืกมืดมิด
2ทางหูตอนได้ยินเสียงมีแค่เสียงสูงๆต่ำๆคือได้ยินทีละ1เสียงยังไม่รู้ว่าเสียงอะไรก็ดับแล้วมีแค่เสียงกระทบหู
3ทางจมูก ตอนดมกลิ่นยังไม่รู้ว่าหอมหรือเหม็นและไม่มีเห็นปนไม่มีเสียงปนฟังเพลงไปด้วยคนละวิถีจิตนะ
4ทางลิ้น ตอนลิ้มรสไม่มีแสงจะเห็นอาหารไม่ได้ไงคะไตร่ตรองเหตุผลให้รอบทั้ง6ทางมีแล้วรู้รสไม่มีเสียงปน
5ทางกาย ตอนสัมผัสมหาภูตรูปใช้กายปสาทะรูปไม่มีจักขุปสาทะปนจึงเห็นกายตนเองก็ไม่ได้555
6ทางใจ คิดนึกในความมืดไม่มีจิตเห็นที่เกิดทางตาปนในวิถีของคิดแล้วที่อ่านเห็นนิมิตตัวอักษรคือเงาสีไงคะ
ทั้ง6ทางเป็นวิถีจิตคนละทางไม่เกิดปนกันเกิดทีละ1ทางทีละ1ขณะสลับกันตรงวิถีเรียกมีครบอายตนะ6แล้ว
คือที่ประชุมรวมกันทำให้เกิดรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสโผฐัพพะธรรมารมณ์และปัญญาเพิ่มขึ้นตอนฟังเข้าใจถูก

วนมาเสียงสูงต่ำดำขาวอีก 1 เสียง 1 ขณะอีก เอ้า วนอยู่เนี่ยไม่ไปไหน

เดี๋ยวนี้เลยนะแค่คิดคำว่า ตา แค่คำเดียว กิเลสที่ใจคุณไหลนับไม่ถ้วนแล้ว
คิดผิดอยู่จ้ะเพราะสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นและไม่ใช่ลูกตาของคุณ
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าบอกว่าสภาพที่เห็นคือจิตเห็นมีแค่แสงสี1สีดับทันที
ตอนที่ดับนั้นไม่มีธัมมะทางไหนเกิดแสดงให้เข้าใจชัดๆว่าไม่มีตัวตนคนเหลือเป็นอากาศแร๊ววววว555

ตั้งแต่มีประเทศไทยมา เลอะเทอะได้ใจจริงๆ