วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 23:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555


แล้วที่ไปกินอาหารสั่งรัวๆกับครอบครัวเรา เป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิ ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นครอบครัวเรา ครอบครัวเขาไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555


แล้วที่ไปกินอาหารสั่งรัวๆกับครอบครัวเรา เป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิ ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นครอบครัวเรา ครอบครัวเขาไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555


แล้วที่ไปกินอาหารสั่งรัวๆกับครอบครัวเรา เป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิ ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นครอบครัวเรา ครอบครัวเขาไหม :b32:

:b1:
มองดูแล้วก็คิดให้ตรงทีละ1ทาง
ที่กำลังคิดอยู่เนี่ยคือจิตคิดนึก
และที่เห็นอยู่จิตเห็นไม่มีคิดปน
เอาอะไรมาคิดว่าเห็นไม่มีตอนคิดอยู่
ที่คุณคิดอยู่เนี่ยมันไม่มีแสงจะเห็นได้ไหม
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มสะสมปัญญาแรกคือสุตมยปัญญา
https://youtu.be/Ic_hM_sUKnc
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2018, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555


แล้วที่ไปกินอาหารสั่งรัวๆกับครอบครัวเรา เป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิ ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นครอบครัวเรา ครอบครัวเขาไหม :b32:

:b1:
มองดูแล้วก็คิดให้ตรงทีละ1ทาง
ที่กำลังคิดอยู่เนี่ยคือจิตคิดนึก
และที่เห็นอยู่จิตเห็นไม่มีคิดปน
เอาอะไรมาคิดว่าเห็นไม่มีตอนคิดอยู่
ที่คุณคิดอยู่เนี่ยมันไม่มีแสงจะเห็นได้ไหม
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มสะสมปัญญาแรกคือสุตมยปัญญา
https://youtu.be/Ic_hM_sUKnc
:b32: :b32:


มองยังไง ถึงจะตรงธัมมะธัมโมอะไรที่ว่า ตัวอย่างนั้นแหละ พาครอบครัวไปกินข้าวสั่งรัวๆ เอ้าว่าไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2018, 04:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จบตอน พุทธธรรมหน้า ๑๐๘๒

ต่อ

ถ้าให้ระบบเงื่อนไขหนุนกฎธรรมชาติได้ ก็จะมีผลดีจริง

viewtopic.php?f=1&t=56791

:b12:
กฏของธรรมชาติคือทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
คิดให้ตรงปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้เลยนะ
ปัญญาเกิดได้ตามลำดับตรงขณะ
ข้ามขั้นไม่ได้ต้องเริ่มที่ข้อ1
ฟังทุกครั้งจนปัญญา1ล้น
จะกลายเป็นปัญญา2
ฟังต่อพิจารณาไป
ฟังไปเจริญขึ้น
อบรมปัญญา2
เพิ่มจนล้น
ไปถึง3
กะพริบตาสัญญาขันธ์เป็นขณะจิตใหม่ตลอดมัวยึดแต่สัญญาอันเก่าที่ท่องจำไว้มากๆมันไม่ตามไปชาติหน้า
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังทำฟังตรงขณะNOWไม่ฟังก็คือไม่ได้ทำปัญญาตามปกติใช้หูฟังตรงจริงๆ
พึ่งเสียงที่กำลังฟังเพื่อรู้ความหมายของเสียงตรงสัจจะที่กายใจมีแล้วที่ไม่เคยรู้ว่ามีแล้วและกำลังเกิดดับอยู่
บ่อแม๊นลัดเอาบ่อฟังฟ้าฟังไฟแล้วก็ข้ามไป3โลดมันเป็นไปบ่อได้เด้อจร้ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญญาเอง
แปลว่าไม่ใช่เดินทางลัดไม่ฟังฟ้าฟังไฟข้ามไปทำ3เลยมันอิมพอสซิเบิ้น555ปัญญาไม่เกิดเพราะลืมทำข้อ1
แล้วองค์ธรรมของฌานมันมีเจตสิกคือสมาธิอย่างเดียวชื่อเอกัคตาเจตสิกมันไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย
เพราะตอนถึงเอกัคตาอันเดียวนั้นน่ะเสียงก็ไม่ได้ยินแล้วปัญญาเกิดตามลำดับเริ่มที่ฟังตาไม่บอดลืมตาฟังน๊า
:b32: :b32: :b32:

ที่สำคัญองค์ธรรมแรกของมรรค8เกิดจากกำลังคิดถูกตรงตามเสียงคำจริงตรงกับที่กายใจมีตอนเห็น+ฟังอยู่
จึงสามารถเกิดมรรคแรกได้คือคิดเห็นถูกเข้าใจถูกรู้ตรงตามเสียงของปรโตโฆสะที่กล่าวให้กำลังคิดถูกตาม
มรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิแปลว่ากำลังคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามเสียงที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงปัจจุบัน


ไม่ไหวจะเคลีย

ย้ำอีกทีว่า พระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

Kiss
ถ้าคำนวณโดยหลักวิทยาศาสตร์จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีที่เวลา1x10ยกกำลัง10
ที่1ขณะจิตเห็น1ขณะรู้แค่แสงสี1สีไม่มีรูปร่างดับทันทีแล้วมืดต่ออีก5ทางมืดมากกว่าสว่างสลับกัน
ดูที่ตัวเองมองเห็นสิทุก1วินาทีจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนยังไม่ทำอะไรเลยก็เห็นผิดแล้วจะไปไหนจะทำอะไรก็ไม่รู้
ทำอะไรได้ไหมนอกจากเพียรฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่จิตมีไม่ใช่เข้าใจเองว่าเป็นคนมีพ่อแม่มีลูกมีเมียมีสมบัติ
:b32: :b32: :b32:



คิกๆๆ ย้ำอีกว่าพระพุทธศาสนาในเมืองไทยไปไม่รอด

:b32:
อ้าวไม่รู้ตัวเลยหรือว่ามีหมดนั่นแหละตัวตนชื่ออะไรบ้านอยู่ไหน
จำแต่ชื่อแล้วก็ยึดถือชื่อนั้นแหละว่ามีจริงๆคือมีอุปาทานขันธ์
ความเห็นผิดยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวเองไง555


แล้วที่ไปกินอาหารสั่งรัวๆกับครอบครัวเรา เป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือสัมมาทิฏฐิ ยึดมั่นว่าเป็นเราเป็นเขาเป็นครอบครัวเรา ครอบครัวเขาไหม :b32:

:b1:
มองดูแล้วก็คิดให้ตรงทีละ1ทาง
ที่กำลังคิดอยู่เนี่ยคือจิตคิดนึก
และที่เห็นอยู่จิตเห็นไม่มีคิดปน
เอาอะไรมาคิดว่าเห็นไม่มีตอนคิดอยู่
ที่คุณคิดอยู่เนี่ยมันไม่มีแสงจะเห็นได้ไหม
ฟังบ้างนะจะได้เริ่มสะสมปัญญาแรกคือสุตมยปัญญา
https://youtu.be/Ic_hM_sUKnc
:b32: :b32:


มองยังไง ถึงจะตรงธัมมะธัมโมอะไรที่ว่า ตัวอย่างนั้นแหละ พาครอบครัวไปกินข้าวสั่งรัวๆ เอ้าว่าไป

กำลังเห็นแสงสี1สีไม่มีคิดนึกปนและตอนคิดนึกก็ไม่ได้เห็นไปด้วยจริงๆให้ไตร่ตรองดูว่าจริงไหม
ไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังว่ากำลังคิดนึกจำรู้สึกในความมืดไม่มีแสงสว่างตอนคิดจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2018, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

อ้างคำพูด:
กรัชกาย
มองยังไง ถึงจะตรงธัมมะธัมโมอะไรที่ว่า ตัวอย่างนั้นแหละ พาครอบครัวไปกินข้าวสั่งรัวๆ เอ้าว่าไป

กำลังเห็นแสงสี1สีไม่มีคิดนึกปนและตอนคิดนึกก็ไม่ได้เห็นไปด้วยจริงๆให้ไตร่ตรองดูว่าจริงไหม

ไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังว่ากำลังคิดนึกจำรู้สึกในความมืดไม่มีแสงสว่างตอนคิดจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ


ถ้ายังงั้น ที่ว่าไปกับครอบครัวไปกินนั่นกินนี่กันสั่งนั่นนี่รัวๆ

ครอบครัวพ่อแม่ลูกเมียผัว เป็นสีอะไร? :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 58 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร