วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 02:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2018, 23:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
คนที่ไปนั่งขัดสมาธิหลับตาโดยขาดการฟังคำสอนนั้นสะสมแต่กิเลสเพราะไม่ได้กำลังรู้ตามคำสอนไงคะ

ตื่นรู้คือทำสมาธิลืมตาดูตามปกติตอนฟังคำสอนเพื่อให้เข้าใจถูกรู้แจ้งตามปกติเพราะหลับตาขาดจิตเห็นนะคะ


การใช้ภาษาค่อนข้างปั่นป่วน

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2018, 23:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
คนที่ไปนั่งขัดสมาธิหลับตาโดยขาดการฟังคำสอนนั้นสะสมแต่กิเลสเพราะไม่ได้กำลังรู้ตามคำสอนไงคะ

ตื่นรู้คือทำสมาธิลืมตาดูตามปกติตอนฟังคำสอนเพื่อให้เข้าใจถูกรู้แจ้งตามปกติเพราะหลับตาขาดจิตเห็นนะคะ


คุณโรสเชื่อมั่นในความเข้าใจในคำสอนของอาจารย์ที่คุณโรสชอบหยิบยกทูปมามากเลยเหร๋อคะ

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2018, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
คนที่ไปนั่งขัดสมาธิหลับตาโดยขาดการฟังคำสอนนั้นสะสมแต่กิเลสเพราะไม่ได้กำลังรู้ตามคำสอนไงคะ

ตื่นรู้คือทำสมาธิลืมตาดูตามปกติตอนฟังคำสอนเพื่อให้เข้าใจถูกรู้แจ้งตามปกติเพราะหลับตาขาดจิตเห็นนะคะ


คุณโรสเชื่อมั่นในความเข้าใจในคำสอนของอาจารย์ที่คุณโรสชอบหยิบยกทูปมามากเลยเหร๋อคะ

:b1:

:b12:
รู้ความจริงทั้ง2แบบจะให้ว่าอย่างไรคะ
แต่การฟังทำให้ปัญญาเจตสิกเจริญขึ้น
รู้ด้วยตนเองตามความเข้าใจตอนกำลังฟังค่ะ
ไม่ได้นั่งเดาสภาวะไปก่อนตามที่ไปอ่านมาล่วงหน้าไงคะ
รู้สภาวะต่างๆตามความเป็นจริงและเชื่อมโยมถึงคำตถาคต
ว่าตรงกับสภาวะใดเทียบความจริงตามตำราตรงขณะจากมีผู้รู้สาธยายให้เข้าใจถูกตามได้ตามปกติ
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2018, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
คนที่ไปนั่งขัดสมาธิหลับตาโดยขาดการฟังคำสอนนั้นสะสมแต่กิเลสเพราะไม่ได้กำลังรู้ตามคำสอนไงคะ

ตื่นรู้คือทำสมาธิลืมตาดูตามปกติตอนฟังคำสอนเพื่อให้เข้าใจถูกรู้แจ้งตามปกติเพราะหลับตาขาดจิตเห็นนะคะ


คุณโรสเชื่อมั่นในความเข้าใจในคำสอนของอาจารย์ที่คุณโรสชอบหยิบยกทูปมามากเลยเหร๋อคะ

:b1:

:b12:
รู้ความจริงทั้ง2แบบจะให้ว่าอย่างไรคะ
แต่การฟังทำให้ปัญญาเจตสิกเจริญขึ้น
รู้ด้วยตนเองตามความเข้าใจตอนกำลังฟังค่ะ
ไม่ได้นั่งเดาสภาวะไปก่อนตามที่ไปอ่านมาล่วงหน้าไงคะ
รู้สภาวะต่างๆตามความเป็นจริงและเชื่อมโยมถึงคำตถาคต
ว่าตรงกับสภาวะใดเทียบความจริงตามตำราตรงขณะจากมีผู้รู้สาธยายให้เข้าใจถูกตามได้ตามปกติ
:b17: :b17:



แม้แต่คำพูดตัวเองยังขัดกัน

อ้างคำพูด:
ไม่ได้นั่งเดาสภาวะไปก่อนตามที่ไปอ่านมาล่วงหน้าไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการขนลุกเย็นทั้งตัว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมากบางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย


นี่เขาไม่ได้เดา ไม่ได้อ่านล่วงหน้าที่ไหนมาเบย

นั่งฟังแม่สุจินพูดนั่นแหละเดา ยิ่งไปพูดโดยเฉพาะเรื่องนามธรรม ซึ่งมองไม่เห็นด้วยแล้ว คนฟังเดาแหลกเบยขอรับโผม คนพูดก็เดา คนฟังก็เดา :b32: เช่น พูดเรื่องจิต เรื่องสติ เรื่องปัญญา เรื่องสมาธิ เป็นต้นเงี้ย คนฟังเดาสะบั่นหั่นแหลกขอรับ

จะไม่ให้เดาต้องพูดเรื่องรูปธรรม ซึ่งแลเห็นมองเห็น เช่น พูดเรื่องขันซึ่งเป็นวัตถุธรรมนี่ คิกๆๆ

รูปภาพ



พูดอธิบายไป นี่นะคุณเธอทั้งหลาย วัตถุสีแดงนี้เขาเรียกกันว่า ขันนะ ขัน ขัน จำไว้นะ ขัน มีใช้ตามบ้านเรือนทั่วๆไป ใช้ใส่นั่นนี่ได้ ใช้ทำอะไรอีกก็ว่าไป คนฟังมองเห็นไม่ต้องเดา เหมือนกับพูดเรื่องจิต เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญาเจตสิก เป็นต้น ยิ่งคนพูดไม่เคยสัมผัสสภาวธรรมนั่นด้วยแล้ว จบข่าวเลย คนฟังนี่ไม่ต้องเซดมาก เจ็บคอ มโนป่นปี้

เคยสังเกตไหม เวลาพระพุทธเจ้าเทศน์สอนอะไรๆซึ่งลึกซึ้งเข้าใจยากเนี่ย มักยกตัวอย่างประกอบ ซึ่งผู้ฟังได้ประสบพบเห็นกันอยู่ทุกเมือเชื่อวันแล้ว เช่น สอนเรื่องที่พระองค์ตรัสรู้ว่ามีมากมายเหมือนใบไม้ในป่า แต่ที่จำเป็นมีนิดเดียวเปรียบเหมือนใบไม้ในกำมือ ซึ่งพระองค์กำอยู่ในมือ ดังนี้เป็นตัวอย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2018, 11:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2018, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ
:b32: :b32:

ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสงส่วนอีก27รูปเกิดในมืด
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2018, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ


ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง

รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด



อ้างคำพูด:
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด


คิกๆๆ อายแทนสำนักนี้จริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2018, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ


ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง

รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด



อ้างคำพูด:
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด


คิกๆๆ อายแทนสำนักนี้จริงๆ

:b32:
1ขณะของจิตเห็นมีแค่แสงสี1สีกระทบจักขุปสาทะแล้วดับทันที
สลับกับจิตอีก5ทางในความมืดจำแต่นิมิตสีหลากสีที่ดับไปแล้ว
เพราะรูปมีอายุยืนกว่าจิต17ขณะจิตหลงจำนิมิตมหาภูตรูปจ้ะ
มหาภูตรูปรู้ได้จากกายกระทบสัมผัสคือกายปสาทะนะคะนะ
ไม่ใช่จิตเห็นจะได้ไปมีจักขุปสาทะเกิดปนด้วยเห็นมหาภูตรูปไม่ได้
เห็นลูกเดินมาหาน่ะคือนิมิตสีหลากสีที่ดับไปหลายขณะจนปรากฏรูปร่าง
ไม่มีอยู่จริงและจะรู้ที่ตั้งตอนสัมผัสกอดลูกคือกายสัมผัสแค่3ธาตุไม่มีตัวคนนะจ๊ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2018, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ


ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง

รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด



อ้างคำพูด:
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด


คิกๆๆ อายแทนสำนักนี้จริงๆ

:b32:
1ขณะของจิตเห็นมีแค่แสงสี1สีกระทบจักขุปสาทะแล้วดับทันที
สลับกับจิตอีก5ทางในความมืดจำแต่นิมิตสีหลากสีที่ดับไปแล้ว
เพราะรูปมีอายุยืนกว่าจิต17ขณะจิตหลงจำนิมิตมหาภูตรูปจ้ะ
มหาภูตรูปรู้ได้จากกายกระทบสัมผัสคือกายปสาทะนะคะนะ
ไม่ใช่จิตเห็นจะได้ไปมีจักขุปสาทะเกิดปนด้วยเห็นมหาภูตรูปไม่ได้
เห็นลูกเดินมาหาน่ะคือนิมิตสีหลากสีที่ดับไปหลายขณะจนปรากฏรูปร่าง
ไม่มีอยู่จริงและจะรู้ที่ตั้งตอนสัมผัสกอดลูกคือกายสัมผัสแค่3ธาตุไม่มีตัวคนนะจ๊ะ
:b32: :b32:



พุทธในเมืองไทยไปไม่รอดขอรับโผม :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2018, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คำสอนตรงจริงมากไม่ผิดเข้าใจไหม
กำลังมีแต่เห็นผิดจำผิดอยู่มีวิปลาส3ครบน๊า
จะเกิดสัมมาตามคำสอนได้นั้นต้องตรงอย่างยิ่ง
จิตตั้งมั่นตรงทางทีละ1ทางคือเป็นสมาธิคือมิจฉาสมาธิถ้าไม่เริ่มคิดตามเสียงตรงขณะ
จะเกิดเป็นสัมมาสมาธิได้ต้องเกิดสัมมาทิฏฐิก่อนต้องมีสติปัญญาตรง1สัจจะปัจจุบันขณะ
ในการฟังแล้วคิดตามตรงคำตรงขณะมีสมาธิลืมตาตื่นรู้ดูความจริงตรงทางตามเสียงน๊า
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2018, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ


ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง

รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด



อ้างคำพูด:
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด


คิกๆๆ อายแทนสำนักนี้จริงๆ

:b32:
1ขณะของจิตเห็นมีแค่แสงสี1สีกระทบจักขุปสาทะแล้วดับทันที
สลับกับจิตอีก5ทางในความมืดจำแต่นิมิตสีหลากสีที่ดับไปแล้ว
เพราะรูปมีอายุยืนกว่าจิต17ขณะจิตหลงจำนิมิตมหาภูตรูปจ้ะ
มหาภูตรูปรู้ได้จากกายกระทบสัมผัสคือกายปสาทะนะคะนะ
ไม่ใช่จิตเห็นจะได้ไปมีจักขุปสาทะเกิดปนด้วยเห็นมหาภูตรูปไม่ได้
เห็นลูกเดินมาหาน่ะคือนิมิตสีหลากสีที่ดับไปหลายขณะจนปรากฏรูปร่าง
ไม่มีอยู่จริงและจะรู้ที่ตั้งตอนสัมผัสกอดลูกคือกายสัมผัสแค่3ธาตุไม่มีตัวคนนะจ๊ะ
:b32: :b32:



พุทธในเมืองไทยไปไม่รอดขอรับโผม :b14:

มหาภูตรูปไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นค่ะ
จักขุวิญญาณแปลว่าจิตเห็นเกิดจาก
รูปของแสงสีภายนอกกระทบจักขุปสาทะรูปที่พิเศษรูปเดียวที่เห็นได้
คือมีจักขุปสาทะรูปตรงกลางตามีระยะห่างที่สีกระทบตาจึงไม่เจ็บตา
แต่ถ้าเป็นหินกระเด็นเข้าตาเจ๊บเจ็บเพราะคือกายปสาทะ
ปสาทรูปทั้ง6ทางคือรูปพิเศษที่ไม่มีใครมองเห็นได้เลยนะคะ
เกิดจากทศพลญาณคือทรงตรัสรู้ละเอียดมีคนเดียวในจักรวาลน่ะ
:b8:
ใครคิดว่าตัวเองเห็นถูกถ้าตถาคตไม่เล่าให้ฟังคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2018, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ก็ที่ไปนั่งหลับตาน่ะนั่งเดาสภาวะต่างๆเองไง
พึ่งคิดถูกตามคำสอนตรงขณะคือสุตมยปัญญา
ไม่ใช่อ่านมยปัญญาก็อ่านนี่ใช้จิตเห็นเป็นประธาน
เป็นการคิดเห็นไปตามการจำตัวอักษรที่เลยเห็นณปัจจุบัน
คุณก็คิดให้ตรงสิคะได้ยินไม่มีแสงแล้วจะไปเห็นตัวอักษรได้ยังไงคะ


ปรมัตถะสัจจะของรูปทั้ง28รูปตามที่ตถาคตทรงแสดง

รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด



อ้างคำพูด:
รูปของเห็นเท่านั้นที่เกิดพร้อมแสง ส่วนอีก27รูปเกิดในมืด


คิกๆๆ อายแทนสำนักนี้จริงๆ

:b32:
1ขณะของจิตเห็นมีแค่แสงสี1สีกระทบจักขุปสาทะแล้วดับทันที
สลับกับจิตอีก5ทางในความมืดจำแต่นิมิตสีหลากสีที่ดับไปแล้ว
เพราะรูปมีอายุยืนกว่าจิต17ขณะจิตหลงจำนิมิตมหาภูตรูปจ้ะ
มหาภูตรูปรู้ได้จากกายกระทบสัมผัสคือกายปสาทะนะคะนะ
ไม่ใช่จิตเห็นจะได้ไปมีจักขุปสาทะเกิดปนด้วยเห็นมหาภูตรูปไม่ได้
เห็นลูกเดินมาหาน่ะคือนิมิตสีหลากสีที่ดับไปหลายขณะจนปรากฏรูปร่าง
ไม่มีอยู่จริงและจะรู้ที่ตั้งตอนสัมผัสกอดลูกคือกายสัมผัสแค่3ธาตุไม่มีตัวคนนะจ๊ะ
:b32: :b32:



พุทธในเมืองไทยไปไม่รอดขอรับโผม :b14:

มหาภูตรูปไม่เห็นแต่เป็นจิตเห็นค่ะ
จักขุวิญญาณแปลว่าจิตเห็นเกิดจาก
รูปของแสงสีภายนอกกระทบจักขุปสาทะรูปที่พิเศษรูปเดียวที่เห็นได้
คือมีจักขุปสาทะรูปตรงกลางตามีระยะห่างที่สีกระทบตาจึงไม่เจ็บตา
แต่ถ้าเป็นหินกระเด็นเข้าตาเจ๊บเจ็บเพราะคือกายปสาทะ
ปสาทรูปทั้ง6ทางคือรูปพิเศษที่ไม่มีใครมองเห็นได้เลยนะคะ
เกิดจากทศพลญาณคือทรงตรัสรู้ละเอียดมีคนเดียวในจักรวาลน่ะ
:b8:
ใครคิดว่าตัวเองเห็นถูกถ้าตถาคตไม่เล่าให้ฟังคะ
:b32: :b32:


ดูความคิดคุณโรสนี่

ใครคิดว่าตัวเองเห็นถูกถ้าตถาคตไม่เล่าให้ฟังคะ


เราศึกษาพระพุทธศาสนา ก็ต้องศึกษาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตก็ได้เอ้า อิอิ เอาแต่ฟังแม่สุจิน ไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักภาวนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร