วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 01:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 05:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้ายินดีในการอยู่คนเดียว
จะเป็นคนสุขง่ายขึ้นทันที"
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ





"โกรธให้เขา เราผู้โกรธ
ก็อดเป็นทุกข์ไม่ได้
จึงควรระวัง อย่าให้โกรธ

หากโกรธ ก็รีบระงับ
อย่าปล่อยให้ลุกลาม
เราจะเสียไปด้วยกับเขา
ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน





สตินั้นต้องสังวรอยู่เสมอ
ในตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส
กายสัมผัสสิ่งที่ถูกต้อง ใจรู้ธรรมารมณ์
อย่าปล่อยให้จิตสยบในอารมณ์ที่ชอบ
ไม่เคียดแค้นในอารมณ์ที่ไม่ชอบ
ตั้งสติและจิตไว้ในวงกาย
พิจารณาค้นหาความจริงด้วยสติและปัญญา
หลวงปู่ศรี มหาวีโร






แต่เราไปเข้าใจผิด
คิดว่า..การสวด..เป็นการแผ่
.
"การแผ่ เป็นการกระทำ"
การสวดไม่ได้กระทำอะไร
อยากจะแผ่เมตตาต้องแบบ
ปีใหม่เราก็ซื้อของขวัญให้กัน
ส่ง ส.ค.ส.ให้กัน อันนี้เราแผ่เมตตา
ส่งความสุขนี่ วันเกิดของเพื่อน
ก็ซี้อของไปให้เขา
อย่างนี้เรียกว่าแผ่เมตตา
.
ทำบุญใส่บาตรก็แผ่เมตตา
เมตตาต่อพระสงฆ์องค์เจ้า
ถ้าญาติโยมไม่ใส่บาตร
พระสงฆ์องค์เจ้าก็อดตาย
สงสารพระ กลัวพระจะอดตาย
ก็ต้องใส่บาตร
อันนี้เรียกว่าแผ่เมตตา
.
ต้องแผ่ด้วยการกระทำ
ไม่ใช่แผ่ด้วยการสวด
นึกคิดเฉยๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร
.
แผ่เมตตาเห็นเขาอดอยากก็แผ่ไปสิ
ลองไปนั่งหน้าขอทานแล้วบอก
เอ้ย..กูแผ่เมตตาให้มึงแล้วนะ
ไม่ได้หยอดเงินใส่กระป๋อง
แล้วมันจะรู้สึกหรือเปล่าว่า
เราแผ่เมตตาให้มัน
"ไม่ได้แผ่ให้มันหรอก"
.
ไปนั่งสวดต่อหน้าขอทาน
สัพเพ สัตตา อเวราโหนตุฯ ดูซิ
ดูว่ามันจะดีใจหรือเปล่า
มีความสุข..สาธุ.. กับเราหรือเปล่า
ไม่หรอก ..
.
เพราะเราไม่ได้ไปแผ่เมตตา
เราไปสวด สวดบทแผ่เมตตา
กับการแผ่เมตตา มันไม่เหมือนกัน
ที่ต้องสวดเพราะ..จะได้เตือนใจสอนใจ
ให้รู้ว่าเราต้องแผ่เมตตากัน.
...................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 11/9/2561
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวารารามฯ ชลบุรี







"ความยึดถือในเรื่องทางโลก นั้นเป็นทุกข์"

โลกเป็นของไม่เที่ยง ไม่จริง ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงกลับกลอกได้ คนใดที่ตกอยู่ในกระแสของโลกก็ย่อมกลับกลายเช่นเดียวกัน

ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ก็เป็นของไม่แน่นอน มีอยู่ไม่นานก็ต้องกลับกลายเป็นความเสื่อมได้ เพราะเป็นของได้มาแต่โลก ซึ่งเป็นของไม่จริง

ถ้าใครถือโลกเป็นใหญ่คือ โลกาธิปไตย แล้ว ผู้นั้นก็จะต้องได้รับความทุกข์ และไม่ได้ของจริงติดตัวไปเลย

ผู้ต้องการของจริง ต้องเป็นผู้ยึดถือ ธรรม .

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร