วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 21:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 53 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
ส่วนพระภิกษุนี่ยิ่งแล้วใหญ่รับเงินใช้เงินซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ได้ยังใช้นิสัยแบบคฤหัสถ์ห่มจีวรโง่
จะพาตัวเองตกนรกแน่นอน...ทำไม่ได้รู้ตัวก็ลาสิกขาสิคะ...จะหลอกชาวบ้านว่าบริสุทธิ์อีกนานไหม
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


คุณโรส พูดเคยว่า

Rosarin
"ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ"

แต่ที่ตอบล่าสุด...คุณโรสไม่พูดแล้วว่าผิดศีล5 แต่พูดว่า..มีความโลภ แทน...

ตกลงที่พูดว่า...ซื้อล้อตเตอรีผิดศีล5 ...นี้...พูดผิดพลาด.....เพ่อเจ้อ..ไม่มีสติ..ใช่มั้ยครับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


คุณโรส พูดเคยว่า

Rosarin
"ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ"

แต่ที่ตอบล่าสุด...คุณโรสไม่พูดแล้วว่าผิดศีล5 แต่พูดว่า..มีความโลภ แทน...

ตกลงที่พูดว่า...ซื้อล้อตเตอรีผิดศีล5 ...นี้...พูดผิดพลาด.....เพ่อเจ้อ..ไม่มีสติ..ใช่มั้ยครับ..

:b34:
:b12:
เค๊าไม่เล่นหวยรวยเบอรหรือล็อตเตอรี่
ทำมาค้าขายหาเงินทองซื้อมาขายไปจ้ะ
ที่เคยทำมาก่อนมันเอากลับมาแก้ไม่ได้น๊า
คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าฟังเข้าใจแก้ไขตนได้น๊า
อกุศลเจตสิกเกิดทุกขณะที่ขาดการระลึกตามคำสอน
เพราะตาเนื้อทุกคนไม่ได้เห็นสีอย่างตถาคตเป็นความเห็นผิด
จึงทำให้คิดเห็นที่กำลังเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุมันเลยเห็นสีนับไม่ได้เลย
ศีลเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะจิตไม่ใช่ศีลนับข้ออย่างที่คิดเข้าใจกันอยู่น๊า
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


คุณโรส พูดเคยว่า

Rosarin
"ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ"

แต่ที่ตอบล่าสุด...คุณโรสไม่พูดแล้วว่าผิดศีล5 แต่พูดว่า..มีความโลภ แทน...

ตกลงที่พูดว่า...ซื้อล้อตเตอรีผิดศีล5 ...นี้...พูดผิดพลาด.....เพ่อเจ้อ..ไม่มีสติ..ใช่มั้ยครับ..

:b34:
:b12:
เค๊าไม่เล่นหวยรวยเบอรหรือล็อตเตอรี่
ทำมาค้าขายหาเงินทองซื้อมาขายไปจ้ะ
ที่เคยทำมาก่อนมันเอากลับมาแก้ไม่ได้น๊า
คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าฟังเข้าใจแก้ไขตนได้น๊า
อกุศลเจตสิกเกิดทุกขณะที่ขาดการระลึกตามคำสอน
เพราะตาเนื้อทุกคนไม่ได้เห็นสีอย่างตถาคตเป็นความเห็นผิด
จึงทำให้คิดเห็นที่กำลังเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุมันเลยเห็นสีนับไม่ได้เลย
ศีลเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะจิตไม่ใช่ศีลนับข้ออย่างที่คิดเข้าใจกันอยู่น๊า
:b32: :b32:


ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ ซื้อหวยทำลายศีล ๕ เป็นปกติตรงไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 06:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศีล ๕ หรือสิกขาบท ๕ อย่าง (สั้นๆ)

๑.ปาณาติบาต
๒.อทินนาทาน
๓.กาเมสุ มิจฉาจาร
๔.มุสาวาท
๕.สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน

ไม่เห็นมีเกี่ยวกับหวยเลย

:b12:
การพนัน
มัชชะแปลว่าติด
:b32: :b32:


คิกๆๆ มัชชะ น้ำเมา, ของมึนเมา

:b12:
ถามคนซื้อหวยสิติดซื้อหวยเป็นยังไง...ติดเที่ยวเธคบาร์สุราและนารีก็ติดคริคริคริ
:b32: :b32:


ซื้อห่วยทำลายศีลตรงไหน ไปติดโน่นอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 06:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
ส่วนพระภิกษุนี่ยิ่งแล้วใหญ่รับเงินใช้เงินซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ได้ยังใช้นิสัยแบบคฤหัสถ์ห่มจีวรโง่
จะพาตัวเองตกนรกแน่นอน...ทำไม่ได้รู้ตัวก็ลาสิกขาสิคะ...จะหลอกชาวบ้านว่าบริสุทธิ์อีกนานไหม
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:



ไปโน่นอีก คิกๆๆ กลิ้งเป็นมะกอกตกภูเขาเชีย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 13:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


คุณโรส พูดเคยว่า

Rosarin
"ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ"

แต่ที่ตอบล่าสุด...คุณโรสไม่พูดแล้วว่าผิดศีล5 แต่พูดว่า..มีความโลภ แทน...

ตกลงที่พูดว่า...ซื้อล้อตเตอรีผิดศีล5 ...นี้...พูดผิดพลาด.....เพ่อเจ้อ..ไม่มีสติ..ใช่มั้ยครับ..



Rosarin เขียน:
:b34:
:b12:
เค๊าไม่เล่นหวยรวยเบอรหรือล็อตเตอรี่
ทำมาค้าขายหาเงินทองซื้อมาขายไปจ้ะ
ที่เคยทำมาก่อนมันเอากลับมาแก้ไม่ได้น๊า
คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าฟังเข้าใจแก้ไขตนได้น๊า
อกุศลเจตสิกเกิดทุกขณะที่ขาดการระลึกตามคำสอน
เพราะตาเนื้อทุกคนไม่ได้เห็นสีอย่างตถาคตเป็นความเห็นผิด
จึงทำให้คิดเห็นที่กำลังเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุมันเลยเห็นสีนับไม่ได้เลย
ศีลเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะจิตไม่ใช่ศีลนับข้ออย่างที่คิดเข้าใจกันอยู่น๊า
:b32: :b32:


มาถึงตรงนี้...ก็เห็นคุณโรสได้หลายอย่าง..

ตอนแรก....ก็ว่าซื้อหวยซื้อลอตเตอรี...ผิดศีล5
ตอนสอง...ก็ว่า..ผิดที่โลภ
ตอนหลังสุดนี้...ก็ว่า..ผิดศีลเจตสิก...

ก็เห็นความไม่อยู่ในร่องในรอย...เป็นพวกวาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว...เหมือนพราหมณ์จำพวกหนึ่งในทิฏฐิ 62 ...ไม่ใช่ลูกพระตถาคต...

ก็คงจะหวังธรรมอะไรไม่ได้จากลูกพราหมณ์...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 15:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่สตรีจะพึงเป็นท้าวสักกะ ฯลฯ จะพึงเป็น
มาร ฯลฯ จะพึงเป็นพรหมนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูกรภิกษุ-
*ทั้งหลาย ข้อที่บุรุษจะพึงเป็นท้าวสักกะ ฯลฯ จะพึงเป็นมาร ฯลฯ จะพึงเป็น
พรหมนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ

สตรี บุรษ มีความต่าง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 15:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอบให้ตรง..คุณโรส...

รอฟังอยู่...

ซื้อหวย...ผิดศีล๕ มั้ย?

อ้างคำพูด:
Rosarin
ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ

viewtopic.php?f=1&t=55256&p=425132#p425132



หากคุณโรส...พูดผิด...ไม่มีสติ...พูดเพ่อเจ้อ...ก็กลับคำพูดใหม่..นะครับ

Kiss
ทำตามๆกันตามเหตุตามปัจจัยที่แวดล้อมตามนิมิตที่ปรากฏไงคะ
จริงๆคือโลภอยากได้เพิ่มถูกไหมคะคริคริคริหรือว่าคิดว่าถูกกฏหมาย
ขณะที่ซื้อด้วยความโลภอยากได้เพิ่มนั่นน่ะคิดตามคำสอนไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือมีปกติปุถุชน555
กรรมที่ทำน่ะมันตามกฏแห่งกรรมน่ะไม่เป็นไปตามความคิดเห็นหรอกนะคะเพราะไม่ได้เห็นแค่สีไง
:b32: :b32: :b32:


คุณโรส พูดเคยว่า

Rosarin
"ซื้อหวยซื้อล็อตเตอรี่อยู่ แสดงว่าล่วงศีล 5 ทำลายศีล 5 เป็นปกติ"

แต่ที่ตอบล่าสุด...คุณโรสไม่พูดแล้วว่าผิดศีล5 แต่พูดว่า..มีความโลภ แทน...

ตกลงที่พูดว่า...ซื้อล้อตเตอรีผิดศีล5 ...นี้...พูดผิดพลาด.....เพ่อเจ้อ..ไม่มีสติ..ใช่มั้ยครับ..



Rosarin เขียน:
:b34:
:b12:
เค๊าไม่เล่นหวยรวยเบอรหรือล็อตเตอรี่
ทำมาค้าขายหาเงินทองซื้อมาขายไปจ้ะ
ที่เคยทำมาก่อนมันเอากลับมาแก้ไม่ได้น๊า
คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าฟังเข้าใจแก้ไขตนได้น๊า
อกุศลเจตสิกเกิดทุกขณะที่ขาดการระลึกตามคำสอน
เพราะตาเนื้อทุกคนไม่ได้เห็นสีอย่างตถาคตเป็นความเห็นผิด
จึงทำให้คิดเห็นที่กำลังเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุมันเลยเห็นสีนับไม่ได้เลย
ศีลเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะจิตไม่ใช่ศีลนับข้ออย่างที่คิดเข้าใจกันอยู่น๊า
:b32: :b32:


มาถึงตรงนี้...ก็เห็นคุณโรสได้หลายอย่าง..

ตอนแรก....ก็ว่าซื้อหวยซื้อลอตเตอรี...ผิดศีล5
ตอนสอง...ก็ว่า..ผิดที่โลภ
ตอนหลังสุดนี้...ก็ว่า..ผิดศีลเจตสิก...

ก็เห็นความไม่อยู่ในร่องในรอย...เป็นพวกวาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว...เหมือนพราหมณ์จำพวกหนึ่งในทิฏฐิ 62 ...ไม่ใช่ลูกพระตถาคต...

ก็คงจะหวังธรรมอะไรไม่ได้จากลูกพราหมณ์...

:b32:
กบเคยคิดตรงคำเป็นไหมคะโรสไม่ได้อ้อม
เพราะจิตคิดนึกสะสมได้ทีละ1คำนะกบ
จิตเห็นสี1สีดับได้ยิน1เสียงดับรู้
ได้ทีละ1ผัสสะตรงจริงที่กายมี
เพราะเดี๋ยวนี้กำลังมีจิตนะกบ
กบเห็นสีแต่ไม่รู้ว่าสีอะไร
เห็นแต่เป็นนิมิตคำและ
วัตถุสิ่งของคนอักษร
คือความเห็นผิดไงกบ
คือเดี๋ยวนี้เห็นผิดแล้วค่ะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 15:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมจึงพูดดิ้นได้ไม่ตายตัว...

พระพุทธองค์..แสดงใว้แล้วในพระสูตรนี้..

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... A=1&Z=1071

อ้างคำพูด:

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

พระสุตตันตปิฎก
เล่ม ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
๑. พรหมชาลสูตร


เรื่องสุปปิยปริพาชกกับพรหมทัตตมานพ

อมราวิกเขปิกทิฏฐิ ๔



[๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง มีทิฏฐิ ดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูก
ถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจา ดิ้นได้ไม่ตายตัวด้วยเหตุ ๔ ประการ ก็สมณพราหมณ์
ผู้เจริญพวกนั้น อาศัยอะไร ปรารภอะไร จึงมีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ
ย่อมกล่าววาจา ดิ้นได้ไม่ตายตัวด้วยเหตุ ๔ ประการ?

๑๓. (๑) ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ ไม่รู้ชัดตามความเป็น
จริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล เขามีความเห็นอย่างนี้ว่า เราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า
นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล ก็ถ้าเราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล จะพึง
พยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล หรือนี้เป็นอกุศล คำพยากรณ์นั้นของเราจะพึงเป็นคำเท็จ คำเท็จของ
เรานั้นจะพึงเป็นความเดือดร้อนแก่เรา ความเดือดร้อนของเรานั้นจะพึงเป็นอันตรายแก่เรา
เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่กล้าพยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล เพราะกลัวแต่การกล่าวเท็จ
เพราะเกลียดการกล่าวเท็จ เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ จึงกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัวว่า ความเห็น
ของเราว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๑ ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว มีทิฏฐิ
ดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.

[๔๐] ๑๔. (๒) อนึ่งในฐานะที่ ๒ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัยอะไร ปรารภอะไร
จึงมีทิฏฐิ ดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจา ดิ้นได้ไม่ตายตัว?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์บางคนในโลกนี้ ไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็น
อกุศล เขามีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล
ก็ถ้าเราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล จะพึงพยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล
นี้เป็นอกุศล ความพอใจ ความติดใจ หรือความเคืองใจ ความขัดใจในข้อนั้น พึงมีแก่เรา
ข้อที่มีความพอใจ ความติดใจหรือความเคืองใจ ความขัดใจนั้น จะพึงเป็นอุปาทานของเรา
อุปาทานของเรานั้นจะพึงเป็นความเดือดร้อนแก่เรา ความเดือดร้อนของเรานั้นจะพึงเป็นอันตราย
แก่เรา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าพยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล เพราะกลัวแต่อุปาทาน
เพราะเกลียดอุปาทาน เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัวว่า ความเห็น
ของเราว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๒ ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว มีทิฏฐิ
ดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.

[๔๑] ๑๕. (๓) อนึ่ง ในฐานะที่ ๓ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัยอะไร ปรารภอะไร
จึงมีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว? ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้ ไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็น
อกุศล เขามีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล
ก็ถ้าเราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล จะพึงพยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล หรือนี้เป็นอกุศล
ก็สมณพราหมณ์ผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญาละเอียด ชำนาญการโต้วาทะเป็นดุจคนแม่นธนูมีอยู่แล
แม้ว่าสมณพราหมณ์เหล่านั้นเที่ยวทำลายทิฏฐิด้วยปัญญา เขาจะพึงซักไซ้ไล่เลียงสอบสวนเราใน
ข้อนั้น เราไม่อาจโต้ตอบเขาได้ การที่โต้ตอบเขาไม่ได้นั้น จะพึงเป็นความเดือดร้อนแก่เรา
ความเดือดร้อนของเรานั้น จะพึงเป็นอันตรายแก่เรา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าพยากรณ์ว่า
นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล เพราะกลัวแต่การซักถาม เพราะเกลียดแต่การซักถาม เมื่อถูกถาม
ปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัวว่า ความเห็นของเราอย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้น
ก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๓
ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว มีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหา
ในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.

[๔๒] ๑๖. (๔) อนึ่ง ในฐานะที่ ๔ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัยอะไร ปรารภอะไร
จึงมีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์บางคนในโลกนี้เป็นคนเขลา งมงาย เพราะเขลา เพราะ
งมงาย เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ เขาจึงกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว ถ้าท่านถามเราอย่างนี้ว่า
โลกหน้ามีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่า โลกหน้ามี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่า โลกหน้ามี แต่ความ
เห็นของเราว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่
ถ้าท่านถามเราว่า โลกหน้าไม่มีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่าไม่มี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่าไม่มี ...
ถ้าท่านถามเราว่า โลกหน้ามีด้วย ไม่มีด้วยหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามีด้วย ไม่มีด้วย เราก็จะ
พึงพยากรณ์ว่ามีด้วย ไม่มีด้วย ... ถ้าท่านถามเราว่า โลกหน้ามีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่หรือ ถ้าเรามี
ความเห็นว่า โลกหน้ามีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ เราพึงพยากรณ์ว่า มีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ ... ถ้าท่าน
ถามเราว่า สัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นมีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่ามี ... ถ้าท่านถามเราว่า
สัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นไม่มีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่าไม่มี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่าไม่มี ... ถ้าท่านถามเราว่า
สัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้น มีด้วย ไม่มีด้วยหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามีด้วย ไม่มีด้วย เราก็จะพึงพยากรณ์
ว่ามีด้วย ไม่มีด้วย ... ถ้าท่านถามเราว่า สัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นมีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่หรือ ถ้าเรามี
ความเห็นว่ามีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ เราก็จะพึงพยากรณ์ว่ามีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ ... ถ้าท่านถามเราว่า
ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วมีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่ามี ... ถ้าท่าน
ถามเราว่า ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วไม่มีหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่าไม่มี เราก็จะพึงพยากรณ์ว่า
ไม่มี ... ถ้าท่านถามเราว่า ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่ว มีด้วย ไม่มีด้วยหรือ ถ้าเรามีความเห็น
ว่า มีด้วย ไม่มีด้วย เราก็จะพึงพยากรณ์ว่ามีด้วย ไม่มีด้วย ... ถ้าท่านถามเราว่า ผลวิบาก
แห่งกรรมที่ทำดีทำชั่ว มีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่หรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ เราก็
จะพึงพยากรณ์ว่า มีก็มิใช่ ไม่มีก็มิใช่ ... ถ้าท่านถามเราว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายมีอยู่หรือ
ถ้าเรามีความเห็นว่ามีอยู่ เราก็จะพึงพยากรณ์ว่ามีอยู่ ... ถ้าท่านถามเราว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตาย
ไม่มีอยู่หรือ ถ้าเรามีความเห็นว่าไม่มีอยู่ เราก็จะพึงพยากรณ์ว่าไม่มีอยู่ ... ถ้าท่านถามเราว่า
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายมีอยู่ด้วย ไม่มีอยู่ด้วยหรือ ถ้าเรามีความเห็นว่า มีอยู่ด้วย ไม่มีอยู่ด้วย
เราก็จะพึงพยากรณ์ว่า มีอยู่ด้วย ไม่มีอยู่ด้วย ... ถ้าท่านถามเราว่า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายมีอยู่
ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่หรือ ถ้าเรามีความเห็นว่ามีอยู่ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่ เราก็จะพึงพยากรณ์ว่า
มีอยู่ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่ แต่ความเห็นของเราว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่
ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๔ ซึ่งสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง
อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว มีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจา
ดิ้นได้ไม่ตายตัว.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์เหล่านั้น มีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหา
ในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว ด้วยเหตุ ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่ง มีทิฏฐิดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ
ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้
ไม่ตายตัวด้วยเหตุ ๔ ประการนี้เท่านั้น หรือแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ไม่มี

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะที่ตั้งแห่งทิฏฐิเหล่านี้ บุคคลถืออย่างนั้น
แล้ว ยึดอย่างนั้นแล้ว ย่อมมีคติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น และตถาคตย่อมรู้เหตุนั้นชัด
ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น ทั้งไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่น ก็ทราบความเกิดขึ้น ความดับไป
คุณและโทษของเวทนาทั้งหลาย กับทั้งอุบายเป็นเครื่องออกไปจากเวทนาเหล่านั้นตามความเป็นจริง
จึงทราบความดับได้เฉพาะตน เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึงหลุดพ้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้แลที่ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต
จะคาดคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้ง ที่เป็นเหตุให้กล่าวชมตถาคตตามความเป็นจริงโดยชอบ.



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 16:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แค่...ศีล5..ข้อ..ยังดิ้นได้ไม่ตายตัว...

ก็ไร้สิลไร้สัตย์....แล้วละ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศีล ๕ หรือสิกขาบท ๕ อย่าง (สั้นๆ)

๑.ปาณาติบาต
๒.อทินนาทาน
๓.กาเมสุ มิจฉาจาร
๔.มุสาวาท
๕.สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน



"คหบดีทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมบรรยายสำหรับน้อมเข้ามาเทียบตัว...

๑) อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราเองอยากมีชีวิต ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์
ถ้าใครจะปลงชีวิตเรา ผู้อยากอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ก็จะไม่เป็นที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเราจะปลงชีวิตคนอื่น ผู้อยากอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน

สิ่งใดตัวเราเองไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจ ถึงคนอื่นเขาก็ไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจ เหมือนกัน สิ่งใด ตัวเราเองก็ไม่ชอบ ไม่พอใจ ไฉนจะพึงเอาไปผูกใส่คนอื่นเล่า

อริยสาวกนั้น พิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วยตนเองด้วย
ย่อมชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากปาณาติบาตด้วย
ย่อมกล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย
กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์ทั้งสามด้านอย่างนี้
......

กายสมาจาร ความประพฤติทางกาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับศีลข้อ 1 คือ เว้นปาณาติบาตนั้น แม้ว่าการฆ่าสัตว์จะมุ่งเอาสัตว์ ที่เรียกว่า มนุษย์ เป็นหลัก ดังพุทธพจน์ ที่ยกมาแสดงแล้วนั้น
แต่สัตว์จำพวกที่เรียกว่า ดิรัจฉาน ก็รักชีวิต รักสุขเกลียดทุกข์ เป็นเพื่อนร่วมโลก เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน ไม่ควรเบียดเบียนเช่นเดียวกัน
ศีลข้อ นี้ ท่านจึงให้แผ่คลุมไปถึงสัตว์จำพวกดิรัจฉานด้วย
แต่ยอมรับว่า การฆ่าสัตว์จำพวกดิรัจฉาน มีโทษน้อยกว่าการฆ่าสัตว์จำพวกมนุษย์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 19:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศีล ๕ หรือสิกขาบท ๕ อย่าง (สั้นๆ)

๑.ปาณาติบาต
๒.อทินนาทาน
๓.กาเมสุ มิจฉาจาร
๔.มุสาวาท
๕.สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน



๒) อีกประการหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ถ้าใครจะถือเอาสิ่งของที่เรามิได้ให้ด้วยอาการขโมย ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะถือเอาของที่ผู้อื่นมิได้ให้ด้วยอาการขโมย ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 19:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศีล ๕ หรือสิกขาบท ๕ อย่าง (สั้นๆ)

๑.ปาณาติบาต
๒.อทินนาทาน
๓.กาเมสุ มิจฉาจาร
๔.มุสาวาท
๕.สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน



๓) อีกประการหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ก็ถ้าใครจะประพฤติผิดในภรรยา (สามี) ของเรา ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเราจะประพฤติผิดในภรรยา (สามี) ของคนอื่น ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 53 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร