วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 21:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็เป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าสิคะ
ตัวเองอยากเป็นศิษย์ใครก็เป็นไปสิ
เวลาฟังเพลงเนี่ยยูต้องไปเป็นศิษย์
เขาคนที่ร้องเพลงนั้นไหมคริคริคริ
โรสฟังคลิปเข้าใจตามไม่ได้คิด
จะไปสมัครเป็นศิษย์ใครเลยสักคน
เพราะตถาคตเอาปัญญาใส่หัวใครไม่ได้
แต่คนนั้นเองที่ฟังเข้าใจถูกแล้วเกิดปัญญาเองน๊า
เวลาร้องเพลงเป็นต้องไปสมัครเป็นศิษย์หรือคะแค่เป็นสาวกไง
ร้องเพลงได้หมื่นเพลงก็เป็นศิษย์หมื่นอาจารย์เหรอ555ฝึกเองตามเสียงนี่
เป็นสาวกคือชอบเพลงไหนร้องตามได้เหมือนเลยน๊าทั้งเนื้อร้องและทำนอง
คำตถาคตก็เช่นกันสาวกที่ฟังเข้าใจก็ถ่ายทอดสิ่งเดียวกันเหมือนเด๊ะจิตก็ฝึกได้น๊า
คำตถาคตเหมือนกันเวลาต้องการเน้นถึงความแรงด้านไหนก็แสดงตรงๆไงคะรู้ตรงตามเสียงน๊า




คุณโรสเป็นคนมากด้วยศรัทธา แต่ขาดนิดเดียวคือไม่ศึกษาให้เป็นเรื่องราว เอาแต่ฟังคลิปแม่สุจินด้านเดียว จุดนี้แหละที่ทำให้ถูกจูงทางความคิดได้ จริงๆนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล (ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว) นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย

แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
viewtopic.php?f=1&t=56369&p=426334#p426334




นีก็เลียนแบบ

อ้างคำพูด:
นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า มีแต่กษัตริย์ ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช


ซึ่งคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะ จะให้ปัจจุบันเหมือนครั้งพุทธกาลว่า ต้องมีแต่กษัตริย์ ลูกคนมีกะตัง มีแล้วถ้าจะบวชก็ต้องทิ้งสมบัติให้หมดแล้วจึงบวช นี่ก็เลียนแบบ

มาถึงคำถามว่า ตอนนี้จะทำกันยังไง ประเทศที่นับถือพุทธ เช่น เมียนม่า ลาว จีน เวียตนาม ฯลฯ ไม่มีกษัตริย์แล้ว อิอิ ถ้าทำอย่างคุณโรสแนะนำ พระพุทธศาสนาหมดแน่นวลนะแบบนี้ เหลือแต่ไทยกับกัมพูชาที่ยังมีสถาบันกษัตริย์
ส่วนลูกเศรษฐีมีกะตัง เขาจะบวชสัก ๗ วัน ๑๕ วัน แล้วจะให้เขาสละละทิ้งสมบัติหมด ใครเขาจะบวชสึกไปเป็นขอทาน เขาจะเอาหรอ พอ พอ ไม่อยากพูดเจ็บคอ ฝนตกบ่อยพักนี้เป็นหวัด คิกๆๆ น้ำรอระบายหลายจังหวัด :b32:


คุณโรสพูดถึงครั้งพุทธกาลว่ามีแต่ลูกกษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช ในอินเดียเมื่อครั้งพุทธกาลมีพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศล ฯลฯ ซึ่งทางคัมภีร์พูดถึงบ่อย นี่ท่านเป็นกษัตริย์ช่วยอุปถัมภ์พระศาสนา แต่ปัจจุบันชมพูทวีป (อินเดีย) ไม่มีกษัตริย์แล้ว ฯลฯ

แต่ทรัพย์สมบัติที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ มีข่าวถูกฉกไป

อ้างคำพูด:
ล่าแก๊งขโมยสมบัติกษัตริย์อินเดีย กวาดเรียบ “ปิ่นโต-ถ้วย-ช้อนทองคำ” มูลค่ากว่า 230 ล้าน



รูปภาพ


https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_1536653

:b32:
ไปหามาหน่อยนะคะ...มนุษย์มี4ทวีป
บางทวีปอายุพันปีและชมพูทวีป
ไม่ใช่ประเทศอินเดียแต่
ชมพูทวีปเป็นที่อยู่
ของมนุษย์ที่มี
อายุ100ปี
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 06:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


คุณโรสบ่นเรื่องอะไร

:b32:
ปัญญาคือเข้าใจคำสอนเท่านั้นตรงความจริงที่ตนกำลังมีที่กายใจตนเอง
รู้ทุกข์จึงละสมุทัยได้จึงถึงมรรคถึงผลถึงนิพพานเวลาได้ยินเสียง1ขณะ
แค่มีเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียงกระทบหูแล้วดับทันทียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงอะไร
ประมาทการฟังได้แปลว่าปัญญาคือความเข้าใจไม่เกิดไปหลงทำอะไรกัน
คำสอนต้องฟังจึงเข้าใจถูกตามได้เป็นสาวกฟังเข้าใจร้องตามได้อารมณ์
คำสอนของพระพุทธเจ้าแค่ฟังเข้าใจนั้นไม่พอแต่ต้องฟังแล้วฟังอีกเพื่อ
ตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงตรัสรู้อารมณ์ของธาตุรู้ที่รู้อารมณ์ทีละ1
เวลาฟังเพลงมีอารมณ์ด้วยใช่ไหมคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วรู้
อารมณ์ของจิตตนเองตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงแสดงอารมณ์อะไร
เหมือนมีอารมณ์ร้องเพลงทำจริงๆนะทำฟังน่ะถึงจะรู้และเข้าใจถูกตามได้555
https://youtu.be/rccqXX_kdC4
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


คุณโรสบ่นเรื่องอะไร

:b32:
ปัญญาคือเข้าใจคำสอนเท่านั้นตรงความจริงที่ตนกำลังมีที่กายใจตนเอง
รู้ทุกข์จึงละสมุทัยได้จึงถึงมรรคถึงผลถึงนิพพานเวลาได้ยินเสียง1ขณะ
แค่มีเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียงกระทบหูแล้วดับทันทียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงอะไร
ประมาทการฟังได้แปลว่าปัญญาคือความเข้าใจไม่เกิดไปหลงทำอะไรกัน
คำสอนต้องฟังจึงเข้าใจถูกตามได้เป็นสาวกฟังเข้าใจร้องตามได้อารมณ์
คำสอนของพระพุทธเจ้าแค่ฟังเข้าใจนั้นไม่พอแต่ต้องฟังแล้วฟังอีกเพื่อ
ตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงตรัสรู้อารมณ์ของธาตุรู้ที่รู้อารมณ์ทีละ1
เวลาฟังเพลงมีอารมณ์ด้วยใช่ไหมคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วรู้
อารมณ์ของจิตตนเองตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงแสดงอารมณ์อะไร
เหมือนมีอารมณ์ร้องเพลงทำจริงๆนะทำฟังน่ะถึงจะรู้และเข้าใจถูกตามได้555
https://youtu.be/rccqXX_kdC4
:b32: :b32: :b32:



ถามว่า บ่นอะไร ? มีคำตอบว่าบ่น เรื่องทุกข์ สมุทัย มรรค ผล นิพพาน ธาตุ อารมณ์ 1 ขณะ เพลง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล (ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว) นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย

แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
viewtopic.php?f=1&t=56369&p=426334#p426334




นีก็เลียนแบบ

อ้างคำพูด:
นางวิสาขา ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า มีแต่กษัตริย์ ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช


ซึ่งคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะ จะให้ปัจจุบันเหมือนครั้งพุทธกาลว่า ต้องมีแต่กษัตริย์ ลูกคนมีกะตัง มีแล้วถ้าจะบวชก็ต้องทิ้งสมบัติให้หมดแล้วจึงบวช นี่ก็เลียนแบบ

มาถึงคำถามว่า ตอนนี้จะทำกันยังไง ประเทศที่นับถือพุทธ เช่น เมียนม่า ลาว จีน เวียตนาม ฯลฯ ไม่มีกษัตริย์แล้ว อิอิ ถ้าทำอย่างคุณโรสแนะนำ พระพุทธศาสนาหมดแน่นวลนะแบบนี้ เหลือแต่ไทยกับกัมพูชาที่ยังมีสถาบันกษัตริย์
ส่วนลูกเศรษฐีมีกะตัง เขาจะบวชสัก ๗ วัน ๑๕ วัน แล้วจะให้เขาสละละทิ้งสมบัติหมด ใครเขาจะบวชสึกไปเป็นขอทาน เขาจะเอาหรอ พอ พอ ไม่อยากพูดเจ็บคอ ฝนตกบ่อยพักนี้เป็นหวัด คิกๆๆ น้ำรอระบายหลายจังหวัด :b32:


คุณโรสพูดถึงครั้งพุทธกาลว่ามีแต่ลูกกษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช ในอินเดียเมื่อครั้งพุทธกาลมีพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศล ฯลฯ ซึ่งทางคัมภีร์พูดถึงบ่อย นี่ท่านเป็นกษัตริย์ช่วยอุปถัมภ์พระศาสนา แต่ปัจจุบันชมพูทวีป (อินเดีย) ไม่มีกษัตริย์แล้ว ฯลฯ

แต่ทรัพย์สมบัติที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ มีข่าวถูกฉกไป

อ้างคำพูด:
ล่าแก๊งขโมยสมบัติกษัตริย์อินเดีย กวาดเรียบ “ปิ่นโต-ถ้วย-ช้อนทองคำ” มูลค่ากว่า 230 ล้าน



รูปภาพ


https://www.khaosod.co.th/around-the-wo ... ws_1536653

:b32:
ไปหามาหน่อยนะคะ...มนุษย์มี4ทวีป
บางทวีปอายุพันปีและชมพูทวีป
ไม่ใช่ประเทศอินเดียแต่
ชมพูทวีปเป็นที่อยู่
ของมนุษย์ที่มี
อายุ100ปี
:b32: :b32:


อ่ะนะ คิกๆ ถ้ายังงั้นพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เกิดในชมพูทวีป (คืออินเดียปัจจุบัน) เพราะมีอายุ 80 ปี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชมพูทวีป "ทวีปที่กำหนดหมายด้วยต้นหว้า (มีต้นหว้าเป็นเครื่องหมาย) หรือทวีปที่มีต้นหว้าใหญ่ (มหาชมพู) เป็นประธาน"

ตามคติโบราณว่า มีสัณฐานคือรูปร่างเหมือนเกวียน, เป็นชื่อครั้งโบราณอันใช้เรียกดินแดนที่กำหนดคร่าวๆ ว่า คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน (แต่แท้จริงนั้น ชมพูทวีปกว้างใหญ่กว่าอินเดียปัจจุบันมาก เพราะครอบคลุมถึงปากีสถานและอัฟกานิสถาน เป็นต้นด้วย)

ชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล ประกอบด้วยมหาชนบท คือ แว่นแคว้นใหญ่ หรือมหาอาณาจักร ๑๖ เรียงคร่าวๆ จากตะวันออก (แถบบังคลาเทศ) ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ (แถบเหนือของอัฟกานิสถาน) คือ อังคะ มคธ กาสี โกศล วัชชี มัลละ เจตี วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ และกัมโพชะ (กล่าวในพระไตรปิฎก เช่น องฺ.ติก. 20/510/273)

รูปภาพ


อินเดีย ชื่อประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย ถัดจากประเทศพม่าออกไป มีเมืองหลวงชื่อนิวเดลี (New Delhi) ครั้งโบราณเรียก ชมพูทวีป เป็นประเทศที่เกิดพระพุทธศาสนา, พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ชมพูทวีป "ทวีปที่กำหนดหมายด้วยต้นหว้า (มีต้นหว้าเป็นเครื่องหมาย) หรือทวีปที่มีต้นหว้าใหญ่ (มหาชมพู) เป็นประธาน"

ตามคติโบราณว่า มีสัณฐานคือรูปร่างเหมือนเกวียน, เป็นชื่อครั้งโบราณอันใช้เรียกดินแดนที่กำหนดคร่าวๆ ว่า คือ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน (แต่แท้จริงนั้น ชมพูทวีปกว้างใหญ่กว่าอินเดียปัจจุบันมาก เพราะครอบคลุมถึงปากีสถานและอัฟกานิสถาน เป็นต้นด้วย)

ชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล ประกอบด้วยมหาชนบท คือ แว่นแคว้นใหญ่ หรือมหาอาณาจักร ๑๖ เรียงคร่าวๆ จากตะวันออก (แถบบังคลาเทศ) ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ (แถบเหนือของอัฟกานิสถาน) คือ อังคะ มคธ กาสี โกศล วัชชี มัลละ เจตี วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ และกัมโพชะ (กล่าวในพระไตรปิฎก เช่น องฺ.ติก. 20/510/273)

รูปภาพ


อินเดีย ชื่อประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย ถัดจากประเทศพม่าออกไป มีเมืองหลวงชื่อนิวเดลี (New Delhi) ครั้งโบราณเรียก ชมพูทวีป เป็นประเทศที่เกิดพระพุทธศาสนา, พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร

:b12:
ค้นดูในลานธรรมจักรนี้แหละ
ทวีปมี4ทวีปและมีเฉพาะชมพูทวีปเท่านั้น
ที่มีพระพุทธเจ้ามาเกิดเพื่อตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ
โพสต์ไว้นานแล้วหาไม่เจอในกระทู้ประวัติพระพุทธเจ้าสมณโคดม/ขอบคุณค่ะ
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


คุณโรสบ่นเรื่องอะไร

:b32:
ปัญญาคือเข้าใจคำสอนเท่านั้นตรงความจริงที่ตนกำลังมีที่กายใจตนเอง
รู้ทุกข์จึงละสมุทัยได้จึงถึงมรรคถึงผลถึงนิพพานเวลาได้ยินเสียง1ขณะ
แค่มีเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียงกระทบหูแล้วดับทันทียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงอะไร
ประมาทการฟังได้แปลว่าปัญญาคือความเข้าใจไม่เกิดไปหลงทำอะไรกัน
คำสอนต้องฟังจึงเข้าใจถูกตามได้เป็นสาวกฟังเข้าใจร้องตามได้อารมณ์
คำสอนของพระพุทธเจ้าแค่ฟังเข้าใจนั้นไม่พอแต่ต้องฟังแล้วฟังอีกเพื่อ
ตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงตรัสรู้อารมณ์ของธาตุรู้ที่รู้อารมณ์ทีละ1
เวลาฟังเพลงมีอารมณ์ด้วยใช่ไหมคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วรู้
อารมณ์ของจิตตนเองตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงแสดงอารมณ์อะไร
เหมือนมีอารมณ์ร้องเพลงทำจริงๆนะทำฟังน่ะถึงจะรู้และเข้าใจถูกตามได้555
https://youtu.be/rccqXX_kdC4
:b32: :b32: :b32:



ถามว่า บ่นอะไร ? มีคำตอบว่าบ่น เรื่องทุกข์ สมุทัย มรรค ผล นิพพาน ธาตุ อารมณ์ 1 ขณะ เพลง คิกๆๆ

:b12:
เป็นสาวกสะสมเหตุปัจจัยจากการฟังพระพุทธพจน์น๊า
อ่ะน่าใจเย็นๆยังไม่เข้าใจสิ่งที่โรสบอกก็ต้องฟังบ่อยๆ
ปรโตโฆษะฟังคำจริงที่ทำให้เข้าใจความจริงที่ตนมีนะ
ไม่ใช่จำบัญญัติคำต่างๆที่ยังไม่มีที่กายใจตนเองนะคะ
https://youtu.be/q96Plb2p80A
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

Kiss
นิมิตมีทั้งสมมุติและสัจจะ
สมมุติคือสิ่งที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ
สัจจะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีที่กายใจไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
แต่เป็นความจริงของจิเจรุนิตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้และทรงตรัสไว้ดีแล้วให้สาวกฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ค่ะ
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
คำจริงไม่เปลี่ยนแต่กิเลสไม่รู้ว่าเป็นสาวกต้องทำอย่างไร
เวลาคุณชอบนักร้องคนไหนคุณก็เป็นสาวกฟังกี่รอบถึงร้องได้
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็เช่นกันชอบฟังบ้างไหมคะจะได้ร้องทุกข์แทนตถาคตได้ถูกตรงเป๊ะๆเลยไงคะ
:b32: :b32:


คุณโรสบ่นเรื่องอะไร

:b32:
ปัญญาคือเข้าใจคำสอนเท่านั้นตรงความจริงที่ตนกำลังมีที่กายใจตนเอง
รู้ทุกข์จึงละสมุทัยได้จึงถึงมรรคถึงผลถึงนิพพานเวลาได้ยินเสียง1ขณะ
แค่มีเสียงสูงๆต่ำๆ1เสียงกระทบหูแล้วดับทันทียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงอะไร
ประมาทการฟังได้แปลว่าปัญญาคือความเข้าใจไม่เกิดไปหลงทำอะไรกัน
คำสอนต้องฟังจึงเข้าใจถูกตามได้เป็นสาวกฟังเข้าใจร้องตามได้อารมณ์
คำสอนของพระพุทธเจ้าแค่ฟังเข้าใจนั้นไม่พอแต่ต้องฟังแล้วฟังอีกเพื่อ
ตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงตรัสรู้อารมณ์ของธาตุรู้ที่รู้อารมณ์ทีละ1
เวลาฟังเพลงมีอารมณ์ด้วยใช่ไหมคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังแล้วรู้
อารมณ์ของจิตตนเองตามรู้อารมณ์พระบิดาว่าทรงแสดงอารมณ์อะไร
เหมือนมีอารมณ์ร้องเพลงทำจริงๆนะทำฟังน่ะถึงจะรู้และเข้าใจถูกตามได้555
https://youtu.be/rccqXX_kdC4
:b32: :b32: :b32:



ถามว่า บ่นอะไร ? มีคำตอบว่าบ่น เรื่องทุกข์ สมุทัย มรรค ผล นิพพาน ธาตุ อารมณ์ 1 ขณะ เพลง คิกๆๆ

:b12:
เป็นสาวกสะสมเหตุปัจจัยจากการฟังพระพุทธพจน์น๊า
อ่ะน่าใจเย็นๆยังไม่เข้าใจสิ่งที่โรสบอกก็ต้องฟังบ่อยๆ
ปรโตโฆษะฟังคำจริงที่ทำให้เข้าใจความจริงที่ตนมีนะ
ไม่ใช่จำบัญญัติคำต่างๆที่ยังไม่มีที่กายใจตนเองนะคะ
https://youtu.be/q96Plb2p80A
:b13:
:b32: :b32:


บอกหลายหนแล้วว่า นั่นมันแม่สุจินพูด

จะเอากายใจตนเองที่ไหนอีกเล่า ก็เห็นบอกว่าไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา แล้วจะเอากายจิตตนมาแต่ไหน หือ พูดมั่วกันไปหมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

Kiss
นิมิตมีทั้งสมมุติและสัจจะ
สมมุติคือสิ่งที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ
สัจจะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีที่กายใจไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
แต่เป็นความจริงของจิเจรุนิตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้และทรงตรัสไว้ดีแล้วให้สาวกฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ค่ะ


อ่ะนะ มี จิ เจ รุ นิ มาอีก คิกๆๆ เอายำผสมกับนิมิต สมมติ สัจจะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 16:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

Kiss
นิมิตมีทั้งสมมุติและสัจจะ
สมมุติคือสิ่งที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ
สัจจะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีที่กายใจไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
แต่เป็นความจริงของจิเจรุนิตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้และทรงตรัสไว้ดีแล้วให้สาวกฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ค่ะ


อ่ะนะ มี จิ เจ รุ นิ มาอีก คิกๆๆ เอายำผสมกับนิมิต สมมติ สัจจะ

:b12:
นิมิตคือสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้น
เป็นจิตคิดนึกรูปของสีที่ดับไปหลายขณะ
หลากสีจนเกิดสัณฐานรูปร่างของมหาภูตรูปนั้นๆ
แต่ความจริงของจิตเห็นดับไปแล้วหลงเงาของตัวจริงธัมมะ
จำคลาดเคลื่อนไม่ตรงสัจจะตามคำสอนตรงความจริงที่กำลังปรากฏไงคะ
แปลว่าจำผิดแล้วที่คิดเห็นตามสิ่งที่เห็นไม่รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆของจิตเห็นว่ากำลังเกิดดับ
สมมุติมีเมื่อคิดนึกแต่สัจจะตรงที่ผัสสะกระทบมีทีละ1ลักษณะไม่ทันแปลว่ามีกิเลสไม่รู้ทุกอย่างที่มีไปแล้ว
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

Kiss
นิมิตมีทั้งสมมุติและสัจจะ
สมมุติคือสิ่งที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ
สัจจะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีที่กายใจไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
แต่เป็นความจริงของจิเจรุนิตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้และทรงตรัสไว้ดีแล้วให้สาวกฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ค่ะ


อ่ะนะ มี จิ เจ รุ นิ มาอีก คิกๆๆ เอายำผสมกับนิมิต สมมติ สัจจะ

:b12:
นิมิตคือสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้น
เป็นจิตคิดนึกรูปของสีที่ดับไปหลายขณะ
หลากสีจนเกิดสัณฐานรูปร่างของมหาภูตรูปนั้นๆ
แต่ความจริงของจิตเห็นดับไปแล้วหลงเงาของตัวจริงธัมมะ
จำคลาดเคลื่อนไม่ตรงสัจจะตามคำสอนตรงความจริงที่กำลังปรากฏไงคะ
แปลว่าจำผิดแล้วที่คิดเห็นตามสิ่งที่เห็นไม่รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆของจิตเห็นว่ากำลังเกิดดับ
สมมุติมีเมื่อคิดนึกแต่สัจจะตรงที่ผัสสะกระทบมีทีละ1ลักษณะไม่ทันแปลว่ามีกิเลสไม่รู้ทุกอย่างที่มีไปแล้ว
:b32: :b32:


มั่วได้ใจไอ้เรืองจริงๆผับผ่าสิเอ้า อะไรต่ออะไรนักก็ไม่รู้ ผสมปนเปกันไปหมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาคุณโรสกับเรื่องพระพุทธศาสนาจะเป็นในจินตนาการเสียแล้วกระมัง

Kiss
นิมิตมีทั้งสมมุติและสัจจะ
สมมุติคือสิ่งที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ
สัจจะคือสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีที่กายใจไม่ใช่คนสัตว์วัตถุ
แต่เป็นความจริงของจิเจรุนิตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้และทรงตรัสไว้ดีแล้วให้สาวกฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ค่ะ


อ่ะนะ มี จิ เจ รุ นิ มาอีก คิกๆๆ เอายำผสมกับนิมิต สมมติ สัจจะ

:b12:
นิมิตคือสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้น
เป็นจิตคิดนึกรูปของสีที่ดับไปหลายขณะ
หลากสีจนเกิดสัณฐานรูปร่างของมหาภูตรูปนั้นๆ
แต่ความจริงของจิตเห็นดับไปแล้วหลงเงาของตัวจริงธัมมะ
จำคลาดเคลื่อนไม่ตรงสัจจะตามคำสอนตรงความจริงที่กำลังปรากฏไงคะ
แปลว่าจำผิดแล้วที่คิดเห็นตามสิ่งที่เห็นไม่รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆของจิตเห็นว่ากำลังเกิดดับ
สมมุติมีเมื่อคิดนึกแต่สัจจะตรงที่ผัสสะกระทบมีทีละ1ลักษณะไม่ทันแปลว่ามีกิเลสไม่รู้ทุกอย่างที่มีไปแล้ว
:b32: :b32:


มั่วได้ใจไอ้เรืองจริงๆผับผ่าสิเอ้า อะไรต่ออะไรนักก็ไม่รู้ ผสมปนเปกันไปหมด

ไม่เห็นปนเลยนี่
เห็นตอนตื่นน่ะของจริงคือนิมิต
เหมือนกันเลยกะเห็นในฝันตอนหลับ
พอตื่นเห็นในฝันไม่มีเพราะเป็นนิมิตจิตคิดนึก
ตอนตื่นลืมตามีจิตเห็นด้วยแต่ไม่รู้ว่าเป็นนิมิตของจิตคิดนึก
:b12:
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร