วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สำนักนี้สอนมั่วชัดอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องบุญ :b24:

รูปภาพ

เวลาอธิบายเขียนมันยาวเป็นเรื่องราวถูกไหม
แปลว่าอ่านแล้วจำเรื่องราวไม่รู้ความจริงที่ปรากฏ
เพราะจิตเกิดดับเร็วกว่าคิดนึกนะคะไม่มีใครเตรียม
ล่วงหน้าว่าจะให้เกิดปัญญาเองได้ที่ไปนั่งหลับตานั้นน่ะ
ทำมิจฉาสมาธิไงคะแม้ขณะนี้เองมีขณิกสมาธิกับจิตทุกดวง
ถ้าขาดการฟังก็เกิดแต่อกุศลเพราะขาดสติคือการระลึกตามตรงขณะ
บุญคือโสภณจิตเกิดจากมีโสภณเจตสิกหลายประเภทปรุงแต่งจิตดีงามไม่ใช่ตัวตน
ถ้ายังไปเราอยากไปเพราะชอบทำให้สบายคือมีโลภะติดข้องสถานที่ที่อยากไปสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตร
แต่ไม่ต้องไปไหนแต่ละ1ขณะจิตไม่รู้เลยว่าชวนะ7ดับเป็นอกุศลจิตอกุศลเจตสิกหลายประเภทดับแล้วไม่มี
จิตเกิดดับแต่ละขณะ(นับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ตอนกะพริบตา)จะอ่านไปตลอดชีวิตก็คือไม่มีปัญญาเกิดเลยไงคะ


คุณโรสออกจากสำนักแม่บริหารฯ โดยเร็วแล้วเลิกฟังคลิปเขาโดยเด็ดขาด แล้วเลิกตั้งใจกะพริบตา ให้มันกะพริบของมันเองตามธรรมชาติ แล้วมาเรียนอภิธรรมกับกรัชกายด้วยมาฟังกรัชกายพูดด้วยนะนะ :b11:

Kiss
โรสก็ใช้ชีวิตตามปกตินี่คะ
แค่คลิกกูเกิ้ลดูคลิปแค่นั้น
เข้าใจถูกเห็นแม่เป้งอวิชชา
ที่พากันรับเงินเรี่ยไรเงินไงคะ
จะให้ว่าไงทำลายคำสอนก็คือ
ทำร้ายตนเองมีอบายภูมิรอเห็นๆ
มีให้ดูเต็มบ้านเต็มเมืองมองไม่เห็นรึ
ภิกษุในธรรมวินัยเอาแค่ข้อรับเงินก่อน
เรื่องอื่นเป็นอันว่ามีความเห็นผิดเป็นมิจฉา
สละเรือนขออนุญาตจำวัดเพื่อขัดเกลากิเลส
มากกว่าคฤหัสถ์ไม่สงเคราะห์ใครเพราะขอชาวบ้านกิน
เข้าใจไหมคะแจกซองขอเงินถูกไหมคะคิดตรงไหมคะตาไม่บอด
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงไปตรงมาไม่มี2มาตรฐานรวมหัวกับอกุศลจ้ะ
คิดรอบคอบแค่สิกขาบทข้อ8ข้อเดียวนี้แหละปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วค่ะ
แล้วเขาสอนให้ไปขอเงินคนอื่นแกมบังคับใช่ไหมใส่ชื่อเป็นเจ้าภาพนั้นน่าอยากได้บุญหรือคะบาปน๊า
:b12:
:b32: :b32:

ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐีไปเรี่ยไรใครมาสร้างวัดถวายตถาคตไหมคะ
:b13:

:b12:
พระพุทธเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้หญิงบวชไงคะ
ภิกษุณีจึงมีข้อประพฤติมากกว่าภิกษุไงคะ
ภิกษุมี227ข้อภิกษุณี311ข้อยุคนี้ไม่มีภิกษุณี
เพราะที่ทรงกำหนดภิกษุณีที่เป็นอุปัชฌาย์
บวชภิษุณีได้ปีละ1รูปและเว้นปีและต้องมี
สงฆ์ครบ2ฝ่ายทรงไม่ต้องการให้ผู้หญิงบวช
แล้วดูสิคะให้ผู้หญิงโกนหัวไปอยู่ในวัดผิดไหมคะ
พิจารณาตามคำสอนให้เห็นถูกตรงตามคำสอนก่อน
เป็นเพศไหนคฤหัสถ์หรือบรรพชิตและบรรพชิตเท่านั้น
ที่ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้จำวัดคนอื่นไม่ได้ไงคะ
แม่ชีคือคฤหัสถ์ประเภทอุบาสิกาเข้าใจคำสอนก็กลับไปนอนบ้าน
เข้าใจไหมคะผู้ครองเรือนนอนที่บ้านคือนอนบ้านใครบ้านมันถูกไหมคะ
ไม่ใช่คิดอยากจะชวนใครไปนอนวัดก็ทำอย่างนั้นหรือคะตรงตามคำสอนไหม
ผู้หญิงแต่งงานออกเรือนเป็นสมบัติของสามีต้องดูแลความเรียบร้อยภายในเรือนไงค๊าาาาา
นี่ชวนให้เขาทิ้งบ้านเรือนมาอยู่กินหลับนอนที่วัดพระพุทธเจ้าอนุญาตไหมคะไม่มีกาลามสูตร10
:b12:
:b32: :b32:



อ้าวถ้ายังงั้น แล้วพระพุทธเจ้าเคยให้ผู้หญิงบวชไหม

:b1:
ก็เป็นเพศคฤหัสถ์จะไปนอนวัดทำไม
ฟังคำสอนเข้าใจก็ดูแลบ้านเรือนไปสิคะ
:b12:
ภิกษุตามธรรมวินัยไม่รับเงินอยู่ด้วยอาหารบิณฑบาตไม่โลภเอาไปเผื่อใครจะขัดเกลากิเลสมักน้อย
แล้วให้มีขีพราหมณ์ขนเงินทองข้าวของวัตถุเข้าไปสะสมในวัดทำวัดเป็นบ้านถามว่าทำผิดกันทั้งหมดเลยบาป
ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้ไงคะจะให้ว่าอย่างไรอีกจะแก้ไขก็ให้รีบแก้ไขนะคะโรสก็เคยทำมาทั้งหมดเลยค่ะ
เมื่อโรสฟังจนเข้าใจถูกแล้วก็ค่อยๆทิ้งสิ่งที่ทำผิดไม่ใช่จะทิ้งได้ทันทีเข้าใจไหมคะปัญญาไม่พอก็ยึดติดไงคะ
อดีตที่ทำผ่านมาแล้วเคยทำผิดเข้าใจก็ต้องเปลี่ยนสิคะจะไปทำให้คณะสงฆ์ท่านแปดเปื้อนทำไมเข้าใจไหม
ถ้าผู้หญิงทุกคนเข้าใจจะไปทำลายฝ่ายสงฆ์ไหมคะตถาคตตรัสว่าอย่างไรผู้หญิงมีส่วนทำลายภิกษุบุคคล
คนมีกิเลสเข้าไปบวชต้องการขัดเกลากิเลสไม่ใข่พระอิฐพระปูนจะไปเบียดเบียนวัดทำไมค๊าาาาก็อยู่บ้านสิคะ
แล้วก็คิดเอาเองว่าต้องถวายเงินค่าน้ำไฟถ้าไม่เข้าไปเบียดเบียนวัดใช้เงินทำอะไรคะบวชสละหมดแล้ว
กลางคืนก็ปิดไฟนอนกลางวันก็มีแสงตะวันเขาถวายเทียนไม้ขีดมีก็จุดสิคะต้องใช้ค่าไฟไหมคะ55555
จะไปนั่งทำหลับตาทรมาณกายให้รู้เร็วนั่นน่ะทำกิเลสละเอียดไงคะจะหลงผิดกันไปถึงไหนบอกให้ฟังไงค๊า
ฟังเข้าใจทันทีนั้นน่าเกิดปัญญาสะสมแล้วพอคิดไปทำก็เป็นกิเลสไงคะดูความจริงตามปกติเป็นปกติรู้ไงคะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สำนักนี้สอนมั่วชัดอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องบุญ :b24:

รูปภาพ

เวลาอธิบายเขียนมันยาวเป็นเรื่องราวถูกไหม
แปลว่าอ่านแล้วจำเรื่องราวไม่รู้ความจริงที่ปรากฏ
เพราะจิตเกิดดับเร็วกว่าคิดนึกนะคะไม่มีใครเตรียม
ล่วงหน้าว่าจะให้เกิดปัญญาเองได้ที่ไปนั่งหลับตานั้นน่ะ
ทำมิจฉาสมาธิไงคะแม้ขณะนี้เองมีขณิกสมาธิกับจิตทุกดวง
ถ้าขาดการฟังก็เกิดแต่อกุศลเพราะขาดสติคือการระลึกตามตรงขณะ
บุญคือโสภณจิตเกิดจากมีโสภณเจตสิกหลายประเภทปรุงแต่งจิตดีงามไม่ใช่ตัวตน
ถ้ายังไปเราอยากไปเพราะชอบทำให้สบายคือมีโลภะติดข้องสถานที่ที่อยากไปสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตร
แต่ไม่ต้องไปไหนแต่ละ1ขณะจิตไม่รู้เลยว่าชวนะ7ดับเป็นอกุศลจิตอกุศลเจตสิกหลายประเภทดับแล้วไม่มี
จิตเกิดดับแต่ละขณะ(นับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ตอนกะพริบตา)จะอ่านไปตลอดชีวิตก็คือไม่มีปัญญาเกิดเลยไงคะ


คุณโรสออกจากสำนักแม่บริหารฯ โดยเร็วแล้วเลิกฟังคลิปเขาโดยเด็ดขาด แล้วเลิกตั้งใจกะพริบตา ให้มันกะพริบของมันเองตามธรรมชาติ แล้วมาเรียนอภิธรรมกับกรัชกายด้วยมาฟังกรัชกายพูดด้วยนะนะ :b11:

Kiss
โรสก็ใช้ชีวิตตามปกตินี่คะ
แค่คลิกกูเกิ้ลดูคลิปแค่นั้น
เข้าใจถูกเห็นแม่เป้งอวิชชา
ที่พากันรับเงินเรี่ยไรเงินไงคะ
จะให้ว่าไงทำลายคำสอนก็คือ
ทำร้ายตนเองมีอบายภูมิรอเห็นๆ
มีให้ดูเต็มบ้านเต็มเมืองมองไม่เห็นรึ
ภิกษุในธรรมวินัยเอาแค่ข้อรับเงินก่อน
เรื่องอื่นเป็นอันว่ามีความเห็นผิดเป็นมิจฉา
สละเรือนขออนุญาตจำวัดเพื่อขัดเกลากิเลส
มากกว่าคฤหัสถ์ไม่สงเคราะห์ใครเพราะขอชาวบ้านกิน
เข้าใจไหมคะแจกซองขอเงินถูกไหมคะคิดตรงไหมคะตาไม่บอด
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงไปตรงมาไม่มี2มาตรฐานรวมหัวกับอกุศลจ้ะ
คิดรอบคอบแค่สิกขาบทข้อ8ข้อเดียวนี้แหละปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วค่ะ
แล้วเขาสอนให้ไปขอเงินคนอื่นแกมบังคับใช่ไหมใส่ชื่อเป็นเจ้าภาพนั้นน่าอยากได้บุญหรือคะบาปน๊า
:b12:
:b32: :b32:

ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐีไปเรี่ยไรใครมาสร้างวัดถวายตถาคตไหมคะ
:b13:

:b12:
พระพุทธเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้หญิงบวชไงคะ
ภิกษุณีจึงมีข้อประพฤติมากกว่าภิกษุไงคะ

ภิกษุมี227ข้อภิกษุณี311ข้อยุคนี้ไม่มีภิกษุณี
เพราะที่ทรงกำหนดภิกษุณีที่เป็นอุปัชฌาย์
บวชภิษุณีได้ปีละ1รูปและเว้นปีและต้องมี
สงฆ์ครบ2ฝ่ายทรงไม่ต้องการให้ผู้หญิงบวช
แล้วดูสิคะให้ผู้หญิงโกนหัวไปอยู่ในวัดผิดไหมคะ
พิจารณาตามคำสอนให้เห็นถูกตรงตามคำสอนก่อน
เป็นเพศไหนคฤหัสถ์หรือบรรพชิตและบรรพชิตเท่านั้น
ที่ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้จำวัดคนอื่นไม่ได้ไงคะ
แม่ชีคือคฤหัสถ์ประเภทอุบาสิกาเข้าใจคำสอนก็กลับไปนอนบ้าน
เข้าใจไหมคะผู้ครองเรือนนอนที่บ้านคือนอนบ้านใครบ้านมันถูกไหมคะ
ไม่ใช่คิดอยากจะชวนใครไปนอนวัดก็ทำอย่างนั้นหรือคะตรงตามคำสอนไหม
ผู้หญิงแต่งงานออกเรือนเป็นสมบัติของสามีต้องดูแลความเรียบร้อยภายในเรือนไงค๊าาาาา
นี่ชวนให้เขาทิ้งบ้านเรือนมาอยู่กินหลับนอนที่วัดพระพุทธเจ้าอนุญาตไหมคะไม่มีกาลามสูตร10
:b12:
:b32: :b32:



อ้าวถ้ายังงั้น แล้วพระพุทธเจ้าเคยให้ผู้หญิงบวชไหม

:b1:
ก็เป็นเพศคฤหัสถ์จะไปนอนวัดทำไม
ฟังคำสอนเข้าใจก็ดูแลบ้านเรือนไปสิคะ
:b12:
ภิกษุตามธรรมวินัยไม่รับเงินอยู่ด้วยอาหารบิณฑบาตไม่โลภเอาไปเผื่อใครจะขัดเกลากิเลสมักน้อย
แล้วให้มีขีพราหมณ์ขนเงินทองข้าวของวัตถุเข้าไปสะสมในวัดทำวัดเป็นบ้านถามว่าทำผิดกันทั้งหมดเลยบาป
ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้ไงคะจะให้ว่าอย่างไรอีกจะแก้ไขก็ให้รีบแก้ไขนะคะโรสก็เคยทำมาทั้งหมดเลยค่ะ
เมื่อโรสฟังจนเข้าใจถูกแล้วก็ค่อยๆทิ้งสิ่งที่ทำผิดไม่ใช่จะทิ้งได้ทันทีเข้าใจไหมคะปัญญาไม่พอก็ยึดติดไงคะ
อดีตที่ทำผ่านมาแล้วเคยทำผิดเข้าใจก็ต้องเปลี่ยนสิคะจะไปทำให้คณะสงฆ์ท่านแปดเปื้อนทำไมเข้าใจไหม
ถ้าผู้หญิงทุกคนเข้าใจจะไปทำลายฝ่ายสงฆ์ไหมคะตถาคตตรัสว่าอย่างไรผู้หญิงมีส่วนทำลายภิกษุบุคคล
คนมีกิเลสเข้าไปบวชต้องการขัดเกลากิเลสไม่ใข่พระอิฐพระปูนจะไปเบียดเบียนวัดทำไมค๊าาาาก็อยู่บ้านสิคะ
แล้วก็คิดเอาเองว่าต้องถวายเงินค่าน้ำไฟถ้าไม่เข้าไปเบียดเบียนวัดใช้เงินทำอะไรคะบวชสละหมดแล้ว
กลางคืนก็ปิดไฟนอนกลางวันก็มีแสงตะวันเขาถวายเทียนไม้ขีดมีก็จุดสิคะต้องใช้ค่าไฟไหมคะ55555
จะไปนั่งทำหลับตาทรมาณกายให้รู้เร็วนั่นน่ะทำกิเลสละเอียดไงคะจะหลงผิดกันไปถึงไหนบอกให้ฟังไงค๊า
ฟังเข้าใจทันทีนั้นน่าเกิดปัญญาสะสมแล้วพอคิดไปทำก็เป็นกิเลสไงคะดูความจริงตามปกติเป็นปกติรู้ไงคะ



คุณโรสนี่คิดสุดโต่งเหมือนเจ้าสำนักบ้านธัมมะเบย

ก็เขารักษาศีลอุโบสถ ก็นอนวัดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งไง กับ ที่เขาบวชเนกขัมมะกันไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สำนักนี้สอนมั่วชัดอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องบุญ :b24:

รูปภาพ

เวลาอธิบายเขียนมันยาวเป็นเรื่องราวถูกไหม
แปลว่าอ่านแล้วจำเรื่องราวไม่รู้ความจริงที่ปรากฏ
เพราะจิตเกิดดับเร็วกว่าคิดนึกนะคะไม่มีใครเตรียม
ล่วงหน้าว่าจะให้เกิดปัญญาเองได้ที่ไปนั่งหลับตานั้นน่ะ
ทำมิจฉาสมาธิไงคะแม้ขณะนี้เองมีขณิกสมาธิกับจิตทุกดวง
ถ้าขาดการฟังก็เกิดแต่อกุศลเพราะขาดสติคือการระลึกตามตรงขณะ
บุญคือโสภณจิตเกิดจากมีโสภณเจตสิกหลายประเภทปรุงแต่งจิตดีงามไม่ใช่ตัวตน
ถ้ายังไปเราอยากไปเพราะชอบทำให้สบายคือมีโลภะติดข้องสถานที่ที่อยากไปสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตร
แต่ไม่ต้องไปไหนแต่ละ1ขณะจิตไม่รู้เลยว่าชวนะ7ดับเป็นอกุศลจิตอกุศลเจตสิกหลายประเภทดับแล้วไม่มี
จิตเกิดดับแต่ละขณะ(นับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ตอนกะพริบตา)จะอ่านไปตลอดชีวิตก็คือไม่มีปัญญาเกิดเลยไงคะ


คุณโรสออกจากสำนักแม่บริหารฯ โดยเร็วแล้วเลิกฟังคลิปเขาโดยเด็ดขาด แล้วเลิกตั้งใจกะพริบตา ให้มันกะพริบของมันเองตามธรรมชาติ แล้วมาเรียนอภิธรรมกับกรัชกายด้วยมาฟังกรัชกายพูดด้วยนะนะ :b11:

Kiss
โรสก็ใช้ชีวิตตามปกตินี่คะ
แค่คลิกกูเกิ้ลดูคลิปแค่นั้น
เข้าใจถูกเห็นแม่เป้งอวิชชา
ที่พากันรับเงินเรี่ยไรเงินไงคะ
จะให้ว่าไงทำลายคำสอนก็คือ
ทำร้ายตนเองมีอบายภูมิรอเห็นๆ
มีให้ดูเต็มบ้านเต็มเมืองมองไม่เห็นรึ
ภิกษุในธรรมวินัยเอาแค่ข้อรับเงินก่อน
เรื่องอื่นเป็นอันว่ามีความเห็นผิดเป็นมิจฉา
สละเรือนขออนุญาตจำวัดเพื่อขัดเกลากิเลส
มากกว่าคฤหัสถ์ไม่สงเคราะห์ใครเพราะขอชาวบ้านกิน
เข้าใจไหมคะแจกซองขอเงินถูกไหมคะคิดตรงไหมคะตาไม่บอด
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงไปตรงมาไม่มี2มาตรฐานรวมหัวกับอกุศลจ้ะ
คิดรอบคอบแค่สิกขาบทข้อ8ข้อเดียวนี้แหละปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วค่ะ
แล้วเขาสอนให้ไปขอเงินคนอื่นแกมบังคับใช่ไหมใส่ชื่อเป็นเจ้าภาพนั้นน่าอยากได้บุญหรือคะบาปน๊า
:b12:
:b32: :b32:

ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐีไปเรี่ยไรใครมาสร้างวัดถวายตถาคตไหมคะ
:b13:

:b12:
พระพุทธเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้หญิงบวชไงคะ
ภิกษุณีจึงมีข้อประพฤติมากกว่าภิกษุไงคะ

ภิกษุมี227ข้อภิกษุณี311ข้อยุคนี้ไม่มีภิกษุณี
เพราะที่ทรงกำหนดภิกษุณีที่เป็นอุปัชฌาย์
บวชภิษุณีได้ปีละ1รูปและเว้นปีและต้องมี
สงฆ์ครบ2ฝ่ายทรงไม่ต้องการให้ผู้หญิงบวช
แล้วดูสิคะให้ผู้หญิงโกนหัวไปอยู่ในวัดผิดไหมคะ
พิจารณาตามคำสอนให้เห็นถูกตรงตามคำสอนก่อน
เป็นเพศไหนคฤหัสถ์หรือบรรพชิตและบรรพชิตเท่านั้น
ที่ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้จำวัดคนอื่นไม่ได้ไงคะ
แม่ชีคือคฤหัสถ์ประเภทอุบาสิกาเข้าใจคำสอนก็กลับไปนอนบ้าน
เข้าใจไหมคะผู้ครองเรือนนอนที่บ้านคือนอนบ้านใครบ้านมันถูกไหมคะ
ไม่ใช่คิดอยากจะชวนใครไปนอนวัดก็ทำอย่างนั้นหรือคะตรงตามคำสอนไหม
ผู้หญิงแต่งงานออกเรือนเป็นสมบัติของสามีต้องดูแลความเรียบร้อยภายในเรือนไงค๊าาาาา
นี่ชวนให้เขาทิ้งบ้านเรือนมาอยู่กินหลับนอนที่วัดพระพุทธเจ้าอนุญาตไหมคะไม่มีกาลามสูตร10
:b12:
:b32: :b32:



อ้าวถ้ายังงั้น แล้วพระพุทธเจ้าเคยให้ผู้หญิงบวชไหม

:b1:
ก็เป็นเพศคฤหัสถ์จะไปนอนวัดทำไม
ฟังคำสอนเข้าใจก็ดูแลบ้านเรือนไปสิคะ
:b12:
ภิกษุตามธรรมวินัยไม่รับเงินอยู่ด้วยอาหารบิณฑบาตไม่โลภเอาไปเผื่อใครจะขัดเกลากิเลสมักน้อย
แล้วให้มีขีพราหมณ์ขนเงินทองข้าวของวัตถุเข้าไปสะสมในวัดทำวัดเป็นบ้านถามว่าทำผิดกันทั้งหมดเลยบาป
ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้ไงคะจะให้ว่าอย่างไรอีกจะแก้ไขก็ให้รีบแก้ไขนะคะโรสก็เคยทำมาทั้งหมดเลยค่ะ
เมื่อโรสฟังจนเข้าใจถูกแล้วก็ค่อยๆทิ้งสิ่งที่ทำผิดไม่ใช่จะทิ้งได้ทันทีเข้าใจไหมคะปัญญาไม่พอก็ยึดติดไงคะ
อดีตที่ทำผ่านมาแล้วเคยทำผิดเข้าใจก็ต้องเปลี่ยนสิคะจะไปทำให้คณะสงฆ์ท่านแปดเปื้อนทำไมเข้าใจไหม
ถ้าผู้หญิงทุกคนเข้าใจจะไปทำลายฝ่ายสงฆ์ไหมคะตถาคตตรัสว่าอย่างไรผู้หญิงมีส่วนทำลายภิกษุบุคคล
คนมีกิเลสเข้าไปบวชต้องการขัดเกลากิเลสไม่ใข่พระอิฐพระปูนจะไปเบียดเบียนวัดทำไมค๊าาาาก็อยู่บ้านสิคะ
แล้วก็คิดเอาเองว่าต้องถวายเงินค่าน้ำไฟถ้าไม่เข้าไปเบียดเบียนวัดใช้เงินทำอะไรคะบวชสละหมดแล้ว
กลางคืนก็ปิดไฟนอนกลางวันก็มีแสงตะวันเขาถวายเทียนไม้ขีดมีก็จุดสิคะต้องใช้ค่าไฟไหมคะ55555
จะไปนั่งทำหลับตาทรมาณกายให้รู้เร็วนั่นน่ะทำกิเลสละเอียดไงคะจะหลงผิดกันไปถึงไหนบอกให้ฟังไงค๊า
ฟังเข้าใจทันทีนั้นน่าเกิดปัญญาสะสมแล้วพอคิดไปทำก็เป็นกิเลสไงคะดูความจริงตามปกติเป็นปกติรู้ไงคะ



คุณโรสนี่คิดสุดโต่งเหมือนเจ้าสำนักบ้านธัมมะเบย

ก็เขารักษาศีลอุโบสถ ก็นอนวัดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งไง กับ ที่เขาบวชเนกขัมมะกันไง :b1:

:b32: :b32: :b32:
ความจริงคิดตรงขณะเดี๋ยวนี้ทันที
คิดไปคิดมาวนเข้าไปวัดอีกแระ555
วัดเป็นที่อยู่ของใครคะลืมคำสอนแล้ว
ก็ฟังคำสอนเข้าใจที่บ้านแล้วจะไปนอนวัดทำไม
ไม่ได้เป็นเพศบรรพชิตพระพุทธเจ้าอนุญาตแต่บรรพชิตจำวัด
ภิกษุณีไม่มีแล้วแสดงว่าผู้ชายผู้หญิงทุกคนไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่คือวัดคือกลับบ้านสิคะ
ศีลเจตสิกดับพร้อมจิตทีละ1ขณะถ้าระลึกตามคำสอนไม่ตรง1ในวิสยรูปใน6ทางแปลว่าไม่รู้เป็นอกุศลศีลไง
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สำนักนี้สอนมั่วชัดอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องบุญ :b24:

รูปภาพ

เวลาอธิบายเขียนมันยาวเป็นเรื่องราวถูกไหม
แปลว่าอ่านแล้วจำเรื่องราวไม่รู้ความจริงที่ปรากฏ
เพราะจิตเกิดดับเร็วกว่าคิดนึกนะคะไม่มีใครเตรียม
ล่วงหน้าว่าจะให้เกิดปัญญาเองได้ที่ไปนั่งหลับตานั้นน่ะ
ทำมิจฉาสมาธิไงคะแม้ขณะนี้เองมีขณิกสมาธิกับจิตทุกดวง
ถ้าขาดการฟังก็เกิดแต่อกุศลเพราะขาดสติคือการระลึกตามตรงขณะ
บุญคือโสภณจิตเกิดจากมีโสภณเจตสิกหลายประเภทปรุงแต่งจิตดีงามไม่ใช่ตัวตน
ถ้ายังไปเราอยากไปเพราะชอบทำให้สบายคือมีโลภะติดข้องสถานที่ที่อยากไปสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตร
แต่ไม่ต้องไปไหนแต่ละ1ขณะจิตไม่รู้เลยว่าชวนะ7ดับเป็นอกุศลจิตอกุศลเจตสิกหลายประเภทดับแล้วไม่มี
จิตเกิดดับแต่ละขณะ(นับไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ตอนกะพริบตา)จะอ่านไปตลอดชีวิตก็คือไม่มีปัญญาเกิดเลยไงคะ


คุณโรสออกจากสำนักแม่บริหารฯ โดยเร็วแล้วเลิกฟังคลิปเขาโดยเด็ดขาด แล้วเลิกตั้งใจกะพริบตา ให้มันกะพริบของมันเองตามธรรมชาติ แล้วมาเรียนอภิธรรมกับกรัชกายด้วยมาฟังกรัชกายพูดด้วยนะนะ :b11:

Kiss
โรสก็ใช้ชีวิตตามปกตินี่คะ
แค่คลิกกูเกิ้ลดูคลิปแค่นั้น
เข้าใจถูกเห็นแม่เป้งอวิชชา
ที่พากันรับเงินเรี่ยไรเงินไงคะ
จะให้ว่าไงทำลายคำสอนก็คือ
ทำร้ายตนเองมีอบายภูมิรอเห็นๆ
มีให้ดูเต็มบ้านเต็มเมืองมองไม่เห็นรึ
ภิกษุในธรรมวินัยเอาแค่ข้อรับเงินก่อน
เรื่องอื่นเป็นอันว่ามีความเห็นผิดเป็นมิจฉา
สละเรือนขออนุญาตจำวัดเพื่อขัดเกลากิเลส
มากกว่าคฤหัสถ์ไม่สงเคราะห์ใครเพราะขอชาวบ้านกิน
เข้าใจไหมคะแจกซองขอเงินถูกไหมคะคิดตรงไหมคะตาไม่บอด
คำสอนของพระพุทธเจ้าตรงไปตรงมาไม่มี2มาตรฐานรวมหัวกับอกุศลจ้ะ
คิดรอบคอบแค่สิกขาบทข้อ8ข้อเดียวนี้แหละปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วค่ะ
แล้วเขาสอนให้ไปขอเงินคนอื่นแกมบังคับใช่ไหมใส่ชื่อเป็นเจ้าภาพนั้นน่าอยากได้บุญหรือคะบาปน๊า
:b12:
:b32: :b32:

ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐีไปเรี่ยไรใครมาสร้างวัดถวายตถาคตไหมคะ
:b13:

:b12:
พระพุทธเจ้าไม่ประสงค์ให้ผู้หญิงบวชไงคะ
ภิกษุณีจึงมีข้อประพฤติมากกว่าภิกษุไงคะ

ภิกษุมี227ข้อภิกษุณี311ข้อยุคนี้ไม่มีภิกษุณี
เพราะที่ทรงกำหนดภิกษุณีที่เป็นอุปัชฌาย์
บวชภิษุณีได้ปีละ1รูปและเว้นปีและต้องมี
สงฆ์ครบ2ฝ่ายทรงไม่ต้องการให้ผู้หญิงบวช
แล้วดูสิคะให้ผู้หญิงโกนหัวไปอยู่ในวัดผิดไหมคะ
พิจารณาตามคำสอนให้เห็นถูกตรงตามคำสอนก่อน
เป็นเพศไหนคฤหัสถ์หรือบรรพชิตและบรรพชิตเท่านั้น
ที่ได้รับอนุญาตตามการบรรพชาให้จำวัดคนอื่นไม่ได้ไงคะ
แม่ชีคือคฤหัสถ์ประเภทอุบาสิกาเข้าใจคำสอนก็กลับไปนอนบ้าน
เข้าใจไหมคะผู้ครองเรือนนอนที่บ้านคือนอนบ้านใครบ้านมันถูกไหมคะ
ไม่ใช่คิดอยากจะชวนใครไปนอนวัดก็ทำอย่างนั้นหรือคะตรงตามคำสอนไหม
ผู้หญิงแต่งงานออกเรือนเป็นสมบัติของสามีต้องดูแลความเรียบร้อยภายในเรือนไงค๊าาาาา
นี่ชวนให้เขาทิ้งบ้านเรือนมาอยู่กินหลับนอนที่วัดพระพุทธเจ้าอนุญาตไหมคะไม่มีกาลามสูตร10
:b12:
:b32: :b32:



อ้าวถ้ายังงั้น แล้วพระพุทธเจ้าเคยให้ผู้หญิงบวชไหม

:b1:
ก็เป็นเพศคฤหัสถ์จะไปนอนวัดทำไม
ฟังคำสอนเข้าใจก็ดูแลบ้านเรือนไปสิคะ
:b12:
ภิกษุตามธรรมวินัยไม่รับเงินอยู่ด้วยอาหารบิณฑบาตไม่โลภเอาไปเผื่อใครจะขัดเกลากิเลสมักน้อย
แล้วให้มีขีพราหมณ์ขนเงินทองข้าวของวัตถุเข้าไปสะสมในวัดทำวัดเป็นบ้านถามว่าทำผิดกันทั้งหมดเลยบาป
ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้ไงคะจะให้ว่าอย่างไรอีกจะแก้ไขก็ให้รีบแก้ไขนะคะโรสก็เคยทำมาทั้งหมดเลยค่ะ
เมื่อโรสฟังจนเข้าใจถูกแล้วก็ค่อยๆทิ้งสิ่งที่ทำผิดไม่ใช่จะทิ้งได้ทันทีเข้าใจไหมคะปัญญาไม่พอก็ยึดติดไงคะ
อดีตที่ทำผ่านมาแล้วเคยทำผิดเข้าใจก็ต้องเปลี่ยนสิคะจะไปทำให้คณะสงฆ์ท่านแปดเปื้อนทำไมเข้าใจไหม
ถ้าผู้หญิงทุกคนเข้าใจจะไปทำลายฝ่ายสงฆ์ไหมคะตถาคตตรัสว่าอย่างไรผู้หญิงมีส่วนทำลายภิกษุบุคคล
คนมีกิเลสเข้าไปบวชต้องการขัดเกลากิเลสไม่ใข่พระอิฐพระปูนจะไปเบียดเบียนวัดทำไมค๊าาาาก็อยู่บ้านสิคะ
แล้วก็คิดเอาเองว่าต้องถวายเงินค่าน้ำไฟถ้าไม่เข้าไปเบียดเบียนวัดใช้เงินทำอะไรคะบวชสละหมดแล้ว
กลางคืนก็ปิดไฟนอนกลางวันก็มีแสงตะวันเขาถวายเทียนไม้ขีดมีก็จุดสิคะต้องใช้ค่าไฟไหมคะ55555
จะไปนั่งทำหลับตาทรมาณกายให้รู้เร็วนั่นน่ะทำกิเลสละเอียดไงคะจะหลงผิดกันไปถึงไหนบอกให้ฟังไงค๊า
ฟังเข้าใจทันทีนั้นน่าเกิดปัญญาสะสมแล้วพอคิดไปทำก็เป็นกิเลสไงคะดูความจริงตามปกติเป็นปกติรู้ไงคะ



คุณโรสนี่คิดสุดโต่งเหมือนเจ้าสำนักบ้านธัมมะเบย

ก็เขารักษาศีลอุโบสถ ก็นอนวัดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งไง กับ ที่เขาบวชเนกขัมมะกันไง :b1:

:b32: :b32: :b32:
ความจริงคิดตรงขณะเดี๋ยวนี้ทันที
คิดไปคิดมาวนเข้าไปวัดอีกแระ555
วัดเป็นที่อยู่ของใครคะลืมคำสอนแล้ว
ก็ฟังคำสอนเข้าใจที่บ้านแล้วจะไปนอนวัดทำไม
ไม่ได้เป็นเพศบรรพชิตพระพุทธเจ้าอนุญาตแต่บรรพชิตจำวัด
ภิกษุณีไม่มีแล้วแสดงว่าผู้ชายผู้หญิงทุกคนไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่คือวัดคือกลับบ้านสิคะ
ศีลเจตสิกดับพร้อมจิตทีละ1ขณะถ้าระลึกตามคำสอนไม่ตรง1ในวิสยรูปใน6ทางแปลว่าไม่รู้เป็นอกุศลศีลไง
:b32: :b32: :b32:

จิต1ขณะเวลาอกุศลเกิดคือขาดสติเพราะลืมระลึกตามคำสอนแล้วเป็นปกติมีอกุศลศีลไม่ใช่ศีลนับข้อนะคะ
จิต+ศีลเจตสิกสมาธิเจตสิกอหิริกะเจตสิกอโนตัปปะเจตสิกสัญญาเจตสิกโมหะเจตสิกโลภะเจตสิกสุขใจ+รูป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 16:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หมาวัด ยังนอนค้างในวัดได้
ทำไม คนจะไปรักษาศีล ด้วยการนอนค้างที่วัดไม่ได้
V
แม่ขาว พ่อขาว ไปถือศีลกัน
การถือศีลอุโบสถ ในวันพระ เป็นกาลปริยันตศีล
และพักแรม ในวัด ภาษาชาวบ้านคือนอนวัด
แต่ เขตที่นอนนั้น คือ ธรณีสงฆ์ เป็นเขตที่แบ่งไว้สำหรับสาธารณะชนจะทำประโยชน์ตามสมควร

เขาไม่ได้นอนที่กุฏิสงฆ์ หรือสังฆาวาสเฉพาะ
แม้ พวกแม่ชี ที่อยู่วัด ก็อยู่ในเขตธรณีสงฆ์

บ้านธัมมะ เค้าสอนกันแบบนี้กระมังพุทธศาสนาจะพากันบรรลัยวอด

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 17:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
หมาวัด ยังนอนค้างในวัดได้
ทำไม คนจะไปรักษาศีล ด้วยการนอนค้างที่วัดไม่ได้
V
แม่ขาว พ่อขาว ไปถือศีลกัน
การถือศีลอุโบสถ ในวันพระ เป็นกาลปริยันตศีล
และพักแรม ในวัด ภาษาชาวบ้านคือนอนวัด
แต่ เขตที่นอนนั้น คือ ธรณีสงฆ์ เป็นเขตที่แบ่งไว้สำหรับสาธารณะชนจะทำประโยชน์ตามสมควร

เขาไม่ได้นอนที่กุฏิสงฆ์ หรือสังฆาวาสเฉพาะ
แม้ พวกแม่ชี ที่อยู่วัด ก็อยู่ในเขตธรณีสงฆ์

บ้านธัมมะ เค้าสอนกันแบบนี้กระมังพุทธศาสนาจะพากันบรรลัยวอด

tongue
จะอยู่
เพศไหนไม่ต้องเลือก
ก็มีแค่บรรพชาจำวัด
ไม่ได้บรรพชาก็นอนบ้าน
ตรงตามคำสอนไหมล่ะคะ
ไม่ได้บรรพชาก็ต้องรู้ตัวสิคะ
ใครอนุญาตให้ฆราวาสนอนวัดคะ
เลือกเพศตัวเองให้ถูกสิคะดูตัวอย่าง
ประเทศอินเดียไหมคะนักบวชมีทั่วโลก
แต่ภิกษุในธรรมวินัยนี้ต่างจากนักบวชอื่นๆ
โดยสิ้นเชิงและวัดเป็นเขตสงฆ์คือหมู่คณะภิกษุ
แล้วฆราวาสไม่เข้าใจคำสอนน่ะสิถึงไปรบกวนบรรพชิต
:b32:
:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
หมาวัด ยังนอนค้างในวัดได้
ทำไม คนจะไปรักษาศีล ด้วยการนอนค้างที่วัดไม่ได้
V
แม่ขาว พ่อขาว ไปถือศีลกัน
การถือศีลอุโบสถ ในวันพระ เป็นกาลปริยันตศีล
และพักแรม ในวัด ภาษาชาวบ้านคือนอนวัด
แต่ เขตที่นอนนั้น คือ ธรณีสงฆ์ เป็นเขตที่แบ่งไว้สำหรับสาธารณะชนจะทำประโยชน์ตามสมควร

เขาไม่ได้นอนที่กุฏิสงฆ์ หรือสังฆาวาสเฉพาะ
แม้ พวกแม่ชี ที่อยู่วัด ก็อยู่ในเขตธรณีสงฆ์

บ้านธัมมะ เค้าสอนกันแบบนี้กระมังพุทธศาสนาจะพากันบรรลัยวอด

tongue
จะอยู่
เพศไหนไม่ต้องเลือก
ก็มีแค่บรรพชาจำวัด
ไม่ได้บรรพชาก็นอนบ้าน
ตรงตามคำสอนไหมล่ะคะ
ไม่ได้บรรพชาก็ต้องรู้ตัวสิคะ
ใครอนุญาตให้ฆราวาสนอนวัดคะ
เลือกเพศตัวเองให้ถูกสิคะดูตัวอย่าง
ประเทศอินเดียไหมคะนักบวชมีทั่วโลก
แต่ภิกษุในธรรมวินัยนี้ต่างจากนักบวชอื่นๆ
โดยสิ้นเชิงและวัดเป็นเขตสงฆ์คือหมู่คณะภิกษุ
แล้วฆราวาสไม่เข้าใจคำสอนน่ะสิถึงไปรบกวนบรรพชิต
:b32:
:b13: :b13:

เก็บกดมาจากไหน
เคยไปนอนวัดแล้วโดนพระทุศีลปล้ำมาหรือครับ
V
พระจำวัด คือนอนในกุฏิครับ ไม่ใช่นอนกับสีกาหรือให้สีกามานอนในกุฏิ
ในเขตธรณีสงฆ์ที่อนุญาตให้ญาตโยมทำประโยชน์ตามสมควร
เจ้าอาวาสอนุญาตให้ แม่ขาวพ่อขาว มาค้างแรมถืออุโบสถศีลได้รู้ไว้ด้วยครับ
เจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้นอนกับพระที่กุฏินะครับ ทำความเข้าใจใหม่ด้วยครับ
แล้วก็นำไป บอกบ้านธัมมะด้วยนะครับ
พระดีๆ มีถมไปไม่เที่ยวไปไล่ปล้ำสีกาที่มาค้างแรมทำอุโบสถครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:

นี่ก็เก็บกดมาหลายดอกสิท่า
บอกว่า บุญน่ะมี ทำด้วยจิตเป็นกุศล
มาแถไปนู่น เรื่องภิกษุทุศีล เรื่องโจร
จิตมีปัญหาไรมาครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 23:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่แน่ๆ ท่านย้อมผมดำแน่ ๆ เลย
อายุมาก ท่านก็ยังดูสวย ดูดีเมื่อเข้ากล้อง

:b1:

สายตาท่านยังอร่อยกับการกัดกินธรรมในเรื่องเกี่ยวกับปัญญา

สุขและเบิกบาน เพลินในรสอร่อย

...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 03:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:

นี่ก็เก็บกดมาหลายดอกสิท่า
บอกว่า บุญน่ะมี ทำด้วยจิตเป็นกุศล
มาแถไปนู่น เรื่องภิกษุทุศีล เรื่องโจร
จิตมีปัญหาไรมาครับ

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้ฉลาดในทางที่ถูก
ใครเป็นเจ้าของวัดคะศาสดาน๊าคิดให้ตรง
เขาศัรทธาสร้างถวายบูชาคุณพระรัตนตรัย
พระรัตนตรัยสูงสุดมีหนึ่งเดียวคือพระพุทธเจ้า
ถือดีอย่างไรชวนคนเข้าไปนอนวัดมากๆเพื่อตุนวัตถุ
แค่ข้ออ้างเพราะอยากตุนของไงโลภมากทำเพื่อลาภสักการะ
ทำให้คนเห็นจะได้เข้าใจว่าวัดทำสังคมสงเคราะ์นี่แหละกิเลสโลภะ
ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ให้ภิกษุเก็บสะสมอะไรเกินเที่ยงเลยทำตัวเป็นอลัชชี
ไม่มีหิริโอตัปปะบวชเพื่อสละหมดไม่มีกิจสังคมสงเคราห์(สังคมคือมากกว่า1คน)
ฟังคำสอนเกิดปัญญาเข้าใจกิเลสแล้วเนี่ยยิ่งแสดงกิเลสบรรพชิตได้ชัดเจนจริงจริ๊ง
คำตถาคคงี้ไหลออกมาเทน้ำเทท่าเลยทำตัวเป็นโจรอะไรที่พระพุทธเจ้าห้ามทำหมด
มิจฉาชีพในคราบผ้าเหลืองตาไม่บอดหูไม่หนวกใจก็มีชาวบ้านเขาไม่รู้แต่มหาโจรปล้น
ศาสนา(ศาสนาแปลว่าคำสอน)เศรษฐีหัวโล้นปล้นคำสอนทำเพื่อเงินทองลาภยศวัตถุ555
ตายไปต้องตกนรกกันหมดผู้ชี้ให้เห็นโทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ไม่มีอะไรอยู่เหนือกรรมกำหนดได้
ทำลายคำสอนย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยนี้คฤหัสถ์ต้องเพ่งโทษติเตียนและ
โพนทะนาเป็นการประกาศคำสอนให้รุ่งเรืองพุทธบริษัทที่ยังเขลาเบาปัญญาจะได้ตาสว่างไงค๊ะะะะ
:b32: :b32: :b32: :b34: :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 08:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:

นี่ก็เก็บกดมาหลายดอกสิท่า
บอกว่า บุญน่ะมี ทำด้วยจิตเป็นกุศล
มาแถไปนู่น เรื่องภิกษุทุศีล เรื่องโจร
จิตมีปัญหาไรมาครับ

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้ฉลาดในทางที่ถูก
ใครเป็นเจ้าของวัดคะศาสดาน๊าคิดให้ตรง
เขาศัรทธาสร้างถวายบูชาคุณพระรัตนตรัย

พระรัตนตรัยสูงสุดมีหนึ่งเดียวคือพระพุทธเจ้า
ถือดีอย่างไรชวนคนเข้าไปนอนวัดมากๆเพื่อตุนวัตถุ
แค่ข้ออ้างเพราะอยากตุนของไงโลภมากทำเพื่อลาภสักการะ
ทำให้คนเห็นจะได้เข้าใจว่าวัดทำสังคมสงเคราะ์นี่แหละกิเลสโลภะ
ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ให้ภิกษุเก็บสะสมอะไรเกินเที่ยงเลยทำตัวเป็นอลัชชี
ไม่มีหิริโอตัปปะบวชเพื่อสละหมดไม่มีกิจสังคมสงเคราห์(สังคมคือมากกว่า1คน)
ฟังคำสอนเกิดปัญญาเข้าใจกิเลสแล้วเนี่ยยิ่งแสดงกิเลสบรรพชิตได้ชัดเจนจริงจริ๊ง
คำตถาคคงี้ไหลออกมาเทน้ำเทท่าเลยทำตัวเป็นโจรอะไรที่พระพุทธเจ้าห้ามทำหมด
มิจฉาชีพในคราบผ้าเหลืองตาไม่บอดหูไม่หนวกใจก็มีชาวบ้านเขาไม่รู้แต่มหาโจรปล้น
ศาสนา(ศาสนาแปลว่าคำสอน)เศรษฐีหัวโล้นปล้นคำสอนทำเพื่อเงินทองลาภยศวัตถุ555
ตายไปต้องตกนรกกันหมดผู้ชี้ให้เห็นโทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ไม่มีอะไรอยู่เหนือกรรมกำหนดได้
ทำลายคำสอนย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยนี้คฤหัสถ์ต้องเพ่งโทษติเตียนและ
โพนทะนาเป็นการประกาศคำสอนให้รุ่งเรืองพุทธบริษัทที่ยังเขลาเบาปัญญาจะได้ตาสว่างไงค๊ะะะะ


คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะนี่การเรียนรู้ชุมชน ชุมชนมีก่อนวัด วัดยังไม่มี แต่ชาวบ้านในชุมชนนั้นๆ เขาต้องการที่พึ่งที่ทำบุญสำหรับพวกเขา พวกเขาจึงบริจาคที่ดินบ้าง ซื้อที่ดินสร้างวัดกันบ้างขึ้น นี่กำเนิดวัดตามชุมชน เมื่อมีวัดแล้วก็ช่วยกันสร้างโรงเรียนสำหรับลูกหลานในชุมชนนั้น โรงเรียนจึงมีวัดนำหน้าโรงเรียน เช่นโรงเรียนวัดนั้นวัดนี้ แต่ปัจจุบันมีใครบางคนหลายๆคน เอาชื่อวัดออกจากโรงเรียน ใครน้า

ดังนั้น วัดจึงเป็นวัดที่ชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน มองให้กว้างออกไปอีก ชาวพุทธเป็นเจ้าของวัดร่วมกัน เจ้าอาวาสเป็นผู้ดูแลรักษาวัดสร้างเพิ่มเติมถ้าสามารถ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:

นี่ก็เก็บกดมาหลายดอกสิท่า
บอกว่า บุญน่ะมี ทำด้วยจิตเป็นกุศล
มาแถไปนู่น เรื่องภิกษุทุศีล เรื่องโจร
จิตมีปัญหาไรมาครับ

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้ฉลาดในทางที่ถูก
ใครเป็นเจ้าของวัดคะศาสดาน๊าคิดให้ตรง
เขาศัรทธาสร้างถวายบูชาคุณพระรัตนตรัย

พระรัตนตรัยสูงสุดมีหนึ่งเดียวคือพระพุทธเจ้า
ถือดีอย่างไรชวนคนเข้าไปนอนวัดมากๆเพื่อตุนวัตถุ
แค่ข้ออ้างเพราะอยากตุนของไงโลภมากทำเพื่อลาภสักการะ
ทำให้คนเห็นจะได้เข้าใจว่าวัดทำสังคมสงเคราะ์นี่แหละกิเลสโลภะ
ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ให้ภิกษุเก็บสะสมอะไรเกินเที่ยงเลยทำตัวเป็นอลัชชี
ไม่มีหิริโอตัปปะบวชเพื่อสละหมดไม่มีกิจสังคมสงเคราห์(สังคมคือมากกว่า1คน)
ฟังคำสอนเกิดปัญญาเข้าใจกิเลสแล้วเนี่ยยิ่งแสดงกิเลสบรรพชิตได้ชัดเจนจริงจริ๊ง
คำตถาคคงี้ไหลออกมาเทน้ำเทท่าเลยทำตัวเป็นโจรอะไรที่พระพุทธเจ้าห้ามทำหมด
มิจฉาชีพในคราบผ้าเหลืองตาไม่บอดหูไม่หนวกใจก็มีชาวบ้านเขาไม่รู้แต่มหาโจรปล้น
ศาสนา(ศาสนาแปลว่าคำสอน)เศรษฐีหัวโล้นปล้นคำสอนทำเพื่อเงินทองลาภยศวัตถุ555
ตายไปต้องตกนรกกันหมดผู้ชี้ให้เห็นโทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ไม่มีอะไรอยู่เหนือกรรมกำหนดได้
ทำลายคำสอนย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยนี้คฤหัสถ์ต้องเพ่งโทษติเตียนและ
โพนทะนาเป็นการประกาศคำสอนให้รุ่งเรืองพุทธบริษัทที่ยังเขลาเบาปัญญาจะได้ตาสว่างไงค๊ะะะะ


คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะนี่การเรียนรู้ชุมชน ชุมชนมีก่อนวัด วัดยังไม่มี แต่ชาวบ้านในชุมชนนั้นๆ เขาต้องการที่พึ่งที่ทำบุญสำหรับพวกเขา พวกเขาจึงบริจาคที่ดินบ้าง ซื้อที่ดินสร้างวัดกันบ้างขึ้น นี่กำเนิดวัดตามชุมชน เมื่อมีวัดแล้วก็ช่วยกันสร้างโรงเรียนสำหรับลูกหลานในชุมชนนั้น โรงเรียนจึงมีวัดนำหน้าโรงเรียน เช่นโรงเรียนวัดนั้นวัดนี้ แต่ปัจจุบันมีใครบางคนหลายๆคน เอาชื่อวัดออกจากโรงเรียน ใครน้า

ดังนั้น วัดจึงเป็นวัดที่ชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน มองให้กว้างออกไปอีก ชาวพุทธเป็นเจ้าของวัดร่วมกัน เจ้าอาวาสเป็นผู้ดูแลรักษาวัดสร้างเพิ่มเติมถ้าสามารถ

Kiss
:b12:
มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตอนกำลังฟังเพราะกำลังพึ่งคิดตามอยู่ไงคะ
เข้าใจไหมคะฟังคำสอนเข้าใจในชาติภาษาที่ตนเข้าใจตรงปรมัตถ์
ไม่ใช่การอ่านบัญญัติคำหลังเห็นดับนั่นมันไม่ใช่ปัญญาของตนเอง
ปัญญาแรกตามคำสอนเกิดจากเริ่มฟังแล้วไตร่ตรองตามเสียงจริงๆ
มีจิตได้ยินนำทางรับรู้เสียงคำที่มากระทบหูจำเสียงคิดตามเสียงและ
เข้าใจความหมายเพื่อตามรู้ความจริงตรงความหมายเสียงสลับกับจิต
อื่นๆอีก5ทางรวมครบ6ทางคือเดี๋ยวนี้มีแล้วไม่ต้องทำไม่ต้องใช้แต่ไม่รู้
ว่ามีแล้วเพราะไม่เข้าใจคำสอนจึงคิดเอาเองว่าจะต้องใช้จิตไปทำไงค๊า
:b13:
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 03 ส.ค. 2018, 08:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2018, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ศาสนิกชน
ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล เพื่อหวังสุคติภพ เป็นเบื้องหน้า เพราะเชื่อในกรรมและผลของกรรม
ความเห็นนี้ ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
V
ก่อนทำบุญ ทำทาน
ขณะทำบุญ ทำทาน
หลังจากทำบุญ ทำทาน
จิตนั้นอิ่มเอิบ ด้วยความปิติยินดี มีโสมนัส มีความสุข
จากการทำบุญทำทานนั้น
ย่อมชื่อว่า ได้บุญ มีสุขคติเป็นเบื้องหน้า
กุศลย่อมสำเร็จ ครบทั้งสามกาล มีอานิสงส์มากมีผลมาก
V
มีแต่ บ้านธรรมะ ที่เข้าใจเอาเองว่า บุญคือสภาพที่ไร้อกุศล(กิเลส)
ในความเป็นจริง บุญอย่างหนึ่ง กุศลอย่างหนึ่ง กุศลที่ไร้กิเลสอย่างหนึ่ง
ล้วนเป็นกุศลทั้งสิ้น เป็นความหยาบความประณีตของกุศล
บุญเป็นฐานไปสู่กุศลที่ประณีตขึ้นครับ
บุญเป็นกุศลด้วย เป็นเหตุให้กุศลเจริญ

โจรก็ทำบุญกะญาติพี่น้องเขา
บรรพชาแล้วไม่มีภาระเลี้ยงใคร
บิณฑบาตด้วยปลีแข้งแค่เต็มปากบาตร
เทแล้วรับเทแล้วรับแปลว่าโลภผิดไหมคะ
จะเผื่อใครในเมื่อบรรพชาเพือมักน้อยสันโดษ
สงบได้หรือทำวัดเป็นบ้านมีชาวบ้านแห่มานอนวัด
ชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าทำตามๆกัน
ไม่มีกาลามสูตร10จะให้ว่าอย่างไรศึกษาคำสอนตรงไหม
เพื่อขนคนมานอนวัดให้คนซื้อของมาตุนเต็มวัดกิเลสไหมคะ
:b32: :b32:

นี่ก็เก็บกดมาหลายดอกสิท่า
บอกว่า บุญน่ะมี ทำด้วยจิตเป็นกุศล
มาแถไปนู่น เรื่องภิกษุทุศีล เรื่องโจร
จิตมีปัญหาไรมาครับ

Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้ฉลาดในทางที่ถูก
ใครเป็นเจ้าของวัดคะศาสดาน๊าคิดให้ตรง
เขาศัรทธาสร้างถวายบูชาคุณพระรัตนตรัย

พระรัตนตรัยสูงสุดมีหนึ่งเดียวคือพระพุทธเจ้า
ถือดีอย่างไรชวนคนเข้าไปนอนวัดมากๆเพื่อตุนวัตถุ
แค่ข้ออ้างเพราะอยากตุนของไงโลภมากทำเพื่อลาภสักการะ
ทำให้คนเห็นจะได้เข้าใจว่าวัดทำสังคมสงเคราะ์นี่แหละกิเลสโลภะ
ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ให้ภิกษุเก็บสะสมอะไรเกินเที่ยงเลยทำตัวเป็นอลัชชี
ไม่มีหิริโอตัปปะบวชเพื่อสละหมดไม่มีกิจสังคมสงเคราห์(สังคมคือมากกว่า1คน)
ฟังคำสอนเกิดปัญญาเข้าใจกิเลสแล้วเนี่ยยิ่งแสดงกิเลสบรรพชิตได้ชัดเจนจริงจริ๊ง
คำตถาคคงี้ไหลออกมาเทน้ำเทท่าเลยทำตัวเป็นโจรอะไรที่พระพุทธเจ้าห้ามทำหมด
มิจฉาชีพในคราบผ้าเหลืองตาไม่บอดหูไม่หนวกใจก็มีชาวบ้านเขาไม่รู้แต่มหาโจรปล้น
ศาสนา(ศาสนาแปลว่าคำสอน)เศรษฐีหัวโล้นปล้นคำสอนทำเพื่อเงินทองลาภยศวัตถุ555
ตายไปต้องตกนรกกันหมดผู้ชี้ให้เห็นโทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ไม่มีอะไรอยู่เหนือกรรมกำหนดได้
ทำลายคำสอนย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยนี้คฤหัสถ์ต้องเพ่งโทษติเตียนและ
โพนทะนาเป็นการประกาศคำสอนให้รุ่งเรืองพุทธบริษัทที่ยังเขลาเบาปัญญาจะได้ตาสว่างไงค๊ะะะะ


คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะนี่การเรียนรู้ชุมชน ชุมชนมีก่อนวัด วัดยังไม่มี แต่ชาวบ้านในชุมชนนั้นๆ เขาต้องการที่พึ่งที่ทำบุญสำหรับพวกเขา พวกเขาจึงบริจาคที่ดินบ้าง ซื้อที่ดินสร้างวัดกันบ้างขึ้น นี่กำเนิดวัดตามชุมชน เมื่อมีวัดแล้วก็ช่วยกันสร้างโรงเรียนสำหรับลูกหลานในชุมชนนั้น โรงเรียนจึงมีวัดนำหน้าโรงเรียน เช่นโรงเรียนวัดนั้นวัดนี้ แต่ปัจจุบันมีใครบางคนหลายๆคน เอาชื่อวัดออกจากโรงเรียน ใครน้า

ดังนั้น วัดจึงเป็นวัดที่ชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน มองให้กว้างออกไปอีก ชาวพุทธเป็นเจ้าของวัดร่วมกัน เจ้าอาวาสเป็นผู้ดูแลรักษาวัดสร้างเพิ่มเติมถ้าสามารถ

Kiss
:b12:
เข้าใจไหมคะฟังคำสอนเข้าใจในชาติภาษาที่ตนเข้าใจตรงปรมัตถ์
ไม่ใช่การอ่านบัญญัติคำหลังเห็นดับนั่นมันไม่ใช่ปัญญาของตนเอง
ปัญญาแรกตามคำสอนเกิดจากเริ่มฟังแล้วไตร่ตรองตามเสียงจริงๆ
มีจิตได้ยินนำทางรับรู้เสียงคำที่มากระทบหูจำเสียงคิดตามเสียงและ
เข้าใจความหมายเพื่อตามรู้ความจริงตรงความหมายเสียงสลับกับจิต
อื่นๆอีก5ทางรวมครบ6ทางคือเดี๋ยวนี้มีแล้วไม่ต้องทำไม่ต้องใช้แต่ไม่รู้
ว่ามีแล้วเพราะไม่เข้าใจคำสอนจึงคิดเอาเองว่าจะต้องใช้จิตไปทำไงค๊า
:b13:
:b32: :b32:



ไปปะระมัด มัด มัด อีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร