วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 06:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนิทัสสนอัปปฏิฆรูป รูปที่มองไม่เห็นและกระทบไม่ได้ คือรับรู้ไม่ได้ด้วยประสาทใดๆ ไม่ว่าจะด้วยจักษุ หรือด้วยโสตะ ฆานะ ชิวหา และกาย แต่เป็นธรรมารมณ์ อันรู้ด้วยใจ, ได้แก่ สุขมรูป ๑๖

สนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองเห็นได้ คือ ตา มองเห็น ได้แก่ รูปารมณ์ (หมายถึง วัณณะ คือ สี)
คู่กับ
อนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองไม่เห็น มี ๒๗ ได้แก่ รูปอื่นนอกจากนั้น (มหาภูตรูป ๔ และอุปายารูป ๒๓)

สัปปฏิฆรูป รูปซึ่งมีการกระทบได้ คือ รับรู้ทางประสาททั้ง ๕ ที่ตรงคู่กัน มี ๑๒ ได้แก่ ปสาทรูป ๕ และวิสยรูป ๗ (๗ คือ นับโผฏฐัพพะเป็น ๓ ได้แก่ ปฐวี เตโช และวาโย)
คู่กับ
อัปปฏิฆรูป รูปซึ่งกระทบไม่ได้ อันรับรู้ไม่ได้ทางประสาททั้ง ๕ มี ๑๖ ได้แก่ รูปที่เหลือจากนั้น (คือสุขุมรูป ๑๖ นั่นเอง)

รูปารมณ์ (รูป+อารมณ์)

รูป สิ่งที่ต้องสลายไปเพราะปัจจัยต่างๆอันขัดแย้ง, สิ่งที่เป็นรูปร่างพร้อมทั้งลักษณะอาการของมัน, ส่วนร่างกาย ฯลฯ

อารมณ์ เครื่องยึดหน่วงของจิต, สิ่งที่จิตยึดหน่วง, สิ่งที่ถูกรู้ หรือถูกรับรู้ ได้แก่ อายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์; ในภาษาไทย ความหมายเลือนไปเป็นความรู้สึก หรือความเป็นไปแห่งจิตใจ ในขณะหรือช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่นว่า อย่าทำตามอารมณ์ วันนี้อารมณ์ดี อารมณ์เสีย เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสไม่ได้เรียน เพียงแต่ฟังเจ้าสำนึกโฮมสะเตย์ชั่นมา พอจำศัพท์แสงได้ จำได้แล้วก็มาตีความคาดเดาเอาเอง มันจึงเละด้วยประการฉะนี้แล.

จบข่าว :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b32:
คนที่เขาสะสมปัญญามาดีอ่านแล้วเข้าใจ
เขาตามไปฟังจนเข้าใจว่าปัญญาต้องรู้จากฟัง
ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาเพิ่มแบบวิชาการทางโลกแต่เป็น
การไตร่ตรองตามเสียงเข้าใจความจริงที่ตนกำลังมีเพื่อรู้
ทำให้ละไม่รู้ทีละขณะตรงตามเป็นจริงฟังเพื่อละคลายอัตตาจร้า
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
คำสอนของพระพุทธเจ้าทำให้มองออกว่ากิเลสระดับไหนโดยเฉพาะสิกขาบทห้ามรับเงิน
งูๆปลาๆไม่มีใครมาบอกหรือกระจายข่าวให้รู้ทั่วกันหรอกนะคร๊าไม่ได้สร้างข่าวลือแต่
บอกความจริงตามคำสอนคนที่รู้ตัวกำลังมีพฤติกรรมอำพรางเอาไงดีว๊าสึกก็แก่แล้ว
ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรรีบๆสึกนะคะเด่วรัฐบาลจะริบเงิน555
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
คนที่เขาสะสมปัญญามาดีอ่านแล้วเข้าใจ
เขาตามไปฟังจนเข้าใจว่าปัญญาต้องรู้จากฟัง

ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาเพิ่มแบบวิชาการทางโลกแต่เป็น
การไตร่ตรองตามเสียงเข้าใจความจริงที่ตนกำลังมีเพื่อรู้
ทำให้ละไม่รู้ทีละขณะตรงตามเป็นจริงฟังเพื่อละคลายอัตตาจร้า


คุณโรสเคยได้ยินเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไหม :b12:

ปัญญามีทั้งสุตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา นะขอรับโผม ไปนั่งฟังแม่บริหารสุวรรณภูมิ แห่งโฮมสะเตย์ชั่น เสียเวลาถูกล้างสมองเปล่าๆ เอาเวลามาหลับตาทำภาวนามยปัญญาดีฝ่านะขอรับ เชื่อกรัชกายน้อยเถอะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
ตถาคตตรัสแบบนี้นะ
บวชรับเงินเป็นมิจฉาชีพ
เป็นโจรปล้นศาสนาคือคำสอน
แค่ยืมคำตถาคตไปพูดขอเงินชาวบ้าน
เทศนาอะไรบอกชาวบ้านไหมว่ารับเงินไม่ได้
เศรษฐีหัวโล้นปล้นคำสอนทำเพื่อลาภสักการะ
มีปกติจิตเป็นอหิริกะเจตสิก+อโนตตัปปะเจตสิกไม่มีสติเพราะสติเกิดกับกุศลเท่านั้นมีปกติอกุศลศีล
สติแปลว่าระลึกตามคำสอนได้บวชรับเงินระลึกไม่ได้ไงถึงต้องไปทำเป็นแกล้งปลงอาบัติแล้วก็มารับเงินอีก
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
:b12:
คำสอนของพระพุทธเจ้าทำให้มองออกว่ากิเลสระดับไหนโดยเฉพาะสิกขาบทห้ามรับเงิน
งูๆปลาๆไม่มีใครมาบอกหรือกระจายข่าวให้รู้ทั่วกันหรอกนะคร๊าไม่ได้สร้างข่าวลือแต่
บอกความจริงตามคำสอนคนที่รู้ตัวกำลังมีพฤติกรรมอำพรางเอาไงดีว๊าสึกก็แก่แล้ว
ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรรีบๆสึกนะคะเด่วรัฐบาลจะริบเงิน555
onion onion onion


เห็นพูดมานานแล้ว สิกขาบทไหนนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อนิทัสสนอัปปฏิฆรูป รูปที่มองไม่เห็นและกระทบไม่ได้ คือรับรู้ไม่ได้ด้วยประสาทใดๆ ไม่ว่าจะด้วยจักษุ หรือด้วยโสตะ ฆานะ ชิวหา และกาย แต่เป็นธรรมารมณ์ อันรู้ด้วยใจ, ได้แก่ สุขมรูป ๑๖

สนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองเห็นได้ คือ ตา มองเห็น ได้แก่ รูปารมณ์ (หมายถึง วัณณะ คือ สี)
คู่กับ
อนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองไม่เห็น มี ๒๗ ได้แก่ รูปอื่นนอกจากนั้น (มหาภูตรูป ๔ และอุปายารูป ๒๓)

สัปปฏิฆรูป รูปซึ่งมีการกระทบได้ คือ รับรู้ทางประสาททั้ง ๕ ที่ตรงคู่กัน มี ๑๒ ได้แก่ ปสาทรูป ๕ และวิสยรูป ๗ (๗ คือ นับโผฏฐัพพะเป็น ๓ ได้แก่ ปฐวี เตโช และวาโย)
คู่กับ
อัปปฏิฆรูป รูปซึ่งกระทบไม่ได้ อันรับรู้ไม่ได้ทางประสาททั้ง ๕ มี ๑๖ ได้แก่ รูปที่เหลือจากนั้น (คือสุขุมรูป ๑๖ นั่นเอง)

รูปารมณ์ (รูป+อารมณ์)

รูป สิ่งที่ต้องสลายไปเพราะปัจจัยต่างๆอันขัดแย้ง, สิ่งที่เป็นรูปร่างพร้อมทั้งลักษณะอาการของมัน, ส่วนร่างกาย ฯลฯ

อารมณ์ เครื่องยึดหน่วงของจิต, สิ่งที่จิตยึดหน่วง, สิ่งที่ถูกรู้ หรือถูกรับรู้ ได้แก่ อายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์; ในภาษาไทย ความหมายเลือนไปเป็นความรู้สึก หรือความเป็นไปแห่งจิตใจ ในขณะหรือช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่นว่า อย่าทำตามอารมณ์ วันนี้อารมณ์ดี อารมณ์เสีย เป็นต้น



อ้างคำพูด:
Rosarin
จิตเห็นสีคือตถาคต
ตัวเองเห็นอะไรไม่รู้
viewtopic.php?f=1&t=56230&p=423155#p423155


คุณโรสไปไม่เป็นแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2018, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อนิทัสสนอัปปฏิฆรูป รูปที่มองไม่เห็นและกระทบไม่ได้ คือรับรู้ไม่ได้ด้วยประสาทใดๆ ไม่ว่าจะด้วยจักษุ หรือด้วยโสตะ ฆานะ ชิวหา และกาย แต่เป็นธรรมารมณ์ อันรู้ด้วยใจ, ได้แก่ สุขมรูป ๑๖

สนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองเห็นได้ คือ ตา มองเห็น ได้แก่ รูปารมณ์ (หมายถึง วัณณะ คือ สี)
คู่กับ
อนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองไม่เห็น มี ๒๗ ได้แก่ รูปอื่นนอกจากนั้น (มหาภูตรูป ๔ และอุปายารูป ๒๓)

สัปปฏิฆรูป รูปซึ่งมีการกระทบได้ คือ รับรู้ทางประสาททั้ง ๕ ที่ตรงคู่กัน มี ๑๒ ได้แก่ ปสาทรูป ๕ และวิสยรูป ๗ (๗ คือ นับโผฏฐัพพะเป็น ๓ ได้แก่ ปฐวี เตโช และวาโย)
คู่กับ
อัปปฏิฆรูป รูปซึ่งกระทบไม่ได้ อันรับรู้ไม่ได้ทางประสาททั้ง ๕ มี ๑๖ ได้แก่ รูปที่เหลือจากนั้น (คือสุขุมรูป ๑๖ นั่นเอง)

รูปารมณ์ (รูป+อารมณ์)

รูป สิ่งที่ต้องสลายไปเพราะปัจจัยต่างๆอันขัดแย้ง, สิ่งที่เป็นรูปร่างพร้อมทั้งลักษณะอาการของมัน, ส่วนร่างกาย ฯลฯ

อารมณ์ เครื่องยึดหน่วงของจิต, สิ่งที่จิตยึดหน่วง, สิ่งที่ถูกรู้ หรือถูกรับรู้ ได้แก่ อายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์; ในภาษาไทย ความหมายเลือนไปเป็นความรู้สึก หรือความเป็นไปแห่งจิตใจ ในขณะหรือช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่นว่า อย่าทำตามอารมณ์ วันนี้อารมณ์ดี อารมณ์เสีย เป็นต้น



อ้างคำพูด:
Rosarin
จิตเห็นสีคือตถาคต
ตัวเองเห็นอะไรไม่รู้
viewtopic.php?f=1&t=56230&p=423155#p423155


คุณโรสไปไม่เป็นแล้ว

:b15:
ปรารภความเพียรเพิ่มกิเลสด้วยการคิดวิธีหาเงิน
สุมหัวพระหลายๆวัดเพื่อให้ญาติโยมชวนคนมาเข้าวัดมากๆ
หอบเงินมาถวายมากๆจะได้มีเงินมากๆไม่ใช่คิดวิธีปรารภในคำสอนนะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2018, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อนิทัสสนอัปปฏิฆรูป รูปที่มองไม่เห็นและกระทบไม่ได้ คือรับรู้ไม่ได้ด้วยประสาทใดๆ ไม่ว่าจะด้วยจักษุ หรือด้วยโสตะ ฆานะ ชิวหา และกาย แต่เป็นธรรมารมณ์ อันรู้ด้วยใจ, ได้แก่ สุขมรูป ๑๖

สนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองเห็นได้ คือ ตา มองเห็น ได้แก่ รูปารมณ์ (หมายถึง วัณณะ คือ สี)
คู่กับ
อนิทัสสนรูป รูปซึ่งมองไม่เห็น มี ๒๗ ได้แก่ รูปอื่นนอกจากนั้น (มหาภูตรูป ๔ และอุปายารูป ๒๓)

สัปปฏิฆรูป รูปซึ่งมีการกระทบได้ คือ รับรู้ทางประสาททั้ง ๕ ที่ตรงคู่กัน มี ๑๒ ได้แก่ ปสาทรูป ๕ และวิสยรูป ๗ (๗ คือ นับโผฏฐัพพะเป็น ๓ ได้แก่ ปฐวี เตโช และวาโย)
คู่กับ
อัปปฏิฆรูป รูปซึ่งกระทบไม่ได้ อันรับรู้ไม่ได้ทางประสาททั้ง ๕ มี ๑๖ ได้แก่ รูปที่เหลือจากนั้น (คือสุขุมรูป ๑๖ นั่นเอง)

รูปารมณ์ (รูป+อารมณ์)

รูป สิ่งที่ต้องสลายไปเพราะปัจจัยต่างๆอันขัดแย้ง, สิ่งที่เป็นรูปร่างพร้อมทั้งลักษณะอาการของมัน, ส่วนร่างกาย ฯลฯ

อารมณ์ เครื่องยึดหน่วงของจิต, สิ่งที่จิตยึดหน่วง, สิ่งที่ถูกรู้ หรือถูกรับรู้ ได้แก่ อายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์; ในภาษาไทย ความหมายเลือนไปเป็นความรู้สึก หรือความเป็นไปแห่งจิตใจ ในขณะหรือช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่นว่า อย่าทำตามอารมณ์ วันนี้อารมณ์ดี อารมณ์เสีย เป็นต้น



อ้างคำพูด:
Rosarin
จิตเห็นสีคือตถาคต
ตัวเองเห็นอะไรไม่รู้
viewtopic.php?f=1&t=56230&p=423155#p423155


คุณโรสไปไม่เป็นแล้ว

:b15:
ปรารภความเพียรเพิ่มกิเลสด้วยการคิดวิธีหาเงิน
สุมหัวพระหลายๆวัดเพื่อให้ญาติโยมชวนคนมาเข้าวัดมากๆ
หอบเงินมาถวายมากๆจะได้มีเงินมากๆไม่ใช่คิดวิธีปรารภในคำสอนนะคะ
:b32: :b32:


ถามอย่างตอบอย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 119 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร