วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 13:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
บวชจูงน่าจะเป็นความเห็นผิด
เพราะตายแล้วเกิดทันที
เข้าร่างใหม่เร็วแบบกะพริบตา
ไปเกิดในภพภูมิใหม่แล้ว
ไม่มีวิญญาณล่องลอย
แบบที่ทำให้ดูในหนังละคร
จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสาย
ดังนั้นการบวชจูงแล้วคิดว่าคนตาย
จะได้ไปสวรรค์จึงเป็นพฤติกรรมของมิจฉาทิฏฐิ
:b20:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
rolleyes
บวชจูงน่าจะเป็นความเห็นผิด
เพราะตายแล้วเกิดทันที
เข้าร่างใหม่เร็วแบบกะพริบตา
ไปเกิดในภพภูมิใหม่แล้ว
ไม่มีวิญญาณล่องลอย
แบบที่ทำให้ดูในหนังละคร
จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสาย
ดังนั้นการบวชจูงแล้วคิดว่าคนตาย
จะได้ไปสวรรค์จึงเป็นพฤติกรรมของมิจฉาทิฏฐิ



บวชจูง อะไรอ่ะนะ ไม่เข้าใจ ขอชัดๆ แบบไม่ต้องตีความนะขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เริ่มเห็นลายลูกศิษย์สำนักนี้ชัดขึ้นแล้ว คิกๆๆ

นึกถึงเพลงนี้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=Guf3H1ls8TU

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 11:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ



มันเป็นความเชื่อของเขา ก็เหมือนคุณโรสเชื่อมิจฉาทิฏฐิแห่งโฮมสะเตย์นั่นแล ลืมตาปริบๆ กระพริบตาถี่ๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
บวชจูงน่าจะเป็นความเห็นผิด
เพราะตายแล้วเกิดทันที
เข้าร่างใหม่เร็วแบบกะพริบตา
ไปเกิดในภพภูมิใหม่แล้ว
ไม่มีวิญญาณล่องลอย
แบบที่ทำให้ดูในหนังละคร
จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสาย
ดังนั้นการบวชจูงแล้วคิดว่าคนตาย
จะได้ไปสวรรค์จึงเป็นพฤติกรรมของมิจฉาทิฏฐิ


บวชจูง อะไรอ่ะนะ ไม่เข้าใจ ขอชัดๆ แบบไม่ต้องตีความนะขอรับ

:b12:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มเห็นลายลูกศิษย์สำนักนี้ชัดขึ้นแล้ว คิกๆๆ

นึกถึงเพลงนี้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=Guf3H1ls8TU

:b32:
นี่ก็ไม่รู้อะไรก็มั่วไป
ปัญญาสะสมมาไม่เท่ากัน
อันว่ากะพริบตานั้นโรสพูดเองตรงกับ
สิ่งที่โรสรู้ครบ6ทางอายตนะก่อนกะพริบตานะคะ
บ้านธัมมะไม่ได้บอกเพราะดูฟังคลิปไม่ได้คุยกะคลิปเลยสาบานได้
คลิปไม่รู้อะไรเลยนะนั่นน่ะแต่จิตคนที่ดูน่ะคิดกุศลหรืออกุศลเอาเองเข้าใจไหมคะ
ไม่มีคนมีแต่คลิปคือมีแต่จิตรู้นามรูปตรงผัสสะคือปรมัตถสัจจะของจริงรู้ที่กายใจตนเองเท่านั้นไม่ส่งออก
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 12:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


เขาใช้สอนคนเป็นอะป้าว?...

เกิดใหม่ทันที...ก็ไม่ใครเถียงนะ...เป็นโอปปาติกะ..ก็คือการเกิดใหม่...ชาวบ้านอาจเรียกว่าวิญญาณ...ซึ่งคนละวิญญาณในความหมายของขันธ์5...อันนี้ก็ต้องเข้าใจชาวบ้านพูด..นะ

การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว....มีผลได้จริง
ตรงนี้คุนโรส..ก็คงไม่ค้านกระมัง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


เขาใช้สอนคนเป็นอะป้าว?...

เกิดใหม่ทันที...ก็ไม่ใครเถียงนะ...เป็นโอปปาติกะ..ก็คือการเกิดใหม่...ชาวบ้านอาจเรียกว่าวิญญาณ...ซึ่งคนละวิญญาณในความหมายของขันธ์5...อันนี้ก็ต้องเข้าใจชาวบ้านพูด..นะ

การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว....มีผลได้จริง
ตรงนี้คุนโรส..ก็คงไม่ค้านกระมัง...

tongue
:b12:
ถ้าเข้าใจถูกตามคำสอนจะต่างกับสิ่งที่ทำตามประเพณีตามๆกันมาค่ะ
จิตแต่ละขณะสืบต่อมาแต่ละชาติ ปฏิสนธิ..............จุติจิต นี้คือ1ชาติ
การสืบต่อของจิตคือวิญญาณธาตุหรือวิญญาณขันธ์
เต็มๆตามอภิธรรมก็คือจิตเจตสิกรูปพาเกิดนิพพานไม่เกิด
ที่รู้ว่าเกิดเป็นคนแล้วคือเป็นผลของกรรมดีหนึ่งมาให้ผล
ประมวลกรรมทั้งหมดจากจุติจิตที่แล้วมาปฏิสนธิจิตชาตินี้
มาจากผลกรรมในอดีตชาติไหนไม่รู้มาให้ผลคือประมวล
มาซึ่งเหตุปัจจัยชาติใหม่ที่ขณะสุดท้ายของชาติก่อน
สืบต่อผ่านภวังคจิต(อากาศธาตุ)มาปฏิสนธิจิต1ขณะแรกชาติใหม่
ไม่มีเวลาพักล่องลอยไปไหนเลยค่ะคือ ...จุติจิต ปฏิสนธิจิต......จุติจิต ปฏิสนธิจิต........จุติจิต ปฏิสนธิจิต...
จุดคือวิถีจิตและทวารทั้ง6ช่องว่างคือภวังคจิตคั่นรวมตอนหลับสนิทด้วยค่ะถูกกำหนดมาแล้วมีแล้ว
แต่ไม่รู้ว่ามีและกำลังเกิดดับตลอดเวลาอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นความเกิดดับแม้แต่ขณะเดียวไม่รู้ว่าไม่มี
จิตเกิดดับทีละ1ขณะเกิดดับสลับกันและเกิดมีขึ้นใหม่ทุกขณะไม่ซ้ำเดิมแม้แต่ขณะเดียวค่ะ
มีการเกิดดับทุกขณะค่ะ...เป็นขณิกมรณะตายจากสิ่งที่มีทุกขณะค่ะ...แม้แต่ตัวจิตเองมีนิดนึงแล้วก็ดับ
คือไม่มีทุกขณะอยู่แล้วตั้งแต่เข้าใจขั้นการฟังเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะจากไม่มีจึงมีนิดนึงแล้วดับที่จิต
รอเกิดเมื่อมีทวารและวิถีจิตปรากฏและหลงยึดถือว่าเป็นเราเขาสัตว์บุคคลตัวตนจนกว่าจะเริ่มฟังเพื่อ
สะสมปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามขณะกำลังฟังจึงคิดถูกตามได้ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 14:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


เขาใช้สอนคนเป็นอะป้าว?...

เกิดใหม่ทันที...ก็ไม่ใครเถียงนะ...เป็นโอปปาติกะ..ก็คือการเกิดใหม่...ชาวบ้านอาจเรียกว่าวิญญาณ...ซึ่งคนละวิญญาณในความหมายของขันธ์5...อันนี้ก็ต้องเข้าใจชาวบ้านพูด..นะ

การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว....มีผลได้จริง
ตรงนี้คุนโรส..ก็คงไม่ค้านกระมัง...

tongue
:b12:
ถ้าเข้าใจถูกตามคำสอนจะต่างกับสิ่งที่ทำตามประเพณีตามๆกันมาค่ะ
จิตแต่ละขณะสืบต่อมาแต่ละชาติ ปฏิสนธิ..............จุติจิต นี้คือ1ชาติ
การสืบต่อของจิตคือวิญญาณธาตุหรือวิญญาณขันธ์
เต็มๆตามอภิธรรมก็คือจิตเจตสิกรูปพาเกิดนิพพานไม่เกิด
ที่รู้ว่าเกิดเป็นคนแล้วคือเป็นผลของกรรมดีหนึ่งมาให้ผล
ประมวลกรรมทั้งหมดจากจุติจิตที่แล้วมาปฏิสนธิจิตชาตินี้
มาจากผลกรรมในอดีตชาติไหนไม่รู้มาให้ผลคือประมวล
มาซึ่งเหตุปัจจัยชาติใหม่ที่ขณะสุดท้ายของชาติก่อน
สืบต่อผ่านภวังคจิต(อากาศธาตุ)มาปฏิสนธิจิต1ขณะแรกชาติใหม่
ไม่มีเวลาพักล่องลอยไปไหนเลยค่ะคือ ...จุติจิต ปฏิสนธิจิต......จุติจิต ปฏิสนธิจิต........จุติจิต ปฏิสนธิจิต...
จุดคือวิถีจิตและทวารทั้ง6ช่องว่างคือภวังคจิตคั่นรวมตอนหลับสนิทด้วยค่ะถูกกำหนดมาแล้วมีแล้ว
แต่ไม่รู้ว่ามีและกำลังเกิดดับตลอดเวลาอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นความเกิดดับแม้แต่ขณะเดียวไม่รู้ว่าไม่มี
จิตเกิดดับทีละ1ขณะเกิดดับสลับกันและเกิดมีขึ้นใหม่ทุกขณะไม่ซ้ำเดิมแม้แต่ขณะเดียวค่ะ
มีการเกิดดับทุกขณะค่ะ...เป็นขณิกมรณะตายจากสิ่งที่มีทุกขณะค่ะ...แม้แต่ตัวจิตเองมีนิดนึงแล้วก็ดับ
คือไม่มีทุกขณะอยู่แล้วตั้งแต่เข้าใจขั้นการฟังเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะจากไม่มีจึงมีนิดนึงแล้วดับที่จิต
รอเกิดเมื่อมีทวารและวิถีจิตปรากฏและหลงยึดถือว่าเป็นเราเขาสัตว์บุคคลตัวตนจนกว่าจะเริ่มฟังเพื่อ
สะสมปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามขณะกำลังฟังจึงคิดถูกตามได้ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสก็คิดว่าตัวเองเข้าใจคำสอน นั่งกระพริบตาก็ว่าถูกตรงคำสอน คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


เขาใช้สอนคนเป็นอะป้าว?...

เกิดใหม่ทันที...ก็ไม่ใครเถียงนะ...เป็นโอปปาติกะ..ก็คือการเกิดใหม่...ชาวบ้านอาจเรียกว่าวิญญาณ...ซึ่งคนละวิญญาณในความหมายของขันธ์5...อันนี้ก็ต้องเข้าใจชาวบ้านพูด..นะ

การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว....มีผลได้จริง
ตรงนี้คุนโรส..ก็คงไม่ค้านกระมัง...

tongue
:b12:
ถ้าเข้าใจถูกตามคำสอนจะต่างกับสิ่งที่ทำตามประเพณีตามๆกันมาค่ะ
จิตแต่ละขณะสืบต่อมาแต่ละชาติ ปฏิสนธิ..............จุติจิต นี้คือ1ชาติ
การสืบต่อของจิตคือวิญญาณธาตุหรือวิญญาณขันธ์
เต็มๆตามอภิธรรมก็คือจิตเจตสิกรูปพาเกิดนิพพานไม่เกิด
ที่รู้ว่าเกิดเป็นคนแล้วคือเป็นผลของกรรมดีหนึ่งมาให้ผล
ประมวลกรรมทั้งหมดจากจุติจิตที่แล้วมาปฏิสนธิจิตชาตินี้
มาจากผลกรรมในอดีตชาติไหนไม่รู้มาให้ผลคือประมวล
มาซึ่งเหตุปัจจัยชาติใหม่ที่ขณะสุดท้ายของชาติก่อน
สืบต่อผ่านภวังคจิต(อากาศธาตุ)มาปฏิสนธิจิต1ขณะแรกชาติใหม่
ไม่มีเวลาพักล่องลอยไปไหนเลยค่ะคือ ...จุติจิต ปฏิสนธิจิต......จุติจิต ปฏิสนธิจิต........จุติจิต ปฏิสนธิจิต...
จุดคือวิถีจิตและทวารทั้ง6ช่องว่างคือภวังคจิตคั่นรวมตอนหลับสนิทด้วยค่ะถูกกำหนดมาแล้วมีแล้ว
แต่ไม่รู้ว่ามีและกำลังเกิดดับตลอดเวลาอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นความเกิดดับแม้แต่ขณะเดียวไม่รู้ว่าไม่มี
จิตเกิดดับทีละ1ขณะเกิดดับสลับกันและเกิดมีขึ้นใหม่ทุกขณะไม่ซ้ำเดิมแม้แต่ขณะเดียวค่ะ
มีการเกิดดับทุกขณะค่ะ...เป็นขณิกมรณะตายจากสิ่งที่มีทุกขณะค่ะ...แม้แต่ตัวจิตเองมีนิดนึงแล้วก็ดับ
คือไม่มีทุกขณะอยู่แล้วตั้งแต่เข้าใจขั้นการฟังเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะจากไม่มีจึงมีนิดนึงแล้วดับที่จิต
รอเกิดเมื่อมีทวารและวิถีจิตปรากฏและหลงยึดถือว่าเป็นเราเขาสัตว์บุคคลตัวตนจนกว่าจะเริ่มฟังเพื่อ
สะสมปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามขณะกำลังฟังจึงคิดถูกตามได้ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสก็คิดว่าตัวเองเข้าใจคำสอน นั่งกระพริบตาก็ว่าถูกตรงคำสอน คิกๆๆ

:b12:
ไม่มีใครช่วยใครได้ทำอะไรก็ตามทำตามๆกันด้วยความเห็นผิดคือมีกิเลส
ปัญญาเกิดเมื่อเริ่มฟังเข้าใจการจะทิ้งสิ่งที่เคยทำผิดต้องเห็นโทษความไม่รู้
ถ้ายังไม่รู้ต่อไปและไม่รู้ด้วยว่าตนไม่รู้ก็ยึดถือสิ่งที่ตนทำนั้นแหละว่าดีว่าถูก
คริคริคริแต่ตามคำสอนน่ะต้องรู้จักคิดตามตามปกติที่คนคิดตามภพภูมิได้ทีละ1คำ
และเป็น1คำตรงพยางค์เข้าใจความปกติของคนปกติไหมคะคือความธรรมดาที่เกิดมาแล้วมีตาดีหูดี
รู้แล้วว่าเป็นคนแต่ไม่รู้ว่าคนตามปกติคิดตามคำสอนได้ตรงคำตรงขณะไม่ใช่ชื่อคำยาวๆเกิน1พยางค์
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใช่..จูงศพ...วนรอบเมร..ก่อนจะนำขึ้นเผา..รึเปล่าคับ..

:b12:
ใช่ค่ะ
ยังมีอีก
เคาะโลงศพเรียกเหมือนเข้าใจว่า
มีวิญญาณคนตายลอยมากินข้าว
เรียกศพฟังพระเทศนาในงานศพ
เขาสวดให้คนเป็นฟังให้รู้จักว่า
กุสลาอกุศลาอัพยากตาทำมา
ทั้งหมดที่ยังไม่รู้ต้องรู้ถ้าไม่รู้
ก็เกิดไม่หยุดและหยุดกิเลสไม่อยู่อิอิ
เพราะลืมตาปริบๆนี้แหละกิเลสไหลนับไม่ถ้วน
ถ้าไม่ฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้คิดถูกตามแปลว่ามีกิเลสเยอะค่ะ
:b13:
:b4: :b4:


เขาใช้สอนคนเป็นอะป้าว?...

เกิดใหม่ทันที...ก็ไม่ใครเถียงนะ...เป็นโอปปาติกะ..ก็คือการเกิดใหม่...ชาวบ้านอาจเรียกว่าวิญญาณ...ซึ่งคนละวิญญาณในความหมายของขันธ์5...อันนี้ก็ต้องเข้าใจชาวบ้านพูด..นะ

การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว....มีผลได้จริง
ตรงนี้คุนโรส..ก็คงไม่ค้านกระมัง...

tongue
:b12:
ถ้าเข้าใจถูกตามคำสอนจะต่างกับสิ่งที่ทำตามประเพณีตามๆกันมาค่ะ
จิตแต่ละขณะสืบต่อมาแต่ละชาติ ปฏิสนธิ..............จุติจิต นี้คือ1ชาติ
การสืบต่อของจิตคือวิญญาณธาตุหรือวิญญาณขันธ์
เต็มๆตามอภิธรรมก็คือจิตเจตสิกรูปพาเกิดนิพพานไม่เกิด
ที่รู้ว่าเกิดเป็นคนแล้วคือเป็นผลของกรรมดีหนึ่งมาให้ผล
ประมวลกรรมทั้งหมดจากจุติจิตที่แล้วมาปฏิสนธิจิตชาตินี้
มาจากผลกรรมในอดีตชาติไหนไม่รู้มาให้ผลคือประมวล
มาซึ่งเหตุปัจจัยชาติใหม่ที่ขณะสุดท้ายของชาติก่อน
สืบต่อผ่านภวังคจิต(อากาศธาตุ)มาปฏิสนธิจิต1ขณะแรกชาติใหม่
ไม่มีเวลาพักล่องลอยไปไหนเลยค่ะคือ ...จุติจิต ปฏิสนธิจิต......จุติจิต ปฏิสนธิจิต........จุติจิต ปฏิสนธิจิต...
จุดคือวิถีจิตและทวารทั้ง6ช่องว่างคือภวังคจิตคั่นรวมตอนหลับสนิทด้วยค่ะถูกกำหนดมาแล้วมีแล้ว
แต่ไม่รู้ว่ามีและกำลังเกิดดับตลอดเวลาอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นความเกิดดับแม้แต่ขณะเดียวไม่รู้ว่าไม่มี
จิตเกิดดับทีละ1ขณะเกิดดับสลับกันและเกิดมีขึ้นใหม่ทุกขณะไม่ซ้ำเดิมแม้แต่ขณะเดียวค่ะ
มีการเกิดดับทุกขณะค่ะ...เป็นขณิกมรณะตายจากสิ่งที่มีทุกขณะค่ะ...แม้แต่ตัวจิตเองมีนิดนึงแล้วก็ดับ
คือไม่มีทุกขณะอยู่แล้วตั้งแต่เข้าใจขั้นการฟังเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะจากไม่มีจึงมีนิดนึงแล้วดับที่จิต
รอเกิดเมื่อมีทวารและวิถีจิตปรากฏและหลงยึดถือว่าเป็นเราเขาสัตว์บุคคลตัวตนจนกว่าจะเริ่มฟังเพื่อ
สะสมปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกความคิดเห็นถูกตามขณะกำลังฟังจึงคิดถูกตามได้ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสก็คิดว่าตัวเองเข้าใจคำสอน นั่งกระพริบตาก็ว่าถูกตรงคำสอน คิกๆๆ

:b12:
ไม่มีใครช่วยใครได้ทำอะไรก็ตามทำตามๆกันด้วยความเห็นผิดคือมีกิเลส
ปัญญาเกิดเมื่อเริ่มฟังเข้าใจการจะทิ้งสิ่งที่เคยทำผิดต้องเห็นโทษความไม่รู้

ถ้ายังไม่รู้ต่อไปและไม่รู้ด้วยว่าตนไม่รู้ก็ยึดถือสิ่งที่ตนทำนั้นแหละว่าดีว่าถูก
คริคริคริแต่ตามคำสอนน่ะต้องรู้จักคิดตามตามปกติที่คนคิดตามภพภูมิได้ทีละ1คำ
และเป็น1คำตรงพยางค์เข้าใจความปกติของคนปกติไหมคะคือความธรรมดาที่เกิดมาแล้วมีตาดีหูดี
รู้แล้วว่าเป็นคนแต่ไม่รู้ว่าคนตามปกติคิดตามคำสอนได้ตรงคำตรงขณะไม่ใช่ชื่อคำยาวๆเกิน1พยางค์


คิดว่าตัวเองไม่มีกิเลสไปแระ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ต้องคิดนะคะว่าคำตถาคตทำให้รู้จักตนเองว่ามีกิเลส
คนที่คิดว่าตนเองมีปัญญาแล้วรู้แล้วเพราะจำได้หมด
นั่นแหละคือมานะทิฏฐิถือตนว่าเป็นปัญญาแค่สัญญา
ปัญญาเกิดจากฟังถ้าชาตินี้ไม่เคยคิดตรงตามการฟัง
นี่แหละเรียกว่าไม่เคยคิดตามคำสอนได้จึงไม่รู้ว่ากิเลส
เกิดตอนลืมตาตื่นมีวิถีจิตและมีทวารครบ6ทางอายตนะ
และปัญญาเริ่มแย่งเก้าอี้ดนตรีได้นั่งตอนเริ่มคิดถูกตามคำสอนได้ค่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ต้องคิดนะคะว่าคำตถาคตทำให้รู้จักตนเองว่ามีกิเลส
คนที่คิดว่าตนเองมีปัญญาแล้วรู้แล้วเพราะจำได้หมด
นั่นแหละคือมานะทิฏฐิถือตนว่าเป็นปัญญาแค่สัญญา
ปัญญาเกิดจากฟังถ้าชาตินี้ไม่เคยคิดตรงตามการฟัง
นี่แหละเรียกว่าไม่เคยคิดตามคำสอนได้จึงไม่รู้ว่ากิเลส
เกิดตอนลืมตาตื่นมีวิถีจิตและมีทวารครบ6ทางอายตนะ
และปัญญาเริ่มแย่งเก้าอี้ดนตรีได้นั่งตอนเริ่มคิดถูกตามคำสอนได้ค่ะ
:b32: :b32:


ไหนจัดวิธีปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสทางอายตนะ 6 แบบโฮมสะเตย์หน่อยสิ

1. ทาง ตา (จักขุ)
2. ทาง หู (โสต)
3. ทางจมูก (ฆาน)
4. ทาง ลิ้น (ชิวหา)
5. ทาง กาย (กาย)
6. ทาง ใจ (มโน)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 04:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ต้องคิดนะคะว่าคำตถาคตทำให้รู้จักตนเองว่ามีกิเลส
คนที่คิดว่าตนเองมีปัญญาแล้วรู้แล้วเพราะจำได้หมด
นั่นแหละคือมานะทิฏฐิถือตนว่าเป็นปัญญาแค่สัญญา
ปัญญาเกิดจากฟังถ้าชาตินี้ไม่เคยคิดตรงตามการฟัง
นี่แหละเรียกว่าไม่เคยคิดตามคำสอนได้จึงไม่รู้ว่ากิเลส
เกิดตอนลืมตาตื่นมีวิถีจิตและมีทวารครบ6ทางอายตนะ
และปัญญาเริ่มแย่งเก้าอี้ดนตรีได้นั่งตอนเริ่มคิดถูกตามคำสอนได้ค่ะ
:b32: :b32:


ไหนจัดวิธีปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสทางอายตนะ 6 แบบโฮมสะเตย์หน่อยสิ

1. ทาง ตา (จักขุ)
2. ทาง หู (โสต)
3. ทางจมูก (ฆาน)
4. ทาง ลิ้น (ชิวหา)
5. ทาง กาย (กาย)
6. ทาง ใจ (มโน)

Kiss
:b12:
ตัวตนน่ะกำหนดได้ก็คือมิจฉามรรค
แต่สัมมามรรคกำหนดล่วงหน้าไม่ได้
แล้วแต่เหตุปัจจัยว่าอะไรจะปรากฏ
จึงต้องฝึกจิตให้ระลึกตรงทีละ1คำ
ก็ใข้ตัวตนกำหนดอยู่ดีแต่ต้องพึ่ง
การฟังเพื่อเพิ่มปัญญาเพราะขณะ
ที่จะรู้สึกความจริงของสติปัฏฐาน
คือสติสัมปชัญญะรู้เร็วขึ้นมา
ตั้งแต่ตอนเริ่มฟังจนชัดขึ้น
เร็วขึ้นชำนาญขึ้นตามวิสยรูป7
รู้สึกคำไหนชัดก็ระลึกตามตรงๆ
อบรมจิตเจริญปัญญาต้องเริ่มที่ฟังคำสอนทุกครั้งค่ะ
ปล่อยวางทีละคำรู้สึกตรงคำตรงขณะให้ได้ก่อนนะคะ
อนาคตกำหนดล่วงหน้าไม่ได้ต้องพึ่งคำตถาคตในการคิดพูดทำสุตะคือตั้งใจฟังเพื่อเข้าใจเท่านั้น
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 71 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร