ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ตาม หา จิต http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56199 |
หน้า 6 จากทั้งหมด 14 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 04 พ.ย. 2018, 20:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
Rosarin เขียน: :b12: ฟังซะ...ชอบไหม...ถ้าชอบแปลว่ายังมีกิเลสเพราะยังพอใจอยู่ ทำอะไรได้ไหมเพราะธัมมะดับไปแล้วนับไม่ถ้วนรู้จักกิเลสไหม ตั้งแต่กะพริบตาแล้วก็ไม่รู้ตามคำสอนแม้แต่น้อยฟังเพลินเลยนะ https://youtu.be/wsHNUOgJJZU ยินดี ยินร้าย ชอบ ไม่ชอบ เป็นกิเลสทั้งนั้นแหละ ถ้าพูดยังงั้นนะ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 04 พ.ย. 2018, 23:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: ก็ปกติไง...เห็นก็ปกติ...ทุกอย่างเป็นปกติตามปกติ รู้ตรงสัจจะที่กำลังมีไม่ต้องเลือกแยกเอาไปทำ เห็นแล้วต้องไปทำเห็นเพิ่มอีกตะหากรึ ได้ยินก็ได้ยินแล้วดับครบ6ทางแล้ว จะทำอะไรหรือคะดับแล้วแก้ไม่ได้ ก็เห็นผิดคิดตามคำตถาคตไม่ได้ไงเห็นมือถืออยากได้ไง เพราะเห็นสีดับไปนานแล้วลืมตานี่ไม่บอดเห็นสีหรือคนสัตว์วัตถุยังไม่รู้หรือคะ คุณโรสเห็นมือถือแล้วอยากได้มือถือทุกทีเลยเหร๋อคะ เป็นหนักนะนี่ ความยึดติดมันอยู่ในกมลสันดานของตนเอง ที่จับอยู่ถืออยู่นี้น่ะเราใช่ไหมจับเราใช่ไหมถือ แล้วก็คิดว่าฉันไม่ยึดติดฉันวางได้ลองมือถือหายสิ ยังไม่รู้หรือคะว่าติดทุกอย่างที่ถืออยู่นี่แหละเรียกว่ามีกิเลสและเห็นผิด จะรู้ว่ากำลังคิดถูกไหมต้องมีเสียงคำให้ได้ยินแล้วคิดตามว่ากำลังคิดอะไร คิดตรงต้องคิดตามอยู่เดี๋ยวนี้ที่คิดเองน่ะกิเลสเพิ่มแล้วกำลังเห็นผิดจากคำสอนอยู่ลืมฟังติดตัวอักษรจำแล้ว อ๋อ...คุณโรสติดทุกอย่างเลย ก็เลยต้องฟังทูปอย่างหนัก เพื่อหลบจากการติดโน่นนี่นั่น มาเป็นเสพติดทูปแทน มันก็ทำให้ดูหรู๋ขึ้นมาหน่อย เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ชื่อว่ายึดติดไปในทางธรรม เอาน่าคิดตามช้าๆค่อยๆคิดไม่ต้องรีบไปไหน เดี๋ยวนี้คือปัจจุบันทุกๆเวลาที่กำลังมีคือปัจจุบันขณะ ปัญญาเจตสิกตามคำสอนเกิดพร้อมสติตอนฟังแล้วคิดตรงคำสอนตรง1คำที่ตนมีแล้วที่กายใจ ดูที่ตนเองว่ากำลังคิดตรงคำสอนตรงตามคำไหนและคำนั้นกำลังมีอยู่เดี๋ยวนี้ไหมตรงขณะที่มีแล้ว ถ้าไม่เคยกำลังระลึกตามคำสอนอยู่ตามเสียงคำสัจจะแปลว่ามีกิเลสคือไม่รู้ไปแล้วเอากลับมาได้ไหม มีแต่จิตคิดเองไปตามสัญญาที่จำอดีตเอาไว้เอามาปรุงกิเลสให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมลงไปในจิตเป็นอวิชชาไง ขำ ปัญญาเจตสิกตามนัยยะของคุณโรส ง่ะ เด็ก ๆ ก็เรียกอาจารย์ท่อง ก.กา พอโตหน่อยก็หาอาจารย์มาสอนท่อง ปัญญาเจตสิก ค่ะ ก็ตามนั้นล่ะ คุณโรสก็ไปตามประสานั่นล่ะ ก็คุณโรสเสพติดมือถือซะอย่างนั้น ตาไม่บอดหูไม่หนวกจำผิดไงเดี๋ยวนี้ ไม่ได้กำลังระลึกตรงคำวาจาสัจจะ ติดแม้แต่ชื่อตนเองก็ไม่รู้จำแล้ว จำด้วยความคิดตนเองว่ารู้นั้น คือไม่รู้ไงคะเห็นสีดับแล้ว จำอะไรล่ะเดียวนี้นั่นน่ะ ไม่ได้รู้ความจริงที่เห็น จำผิดเป็นมิจฉามรรค จะคิดและเข้าใจถูก ตามๆๆๆนะตามได้ จึงเกิดสัมมาตาม เริ่มถูกตอนฟัง กิเลสเกิดแล้ว เลือกมือถือ เป็นอัตตา จะให้ว่าไงคะ รู้จักอนัตตาไหม ปัญญาเลือกทำไม่ได้ไงคะ สุตมยปัญญาฟังได้ตรงปัจจุบันหรือยัง มองทุกสิ่งตรงหน้าสิจำทุกอย่างผิดแล้วไงคะ ดูแล้วเป็นอาการฟังทูปจน ตกอยู่ในภวังค์หลงเคลิ้มไปกับการฟังทูป เหมือนคนที่ชอบนักร้องคนไหน ก็จะเป็นแฟนคลับติดตามนักร้องคนนั้น ฟังแล้วก็เอามาร้อง และพยายามจะร้องให้เหมือนนักร้อง เหมือนเป็นพวกคลั่งลัทธิเลย |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 พ.ย. 2018, 18:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ - สเม จิตฺเต สมํ ผลํ เจโตปสาทเหตุมฺหิ - สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ. เมื่อพระสัมมาพุทธเจ้า เป็นต้น ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็ดี นิพพานแล้ว ก็ดี เมื่อจิตเสมอกัน ผลก็ย่อมเท่ากัน ในเพราะเหตุคือความเลื่อมใสแห่งใจ สัตว์ทั้งหลาย ย่อมไปสู่สุคติได้. อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต. ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ผู้ไม่ประมาท ผู้เป็นมุนี ศึกษาอยู่ในทางแห่งโมนปฏิบัติ ผู้คงที่ ผู้สงบระงับแล้ว ผู้มีสติทุกเมื่อ. |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 พ.ย. 2018, 18:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ - สเม จิตฺเต สมํ ผลํ เจโตปสาทเหตุมฺหิ - สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ. เมื่อพระสัมมาพุทธเจ้า เป็นต้น ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็ดี นิพพานแล้ว ก็ดี เมื่อจิตเสมอกัน ผลก็ย่อมเท่ากัน ในเพราะเหตุคือความเลื่อมใสแห่งใจ สัตว์ทั้งหลาย ย่อมไปสู่สุคติได้. อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต. ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ผู้ไม่ประมาท ผู้เป็นมุนี ศึกษาอยู่ในทางแห่งโมนปฏิบัติ ผู้คงที่ ผู้สงบระงับแล้ว ผู้มีสติทุกเมื่อ. |
เจ้าของ: | Rosarin [ 06 พ.ย. 2018, 10:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: ก็ปกติไง...เห็นก็ปกติ...ทุกอย่างเป็นปกติตามปกติ รู้ตรงสัจจะที่กำลังมีไม่ต้องเลือกแยกเอาไปทำ เห็นแล้วต้องไปทำเห็นเพิ่มอีกตะหากรึ ได้ยินก็ได้ยินแล้วดับครบ6ทางแล้ว จะทำอะไรหรือคะดับแล้วแก้ไม่ได้ ก็เห็นผิดคิดตามคำตถาคตไม่ได้ไงเห็นมือถืออยากได้ไง เพราะเห็นสีดับไปนานแล้วลืมตานี่ไม่บอดเห็นสีหรือคนสัตว์วัตถุยังไม่รู้หรือคะ คุณโรสเห็นมือถือแล้วอยากได้มือถือทุกทีเลยเหร๋อคะ เป็นหนักนะนี่ ความยึดติดมันอยู่ในกมลสันดานของตนเอง ที่จับอยู่ถืออยู่นี้น่ะเราใช่ไหมจับเราใช่ไหมถือ แล้วก็คิดว่าฉันไม่ยึดติดฉันวางได้ลองมือถือหายสิ ยังไม่รู้หรือคะว่าติดทุกอย่างที่ถืออยู่นี่แหละเรียกว่ามีกิเลสและเห็นผิด จะรู้ว่ากำลังคิดถูกไหมต้องมีเสียงคำให้ได้ยินแล้วคิดตามว่ากำลังคิดอะไร คิดตรงต้องคิดตามอยู่เดี๋ยวนี้ที่คิดเองน่ะกิเลสเพิ่มแล้วกำลังเห็นผิดจากคำสอนอยู่ลืมฟังติดตัวอักษรจำแล้ว อ๋อ...คุณโรสติดทุกอย่างเลย ก็เลยต้องฟังทูปอย่างหนัก เพื่อหลบจากการติดโน่นนี่นั่น มาเป็นเสพติดทูปแทน มันก็ทำให้ดูหรู๋ขึ้นมาหน่อย เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ชื่อว่ายึดติดไปในทางธรรม เอาน่าคิดตามช้าๆค่อยๆคิดไม่ต้องรีบไปไหน เดี๋ยวนี้คือปัจจุบันทุกๆเวลาที่กำลังมีคือปัจจุบันขณะ ปัญญาเจตสิกตามคำสอนเกิดพร้อมสติตอนฟังแล้วคิดตรงคำสอนตรง1คำที่ตนมีแล้วที่กายใจ ดูที่ตนเองว่ากำลังคิดตรงคำสอนตรงตามคำไหนและคำนั้นกำลังมีอยู่เดี๋ยวนี้ไหมตรงขณะที่มีแล้ว ถ้าไม่เคยกำลังระลึกตามคำสอนอยู่ตามเสียงคำสัจจะแปลว่ามีกิเลสคือไม่รู้ไปแล้วเอากลับมาได้ไหม มีแต่จิตคิดเองไปตามสัญญาที่จำอดีตเอาไว้เอามาปรุงกิเลสให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมลงไปในจิตเป็นอวิชชาไง ขำ ปัญญาเจตสิกตามนัยยะของคุณโรส ง่ะ เด็ก ๆ ก็เรียกอาจารย์ท่อง ก.กา พอโตหน่อยก็หาอาจารย์มาสอนท่อง ปัญญาเจตสิก ค่ะ ก็ตามนั้นล่ะ คุณโรสก็ไปตามประสานั่นล่ะ ก็คุณโรสเสพติดมือถือซะอย่างนั้น ตาไม่บอดหูไม่หนวกจำผิดไงเดี๋ยวนี้ ไม่ได้กำลังระลึกตรงคำวาจาสัจจะ ติดแม้แต่ชื่อตนเองก็ไม่รู้จำแล้ว จำด้วยความคิดตนเองว่ารู้นั้น คือไม่รู้ไงคะเห็นสีดับแล้ว จำอะไรล่ะเดียวนี้นั่นน่ะ ไม่ได้รู้ความจริงที่เห็น จำผิดเป็นมิจฉามรรค จะคิดและเข้าใจถูก ตามๆๆๆนะตามได้ จึงเกิดสัมมาตาม เริ่มถูกตอนฟัง กิเลสเกิดแล้ว เลือกมือถือ เป็นอัตตา จะให้ว่าไงคะ รู้จักอนัตตาไหม ปัญญาเลือกทำไม่ได้ไงคะ สุตมยปัญญาฟังได้ตรงปัจจุบันหรือยัง มองทุกสิ่งตรงหน้าสิจำทุกอย่างผิดแล้วไงคะ ดูแล้วเป็นอาการฟังทูปจน ตกอยู่ในภวังค์หลงเคลิ้มไปกับการฟังทูป เหมือนคนที่ชอบนักร้องคนไหน ก็จะเป็นแฟนคลับติดตามนักร้องคนนั้น ฟังแล้วก็เอามาร้อง และพยายามจะร้องให้เหมือนนักร้อง เหมือนเป็นพวกคลั่งลัทธิเลย ไม่ว่าจะคิดพูดทำไปไหนไปทำอะไรล้วนเกิดจากมีความไม่รู้คือมีกิเลสอวิชชาพาไปทำ เห็นแค่สีกระทบตาแล้วหมดแล้วนี่เอกอนคิดว่าทำอะไรได้ไหมเห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ดับแล้ว เอากลับคืนมารู้ได้ไหมเพราะสัจจะมีที่ข้างในคือกายใจตนเองมีแล้วยังไม่ทำก็สะสมกิเลสใหม่แล้ว |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 06 พ.ย. 2018, 10:58 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต | ||
ตามหาทำจิต เมื่อยังไม่รู้ว่าจิตอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องทำมากินอะไรหรอก
|
เจ้าของ: | muisun [ 06 พ.ย. 2018, 12:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
จิตก็คือวิญญาณ วิญญาณก็คือตัวรับรู้ ตัวรับรู้ก็อยู่ที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตดวงเก่าดับไปแล้วจิตดวงใหม่เกิดขึ้น อยู่ตรงปัจจุบันเท่านั้น อดีตจิตอยู่ไม่ได้ อนาคตจิตก็อยู่ไม่ได้ แต่จิตจะเกิดได้แค่ตรงปัจจุบันในขณะนี้ ไม่ต้องไปตามหาจิตในอดีตหรืออนาคต เพียงใส่ใจสังเกตเห็นต้นเหตุ จะคิด พูด ทำ แค่นั้นก็จะได้เห็นจิตตามความเป็นจริง รู้ทันอย่างไหนก็ได้เห็นจิตอย่างนั้น สมกับที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้อำนาจจิต คิดเช่นไรได้เช่นนั้น รู้ทันจะคิดดับๆ ก็หมดความสงสัยได้ทุกเรื่อง เพียงสักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น อันความโง่ยึดถือใดๆ จะเข้าประกอบร่วมมิได้ จึงเข้าใจ เข้าถึง ซึ่งสัจธรรม จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ) ฉลาดได้ทุกเรื่อง |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 06 พ.ย. 2018, 20:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
Rosarin เขียน: ไม่ว่าจะคิดพูดทำไปไหนไปทำอะไรล้วนเกิดจากมีความไม่รู้คือมีกิเลสอวิชชาพาไปทำ เห็นแค่สีกระทบตาแล้วหมดแล้วนี่เอกอนคิดว่าทำอะไรได้ไหมเห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ดับแล้ว เอากลับคืนมารู้ได้ไหมเพราะสัจจะมีที่ข้างในคือกายใจตนเองมีแล้วยังไม่ทำก็สะสมกิเลสใหม่แล้ว คุณโรสบอกกับตัวเอง ใช่มั๊ยคะ เห็นย้ำฟังย้ำคิดย้ำทำย้ำตรึกตรองอยู่แต่กับมันน่ะ จะไปบังคับตัวเองให้ว่าต้องเห็นสีดำทำไม ถ้าเห็นโทรศัพท์ ธรรมไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับโลกนะ ถ้าหากว่าสิ่งที่จริงเป็นที่สุดคืออนุภาค คุณรสเห็นสี ก็ผิดแล้ว กิเลสครอบงำจนมืดเสียยิ่งกว่ามืด ที่ไม่สามารถเห็นอนุภาคได้ ฟังทูปแล้วเก็บมาวิตก ... มันก็แค่นั้นแหละค่ะ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 06 พ.ย. 2018, 20:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: ไม่ว่าจะคิดพูดทำไปไหนไปทำอะไรล้วนเกิดจากมีความไม่รู้คือมีกิเลสอวิชชาพาไปทำ เห็นแค่สีกระทบตาแล้วหมดแล้วนี่เอกอนคิดว่าทำอะไรได้ไหมเห็นก็เห็นแล้วได้ยินก็ดับแล้ว เอากลับคืนมารู้ได้ไหมเพราะสัจจะมีที่ข้างในคือกายใจตนเองมีแล้วยังไม่ทำก็สะสมกิเลสใหม่แล้ว คุณโรสบอกกับตัวเอง ใช่มั๊ยคะ เห็นย้ำฟังย้ำคิดย้ำทำย้ำตรึกตรองอยู่แต่กับมันน่ะ จะไปบังคับตัวเองให้ว่าต้องเห็นสีดำทำไป ถ้าเห็นโทรศัพท์ ธรรมไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับโลกนะ ถ้าหากว่าสิ่งที่จริงเป็นที่สุดคืออนุภาค คุณรสเห็นสี ก็ผิดแล้ว กิเลสครอบงำจนมืดเสียยิ่งกว่ามืด ที่ไม่สามารถเห็นอนุภาคได้ ฟังทูปแล้วเก็บมาวิตก ... มันก็แค่นั้นแหละค่ะ คนที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนมีกิเลสคือมีความไม่รู้นั้นน่าสงสารค่ะ แค่คิดให้ตรงยังไม่เป็นเลยมีแต่คิดขัดแย้งกับคำจริงอยู่อย่างนั้นแหละ ไตร่ตรองสิคะเดี๋ยวนี้เห็นสีกระทบตาดับแล้วคิดนึกแต่สิ่งที่ปรากฏคือกิเลส จะไปรู้ความจริงตอนไหนตถาคตบอกว่าความจริงรู้ได้ตรงปัจจุบันขณะก่อนดับ เห็นไม่ดับก็ไม่มีได้ยินเดี๋ยวนี้เลยเสมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันมีครบ6ทางคิด1คำดับหมดเอาอะไรเป็นปัญญา |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 06 พ.ย. 2018, 22:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
Rosarin เขียน: คนที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนมีกิเลสคือมีความไม่รู้นั้นน่าสงสารค่ะ แค่คิดให้ตรงยังไม่เป็นเลยมีแต่คิดขัดแย้งกับคำจริงอยู่อย่างนั้นแหละ ไตร่ตรองสิคะเดี๋ยวนี้เห็นสีกระทบตาดับแล้วคิดนึกแต่สิ่งที่ปรากฏคือกิเลส จะไปรู้ความจริงตอนไหนตถาคตบอกว่าความจริงรู้ได้ตรงปัจจุบันขณะก่อนดับ เห็นไม่ดับก็ไม่มีได้ยินเดี๋ยวนี้เลยเสมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันมีครบ6ทางคิด1คำดับหมดเอาอะไรเป็นปัญญา เอกอนไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอบแบบนี้หรอกค่ะ ไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอนแบบนี้ด้วย ไม่รู้คุณรสช่างไปขุดเอามาจากไหน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 07 พ.ย. 2018, 07:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: คนที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนมีกิเลสคือมีความไม่รู้นั้นน่าสงสารค่ะ แค่คิดให้ตรงยังไม่เป็นเลยมีแต่คิดขัดแย้งกับคำจริงอยู่อย่างนั้นแหละ ไตร่ตรองสิคะเดี๋ยวนี้เห็นสีกระทบตาดับแล้วคิดนึกแต่สิ่งที่ปรากฏคือกิเลส จะไปรู้ความจริงตอนไหนตถาคตบอกว่าความจริงรู้ได้ตรงปัจจุบันขณะก่อนดับ เห็นไม่ดับก็ไม่มีได้ยินเดี๋ยวนี้เลยเสมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันมีครบ6ทางคิด1คำดับหมดเอาอะไรเป็นปัญญา เอกอนไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอบแบบนี้หรอกค่ะ ไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอนแบบนี้ด้วย ไม่รู้คุณรสช่างไปขุดเอามาจากไหน พิจารณาที่กายใจตนเองได้ตลอดเวลา การนั่งสมาธิหลับตาคือการทำสมาธิ คือการจมดิ่งโดยไม่ระลึกตามคำสอน เพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะไม่ปนกัน เดี๋ยวนี้มีครบ6ทางขาดพึ่งการฟังไง จึงระลึกตามไม่ได้แม้แต่น้อยไงคะ คิดเองได้มีแค่2คน1คือพระพุทธเจ้า 2พระปัจเจกพุทธเจ้ายุคที่ไม่มีคำสอน ยุคนี้มีคำสอนต้องอาศัยจิตได้ยินเป็นประธานค่ะ ที่กำลังคิดเองอยู่ตามที่ไปอ่านแค่ท่องจำปัญญาของตถาคต เพราะปัญญาเจตสิกต้องกำลังทำตรงขณะคือสุตมยปัญญาคือกำลังฟัง(คิดตามเสียงอยู่อ่ะค่ะ) https://youtu.be/oyGmmPUaslw |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 พ.ย. 2018, 08:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
สรุปไว้ทีก่อนว่า ใครก็ตาม สำนักใดก็ตาม ถ้ายังตามหาจิตกันอยู่แล้วละก็ ไม่มีวันและคืนปฏิบัติธรรมแนวสติปัฏฐานได้เป็นขาด ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ เพราะอะไร ? เพราะว่า ในสติปัฏฐานพูดถึงจิตไว้ อย่างนี้ @ กายานุปัสสนา @ เวทนานุปัสสนา @ จิตตานุปัสสนา (จิตต์+อนุปัสสนา) @ ธัมมานุปัสสนา อีกหน่อย และไม่มีวันและคืนรู้จักธรรมะด้วย เพราะอะไร ? เพราะข้อสุดท้าย ก็ธัมมานุปัสสนา (ธัมม+อนุปัสสนา) ด้วย และอีก หากยังเข้าใจผิดคิดไปว่า กายานุปัสสนา (กาย+อนุปัสสนา) ว่าไม่ใช่ กาย, ร่างกาย ที่เห็นๆอยู่นี่ ก็เป็นอัน คิกๆๆ เสียเวลาเปล่า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 พ.ย. 2018, 08:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
Rosarin เขียน: eragon_joe เขียน: Rosarin เขียน: คนที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนมีกิเลสคือมีความไม่รู้นั้นน่าสงสารค่ะ แค่คิดให้ตรงยังไม่เป็นเลยมีแต่คิดขัดแย้งกับคำจริงอยู่อย่างนั้นแหละ ไตร่ตรองสิคะเดี๋ยวนี้เห็นสีกระทบตาดับแล้วคิดนึกแต่สิ่งที่ปรากฏคือกิเลส จะไปรู้ความจริงตอนไหนตถาคตบอกว่าความจริงรู้ได้ตรงปัจจุบันขณะก่อนดับ เห็นไม่ดับก็ไม่มีได้ยินเดี๋ยวนี้เลยเสมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันมีครบ6ทางคิด1คำดับหมดเอาอะไรเป็นปัญญา เอกอนไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอบแบบนี้หรอกค่ะ ไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอนแบบนี้ด้วย ไม่รู้คุณรสช่างไปขุดเอามาจากไหน พิจารณาที่กายใจตนเองได้ตลอดเวลา การนั่งสมาธิหลับตาคือการทำสมาธิ คือการจมดิ่งโดยไม่ระลึกตามคำสอน เพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะไม่ปนกัน เดี๋ยวนี้มีครบ6ทางขาดพึ่งการฟังไง จึงระลึกตามไม่ได้แม้แต่น้อยไงคะ คิดเองได้มีแค่2คน1คือพระพุทธเจ้า 2พระปัจเจกพุทธเจ้ายุคที่ไม่มีคำสอน ยุคนี้มีคำสอนต้องอาศัยจิตได้ยินเป็นประธานค่ะ ที่กำลังคิดเองอยู่ตามที่ไปอ่านแค่ท่องจำปัญญาของตถาคต เพราะปัญญาเจตสิกต้องกำลังทำตรงขณะคือสุตมยปัญญาคือกำลังฟัง(คิดตามเสียงอยู่อ่ะค่ะ) https://youtu.be/oyGmmPUaslw และผู้ในที่นี้ ได้แก่ แต่นแต้นแต๊น ได้แก่ คุณโรส ศิษย์บ้านธัมมะด้วยประการฉะนี้แล. จบข่าว |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 พ.ย. 2018, 08:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
และอีก คุณโรสพูดบ่อย "จะทำไปทำไมคะ" นั่นๆนี่ๆก็มีอยู่แล้ว จะทำไปทำไม เพราะมันมีอยู่แล้วว่า ให้ดูตัวอย่าง ซึ่งก็มีอยู่แล้วอย่างว่านั่นแหละ มนุษย์ทุกรูปทุกนามมีชีวิตจิตใจ มีกายมีใจ มีจิตวิญญาณทุกผู้ทุกคน แล้วทำไปทำไมคะ ดู นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น คำถามครับ 1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง 2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะว่ามันมีอยู่แล้ว จะทำไปทำไมคะ? ตอบกว้างๆ ก็เพราะไม่รู้จักกายใจนี่ไงคะ จึงต้องฝึกต้องทำเพื่อให้รู้จักตนเองหมดทั้งเนื้อทั้งตัว คือ ทั้งรูปทั้งนาม |
เจ้าของ: | Rosarin [ 07 พ.ย. 2018, 19:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตาม หา จิต |
กรัชกาย เขียน: และอีก คุณโรสพูดบ่อย "จะทำไปทำไมคะ" นั่นๆนี่ๆก็มีอยู่แล้ว จะทำไปทำไม เพราะมันมีอยู่แล้วว่า ให้ดูตัวอย่าง ซึ่งก็มีอยู่แล้วอย่างว่านั่นแหละ มนุษย์ทุกรูปทุกนามมีชีวิตจิตใจ มีกายมีใจ มีจิตวิญญาณทุกผู้ทุกคน แล้วทำไปทำไมคะ ดู นั่งสมาธิแล้วมีอาการหมุนเหวี่ยงจะอ้วก ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น คำถามครับ 1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง 2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรม พิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะว่ามันมีอยู่แล้ว จะทำไปทำไมคะ? ตอบกว้างๆ ก็เพราะไม่รู้จักกายใจนี่ไงคะ จึงต้องฝึกต้องทำเพื่อให้รู้จักตนเองหมดทั้งเนื้อทั้งตัว คือ ทั้งรูปทั้งนาม สติเกิดกับกุศลจิตตอนระลึกตามคำสอนได้ตรงสัจจะที่กายใจตนมี เวลาที่โจรงัดบ้านคุณเพื่อขโมยของก็มีสมาธิในการงัดแงะนะ ส่วนคุณลืมกุญแจบ้านงัดบ้านก็คือมีสมาธิเป็นกุศลได้ไหม หลงผิดยึดถือว่ามีบ้านมีกุญแจคืออัตตาตัวตนจะเข้าบ้าน ไม่มีสติเลยระลึกตามคำตถาคตไม่ได้ว่าไม่มีสัตว์บุคคล |
หน้า 6 จากทั้งหมด 14 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |