วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 12:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 205 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 07:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Rosarin
ถ้าคนมีจริงตามที่คุณกรัชกายว่า

จิตของคนอยู่ตรงไหนแล้วก็

มองเห็นจิตได้ยังไงดับแล้ว

ที่กะพริบตาเป็นเห็นใหม่

viewtopic.php?f=1&t=56064&p=422412#p422412




อ้างคำพูด:
พบว่ามีการกล่าวถึงที่อยู่ของ จิต ในเชิงรูปธรรม เรียกว่า"คูหา" หรือถ้ำ
จึงอยากทราบว่า คูหา อันเป็นที่อยู่ของ จิต นั้น ในเชิงรูปธรรม น่าจะอยู่ที่ส่วนใดระหว่างในกระโหลกศรีษะ
หรือในส่วนลำตัว ขอคำชี้แจงจากผู้ที่ได้ศึกษา
ได้กรุณาให้ความกระจ่างด้วยครับผม

https://palungjit.org/threads/%E0%B8%97 ... A1.650198/


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วางคาถาไว้

ทูรงฺคมํ เอกจรํ - อสรีรํ คุหาสยํ
เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ - โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา.


คำแปล: บุคคลเหล่าใด จักสำรวมจิต อันไปในที่ไกล เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำคือกายนี้เป็นที่อาศัย บุคคลเหล่านั้น จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต (=ความคิด) เองเป็นนามธรรมมองไม่เห็น จึงวางสิ่งเป็นรูปธรรมมองเห็นเทียบไว้ก่อน

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าคนมีจริงตามที่คุณกรัชกายว่า
จิตของคนอยู่ตรงไหนแล้วก็
มองเห็นจิตได้ยังไงดับแล้ว

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 08:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อไปชวนสนทนา ใครมีคคห.เรื่องนี้ยังไงก็มาว่ากัน

จขกท. ก่อนเลย

แนะวิธีตามหาจิต

ตำราว่า ที่อยู่ของจิตอยู่ในน้ำเลี้ยงของหัวใจ คร่าวๆประมาณนี้

ทีนี้เกิดมีคนอยากเห็นจิต ตามหาจิต ควักหัวใจออกออกมาผ่าดูจิต ตายเปล่าผ่าดูก็ไม่เห็น เพราะมันไม่ใช่วัตถุไม่ใช่รูปธรรมที่จะมองเห็นได้

ในเบื้องต้น แนะนำวิธีพิสุจน์ง่ายๆ อยากรู้จิตมันอยู่ตรงไหน ให้เอาของแหลมๆ เช่น เข็ม เป็นต้น แทง แทงลงไปที่แขน รู้สึกเจ็บไหม ? เจ็บ นั่นจิตมันอยู่ตรงนั้น แทงที่ขามั่ง แทงแทงลงไปลึกๆ เจ็บไหม เจ็บ นั่นจิตมันอยู่ตรงนั้น แทงแทงลงไปที่ศีรษะ (ที่หัว) แทงเข้าไปลึกๆ ลึก เจ็บไหม เจ็บ นั่นจิตมันอยู่ตรงนั้น ฯลฯ

คุณโรสลองก่อนเลย แทงลงไปลึกๆ แทงไปกะพริบตาไป แล้วจะได้คำตอบว่าจิตของคนมันอยู่ตรงไหน คิกๆๆ

มันดับแล้วมันก็เกิดอีก (เกิด-ดับๆๆๆ) ไม่ใช่ดับแล้วดับเลยเหมือนไฟตกน้ำ คุณโรส เป็นต้น เข้าใจกรณี ดับเกิด เกิดดับ เกิดๆดับๆ ผิดพลาดไปไกล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ


จิตตวิสุทธิ ความหมดจดแห่งจิต คือ ได้ฝึกอบรมจิตจนเกิดสมาธิพอเป็นบาทฐานแห่งวิปัสสนา


จิตตานุปัสสนา สติพิจารณาใจที่เศร้าหมองหรือผ่องแผ้วเป็นอารมณ์ว่าใจนี้ก็สักว่าใจ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา กำหนดรู้จิตตามสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนั้นๆ (มันเป็นยังไงก็ยังงั้นตามที่เป็น)


ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา - เวรึ วา ปน เวรินํ
มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ - ปาปิโย นํ ตโต กเร.

คำแปล: จิตที่บุคคลตั้งไว้ผิด พึงทำเขาให้เลวทรามยิ่งกว่าความฉิบหายที่โจรเห็นโจร หรือคนมีเวรเห็นคนมีเวรทำให้แก่กัน.

น ตํ มาตา ปิตา กยิรา - อญฺเญ วาปิจ ญาตกา
สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ - เสยฺยโส นํ ตโต กเร.


คำแปล: มารดาบิดา ก็หรือว่าญาติเหล่าอื่น พึงทำเหตุนั้นให้ไม่ได้ จิตที่บุคคลตั้งไว้ชอบแล้ว พึงทำเขาให้ประเสริฐกว่าเหตุนั้น.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่างผู้ที่ปฏิบัติถูกต้อง เขาเห็นเบญจขันธ์ ดับ-เกิด เกิด-ดับ...

อ้างคำพูด:
วิปัสสนาญาณ 9 มี ดังนี้

1. อุทยัพพยานุปัสสนา หรือเรียกสั้นๆว่า อุทยัพพยญาณ ญาณหรือปัญญา อันตามเห็นความเกิดดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้น และความดับไปแห่งเบญจขันธ์ จนเห็นปัจจุบันธรรมที่กำลังเกิดขึ้น และดับสลายไปๆ ชัดเจน เข้าใจภาวะที่เป็นของไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่อยู่ในบังคับบัญชาตามความอยากของใคร
หยั่งทราบว่า สิ่งทั้งหลาย เกิดขึ้น ครั้นแล้ว ก็ต้องดับไป ล้วนเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทั้งหมด
เมื่อเกิดการรับรู้ หรือเคลื่อนไหวใดๆ ในแต่ละขณะ ก็มองเห็นนามธรรม รูปธรรม และตัวรู้หรือผู้รู้ที่เกิดขึ้นแล้วทั้งรูปธรรม นามธรรม และตัวรู้นั้นก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด เป็นความรู้เห็นชัดแก่กล้า (พลววิปัสสนา) ทำให้ละนิจจสัญญา สุขสัญญา และอัตตสัญญาได้


เพียงเริ่มต้นแค่นี้ ความคิดฟุ้งซ่านของเขาจะลดลง 60 % :b32: แต่สำหรับคุณโรสนี่ ยังไม่ทำอะไรเลย ความฟุ้งซ่านคิดนั่นๆนี่ๆ จะเกิน 100 % :b13: ถ้าเป็นความเย็นก็ติดลบ ถ้าเป็นความร้อนก็เลยจุดเดือด :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิตแต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs
:b20:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิต แต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs


ตามหาจิต เราก็บอกวิธีตามหาให้แล้ว ก็ย้อนกลับไปที่เดิมอีก นี่

อ้างคำพูด:
คุณโรสนี่เข้าใจอะไรยากจินๆนะ ที่เดินแกว่งไปแกว่งมา ส่ายไปส่ายมานั่นนี่ ไม่ใช่คนหรอ

แล้ว "รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ" นั่นน่ะไม่ใช่ รูปหรอ

แล้วที่ "กาย เวทนา จิต ธรรม" เนี่ย ไม่ใช่กาย ไม่ใช่ร่างกายหรอ


อ้างคำพูด:
Rosarin
คนเป็นสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถสัจจะเข้าใจไหมคะ
แปลว่าสมมุติไม่มีอยู่จริงและที่กำลังมีคือปรมัตถ์ค่ะ


ถามอีกที กาย ใจ เขาเรียกว่า คนไหม ?

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาเรียกว่า คนไหม ?

คำว่า "สมมติ" ไม่ใช่ไปแปลว่า ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่

สมมติ (สํ.มติ) แปลว่า ความเห็นร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกัน เรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่านั่นว่านี่ เช่น เรียกนี่ว่า แมว เรียกนี่ว่าหมา เรียกนี่ว่าคน เรียกนี่ว่ารถ ฯลฯ

สิ่งที่ถูกเรียกนั่น เป็นปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์ (ภาษาทางศาสนา หรือภาษาทางธรรม) แต่เขาสมมุติ คือ มติร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกันเรียกว่า คน เข้าใจไหมน้า

แล้วคนๆหนึ่งๆ ก็เป็นชีวิตหนึ่งๆ เมื่อจำแนกตามภาษาทางศาสนา ท่านก็เรียกว่ามี ๕ กอง หรือ ขันธ์ ๕ เข้าใจไหม โอ๊ย เหนื่อย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออีกที น่าจะได้ดวงตาเห็นธรรม อย่าง กท.หนึ่งนั่น :b12:


สมมติ (สํ.มติ) การรู้ร่วมกัน, การตกลงกัน, การมีมติร่วมกัน หรือยอมรับร่วมกัน; (หยุดคิดทำความเข้าใจก่อน แล้วค่อยไปต่อ) การที่สงฆ์ประชุมกันตกลงมอบหมายหรือแต่งตั้งภิกษุให้ทำกิจหรือเป็นเจ้าหน้าที่ในเรื่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น สมมติภิกษุให้เป็นผู้ให้โอวาทภิกษุณี สมมติภิกษุเป็นภัตตุเทศก์ เป็นต้น ในภาษาไทยใช้ในความหมายว่า ตกลงกันว่า ต่างว่า


สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์ เช่น นาย ก. นาย ข. ช้าง ม้า มด โต๊ะ หนังสือ พ่อ แม่ ลูก เพื่อน เป็นต้น ซึ่งเมื่อกล่าวตามสภาวะ หรือโดยปรมัตถ์แล้ว ก็เป็นเพียงสังขาร หรือนามรูป หรือขันธ์ ๕ เท่านั้น ตรงข้ามกับ ปรมัตถสัจจะ


ปรมัตถสัจจะ ความจริงโดยปรมัตถ์ คือ จริงตามความหมายสูงสุด ตามความหมายแท้อย่างยิ่ง หรือตามความหมายแท้ขั้นสุดท้ายที่ตรงตามสภาวะและเท่าที่พอจะกล่าวถึงได้ หรือพอจะยังพูดให้เข้าใจกันได้ เพื่อสำหรับให้เกิดความรู้ความเข้าใจเท่าทันความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลาย คือ รู้จักสิ่งเหล่านั้นตามที่มันเป็น และเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด คือ การหยั่งรู้สัจธรรม ที่จะทำให้ความยึดติดถือมั่นหลงผิดทั้งหลายสลายหมดไป ทำให้วางใจท่าที่ต่อสิ่งทั้งหลายอย่างถูกต้อง หลุดพ้นจากกิเลสและความทุกข์ มีจิตใจเป็นอิสระ ปลอดโปร่ง ผ่องใส เบิกบาน มีความสุขที่แท้จริง

สิ่งที่เป็นจริงโดยปรมัตถ์ เช่น นามธรรม รูปธรรม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์ ฯลฯ


สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง, ธรรมดา


สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

สภาวทุกข์ ทุกข์ที่เป็นเองตามคติแห่งธรรมดา ได้แก่ ทุกข์ประจำสังขาร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิต แต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs


ตามหาจิต เราก็บอกวิธีตามหาให้แล้ว ก็ย้อนกลับไปที่เดิมอีก นี่

อ้างคำพูด:
คุณโรสนี่เข้าใจอะไรยากจินๆนะ ที่เดินแกว่งไปแกว่งมา ส่ายไปส่ายมานั่นนี่ ไม่ใช่คนหรอ

แล้ว "รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ" นั่นน่ะไม่ใช่ รูปหรอ

แล้วที่ "กาย เวทนา จิต ธรรม" เนี่ย ไม่ใช่กาย ไม่ใช่ร่างกายหรอ


อ้างคำพูด:
Rosarin
คนเป็นสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถสัจจะเข้าใจไหมคะ
แปลว่าสมมุติไม่มีอยู่จริงและที่กำลังมีคือปรมัตถ์ค่ะ


ถามอีกที กาย ใจ เขาเรียกว่า คนไหม ?

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาเรียกว่า คนไหม ?

คำว่า "สมมติ" ไม่ใช่ไปแปลว่า ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่

สมมติ (สํ.มติ) แปลว่า ความเห็นร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกัน เรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่านั่นว่านี่ เช่น เรียกนี่ว่า แมว เรียกนี่ว่าหมา เรียกนี่ว่าคน เรียกนี่ว่ารถ ฯลฯ

สิ่งที่ถูกเรียกนั่น เป็นปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์ (ภาษาทางศาสนา หรือภาษาทางธรรม) แต่เขาสมมุติ คือ มติร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกันเรียกว่า คน เข้าใจไหมน้า

แล้วคนๆหนึ่งๆ ก็เป็นชีวิตหนึ่งๆ เมื่อจำแนกตามภาษาทางศาสนา ท่านก็เรียกว่ามี ๕ กอง หรือ ขันธ์ ๕ เข้าใจไหม โอ๊ย เหนื่อย :b1:

cool
คนไม่มีปัญญาคิดให้ตายก็ตายไปเปล่าๆเพราะคิดว่ามีคนเต็มไปหมด
งั้นพระพุทธเจ้าจะให้สละลูกเมียบริวารลาออกบวชทำไมแค่นี้ก็ไม่คิด
บวชคือสละหมดไม่ให้มีใครมาวุ่นวายในวัดเข้าใจคำว่าสันโดษไหมคะ
คือปลีกวิเวกพิจารณาความจริงตามคำสอนมีกิจคันถธุระวิปัสสนาธุระ
แค่นั้นจะทำสังคมสงเคราะห์เด็กคนป่วยด้วยการขวนขวายหาเงินไม่ได้
แล้วที่ชวนสีกาเข้าวัดมากๆแถมไปนอนคลุกคลีหมู่คณะไม่ใช่สันโดษค่ะ
นอนที่มุงบังมีหลังคาได้แค่1คนจะมีภิกษุเกิน1รูปในที่พักเดียวกันก็ไม่ได้
วัดเป็นที่อยู่พุทธบริษัทที่เป็นบรรพชิตส่วนแม่ชีไม่ใช่นักบวชเป็นอุบาสิกา
จะให้สีกาไปนอนพักค้างคืนในวัดก็ไม่ได้อีกด้วยชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอน
คิดไหมคะวัดนั่นแหละเป็นสถานที่ทำลายคำสอนบวชเพื่อขนบริวารเข้าวัด
เพื่อต้องการลาภสักการะคืออาหารการบริโภคมากๆมีคนขนเงินเข้าไปให้ถูกไหมคะ
พระพุทธเจ้าให้สะดวกในการปฏิบัติแต่ผู้เดียวด้วยความสะดวกสบายไม่มีภาระถูกไหมคะ
แล้วดูทุกวันนี้สิคะทุกคนที่ไปวัดและสำนักปฏิบัติธรรมเข้าใจผิดและไม่ยอมรับฟังคำสอนเลย
ตัวเองก็เหมือนกันยกตำรามาทั้งดุ้นนั่นน่ะไม่เข้าใจอะไรเลยละเลยการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วแต่รู้ด้วยตนเองไม่ได้ถามหน่อยใครบ้างไม่รู้ว่ามีคนสัตว์วัตถุ
ที่ไม่รู้คือไม่ได้มีคนสัตว์วัตถุเป็นความคิดเห็นผิดจากคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะทรงแจกแจงรายละเอียดของตัวธัมมะที่ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนไว้โดยละเอียดเพื่อไม่ให้คิดต่อเอาเอง
แต่ให้ใช้การพิจารณาไตร่ตรองความจริงจากการฟังผู้รู้บอกกล่าวให้เข้าใจถูกตามคำสอนได้โดยละเอียดค่ะ
พระ=ผู้ประเสริฐ/พุทธ=ผู้รู้ตื่นเบิกบาน/ศาสนา=คำสอนรวมกันแปลว่าคำสอนผู้ประเสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
คือความหมายของพระพุทธศาสนาเมื่อพุทธบริษัทศึกษาคำสอนผิดก็ไม่เข้าใจคำสอนส่งเสริมกันผิดๆ
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้ากำลังเสื่อมจากผู้ไม่เข้าใจคำสอนเพราะขาดสติปัญญา
https://youtu.be/KvgNncIDkMw
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 17:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิต แต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs


ตามหาจิต เราก็บอกวิธีตามหาให้แล้ว ก็ย้อนกลับไปที่เดิมอีก นี่

อ้างคำพูด:
คุณโรสนี่เข้าใจอะไรยากจินๆนะ ที่เดินแกว่งไปแกว่งมา ส่ายไปส่ายมานั่นนี่ ไม่ใช่คนหรอ

แล้ว "รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ" นั่นน่ะไม่ใช่ รูปหรอ

แล้วที่ "กาย เวทนา จิต ธรรม" เนี่ย ไม่ใช่กาย ไม่ใช่ร่างกายหรอ


อ้างคำพูด:
Rosarin
คนเป็นสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถสัจจะเข้าใจไหมคะ
แปลว่าสมมุติไม่มีอยู่จริงและที่กำลังมีคือปรมัตถ์ค่ะ


ถามอีกที กาย ใจ เขาเรียกว่า คนไหม ?

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาเรียกว่า คนไหม ?

คำว่า "สมมติ" ไม่ใช่ไปแปลว่า ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่

สมมติ (สํ.มติ) แปลว่า ความเห็นร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกัน เรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่านั่นว่านี่ เช่น เรียกนี่ว่า แมว เรียกนี่ว่าหมา เรียกนี่ว่าคน เรียกนี่ว่ารถ ฯลฯ

สิ่งที่ถูกเรียกนั่น เป็นปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์ (ภาษาทางศาสนา หรือภาษาทางธรรม) แต่เขาสมมุติ คือ มติร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกันเรียกว่า คน เข้าใจไหมน้า

แล้วคนๆหนึ่งๆ ก็เป็นชีวิตหนึ่งๆ เมื่อจำแนกตามภาษาทางศาสนา ท่านก็เรียกว่ามี ๕ กอง หรือ ขันธ์ ๕ เข้าใจไหม โอ๊ย เหนื่อย :b1:

cool
คนไม่มีปัญญาคิดให้ตายก็ตายไปเปล่าๆเพราะคิดว่ามีคนเต็มไปหมด
งั้นพระพุทธเจ้าจะให้สละลูกเมียบริวารลาออกบวชทำไมแค่นี้ก็ไม่คิด
บวชคือสละหมดไม่ให้มีใครมาวุ่นวายในวัดเข้าใจคำว่าสันโดษไหมคะ

คือปลีกวิเวกพิจารณาความจริงตามคำสอนมีกิจคันถธุระวิปัสสนาธุระ
แค่นั้นจะทำสังคมสงเคราะห์เด็กคนป่วยด้วยการขวนขวายหาเงินไม่ได้
แล้วที่ชวนสีกาเข้าวัดมากๆแถมไปนอนคลุกคลีหมู่คณะไม่ใช่สันโดษค่ะ
นอนที่มุงบังมีหลังคาได้แค่1คนจะมีภิกษุเกิน1รูปในที่พักเดียวกันก็ไม่ได้
วัดเป็นที่อยู่พุทธบริษัทที่เป็นบรรพชิตส่วนแม่ชีไม่ใช่นักบวชเป็นอุบาสิกา
จะให้สีกาไปนอนพักค้างคืนในวัดก็ไม่ได้อีกด้วยชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอน
คิดไหมคะวัดนั่นแหละเป็นสถานที่ทำลายคำสอนบวชเพื่อขนบริวารเข้าวัด
เพื่อต้องการลาภสักการะคืออาหารการบริโภคมากๆมีคนขนเงินเข้าไปให้ถูกไหมคะ
พระพุทธเจ้าให้สะดวกในการปฏิบัติแต่ผู้เดียวด้วยความสะดวกสบายไม่มีภาระถูกไหมคะ
แล้วดูทุกวันนี้สิคะทุกคนที่ไปวัดและสำนักปฏิบัติธรรมเข้าใจผิดและไม่ยอมรับฟังคำสอนเลย
ตัวเองก็เหมือนกันยกตำรามาทั้งดุ้นนั่นน่ะไม่เข้าใจอะไรเลยละเลยการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วแต่รู้ด้วยตนเองไม่ได้ถามหน่อยใครบ้างไม่รู้ว่ามีคนสัตว์วัตถุ
ที่ไม่รู้คือไม่ได้มีคนสัตว์วัตถุเป็นความคิดเห็นผิดจากคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะทรงแจกแจงรายละเอียดของตัวธัมมะที่ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนไว้โดยละเอียดเพื่อไม่ให้คิดต่อเอาเอง
แต่ให้ใช้การพิจารณาไตร่ตรองความจริงจากการฟังผู้รู้บอกกล่าวให้เข้าใจถูกตามคำสอนได้โดยละเอียดค่ะ
พระ=ผู้ประเสริฐ/พุทธ=ผู้รู้ตื่นเบิกบาน/ศาสนา=คำสอนรวมกันแปลว่าคำสอนผู้ประเสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
คือความหมายของพระพุทธศาสนาเมื่อพุทธบริษัทศึกษาคำสอนผิดก็ไม่เข้าใจคำสอนส่งเสริมกันผิดๆ
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้ากำลังเสื่อมจากผู้ไม่เข้าใจคำสอนเพราะขาดสติปัญญา
https://youtu.be/KvgNncIDkMw



สันโดษงอกมาอีกแระ

เอ้าจะให้สละลูกเมีย ทรัพย์สมบัติเรือกสวนไร่นา บวชอย่างพระพุทธเจ้า คิกๆๆ

คุณโรสตอบตรงๆสักทีนะ ขอร้อง

พระพุทธเจ้าสละพ่อลูกเมียไปบวช แล้วกลับไปช่วยพ่อ ช่วยลูก ช่วยเมียไหมขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิต แต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs


ตามหาจิต เราก็บอกวิธีตามหาให้แล้ว ก็ย้อนกลับไปที่เดิมอีก นี่

อ้างคำพูด:
คุณโรสนี่เข้าใจอะไรยากจินๆนะ ที่เดินแกว่งไปแกว่งมา ส่ายไปส่ายมานั่นนี่ ไม่ใช่คนหรอ

แล้ว "รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ" นั่นน่ะไม่ใช่ รูปหรอ

แล้วที่ "กาย เวทนา จิต ธรรม" เนี่ย ไม่ใช่กาย ไม่ใช่ร่างกายหรอ


อ้างคำพูด:
Rosarin
คนเป็นสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถสัจจะเข้าใจไหมคะ
แปลว่าสมมุติไม่มีอยู่จริงและที่กำลังมีคือปรมัตถ์ค่ะ


ถามอีกที กาย ใจ เขาเรียกว่า คนไหม ?

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาเรียกว่า คนไหม ?

คำว่า "สมมติ" ไม่ใช่ไปแปลว่า ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่

สมมติ (สํ.มติ) แปลว่า ความเห็นร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกัน เรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่านั่นว่านี่ เช่น เรียกนี่ว่า แมว เรียกนี่ว่าหมา เรียกนี่ว่าคน เรียกนี่ว่ารถ ฯลฯ

สิ่งที่ถูกเรียกนั่น เป็นปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์ (ภาษาทางศาสนา หรือภาษาทางธรรม) แต่เขาสมมุติ คือ มติร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกันเรียกว่า คน เข้าใจไหมน้า

แล้วคนๆหนึ่งๆ ก็เป็นชีวิตหนึ่งๆ เมื่อจำแนกตามภาษาทางศาสนา ท่านก็เรียกว่ามี ๕ กอง หรือ ขันธ์ ๕ เข้าใจไหม โอ๊ย เหนื่อย :b1:

cool
คนไม่มีปัญญาคิดให้ตายก็ตายไปเปล่าๆเพราะคิดว่ามีคนเต็มไปหมด
งั้นพระพุทธเจ้าจะให้สละลูกเมียบริวารลาออกบวชทำไมแค่นี้ก็ไม่คิด
บวชคือสละหมดไม่ให้มีใครมาวุ่นวายในวัดเข้าใจคำว่าสันโดษไหมคะ

คือปลีกวิเวกพิจารณาความจริงตามคำสอนมีกิจคันถธุระวิปัสสนาธุระ
แค่นั้นจะทำสังคมสงเคราะห์เด็กคนป่วยด้วยการขวนขวายหาเงินไม่ได้
แล้วที่ชวนสีกาเข้าวัดมากๆแถมไปนอนคลุกคลีหมู่คณะไม่ใช่สันโดษค่ะ
นอนที่มุงบังมีหลังคาได้แค่1คนจะมีภิกษุเกิน1รูปในที่พักเดียวกันก็ไม่ได้
วัดเป็นที่อยู่พุทธบริษัทที่เป็นบรรพชิตส่วนแม่ชีไม่ใช่นักบวชเป็นอุบาสิกา
จะให้สีกาไปนอนพักค้างคืนในวัดก็ไม่ได้อีกด้วยชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอน
คิดไหมคะวัดนั่นแหละเป็นสถานที่ทำลายคำสอนบวชเพื่อขนบริวารเข้าวัด
เพื่อต้องการลาภสักการะคืออาหารการบริโภคมากๆมีคนขนเงินเข้าไปให้ถูกไหมคะ
พระพุทธเจ้าให้สะดวกในการปฏิบัติแต่ผู้เดียวด้วยความสะดวกสบายไม่มีภาระถูกไหมคะ
แล้วดูทุกวันนี้สิคะทุกคนที่ไปวัดและสำนักปฏิบัติธรรมเข้าใจผิดและไม่ยอมรับฟังคำสอนเลย
ตัวเองก็เหมือนกันยกตำรามาทั้งดุ้นนั่นน่ะไม่เข้าใจอะไรเลยละเลยการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วแต่รู้ด้วยตนเองไม่ได้ถามหน่อยใครบ้างไม่รู้ว่ามีคนสัตว์วัตถุ
ที่ไม่รู้คือไม่ได้มีคนสัตว์วัตถุเป็นความคิดเห็นผิดจากคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะทรงแจกแจงรายละเอียดของตัวธัมมะที่ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนไว้โดยละเอียดเพื่อไม่ให้คิดต่อเอาเอง
แต่ให้ใช้การพิจารณาไตร่ตรองความจริงจากการฟังผู้รู้บอกกล่าวให้เข้าใจถูกตามคำสอนได้โดยละเอียดค่ะ
พระ=ผู้ประเสริฐ/พุทธ=ผู้รู้ตื่นเบิกบาน/ศาสนา=คำสอนรวมกันแปลว่าคำสอนผู้ประเสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
คือความหมายของพระพุทธศาสนาเมื่อพุทธบริษัทศึกษาคำสอนผิดก็ไม่เข้าใจคำสอนส่งเสริมกันผิดๆ
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้ากำลังเสื่อมจากผู้ไม่เข้าใจคำสอนเพราะขาดสติปัญญา
https://youtu.be/KvgNncIDkMw



สันโดษงอกมาอีกแระ

เอ้าจะให้สละลูกเมีย ทรัพย์สมบัติเรือกสวนไร่นา บวชอย่างพระพุทธเจ้า คิกๆๆ

คุณโรสตอบตรงๆสักทีนะ ขอร้อง

พระพุทธเจ้าสละพ่อลูกเมียไปบวช แล้วกลับไปช่วยพ่อ ช่วยลูก ช่วยเมียไหมขอรับ

Kiss
ก็ถ้ารู้ตัวว่ายังอยากกินอาหารอร่อยๆปรุงด้วยตัวเองได้
เก็บสะสมข้าวของได้สารพัดใช้เงินทองได้ไม่มีอาบัติ
บวชแล้วหลอกชาวบ้านว่าทำตามคำสอนได้อายไหม
คนเราเนี่ยนะปฏิเสธสิ่งที่ตนทำไม่ได้เลยนะคะเพราะ
กิเลสตนทำร้ายจิตตนไม่มีใครรองรับกรรมให้ใครได้
จำแต่ชื่อบัญญัติคำต่างๆและเรื่องราวของพระพุทธเจ้า
ตายแล้วลืมเพราะปัญญาตนรู้ตามได้ทีละ1คำตรงจริง
ตรง1คำวาจาสัจจะที่เป็นปรมัตถสัจจะตรงทางตามจริง
:b8:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 20:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
มีจิตคือมีวิญญาณหรือมีวิญญาณขันธ์ที่รู้โลกว่ามีชีวิต แต่ชีวิตคืออะไร
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่สำหรับท่องหรือจำแบบวิชาการทางโลก
แต่เป็นการศึกษาความจริงที่กายใจตนเองกำลังมีตรงตามเสียงเพื่อรู้ชัด
สิ่งที่กำลังมีจริงๆที่กำลังปรากฏตามเป็นจริงตอนลืมตาตื่นรู้ตามปกติที่มีชีวิต
ถ้าตายมีแต่กายก็รู้ความจริงตามไม่ได้เพราะความจริงรู้ถูกตามได้ที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เรียนกายใจที่กำลังมีตามฟังเสียงทีละคำคือเข้าถึงความจริงที่กำลังตรงตามที่กำลังฟัง
เพราะขณะที่กำลังฟังตรงเสียงเข้าใจความหมายของเสียงนั้นไม่มีสิ่งอื่นแล้วเข้าใจไหมคะ
https://youtu.be/zn2omjO32gs


ตามหาจิต เราก็บอกวิธีตามหาให้แล้ว ก็ย้อนกลับไปที่เดิมอีก นี่

อ้างคำพูด:
คุณโรสนี่เข้าใจอะไรยากจินๆนะ ที่เดินแกว่งไปแกว่งมา ส่ายไปส่ายมานั่นนี่ ไม่ใช่คนหรอ

แล้ว "รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ" นั่นน่ะไม่ใช่ รูปหรอ

แล้วที่ "กาย เวทนา จิต ธรรม" เนี่ย ไม่ใช่กาย ไม่ใช่ร่างกายหรอ


อ้างคำพูด:
Rosarin
คนเป็นสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถสัจจะเข้าใจไหมคะ
แปลว่าสมมุติไม่มีอยู่จริงและที่กำลังมีคือปรมัตถ์ค่ะ


ถามอีกที กาย ใจ เขาเรียกว่า คนไหม ?

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เขาเรียกว่า คนไหม ?

คำว่า "สมมติ" ไม่ใช่ไปแปลว่า ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ ไม่ใช่

สมมติ (สํ.มติ) แปลว่า ความเห็นร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกัน เรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่านั่นว่านี่ เช่น เรียกนี่ว่า แมว เรียกนี่ว่าหมา เรียกนี่ว่าคน เรียกนี่ว่ารถ ฯลฯ

สิ่งที่ถูกเรียกนั่น เป็นปรมัตถ์ เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์ (ภาษาทางศาสนา หรือภาษาทางธรรม) แต่เขาสมมุติ คือ มติร่วมกัน ข้อตกลงร่วมกันเรียกว่า คน เข้าใจไหมน้า

แล้วคนๆหนึ่งๆ ก็เป็นชีวิตหนึ่งๆ เมื่อจำแนกตามภาษาทางศาสนา ท่านก็เรียกว่ามี ๕ กอง หรือ ขันธ์ ๕ เข้าใจไหม โอ๊ย เหนื่อย :b1:

cool
คนไม่มีปัญญาคิดให้ตายก็ตายไปเปล่าๆเพราะคิดว่ามีคนเต็มไปหมด
งั้นพระพุทธเจ้าจะให้สละลูกเมียบริวารลาออกบวชทำไมแค่นี้ก็ไม่คิด
บวชคือสละหมดไม่ให้มีใครมาวุ่นวายในวัดเข้าใจคำว่าสันโดษไหมคะ

คือปลีกวิเวกพิจารณาความจริงตามคำสอนมีกิจคันถธุระวิปัสสนาธุระ
แค่นั้นจะทำสังคมสงเคราะห์เด็กคนป่วยด้วยการขวนขวายหาเงินไม่ได้
แล้วที่ชวนสีกาเข้าวัดมากๆแถมไปนอนคลุกคลีหมู่คณะไม่ใช่สันโดษค่ะ
นอนที่มุงบังมีหลังคาได้แค่1คนจะมีภิกษุเกิน1รูปในที่พักเดียวกันก็ไม่ได้
วัดเป็นที่อยู่พุทธบริษัทที่เป็นบรรพชิตส่วนแม่ชีไม่ใช่นักบวชเป็นอุบาสิกา
จะให้สีกาไปนอนพักค้างคืนในวัดก็ไม่ได้อีกด้วยชีพราหมณ์ไม่มีในคำสอน
คิดไหมคะวัดนั่นแหละเป็นสถานที่ทำลายคำสอนบวชเพื่อขนบริวารเข้าวัด
เพื่อต้องการลาภสักการะคืออาหารการบริโภคมากๆมีคนขนเงินเข้าไปให้ถูกไหมคะ
พระพุทธเจ้าให้สะดวกในการปฏิบัติแต่ผู้เดียวด้วยความสะดวกสบายไม่มีภาระถูกไหมคะ
แล้วดูทุกวันนี้สิคะทุกคนที่ไปวัดและสำนักปฏิบัติธรรมเข้าใจผิดและไม่ยอมรับฟังคำสอนเลย
ตัวเองก็เหมือนกันยกตำรามาทั้งดุ้นนั่นน่ะไม่เข้าใจอะไรเลยละเลยการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วแต่รู้ด้วยตนเองไม่ได้ถามหน่อยใครบ้างไม่รู้ว่ามีคนสัตว์วัตถุ
ที่ไม่รู้คือไม่ได้มีคนสัตว์วัตถุเป็นความคิดเห็นผิดจากคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะทรงแจกแจงรายละเอียดของตัวธัมมะที่ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนไว้โดยละเอียดเพื่อไม่ให้คิดต่อเอาเอง
แต่ให้ใช้การพิจารณาไตร่ตรองความจริงจากการฟังผู้รู้บอกกล่าวให้เข้าใจถูกตามคำสอนได้โดยละเอียดค่ะ
พระ=ผู้ประเสริฐ/พุทธ=ผู้รู้ตื่นเบิกบาน/ศาสนา=คำสอนรวมกันแปลว่าคำสอนผู้ประเสริฐผู้รู้ตื่นเบิกบาน
คือความหมายของพระพุทธศาสนาเมื่อพุทธบริษัทศึกษาคำสอนผิดก็ไม่เข้าใจคำสอนส่งเสริมกันผิดๆ
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้ากำลังเสื่อมจากผู้ไม่เข้าใจคำสอนเพราะขาดสติปัญญา
https://youtu.be/KvgNncIDkMw



สันโดษงอกมาอีกแระ

เอ้าจะให้สละลูกเมีย ทรัพย์สมบัติเรือกสวนไร่นา บวชอย่างพระพุทธเจ้า คิกๆๆ

คุณโรสตอบตรงๆสักทีนะ ขอร้อง

พระพุทธเจ้าสละพ่อลูกเมียไปบวช แล้วกลับไปช่วยพ่อ ช่วยลูก ช่วยเมียไหมขอรับ

Kiss
ก็ถ้ารู้ตัวว่ายังอยากกินอาหารอร่อยๆปรุงด้วยตัวเองได้
เก็บสะสมข้าวของได้สารพัดใช้เงินทองได้ไม่มีอาบัติ
บวชแล้วหลอกชาวบ้านว่าทำตามคำสอนได้อายไหม
คนเราเนี่ยนะปฏิเสธสิ่งที่ตนทำไม่ได้เลยนะคะเพราะ
กิเลสตนทำร้ายจิตตนไม่มีใครรองรับกรรมให้ใครได้
จำแต่ชื่อบัญญัติคำต่างๆและเรื่องราวของพระพุทธเจ้า
ตายแล้วลืมเพราะปัญญาตนรู้ตามได้ทีละ1คำตรงจริง
ตรง1คำวาจาสัจจะที่เป็นปรมัตถสัจจะตรงทางตามจริง


พูดถึงอาบัติ เป็นอาบัติข้อไหนนะ เอาชัดๆสิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2018, 13:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คาถาเกี่ยวกับจิต

สุทุทฺทสํ สุนิปุณํ - ยตฺถกามนิปาตินํ
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี - จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ.



แปลว่า: บุคคลผู้มีปัญญา พึงรักษาจิต ที่เห็นได้ยากแสนยาก ละเอียดยิ่งนัก มักตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ จิตที่คุ้มครองไว้ได้แล้ว เป็นเหตุนำความสุขมาให้.


ทุนฺนิคฺคหสฺส ลหุโน - ยตฺถ กามนิปาติโน
จิตฺตสฺส สมโถ สาธุ - จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ.


แปลเป็นไทยๆว่า: การฝึกจิตอันข่มได้ยาก เป็นธรรมชาติเร็ว มักตกไปในอารมณ์ความใคร่ เป็นการดี
จิตที่ฝึกดีแล้วเป็นเหตุนำความสุขมาให้.

(ถ้ายังตามหาจิตกันไม่เจอะแล้วจะฝึกจิตกันยังไง จริงไหมคุณโรส)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 205 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร