วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 07:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสเจอะตัวอย่างภาคปฏิบัติทางจิต (กรรมฐาน) ทีไรคงเบื่อเหมือนยาขมทิ้งกระทู้ทุกที :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2018, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสพูดบ้อยบ่อย กิเลส กิเลส กิเลส ดูความหมาย


กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ ่ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหา ความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์, กิเลส ๑๐ (ในบาลี เดิม เรียกว่ากิเสลวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

(เท่านั้นพอเดี๋ยวจะเฝือ)


อนึ่ง ในอรรถกถา ท่านนิยมจำแนก กิเลส เป็น ๓ ระดับ ตามลำดับขั้นของการละด้วยสิกขา ๓ (เช่น วินย.อ.1/22 ฯลฯ) คือ

๑. วีติกกมกิเลส กิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย และวาจา เช่น เป็นกายทุจริต และวจีทุจริต ละด้วย ศีล (อธิศีลสิกขา)

๒. ปริยุฏฐานกิเลส กิเลสอย่างกลางที่พลุ่งขึ้นมาเร้ารุมอยู่ในจิตใจ ดังเช่น นิวรณ์ ๕ ในกรณีที่จะข่มระงับไว้ ละด้วยสมาธิ (อธิจิตตสิกขา)

๓. อนุสัยกิเลส กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน อันยังไม่ถูกกระตุ้นให้พลุ่งขึ้นมา ได้แก่ อนุสัย ๗ ละด้วยปัญญา (อธิปัญญาสิกขา)

(การเอาชนะกิเลสในใจ มันไม่ง่ายอย่างปากพูดดอก ยอมรับความจริงแล้วจะสบายใจ ถ้ามันง่ายๆดังพูดสังคมโลกคงไม่วุ่นวายดอก)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ไม่ลองฟังหน่อยหรือคะพระพุทธพจน์ไม่ว่าฟังจากใครก็รู้จักกิเลสตัวเองค่ะ
:b12:
มีสิ่งเดียวที่เห็นได้คือหลับตาแล้วไม่มี
อยู่ในโลกของความคิดคนเดียว
ตั้งแต่เกิดจนตายทำอยู่
แค่2อย่างคือคิดดี
กับคิดไม่ดี
เอาไปได้
แค่ดีชั่ว
ที่ตัวทำ
:b4: :b4:
https://youtu.be/G7kLV6biUO8


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ไม่ลองฟังหน่อยหรือคะพระพุทธพจน์ไม่ว่าฟังจากใครก็รู้จักกิเลสตัวเองค่ะ
:b12:
มีสิ่งเดียวที่เห็นได้คือหลับตาแล้วไม่มี
อยู่ในโลกของความคิดคนเดียว
ตั้งแต่เกิดจนตายทำอยู่
แค่2อย่างคือคิดดี
กับคิดไม่ดี
เอาไปได้
แค่ดีชั่ว
ที่ตัวทำ
:b4: :b4:
https://youtu.be/G7kLV6biUO8


คุณโรสคุณเลิกฟังเถอะครับ แล้วมาตอบคำถามกรัชกาย ตอบตรงๆคำ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2018, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2018, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ


คุณโรสเข้าใจธัมมะเป็นอะไร สมาธิ มันก็เป็นธัมมะ หรือคุณโรสว่าสมาธิไม่ใช่ธัมมะ

1. สมาธิ ไม่ใช่ธัมมะ

2. ธัมมะ ไม่ใช่สมาธิ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2018, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ


คุณโรสเข้าใจธัมมะเป็นอะไร สมาธิ มันก็เป็นธัมมะ หรือคุณโรสว่าสมาธิไม่ใช่ธัมมะ

1. สมาธิ ไม่ใช่ธัมมะ

2. ธัมมะ ไม่ใช่สมาธิ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ไหนมีตำราเรียนยังไงไม่รู้ว่าสมาธิคือธัมมะอะไร
ตัวเลือกก็ไม่ถูกตัวเลือกมีอยู่4ตัวเลือกตามคำสอนคือ
1จิต
2เจตสิก
3รูป
4นิพพาน
สมาธิคือ1ใน4นี้แหละไปหามาตอบให้ถูกนะคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2018, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ


คุณโรสเข้าใจธัมมะเป็นอะไร สมาธิ มันก็เป็นธัมมะ หรือคุณโรสว่าสมาธิไม่ใช่ธัมมะ

1. สมาธิ ไม่ใช่ธัมมะ

2. ธัมมะ ไม่ใช่สมาธิ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ไหนมีตำราเรียนยังไงไม่รู้ว่าสมาธิคือธัมมะอะไร
ตัวเลือกก็ไม่ถูกตัวเลือกมีอยู่4ตัวเลือกตามคำสอนคือ
1จิต
2เจตสิก
3รูป
4นิพพาน
สมาธิคือ1ใน4นี้แหละไปหามาตอบให้ถูกนะคะ
:b32: :b32:


นี่แหละเขาเรียกกอดตำราแน่น คิกๆๆ จิ เจ รุ นิ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2018, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ


คุณโรสเข้าใจธัมมะเป็นอะไร สมาธิ มันก็เป็นธัมมะ หรือคุณโรสว่าสมาธิไม่ใช่ธัมมะ

1. สมาธิ ไม่ใช่ธัมมะ

2. ธัมมะ ไม่ใช่สมาธิ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ไหนมีตำราเรียนยังไงไม่รู้ว่าสมาธิคือธัมมะอะไร
ตัวเลือกก็ไม่ถูกตัวเลือกมีอยู่4ตัวเลือกตามคำสอนคือ
1จิต
2เจตสิก
3รูป
4นิพพาน
สมาธิคือ1ใน4นี้แหละไปหามาตอบให้ถูกนะคะ
:b32: :b32:


นี่แหละเขาเรียกกอดตำราแน่น คิกๆๆ จิ เจ รุ นิ :b1:

:b16:
เรียนรู้ที่กายใจตนเองแต่อาศัยสุตมยปัญญาโดยมีกาลามสูตร10กำกับไม่ว่าจะสุจิปุลิเขียนให้เข้าใจตาม
อันนั่งขัตสมาธิหลับตาเขาก็นั่งจนรู้ว่ามีแต่จิตกายมันไม่รู้สึกว่ามีที่ใจไม่ส่งออกไปรู้มั่วๆที่ส่งออกไปไหน
ดิ่งรวมสงบลงไปเลยแค่1ชม.ไม่เห็นต้องไปนั่งเพื่อเอาฤทธิ์เอาเดชอะไรออกทางวิปัสสนาสะสมปัญญา
เพราะเป็นกิจของปัญญาทำหน้าที่ไม่มีเราเข้าไปจัดการอะไรฟังเพื่อรู้และเข้าใจใครจะรู้วันไหนจะตาย
พึ่งคำสอนต้องอาศัยการฟังตรงจริงใครไม่ฟังแสดงว่าปัญญาไม่เพิ่มขึ้นเพราะทางเกิดปัญญาคือสุตะ
:b11:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2018, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คุณกรัชกายรู้ทฤษฎืเยอะน่าจะหามาแปะให้คนอ่านนะคะ :b32:



ว่าดังนั้น ก็เอาตัวอย่างนี้เลย มีนิดเดียวสังเกตดู

อ้างคำพูด:
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ


ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา ๔


แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง ....กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย ...เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า
"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างปีติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดังก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น


พอเห็นเค้าไหมขอรับ

cool
นอนตึกชั้นสูงสุดหรือคะถึงได้เป็น...ระดับสูงสุดอิอิ
สมาธิคือธัมมะอะไรอธิบายมาก่อนว่ารู้แค่ไหนนะคะ


คุณโรสเข้าใจธัมมะเป็นอะไร สมาธิ มันก็เป็นธัมมะ หรือคุณโรสว่าสมาธิไม่ใช่ธัมมะ

1. สมาธิ ไม่ใช่ธัมมะ

2. ธัมมะ ไม่ใช่สมาธิ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

:b12:
ไหนมีตำราเรียนยังไงไม่รู้ว่าสมาธิคือธัมมะอะไร
ตัวเลือกก็ไม่ถูกตัวเลือกมีอยู่4ตัวเลือกตามคำสอนคือ
1จิต
2เจตสิก
3รูป
4นิพพาน
สมาธิคือ1ใน4นี้แหละไปหามาตอบให้ถูกนะคะ
:b32: :b32:


นี่แหละเขาเรียกกอดตำราแน่น คิกๆๆ จิ เจ รุ นิ :b1:

:b16:
เรียนรู้ที่กายใจตนเองแต่อาศัยสุตมยปัญญาโดยมีกาลามสูตร10กำกับไม่ว่าจะสุจิปุลิเขียนให้เข้าใจตาม
อันนั่งขัตสมาธิหลับตาเขาก็นั่งจนรู้ว่ามีแต่จิตกายมันไม่รู้สึกว่ามีที่ใจไม่ส่งออกไปรู้มั่วๆที่ส่งออกไปไหน
ดิ่งรวมสงบลงไปเลยแค่1ชม.ไม่เห็นต้องไปนั่งเพื่อเอาฤทธิ์เอาเดชอะไรออกทางวิปัสสนาสะสมปัญญา
เพราะเป็นกิจของปัญญาทำหน้าที่ไม่มีเราเข้าไปจัดการอะไรฟังเพื่อรู้และเข้าใจใครจะรู้วันไหนจะตาย
พึ่งคำสอนต้องอาศัยการฟังตรงจริงใครไม่ฟังแสดงว่าปัญญาไม่เพิ่มขึ้นเพราะทางเกิดปัญญาคือสุตะ



กายที่คุณโรสคิด ใช่กายในกายนุปัสสนาไหมขอรับ

วิปัสสนาที่ว่าอะไรหรือขอรับ เอาชัดๆ

อ้อมีสุ จิ ปุ ลิด้วย อะไร ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 139 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร