วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 22:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2018, 23:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ค. 2015, 21:25
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมไม่เคยเข้าใจศาสนาจริงจัง แม่ผมชอบทำบุญ ผมชอบทำบาป เป็นเด็กบ้านนอกชอบ ยิงนกตกปลา
ผมเคยฆ่าหมาแมวนก เพราะอยู่กับ ผู้ใหญ่ในหมูบ้านที่เขาทำกันแบบนั้น แม่ห้ามผมก็เถียง
เพราะมันตรงจริตผม แล้วมาอายุ 15 ผมก็ตกชตาขาดได้รับความทุกร์ทางสุขภาพแสนสาหัต
จนผมคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ใจไม่กล้า กลัวเจ็บ อยู่กับกองทุกข์ วันนึงผมฟังพระเทศเรื่อง คำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมก็รู้สึกว่าทำให้ผมสบายใจมีใจนิ่งขึ้นมีความสุขได้บ้าง ผมเริ่มศึกษาและฟังผู้สอนหลักคำสอน ผมจะชอบฟัง
แต่คำสอนที่พระพุทเจ้าท่านสอน ไม่ชอบฟังแบบเล่านิทานนักที่ฟังก็มี เสียงธรรมจากมหาลัยศรีประทุม ตอน 2 ทุ่ม ฟังทุกคืน และตีห้าจะตื่นมาฟังพระเทศเอาเรื่องในพระไตรปิฏกมาเล่า ผมดีขึ้นมาก มีความสุข และเริ่มเข้าใจว่าพระท่านบอกให้รักษาศิล ให้ได้ครบ และทำกรรมฐานจะมีสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
เช้าของทุกวัน ผมจะตั้งจิตว่าวันนี้ผมจะทำศิลของผมทุกข้อให้บริสุทธ ผมเริ่มรักษาศิล ตั้งแต่ ม4 ถึง ปี 1-2 ศิล 5 ผมแทบไม่เคยขาด ผมทำอะไรพูดอะไร ผมจะระลึก
เสมอว่า ผมได้ทำผิดศิลข้อไหนหรือไม่ ผมพูดน้อยมาก จนเพื่อนๆไม่ครบ และบอกผมหยิ่ง วันนึ่ง ผมแทบไม่พูด และตั้งใจไม่ให้เกิน 29 คำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วันหนึ่ง ผมนั่งรถกลับบ้านใน ตจว ผมนั่ง และหลับตา
และท่องพุทโธ ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น ซักพัก ผมไม่เข้าใจว่า ตัวผมหายไปไหน ผมไม่สามารถได้ยินอะไร หรือ ไม่รู้สึกว่ารถกระแทกเลย ลมหายใจผมก็ไม่มี มีแต่แสงสว่างขาวไปหมดแบบแสงนีออน ผมไม่สามารถรับรู้ว่าผมกำลังนั้งรถ ผมพยายามฟืน ด้วยความตกใจ ผมพยายาม หาตัวตน มันไม่มี หรือว่าผมตาย แล้วอยู่ๆผมก็ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาที่สั้นๆที่ผมวูปลงไป รถได้วิ่งมาเกือบ ชม แล้ว ผมแปลกใจว่าสิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน ของแท้ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นว่าสมาธิมีจริง ช่วงนั้นผมเจออะไรแปลกบ่อยมาก เรื่องเปรตผมไม่เคยเห็นตัว แต่ผมได้ยินเสียงข้างหน้าต่างห้องดังทุ้มแหลมน่ากลัวมาก แทบทุกวันพระช่วงตีสาม ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 08:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ผมไม่เคยเข้าใจศาสนาจริงจัง แม่ผมชอบทำบุญ ผมชอบทำบาป เป็นเด็กบ้านนอกชอบ ยิงนกตกปลา
ผมเคยฆ่าหมาแมวนก เพราะอยู่กับ ผู้ใหญ่ในหมูบ้านที่เขาทำกันแบบนั้น แม่ห้ามผมก็เถียง
เพราะมันตรงจริตผม แล้วมาอายุ 15 ผมก็ตกชตาขาดได้รับความทุกร์ทางสุขภาพแสนสาหัต
จนผมคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ใจไม่กล้า กลัวเจ็บ อยู่กับกองทุกข์ วันนึงผมฟังพระเทศเรื่อง คำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมก็รู้สึกว่าทำให้ผมสบายใจมีใจนิ่งขึ้นมีความสุขได้บ้าง ผมเริ่มศึกษาและฟังผู้สอนหลักคำสอน ผมจะชอบฟัง
แต่คำสอนที่พระพุทเจ้าท่านสอน ไม่ชอบฟังแบบเล่านิทานนักที่ฟังก็มี เสียงธรรมจากมหาลัยศรีประทุม ตอน 2 ทุ่ม ฟังทุกคืน และตีห้าจะตื่นมาฟังพระเทศเอาเรื่องในพระไตรปิฏกมาเล่า ผมดีขึ้นมาก มีความสุข และเริ่มเข้าใจว่าพระท่านบอกให้รักษาศิล ให้ได้ครบ และทำกรรมฐานจะมีสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
เช้าของทุกวัน ผมจะตั้งจิตว่าวันนี้ผมจะทำศิลของผมทุกข้อให้บริสุทธ ผมเริ่มรักษาศิล ตั้งแต่ ม4 ถึง ปี 1-2 ศิล 5 ผมแทบไม่เคยขาด ผมทำอะไรพูดอะไร ผมจะระลึก
เสมอว่า ผมได้ทำผิดศิลข้อไหนหรือไม่ ผมพูดน้อยมาก จนเพื่อนๆไม่ครบ และบอกผมหยิ่ง วันนึ่ง ผมแทบไม่พูด และตั้งใจไม่ให้เกิน 29 คำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วันหนึ่ง ผมนั่งรถกลับบ้านใน ตจว ผมนั่ง และหลับตา
และท่องพุทโธ ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น ซักพัก ผมไม่เข้าใจว่า ตัวผมหายไปไหน ผมไม่สามารถได้ยินอะไร หรือ ไม่รู้สึกว่ารถกระแทกเลย ลมหายใจผมก็ไม่มี มีแต่แสงสว่างขาวไปหมดแบบแสงนีออน ผมไม่สามารถรับรู้ว่าผมกำลังนั้งรถ ผมพยายามฟืน ด้วยความตกใจ ผมพยายาม หาตัวตน มันไม่มี หรือว่าผมตาย แล้วอยู่ๆผมก็ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาที่สั้นๆที่ผมวูปลงไป รถได้วิ่งมาเกือบ ชม แล้ว ผมแปลกใจว่าสิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน ของแท้ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นว่าสมาธิมีจริง ช่วงนั้นผมเจออะไรแปลกบ่อยมาก เรื่องเปรตผมไม่เคยเห็นตัว แต่ผมได้ยินเสียงข้างหน้าต่างห้องดังทุ้มแหลมน่ากลัวมาก แทบทุกวันพระช่วงตีสาม ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.



อ้างคำพูด:
ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.


มีคำตอบอยู่ในคำถามแล้วครับ

ความสุขจากที่จิตสงบ

วันที่ทำบนรถมันมีสมาธิ ทุกวันนี้จิตใจมันวุ่นๆอยู่กับภาระหน้าที่ จิตก็พร่าไม่รวมเป็นหนึ่งได้

ตอนนี้ แม้เราจะมีภาระหน้าที่การงาน เราก็ใช้งานใช้สิ่งที่กำลังทำนั่นเป็นที่ทำงานของจิตได้ คือ ให้จิตใจอยู่กับสิ่งที่ทำนั่น กล่าวคือให้จิตใจอยู่กับงานที่ทำ จิตก็ง่วนอยู่กับงานนั่นด้วย งานก็ได้ผลดีด้วย ไม่หลงไม่ลืม

เราเลิกงานแล้ว ก่อนนอนก็ใช้เวลาฝึกสัก 5-10 นาที ครบเวลาแล้วจึงนอน ค่อยๆฝึกค่อยๆทำไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ จขกท. ดู ตย.หนึ่ง

อ้างคำพูด:
แฟนเป็นคนที่เสเพลมาก กินเหล้า แบบว่าไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ
แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต
ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน

ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟน ก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆเมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ

เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไรเวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน

เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ

กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติ
เค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน

เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ

ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีกความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี

ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนานก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย
มันน่าน้อยใจนัก!!


เมื่อจิตสงบ ความสุขก็เกิด เป็นธรรมดาของมัน

ตัวหงตัวหายอะไรต่างๆเหล่านั้น ก็สภาวะของสมาธิเช่นกัน ตย.นี้

http://larndham.org/index.php?/topic/27 ... ntry393770

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ผมไม่เคยเข้าใจศาสนาจริงจัง แม่ผมชอบทำบุญ ผมชอบทำบาป เป็นเด็กบ้านนอกชอบ ยิงนกตกปลา
ผมเคยฆ่าหมาแมวนก เพราะอยู่กับ ผู้ใหญ่ในหมูบ้านที่เขาทำกันแบบนั้น แม่ห้ามผมก็เถียง
เพราะมันตรงจริตผม แล้วมาอายุ 15 ผมก็ตกชตาขาดได้รับความทุกร์ทางสุขภาพแสนสาหัต
จนผมคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ใจไม่กล้า กลัวเจ็บ อยู่กับกองทุกข์ วันนึงผมฟังพระเทศเรื่อง คำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมก็รู้สึกว่าทำให้ผมสบายใจมีใจนิ่งขึ้นมีความสุขได้บ้าง ผมเริ่มศึกษาและฟังผู้สอนหลักคำสอน ผมจะชอบฟัง
แต่คำสอนที่พระพุทเจ้าท่านสอน ไม่ชอบฟังแบบเล่านิทานนักที่ฟังก็มี เสียงธรรมจากมหาลัยศรีประทุม ตอน 2 ทุ่ม ฟังทุกคืน และตีห้าจะตื่นมาฟังพระเทศเอาเรื่องในพระไตรปิฏกมาเล่า ผมดีขึ้นมาก มีความสุข และเริ่มเข้าใจว่าพระท่านบอกให้รักษาศิล ให้ได้ครบ และทำกรรมฐานจะมีสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
เช้าของทุกวัน ผมจะตั้งจิตว่าวันนี้ผมจะทำศิลของผมทุกข้อให้บริสุทธ ผมเริ่มรักษาศิล ตั้งแต่ ม4 ถึง ปี 1-2 ศิล 5 ผมแทบไม่เคยขาด ผมทำอะไรพูดอะไร ผมจะระลึก
เสมอว่า ผมได้ทำผิดศิลข้อไหนหรือไม่ ผมพูดน้อยมาก จนเพื่อนๆไม่ครบ และบอกผมหยิ่ง วันนึ่ง ผมแทบไม่พูด และตั้งใจไม่ให้เกิน 29 คำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วันหนึ่ง ผมนั่งรถกลับบ้านใน ตจว ผมนั่ง และหลับตา
และท่องพุทโธ ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น ซักพัก ผมไม่เข้าใจว่า ตัวผมหายไปไหน ผมไม่สามารถได้ยินอะไร หรือ ไม่รู้สึกว่ารถกระแทกเลย ลมหายใจผมก็ไม่มี มีแต่แสงสว่างขาวไปหมดแบบแสงนีออน ผมไม่สามารถรับรู้ว่าผมกำลังนั้งรถ ผมพยายามฟืน ด้วยความตกใจ ผมพยายาม หาตัวตน มันไม่มี หรือว่าผมตาย แล้วอยู่ๆผมก็ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาที่สั้นๆที่ผมวูปลงไป รถได้วิ่งมาเกือบ ชม แล้ว ผมแปลกใจว่าสิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน ของแท้ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นว่าสมาธิมีจริง ช่วงนั้นผมเจออะไรแปลกบ่อยมาก เรื่องเปรตผมไม่เคยเห็นตัว แต่ผมได้ยินเสียงข้างหน้าต่างห้องดังทุ้มแหลมน่ากลัวมาก แทบทุกวันพระช่วงตีสาม ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.


ตอนนั้นมีเจตจำนงครับ

จึงมีศรัทธา และปฏิบัติจริงจัง

ตอนนี้เจตจำนงน้อยลง
ปฎิบัติก็หย่อนตาม

ความสงสัยเลยยังไม่แจ้งครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 13:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ค. 2015, 21:25
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเคยบวชและถามท่านผู้หนึ่งท่านบอกแค่ว่าโอภาส ที่เขาบอกมีปิติสุข ไหม ผมว่าไม่มี แค่รู้สึกว่าวูปไปจุดนั้นเลย และตกใจจะลืมตา ก็ไม่ได้ ต้องรอซักพักมันก็หลุดออกมา.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ผมไม่เคยเข้าใจศาสนาจริงจัง แม่ผมชอบทำบุญ ผมชอบทำบาป เป็นเด็กบ้านนอกชอบ ยิงนกตกปลา
ผมเคยฆ่าหมาแมวนก เพราะอยู่กับ ผู้ใหญ่ในหมูบ้านที่เขาทำกันแบบนั้น แม่ห้ามผมก็เถียง
เพราะมันตรงจริตผม แล้วมาอายุ 15 ผมก็ตกชตาขาดได้รับความทุกร์ทางสุขภาพแสนสาหัต
จนผมคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ใจไม่กล้า กลัวเจ็บ อยู่กับกองทุกข์ วันนึงผมฟังพระเทศเรื่อง คำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมก็รู้สึกว่าทำให้ผมสบายใจมีใจนิ่งขึ้นมีความสุขได้บ้าง ผมเริ่มศึกษาและฟังผู้สอนหลักคำสอน ผมจะชอบฟัง
แต่คำสอนที่พระพุทเจ้าท่านสอน ไม่ชอบฟังแบบเล่านิทานนักที่ฟังก็มี เสียงธรรมจากมหาลัยศรีประทุม ตอน 2 ทุ่ม ฟังทุกคืน และตีห้าจะตื่นมาฟังพระเทศเอาเรื่องในพระไตรปิฏกมาเล่า ผมดีขึ้นมาก มีความสุข และเริ่มเข้าใจว่าพระท่านบอกให้รักษาศิล ให้ได้ครบ และทำกรรมฐานจะมีสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
เช้าของทุกวัน ผมจะตั้งจิตว่าวันนี้ผมจะทำศิลของผมทุกข้อให้บริสุทธ ผมเริ่มรักษาศิล ตั้งแต่ ม4 ถึง ปี 1-2 ศิล 5 ผมแทบไม่เคยขาด ผมทำอะไรพูดอะไร ผมจะระลึก
เสมอว่า ผมได้ทำผิดศิลข้อไหนหรือไม่ ผมพูดน้อยมาก จนเพื่อนๆไม่ครบ และบอกผมหยิ่ง วันนึ่ง ผมแทบไม่พูด และตั้งใจไม่ให้เกิน 29 คำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วันหนึ่ง ผมนั่งรถกลับบ้านใน ตจว ผมนั่ง และหลับตา
และท่องพุทโธ ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น ซักพัก ผมไม่เข้าใจว่า ตัวผมหายไปไหน ผมไม่สามารถได้ยินอะไร หรือ ไม่รู้สึกว่ารถกระแทกเลย ลมหายใจผมก็ไม่มี มีแต่แสงสว่างขาวไปหมดแบบแสงนีออน ผมไม่สามารถรับรู้ว่าผมกำลังนั้งรถ ผมพยายามฟืน ด้วยความตกใจ ผมพยายาม หาตัวตน มันไม่มี หรือว่าผมตาย แล้วอยู่ๆผมก็ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาที่สั้นๆที่ผมวูปลงไป รถได้วิ่งมาเกือบ ชม แล้ว ผมแปลกใจว่าสิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน ของแท้ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นว่าสมาธิมีจริง ช่วงนั้นผมเจออะไรแปลกบ่อยมาก เรื่องเปรตผมไม่เคยเห็นตัว แต่ผมได้ยินเสียงข้างหน้าต่างห้องดังทุ้มแหลมน่ากลัวมาก แทบทุกวันพระช่วงตีสาม ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.

cool
ทั้งหมดที่ผ่านไปแล้วเอากลับมารู้เพื่อแก้ไขไม่ได้เลยค่ะ
ความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงกำลังปรากฏว่ากำลังมี
และกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยหมายถึงมีแล้วแต่ไม่รู้
จะรู้เมื่อเริ่มฟังและเข้าใจถูกตามว่ากำลังมีสิ่งใดปรากฏให้รู้
เพราะแค่กะพริบตาแล้วเป็นจิตเห็นและจิตอื่นๆครบ6ทางใหม่
ไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีแปลว่าสะสมกิเลสใหม่เพิ่มมากกว่าเดิมค่ะ
หมายถึงทุกขณะที่กำลังคิดพูดทำอยู่ตามปกติในชีวิตทุกวัน
โดยลืมคิดตามคำสอนตรงคำตรงขณะแปลว่าจิตขุ่นมัวแล้ว
เพราะความจริงตรงตามพระไตรปิฎกทุกคำกำลังปรากฏค่ะ
แต่เราไม่ได้เคยฟังคำจริงของตถาคตเพื่อพึ่งคิดตามคำนั้น
แปลว่ากิเลสอาสาวะที่นอนในจิตไหลเป็นมิจฉามรรคตลอด
จะเกิดสัมมามรรคได้ต้องสะสมการฟังเพื่อรอบรู้ตรงคำเท่านั้นค่ะ
ลองศึกษาจากการฟังทุกวันนะคะเพราะปัญญาแรกเกิดจากฟังนะคะ
ข้ามฟังแปลว่าสะสมความเห็นผิดตลอดเวลาใช้กาลามสูตร10ฟังค่ะ
:b55: :b55:
การรอบรู้สิ่งต่างๆรอบตัวที่กำลังมีคือ
การรู้ความจริงที่กำลังตรงตามที่
กำลังฟังพระธรรมคำสอนของ
พระพุทธเจ้าคือการปฏิบัติที่
แท้จริงเพราะเป็นการฟัง
ความจริงที่กำลังมีจน
มองสิ่งต่างๆรอบตัว
อย่างเข้าใจตามปกติ
คือพึ่งคิดตามคำตถาคต
https://m.youtube.com/watch?v=lDO3KjWAYZg&feature=youtu.be
:b31: :b31: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2018, 19:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ผมไม่เคยเข้าใจศาสนาจริงจัง แม่ผมชอบทำบุญ ผมชอบทำบาป เป็นเด็กบ้านนอกชอบ ยิงนกตกปลา
ผมเคยฆ่าหมาแมวนก เพราะอยู่กับ ผู้ใหญ่ในหมูบ้านที่เขาทำกันแบบนั้น แม่ห้ามผมก็เถียง
เพราะมันตรงจริตผม แล้วมาอายุ 15 ผมก็ตกชตาขาดได้รับความทุกร์ทางสุขภาพแสนสาหัต
จนผมคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ใจไม่กล้า กลัวเจ็บ อยู่กับกองทุกข์ วันนึงผมฟังพระเทศเรื่อง คำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมก็รู้สึกว่าทำให้ผมสบายใจมีใจนิ่งขึ้นมีความสุขได้บ้าง ผมเริ่มศึกษาและฟังผู้สอนหลักคำสอน ผมจะชอบฟัง
แต่คำสอนที่พระพุทเจ้าท่านสอน ไม่ชอบฟังแบบเล่านิทานนักที่ฟังก็มี เสียงธรรมจากมหาลัยศรีประทุม ตอน 2 ทุ่ม ฟังทุกคืน และตีห้าจะตื่นมาฟังพระเทศเอาเรื่องในพระไตรปิฏกมาเล่า ผมดีขึ้นมาก มีความสุข และเริ่มเข้าใจว่าพระท่านบอกให้รักษาศิล ให้ได้ครบ และทำกรรมฐานจะมีสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
เช้าของทุกวัน ผมจะตั้งจิตว่าวันนี้ผมจะทำศิลของผมทุกข้อให้บริสุทธ ผมเริ่มรักษาศิล ตั้งแต่ ม4 ถึง ปี 1-2 ศิล 5 ผมแทบไม่เคยขาด ผมทำอะไรพูดอะไร ผมจะระลึก
เสมอว่า ผมได้ทำผิดศิลข้อไหนหรือไม่ ผมพูดน้อยมาก จนเพื่อนๆไม่ครบ และบอกผมหยิ่ง วันนึ่ง ผมแทบไม่พูด และตั้งใจไม่ให้เกิน 29 คำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วันหนึ่ง ผมนั่งรถกลับบ้านใน ตจว ผมนั่ง และหลับตา
และท่องพุทโธ ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น ซักพัก ผมไม่เข้าใจว่า ตัวผมหายไปไหน ผมไม่สามารถได้ยินอะไร หรือ ไม่รู้สึกว่ารถกระแทกเลย ลมหายใจผมก็ไม่มี มีแต่แสงสว่างขาวไปหมดแบบแสงนีออน ผมไม่สามารถรับรู้ว่าผมกำลังนั้งรถ ผมพยายามฟืน ด้วยความตกใจ ผมพยายาม หาตัวตน มันไม่มี หรือว่าผมตาย แล้วอยู่ๆผมก็ลืมตาขึ้นมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาที่สั้นๆที่ผมวูปลงไป รถได้วิ่งมาเกือบ ชม แล้ว ผมแปลกใจว่าสิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าท่าน ของแท้ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นว่าสมาธิมีจริง ช่วงนั้นผมเจออะไรแปลกบ่อยมาก เรื่องเปรตผมไม่เคยเห็นตัว แต่ผมได้ยินเสียงข้างหน้าต่างห้องดังทุ้มแหลมน่ากลัวมาก แทบทุกวันพระช่วงตีสาม ทุกวันนี้ผมทำงานดูแลแม่ สร้างครอบครัว แต่ยังคิดถึงช่วงนั้นตลอด ผมคิดว่าผมยังตัดไม่ได้หมด แต่ผมก็ยังสงสัยว่า วันที่ผมทำสมาธิครั้งแรก บนรถนั้น มันเกิดอะไรขึ้น และ สิ่งนั้น มันดี ดีมาก ผมพยายามทำใหม่ทุกวันนี้ผมทำไม่ได้ ไม่มีสมาธิเลย ศิลผมไม่บริสุทแล้ว เพราะการงานอะไรต่างๆที่ผมวุ่นวายอยู่.


:b32: :b32: :b32:

อาการที่เหมือนผีอำ..นั้นนะ..อย่าไปสนใจเลยครับ

มันไม่มีปีติ(ความอิ่มเอมใจ)..เพราะมันไม่ใช่สัมมาสมาธิ..นะครับ..มันเลยไม่มีปัญญาเห็นธรรม..ปราโมทย์..ปีติ..ปัสสัทธิ..ฯ เลยไม่เกิด

จึงอย่าได้ไปสนใจให้ค่ามันอะไรมาก...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2018, 00:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นั่งหลับ แล้วฝันไป

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2018, 07:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pwit9 เขียน:
ผมเคยบวชและถามท่านผู้หนึ่งท่านบอกแค่ว่าโอภาส ที่เขาบอกมีปิติสุข ไหม ผมว่าไม่มี แค่รู้สึกว่าวูปไปจุดนั้นเลย และตกใจจะลืมตา ก็ไม่ได้ ต้องรอซักพักมันก็หลุดออกมา.



- โอภาส หมายถึงแสงสว่างทางใจ อันนี้เป็นอุปกิเลส (ดูวิปัสสนูปกิเลส)

จกขท. ดูตัวอย่างที่นี่ นี่เขาทำจริงปฏิบัติจริงไม่ใช่มโนนึกเอา :b32: เป็นขั้นเริ่มต้นเป็นจุดสตาร์ท ไปทางนี้แหละ ยังต้องไปอีก แล้วก็ต้องผ่านสภาวะเหล่านี้ไป

http://group.wunjun.com/meditation/26682

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ตย. โอภาส - แสงสว่าง เป็นธรรมดาของผู้เริ่มปฏิบัติทางจิต (เปรียบเหมือนการเดินทางทางจิต) ต้องกำหนดรู้ตามที่มันเป็นทุกๆครั้ง ไม่ว่าตอนไหน จนกว่าจะผ่านจุดนั้นๆไปได้

อ้างคำพูด:
ภาวนาแล้วตัวหายค่ะ เรียนปรึกษา (ยาวนะคะ)

ขออนุญาตเรียนรบกวนปรึกษานะคะ

1.เราถือศีลเป็นปกติ

2.เราภาวนาเป็นปกติ (มีแว่บบ้างอะไรบ้างตามสไตล์ฆารวาส ยิ่งตอนนี้หย่อนมากค่ะ)

เราเริ่มการภาวนาจากการสวดมนต์ค่ะ เริ่มวันแรกตัวสั่นถามอาจารย์ท่านบอกว่าเป็นปิติ เราก็ยังภาวนาต่อทีนี้เริ่มนั่งสมาธิด้วย

หลังจากนั้นประมาณ 5-6 เดือน เรานั่งสมาธิและถือศีลแปดด้วยทำเป็นประจำรวมทั้งนอนสมาธิด้วยค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่ง...
เราภาวนาอยู่ทุกอารมณ์ ทุกลมหายใจ เราล้มตัวลงพักผ่อนขณะมองดูลมหายใจไปตัวก็หายไปค่ะ ตอนนั้นเราตกใจแล้วหลุดออกมา
เราก็ถามรุ่นพี่นะคะ ท่านบอกว่าคราวหน้าให้ดูย้อนตรงๆไปเลย แต่ใจเราบอกว่ามีอะไรบางอย่างที่ทำไม่ได้แน่นอน ก็ละไปแต่รักษา ศีล สวดมนต์เอาค่ะ

วันหนึ่งเราหลับเห็นแสงสว่างมากๆตั้งอยู่รอบข้างกว้างไพศาลพูดไม่ถูก เราก็มอง มันพูดยากมากแต่เหมือนเราพิจารณาแสงนั้นแล้วมันทวนย้อน (อธิบายไม่ถูกจริงๆค่ะ) ตื่นมาก็อิ่มมาก ทุกอย่างกระจ่างไปหมด เบา สบาย

หลังจากนั้นเราได้งานก็เลยละภาวนาไปเยอะ แต่ก็ยังรักษาศีลอยู่

ต่อมาก็ยังมีอีกช่วงหนึ่งเรามีเรื่องในชีวิตให้คิดไม่ตก รู้สึกเหมือนมีอะไรปั่นอยู่กลางอกแล้วดีดออก ปั่นๆแล้วดีดออก นอนก็ปั่นๆอยู่ทั้งคืนนอนไม่ได้เลย จนกระทั่งมันปิ๊ง! เหมือนตัดเรื่องนั้นขาดเห็นต้นเหตุ-การแก้ไข-การวาง (ตอนนั้นก็น้อมมาพิจารณาแหล่ะค่ะ)อะไรบางอย่างถึงจะยอมลงให้แล้วจะรู้สึกปลง ปล่อย

จนเมื่อเร็วๆนี้ที่ทำงานพาเราไปวัดค่ะเพื่อบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ท้ายกระบวนการเขาก็ให้ขึ้นนั่งสมาธิเราก็นั่งข้างๆพัดลมเหล็กๆค่ะ
เราไม่ได้นั่งเอาจริงเอาจังเลยนะคะ ก็สักแต่นั่งตามลมไปแต่กลับรู้สึกว่าร่างกายใจหายทุกอย่างนิ่ง ตอนแรกได้ยินเสียงพัดลมแล้วเสียงพัดลมก็หายไป ดับนิ่งสนิท ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเราก็ตกใจหลุดออกมา...แบบวู้บ...ทีนี้ร่างกายเราสั่นแบบควบคุมไม่ได้เลย นั่งสะท้านจนเราไปขอให้หลวงพี่เล่าธรรมะให้ฟังถึงคลายลง

ขออนุญาตสอบถามค่ะว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้ตัวเราเค้าไม่เอาแล้ว...กลัว...แหยงๆ...ไม่แตะเลย รักษาศีลยังรักษาอยู่แต่พอจะนั่งเหมือนเขาร้องว่าไม่เอาๆกลัว อยากให้ทราบว่ามันทรมานจริงๆค่ะเคยปฏิบัติได้แต่ปฏิบัติไม่ได้กลัวอะไรก็ไม่รู้

เราอยากปฏิบัติต่อมากๆ...เราควรไปหาพระอาจารย์สักคนไหมคะเพื่อขอแนวทาง

รบกวนขอวามกรุณาด้วยนะคะ อาจจะยาวแล้วก็คำประหลาดๆแต่เราไม่รู้จะอธิบายยังไงดี


และนี่คือชีวิตด้านธรรมะ ซึ่งมันมีมันเป็นของมันเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 64 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร