สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สมัยพุทธกาลมีแต่ลูกเศรษฐี
ลูกพระมหากษัตริย์ที่บวช
พ่อแม่เขาเข้าใจคำสอน
เขาไม่ให้ลูกบวชน๊า
เกิดมาตายเปล่า
เพราะมีกิเลส

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สมัยพุทธกาลมีแต่ลูกเศรษฐี
ลูกพระมหากษัตริย์ที่บวช
พ่อแม่เขาเข้าใจคำสอน
เขาไม่ให้ลูกบวชน๊า
เกิดมาตายเปล่า
เพราะมีกิเลส

จริงหรือที่เขาว่ากันว่านิกายเถรวาท (เดิม) สอนให้คนหลีกหนีจากสังคมเป็นแนวทางที่คับแคบถ้าจะปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องเซ็น?

พอดีจขกทได้ยินมาจากบางความเห็นในกระทู้ห้องศาสนา (พุทธ) เรานี่แหละ พูดในประเด็นเรื่องลูกมหาเศรษฐีจากชาวมาเลเซีย สละมรดกและบริษัทมาบวชในสายหลวงพ่อชา ก็มีคนมาพูดทำนองว่าแนวทางเถรวาท (แบบดั้งเดิม) โดยเฉพาะในเคสนี้ สอนให้คนหลีกหนีสังคม พากันสละทางโลกจนไม่มีคนจะมาพัฒนาชาติ ต้องมาดูสายเซ็นสิ สอนให้ฝึกจิตฝึกสติปฏิบัติธรรม โดยไม่ต้องละทิ้งการพัฒนาทางโลก อย่างดาราฝรั่ง สตีฟ จ็อบ ที่ฝักใฝ่นับถือพุทธแบบเซ็น ที่ปฏิบัติในฐานะฆราวาส และยังพัฒนานวัตกรรมให้โลกได้ แล้วเหมือนจะมีการเหน็บหรือเสียดสีว่า เพราะมีนิกายเซ็นหรือดีที่เขานับถือนิกายเซ็นบรรดานักคิดนักพัฒนาของโลกยังมีต่อ ไม่ละทางโลกเหมือนในเคสลูกเศรษฐีทิ้งบริษัทที่จะก้าวหน้าออกจากสังคม คือพูดเหมือนกับว่า ถ้าคนเคร่งในทางธรรมดั้งเดิมตามแบบเถรวาทคนจะหนีไปบวชจนไม่มีคนพัฒนาโลกแล้วสังคมมนุษย์จะล่มสลายว่างั้นครับ

https://pantip.com/topic/37836785

คิกๆๆ แสดงว่า สมัยพุทธกาลไม่มีลูกชาวบ้านบวชใช่ไหม ? คนบวชแล้วไม่สึกกันหมดใช่ไหม ? หมดกิเลสก่อนแล้วบวชใช่ไหม ? แม่ของอุปติสสะ เป็นต้น เข้าใจคำสอนก่อนจึงให้ลูกชายบวชให้ไหม ? คิดดู

ถ้าพุทธศาสนิกชนในอดีตคิดแล้วทำอย่างคุณโรสนะ พระพุทธศาสนาไม่ยืนมาจนถึงป่านนี้หรอก

แต่ว่าถ้าต่อจากนี้ไปมีคนคิดทำอย่างคุณโรสมากขึ้นๆ อนาคตพระพุทธศาสนาในไทยล่มสลายชัวร์ (นี่ก็ง่อนแง่นๆเต็มทีแล้ว)

ที่นี่เขาก็ตั้งปัญหาถามกันเหมือนกัน



คุณโรสมี คคห.ยังไงขอรับ

คำพระสอน..

" ฟังใครพูดถึงพระพุทธศาสนาไปในแง่ไม่ถูกไม่ควร แม้แต่สมมุติสงฆ์เองพูดถึงก็ตาม ก็จงอย่านำมาใส่ใจ ให้ปล่อยวาง ถ้านำเหตุเหล่านี้มาปรุงแต่ง หรือจิตหวั่นไหวไปตามคำพูดนั้น ก็จักแสดงว่าไฟได้ไหม้จิตใจของพวกเจ้าแล้ว รวมทั้งถ้าหากนำไปพูดต่อบุคคลอื่น ก็เท่ากับนำไฟไปจุดต่อบุคคลอื่นให้เผาไหม้ไปด้วย จักมีประโยชน์อันใด ต่อไปให้รู้เท่าทันกิเลส เพียรละปล่อยวางที่จิตใจของตนเองนี้ ให้รู้จักคำว่า กรรมใครกรรมมันให้มาก ๆ แล้วจักได้ตัดกรรมที่จักไปยังบุคคลอื่นได้มากอีกด้วย ทุกวันนี้คนเดือดร้อนกันเพราะวจีกรรมมีมาก จึงพึงสังวร - พิจารณา - ใคร่ครวญเสียก่อนจึงพูด เพื่อความไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น อย่าตีตนไปก่อนไข้ ทำไมไม่คิดในแง่ดีเสียบ้าง ให้รักษาอารมณ์ใจให้อยู่ในปัจจุบันให้มากที่สุด เรื่องเบื้องหน้ามีอะไรจักเกิดขึ้น ก็ค่อยแก้ไขไปในปัจจุบันนั้น จักหนักใจให้จิตเป็นทุกข์ตั้งแต่บัดนี้เพื่อประโยชน์อันใด ให้มั่นใจในพุทธคุณ-ธรรมคุณ-สังฆคุณ แล้วเรื่องทั้งหมดจักคลี่คลายไปได้ด้วยดี รักษาอารมณ์ใจให้เป็นสุข อย่าให้ความทุกข์ ความหนักใจเข้ามาครอบงำจิตใจ เพราะจักทำให้ไปพระนิพพานไม่ได้ รู้จักคิดพิจารณาให้เป็น แล้วเจ้าจักไม่หนักใจอะไรอีกเลย จงรักษาจิตเพื่อให้มั่นคงอยู่ในศีล - สมาธิ - ปัญญา เพื่อนำจิตให้พ้นไปจากทุกข์ภัยแห่งวัฏฏะสงสารเกิด อย่าเศร้าใจ อย่าหดหู่ใจกับข่าวต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ โดยเฉพาะเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยของบุคคลอื่นที่เรารู้จักคุ้นเคย หรือแม้ร่างกายที่เราอาศัยมันอยู่ชั่วคราวจักป่วยก็ตาม ให้เห็นเป็นธรรมดาของการมีร่างกาย ยอมรับนับถือในกฎธรรมดานี้ แล้วจิตจักสงบเยือกเย็น มันอยากจักเป็นให้มันเป็นไป เนื่องจากไม่มีใครฝืนกฎธรรมดานี้ได้ พิจารณาจุดนี้ให้มาก ๆ ถ้าหากต้องการที่จักพ้นทุกข์ "

:b32:
เวลาฟังพระพุทธพจน์นะคะ
กิเลสจะตกใจไม่ยอมรับ
ความจริงที่ทรงแสดงค่ะ
อวิชชากะปัญญาแย่ง
เก้าอี้ดนตรีตัวเดียว
บนหัวใจสัตว์นะคะ
กิเลสจะเผลอตอน
กำลังฟังคำสอน
เข้าใจตรงคำค่ะ
ปัญญาแย่งนั่งได้

กิเลสตกใจอีก ก๊ากๆๆ

า

ฟังแล้วมีอคติโทสะตนเกิดตกใจไงคะอิอิไม่รู้จักกิเลสตัวเอง

ตกใจก็กำหนดรู้มันตรงๆสิ ตกใจหนอๆๆ ซี่ไปกลัวอะไรกับมัน คิกๆๆ

เอ้าก็ที่ตกใจไปแล้วดับแล้วเป็นกิเลสแล้วแก้ได้ไหม
ประมาทการฟังทีละคำตรงทางตรงขณะไม่เกิดกุศล

เกิดดับเป็นกิเลสหรอ