วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 12:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2018, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“คนที่พูดมาก คนที่สงสัยมาก
ไม่เคยเข้าถึง...พระนิพพานได้เลย”

โอวาทธรรม หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต



"ที่เปิ้นว่าอันนั้นอันนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ มนต์คาถาอาคมใดๆ ก็สู้จิตใจ๋ที่มีธรรมบ่ได้เน่อ จิตใจ๋ที่มีธรรมนี่ มีอานุภาพนัก มีอานุภาพมากกว่า คืออานุภาพแห่งความดี อานุภาพเมตต๋า ไปไหนบ่ต้องกลัวหยังเน่อ"

หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก
วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่





" กัมมัฏฐาน แปลว่าอะไร "
++---++---++---++---
แต่ก่อน มีการตั้งคำถามว่า กัมมัฏฐาน (กรรมฐาน) แปลว่า อะไร?...กรรมฐาน ก็คือ การกระทำเพื่อ มรรค ผล นิพพาน หรือ การเดินทางไปเพื่อ มรรค ผล พระนิพพาน....
แต่เดี๋ยวนี้ กรรมฐาน แปลว่า ป่าเถื่อน...
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้กรรมฐานมาตั้งแต่เกิดมา มากภพมากชาติหาประมาณมิได้ แตพระพุทธเจ้าได้มาใช้ กรรมฐานที่มีอยู่นั้นได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่ พระองค์ก็เข้าถึง มรรค ผล นิพพาน เรียกว่า ได้มีโอกาสพบเห็น นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทธา (คำแปล: นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา แปลว่า พุทธบุคคลทั้ง ๓ จำพวกนี้ คือ
พระพุทธะจำพวก ๑ พระปัจเจกพุทธะจำพวก ๑ พระอนุพุทธะจำพวก ๑
ย่อมกล่าวพระนิพพานว่า "เป็นธรรมชาติอันสูงสุด.")
....พระองค์ทรงสรรเสริญ พระนิพพาน ว่า
เป็นธรรมอย่างหนึ่งที่สูงส่งอย่างยิ่ง เข้าถึงได้ด้วยข้อป ฏิบัติ คือ กรรมฐาน พระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็เข้าถึงพระนิพพานได้ด้วย กรรมฐาน อาศัย เกศา โลมา นักขา ทันตา ตะโจ มามากภพ มากชาติ กรรมฐาน จึงแปลว่า ทางสู่ มรรค ผล พระนิพพาน..
....เราๆมองข้ามกรรมฐาน ถ้าเจอกรรมฐานเหมือนกับ เดี๋ยวนี้ กรรมฐาน แปลว่า "ป่าเถื่อน" ปลุกเสกของให้บูชา สักการะกัน ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ไหน ปลุกเสกของให้บูชาสัการะ ไม่มีท่านผู้ใดจะนำสมัย หรือ ทันสมัยเกินองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า "ป่าเถื่อน" คือ มันล้าหลัง
....แต่ก่อน สมัยท่านอาจารย์ไป จันทบุรี เราเป็นเด็กอยู่ อายุไม่น่าเกิน 15 ปี คุณตา คุณยายจะต้องไปจำพรรษาเหมือนพระ แต่ออกพรรษาไม่ได้นะเป็นโยม ศาสนาพุทธไม่ใช่ของเพ้อฝัน รสของศาสนาเลยไม่ได้สัมผัส บางที บวชในศาสนาแล้วบอกว่าจะไปจูงคนอื่นไปสวรรค์ บางท่านบวชวันนี้ จะจูง คุณปู่ คุณย่า ไปสวรรค์ มันง่ายเกินไป
.....องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าถึงศาสนาขั้นสูงสุดพระองค์ห่างไกลคนละโลก กับ พิธีกรรม เอาของมงคล ผูกคอ ผูกแขน ศาสนาที่พระพุทธเจ้าค้นพบ เอาชีวิตเข้าแลกมา ไม่สามารถนับภพนับชาติได้ เป็นอสงไขย พระพุทธศาสนาเป็นของมีค่า ไม่ใช่เอาไปโยนทิ้ง....
+++++++++
ธรรมเทศนา พระอาจารย์แบน ธนากโร
วัดสวนป่าริมธาร มุกดาหาร
27 เมษายน 2561



"ผู้พิพากษายุติธรรมที่สุด คือ กรรม"
-:- หลวงปู่ชอบ ฐานสโม -:-





"...การปฏิบัติเรื่องจิตนี้ ความจริงจิตนี้ไม่เป็นอะไร มันเป็นประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น มันสงบอยู่แล้ว ที่จิตไม่สงบทุกวันนี้เพราะจิตมันหลงอารมณ์ ตัวจิตแท้ๆ นั้นไม่มีอะไรเป็นธรรมชาติ อยู่เฉยๆเท่านั้น

ที่สงบ ไม่สงบ ก็เป็นเพราะอารมณ์มาหลอกลวง จิตที่ไม่ได้ฝึกก็ไม่มีความฉลาด มันก็โง่ อารมณ์ก็มาหลอกลวงไปให้เป็นสุข เป็นทุกข์ ดีใจ เสียใจ จิตของคนตามธรรมชาตินั้น ไม่มีความดีใจ เสียใจ

ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง จิตก็หลงไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว แล้วก็เป็นสุข เป็นทุกข์ ไปตามอารมณ์ เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่ฉลาด แล้วเราก็ไปนึกว่าจิตเราเป็นทุกข์ นึกว่าจิตเราไม่สบาย ความจริงมันหลงอารมณ์..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ชา สุภัทโท





"...หลักใจ สำคัญมากนะ
เราปรนเปรอกันแต่ร่างกาย
ให้ ที่อยู่ อาหาร การกิน
ที่หลับนอน ที่ขับถ่าย ที่ดีเลศ
แต่ ใจสกปรกแค่ไหน ไม่สนใจเลย..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 126 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร