วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2018, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"จิตที่สว่างสไว ย่อมเห็นแต่โทษของตนเอง"
-:- หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -:-




คติธรรม คำสอน
หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล
วันพระ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔
ตรงกับวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๑
"สีเลนะ สุคะติง ยันติ
คนจะมีความสุขเพราะรักษาศีล
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
คนจะมีโภคทรัพย์สมบัติก็ด้วยศีล
ถ้าทรัพย์ภายในมีแล้ว ภายนอก
ก็ตามมาเอง"


าจารย์คนสุดท้าย
"...อาจารย์คนสุดท้าย อาจารย์ที่แท้จริงก็คือเราเอง คำสอนทั้งหมดไม่ว่าจะจากพระพุทธเจ้า จากครูบาอาจารย์นั่นเป็นได้อย่างมากก็สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา แต่ความจริงของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นมาจากเราเอง(เรานี่ก็คือขันธ์ ๕ ของเราเอง ขันธ์ ๕ แท้ ๆ ไม่มีเรา แต่ถ้าไม่พูดเราจะไปเข้าใจขันธ์ ๕ ใครก็ไม่รู้)
ปัญญาที่แท้จริงมาจากจิตเราเอง เมื่อจิตหมดความยึดถือจิตที่ทำให้เกิดความเห็นผิด ก็จะเกิดจิตวิชชาขึ้นมาแทน นั่นล่ะที่จะเกิดความรู้แจ้งจนวางขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ จะไม่ถูกยึดถืออีกต่อไป จิตจะคืนสู่ธรรมชาติ
เพราะฉะนั้น อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์นั้น ไม่ใช่พยายามจะปล่อยอุปาทานในขันธ์ แต่เมื่อปล่อยความเห็นผิดที่จิตไปยึดถือจิต อุปาทานในขันธ์ก็หลุดออกทั้งหมด ยิ่งพยายามปล่อยขันธ์ เมื่อนั้นก็มีตัวตนอยู่นั่นเอง
ดังนั้น ปฏิบัติธรรมให้ไปจัดการดับเหตุ ผลจะดับ ด้วยการเจริญมรรคมีองค์ ๘..."
- จากการบรรยายของหลวงพ่อเอี้ยน เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ สำนักวิปัสสนาวังสันติบรรพต จ.พัทลุง





เจ้าของหลอกเจ้าของ
"...ทุกวันนี้โลกเขากำลังลุ่มหลงกันอย่างไม่รู้สึกตัวเลย เคยเห็นแต่ผู้อื่นเขาหลอกลวงกัน ส่วนเจ้าของหลอกเจ้าของแล้วไม่มีใครรู้เลย ผู้ที่เป็นนักต้มตุ๋นนักลวงที่ร้ายที่สุดแล้วก็คือตัวเจ้าของเองเป็นคนหลอก หลอกแล้วไม่มีใครรู้เลย
เคยเห็นแต่คนอื่นเขาหลอก คนอื่นเขาหลอกเรายังมีวันรู้ ส่วนเจ้าของหลอกเจ้าของมาแล้วกี่ภพกี่ชาติมาแล้วก็ยังไม่รู้ ไม่ตื่นเลยว่า ตัวเจ้าของเป็นตัวมารร้ายตัวสำคัญ ตายไปแล้วเกิดมาอีก ก็หลอกอย่างเก่า
หลอกเอาจนวันตรัสรู้ธรรมเมื่อใด เมื่อนั้นเราจึงลืมตาเห็นตัวเองว่านี่คือตัวมารร้าย ก็เพราะเราหลงเจ้าของเอง เราเป็นผู้ทำมาทุกอย่าง แล้วกลับไปโทษผู้อื่นสิ่งอื่นทำให้ตนได้รับทุกข์ทรมาน ตราบใดที่ยังไม่ตรัสรู้ธรรม ก็ยังจะหลอกตัวเองอยู่ตลอดไป..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่คูณ สิริจนฺโท




“...ผู้รู้จริงๆ เห็นจริงๆ พูดออกมาจากความจริง ผู้ฟังก็เข้าใจได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เข้าใจตามหลักความจริงไม่ผิดเพี้ยน ไม่ใช่แสดงแบบงูๆ ปลาๆ เหมือนกับพวกเราทั้งหลายสั่งสอนกัน
เจ้าของปฏิบัติมาพอลุ่มๆ ดอนๆ งูๆ ปลาๆ สั่งสอนคนอื่นจะเอาจริงเอาจังมาจากไหน เพราะเจ้าของหาความจริงไม่ได้ สั่งสอนคนก็จริงไม่ได้ซิ เลยต้องเอางูๆ ปลาๆ ออกช่วยพอรอดตัว ผู้ฟังก็ฟัง งูๆ ปลาๆ รู้ก็งูๆ ปลาๆ เลยมีแต่ “งูๆ ปลาๆ” เต็มศาสนาเต็มผู้ปฏิบัติศาสนา
เพราะฉะนั้น ผู้เริ่มปฏิบัติทีแรก จะงูจะปลา ก็งูก็ปลาไปก่อน แต่เอาให้เห็นชัด ปลาก็ปลาจริงประจักษ์กับใจของเราซิ คือจะเป็นธรรมขั้นใดก็ให้รู้ประจักษ์กับใจเรา เพราะธรรมเป็น “สนฺทิฏฺฐิโก” พระพุทธเจ้าไม่ทรงผูกขาด
ผู้ปฏิบัติจะพึงรู้เองเห็นเองด้วยกันทุกคน ไม่ว่าหญิง ไม่ว่าชาย เพศใด วัยใดก็ตาม เพราะ “สัจธรรม” มีเหมือนกันนี่ ไม่นิยมว่านักบวช หรือฆราวาส ว่าหญิงว่าชาย ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ธรรมเป็นของกลาง ส่วนเพศนั้น ท่านพูดไว้ตามขั้นตามภูมิ...”
โอวาทธรรมคำสอน....
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์โปรดคุณเพาพงา วรรธนะกุล ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๑๙


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร