วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 23:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2018, 05:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"โลกใบนี้ ไม่เคยให้ความสมหวังกับใคร
มีผู้หญิงคนไหนบ้าง ไม่ร้องไห้ เผ็ดร้อน
แสบสัน เจ็บปวด รวดร้าว แค่ไหนก็เจอมา
ผ่านมาหมดแล้ว อย่าไปเสียเวลาอีกเลย
อุทิศตัวให้เป็นประโยชน์สูงสุด ของการเกิดดีกว่า"
-:- หลวงปู่ท่อน ญาณธโร -:-



"อย่าอ่อนแอท้อแท้ ในสิ่งที่ดี
อย่าเข้มแข็ง ในสิ่งที่ชั่ว
ให้พยายามดัดแปลงตัวเอง
คนเรา ถ้าไม่มีการดัดแปลงเลย
เป็นคนดีไม่ได้นะ"
-:- หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -:-




"วันนี้สุขภาพดี
พรุ่งนี้อาจป่วยก็ได้
วันนี้ธุรกิจรุ่งโรจน์
พรุ่งนี้ธุรกิจอาจล้มละลาย
วันนี้ครอบครัวราบรื่น
แต่พรุ่งนี้ครอบครัวอาจแตกแยก
ยังไม่ต้องพูดถึงคนรัก ที่วันนี้ยังอยู่
แต่พรุ่งนี้ อาจล้มหายตายจากไป
จำเพาะ คนที่ตระหนักถึงความไม่แน่นอน
ของชีวิต เห็นความไม่เที่ยงของสุข ที่มีอยู่
จึงจะตระหนักถึงความจำเป็น ในการ
เข้าหาศาสนา หรือปฏิบัติธรรม
แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักเพลิดเพลินในความสุข
จนประมาท มองไม่เห็นความเป็นอนิจจัง
ของชีวิตและโลก จึงไม่คิดจะเตรียมพร้อม
จะตื่นตัวก็ต่อเมื่อ ภัยมาประชิดตัว
แต่ถึงตอนนั้น ก็อาจสายไปก็ได้
คือ โดนทุกข์ท่วมทับปางตาย
ถึงตอนนั้น จึงค่อยเห็นคุณค่าของธรรม
และนึกถึงศาสนาขึ้นมา"
-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-




"ของดีอยู่ที่คน คนดีอยู่ที่ศีล
มีของดีแล้ว ไม่รักษาศีล
ครูบาอาจารย์ท่านไหน ก็ช่วยไม่ได้"
-:- หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ -:-


"วัดอยู่ที่ไหน ศาสนาไม่ได้อยู่ที่วัด ศาสนาไม่ได้อยู่ที่ตำราคัมภีร์ วัดอยู่ที่ใจเรานี่ ศาสนาก็อยู่ที่ใจเรานี่ ฉะนั้นให้เรามาค้นดูที่ใจ มาศึกษาดูที่ใจ ฤาษีตนหนึ่งในสมัยพุทธกาลมีฤทธิ์มาก มีอภิญญามาก ต้องการดูที่สุดของโลกที่สุดของจักรวาล จึงเหาะขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็ว เหาะไปอยู่ร้อยปีจนตายไปในอากาศ ก็ไม่เจอที่สุดของโลกของจักรวาล เมื่อตายไป ไปบังเกิดเป็นพรหม ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า จึงได้กราบเรียนถามพระพุทธเจ้าว่า ที่สุดของโลกที่สุดของจักรวาลอยู่ที่ไหน พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ที่สุดของโลกที่สุดของจักรวาล อยู่ที่ใจเรานี่ ให้เข้ามาดูที่ใจ มาค้นดูศึกษาดูที่ใจ วัดทั้งหลายนั้นจึงยังไม่ใช่ศาสนา แต่ #ศาสนาคือวัดวัดดูที่ใจเรานี่..."
หลวงปู่ทิวา อาภากโร (ทายาทธรนมองค์ท่านหลวงปู่หลุย จันทสาโร)
สถานปฏิบัติธรรมเสริมรังษี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา




ก่อนกำหนดบริกรรม
ให้บอกตัวเองก่อนว่า อันนี้กาย อันนี้ใจ
จากนั้นเอาใจรู้กำกับ คำบริกรรม
อย่าทิ้งคำบริกรรม
ผู้ฝึกหัดภาวนาใหม่ต้องอาศัยคำบริกรรม
อาตมาภาวนามาแต่อายุ 15 ปี
มาเดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่ทิ้ง “พุท-โธ”
ใครทิ้ง “พุท-โธ” ภาวนาไม่เป็นหรอก
เอาคำบริกรรมผูกล่ามใจไว้ รู้อยู่เสมอ
แม้อะไรจะเกิดจะเป็น ก็้อย่าทิ้งผู้รู้
ให้ผู้รู้ รู้ทุกกิริยาอาการ
เพราะความรู้ตัวต่อเนื่องกันไปนี่เอง
จึงรู้ได้เท่าทันปัจจุบันธรรม
ผู้รู้อย่างนี้จะแก้ไขตัวเองได้
หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ



"..แม้จะหาเงินได้กองเท่าภูเขาก็เถอะ ถ้าใจไม่มีธรรมแล้ว ความกระทบกระเทือนจิตใจนี้แหละ ทำให้จิตใจถดถอยเท่านั้นเองล่ะ สมบัติที่สร้างมาก็รักษาไว้ไม่ได้ รั่วไหลไปหมด.."(๘๒)
จากหนังสือ กุสลมณี ๙๑
โอวาทธรรมคำสอน หลวงปู่ลี กุสลธโร




ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก สอนว่า ... "สักวันหนึ่ง ความตายจะมาถึงเรา มาบีบบังคับให้เราปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง ฉะนั้น เราต้องหัดปล่อยวางล่วงหน้า ให้มันเคย ไม่อย่างนั้น พอถึงเวลาไป จะลำบากนะ จะบอกให้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร