วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 18:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2018, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การเจอเหตุการณ์โดยฉับพลันหรือเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะรู้จักตัวเอง เพราะในกรณีเช่นนี้ พฤติกรรมอัตโนมัติที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นคุณภาพจิตใจโดยปราศจากเครื่องปิดบัง
อย่างเช่น ความโมโหที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่สัญชาตญาณ มันเป็นผลของการปล่อยให้จิตเพลินอยู่กับความโมโหมากเสียจนเคยชิน กลายเป็นเรื่องอัตโนมัติไป
เราจะแก้ตัวว่าไม่ได้ตั้งใจ หรือลืมชั่วคราวก็ไม่ถูก เพราะเราเคยสะสมเจตนาไม่ดีไว้ในอดีตบ่อยครั้ง ปัจจุบันจึงเป็นอย่างนี้
ข่าวดีก็คือความเคยชินในทางที่ไม่ดี แก้ไขได้ด้วยการค่อยๆสร้างความเคยชินในทางที่ดีทดแทน
พระอาจารย์ชยสาโร



อันความรักหรือที่รัก
เมื่อผู้ใดมีร้อยหนึ่ง ผู้นั้นก็มีทุกข์ร้อยหนึ่ง
รักเก้าสิบ แปดสิบ เจ็ดสิบ หกสิบ ห้าสิบ เป็นต้น
จำนวนทุกข์ก็มีเท่านั้น
ถึงแม้มีรักเพียงอย่างหนึ่ง ก็มีทุกข์อย่างหนึ่ง
ต่อเมื่อไม่มีรักจึงจะไม่มีทุกข์
ผู้หมดรักหมดทุกข์นั้น พระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า
'เป็นผู้ไม่มีโศก ไม่มีธุลีใจ ไม่มีคับแค้น'
.
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






เพียงศีลห้าเท่านั้นก็มีความร่มเย็นแล้ว
สำหรับฆราวาสที่มีครอบครัวผัวเมียถ้ารักษาได้
เพราะศีลห้าเปรียบเหมือนเสื้อกันหนาว เปรียบเหมือนร่มกันฝน
เปรียบเหมือนตู้เซฟสำหรับเก็บทรัพย์คือดวงใจของครอบครัวผัวเมีย
ไม่ให้บุบสลายพังทลายเพราะราคะตัณหาความไม่มีฝั่งทำลาย
.......................................................................
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ กรมทหาร ร. พัน. ๓ อุดรฯ
เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙
"ศีลธรรมสำหรับครอบครัว"




"โลกกับธรรม"
...โลกกับธรรมนี้คนละทางกัน
คนทางธรรมก็จะ
มองคนทางโลกว่าเพี้ยน
"แต่คนทางธรรมมีสติ"
จึงไม่ค่อยพูดออกมาเท่านั้นเอง
.
แต่คนทางโลกไม่มีสติกัน
พอเห็นคนอื่นไม่เหมือนเรา
ก็ไปว่าเขา..เพี้ยนแล้ว
.
โดยที่ไม่พิจารณาตัวเองว่า
ที่จริงแล้วเพี้ยนหรือไม่เพี้ยนกันแน่
มันอยู่ที่ว่าเราเอาอะไร
เปรียบเทียบเป็นหลัก
.
ถ้าเอามาตรฐานทางโลกเป็นหลัก
คนที่ไม่ยึดหลักมาตรฐานของทางโลก
ก็ถือว่า ..เพี้ยนไป
คนที่ไม่ยินดีในลาภยศ
สรรเสริญก็จะว่าเพี้ยนไป
.
แต่ถ้าเอาหลักทางธรรม
คนที่ไม่ยินดีในลาภยศ สรรเสริญ
ก็ถือว่าเป็นคน..ไม่เพี้ยน
"เป็นคนมีปัญญา เป็นคนฉลาด"
......................................
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะบนเขา 31/1/2559
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี




"ไม่มีทางใดดีเท่ากับทาน ศีล ภาวนา นี่หรอก"
ชีวิตของคนเรานั้นแม้เราจะนั่ง นอน เดิน อยู่ในที่เก่าที่ใดก็ตาม แต่ชีวิตคนเรามันไม่ได้อยู่ที่เก่า มันไหลลงไปเรื่อยเหมือนกับกระแสน้ำ
เราทุกคนคงได้เห็นน้ำไหลไม่ว่าแม่น้ำใหญ่ น้ำห้วย น้ำเล็ก น้ำอะไรก็ตาม มีแต่กระแสน้ำนั้นมันไหลไปสู่ที่ต่ำ แม้ที่หน้าถ้ำผาปล่องเรานี้ ถ้าข้ามสะพานไปจะเห็นน้ำไหลอยู่ไม่ขาด กระแสน้ำนั้นมันไหลไปไม่หยุดไม่หย่อน ชีิวิตของคนเราตั้งแต่มาปฏิสนธิวิญญาณ คือมาเกิดในชาตินี้ มันไม่ได้อยู่ มันเลื่อนไหลไปอยู่ เหมือนเราเห็นกระแสน้ำมันไหลลงไปสู่ที่ต่ำ
ชีวิตของคนเรา เมื่อเกิดมาแล้วมีความเสื่อมไป สิ้นไปหมดไป มีเจริญขึ้นเหมือนกับว่ามันไม่เสื่อม แท้ที่จริงแล้วมันเจริญขึ้นมันก็เสื่อมไป แก่ชราไป เจ็บไข้ได้ป่วยไป เมื่อยังไม่ถึงวาระแห่งความตายก็อยู่ไป ทำการทำงานไป แต่ชีวิตของคนเรามันไหลไปที่ต่ำอยู่ทุกเวลา
ฉะนั้นอย่าได้ประมาท คำว่า ไม่ประมาทนั้น ไม่ให้ประมาทนั้น คือให้ตั้งใจภาวนาอยู่ทุกเวลา ไม่มีทางใดดีเท่ากับทาน ศีล ภาวนา ที่เราบำเพ็ญมาแล้วนี้แหละ โดยเฉพาะคือว่า...
"จิตใจให้มั่นคงในคุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ไม่ว่าเราจะไปสู่ในสารทิศใดๆ ก็ตาม พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์นี้แหละ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ทุกอย่างทุกประการ แม้เราจะไปในที่มีภัยอันตราย ถ้าเราระลึกอยู่ในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาคุณงามความดี ทาน ศีล ภาวนาเป็นที่พึ่ง ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ บุญกุศลอันนี้เรียกว่าช่วยบันดลบันดาล บันดาลให้แคล้วคลาดจากภัยทั้งหลายทั้งปวง
หลวงปู่หลวงปู่ สิม พุทธาจาโร
สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่



"กิเลสตัณหาก็เป็นธรรม ธรรมทั้งนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมทั้งนั้น เรียกว่าธรรม
คือธรรมเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้วดับไป
เพ่งเข้าหาจิต เพ่งเข้าหาจิต
ดูเข้าไปหาจิต หยั่งเข้าหาจิต
กิเลสตัณหามันเป็นเหมือนกับเปลือกเนี่ย
เปลือกไม้นั่นน่ะ เหมือนกับเปลือกผลไม้อย่างงั้นล่ะ
เข้าไปหาถึงเนื้อแล้วเปลือกไม่มี
เข้าไปหาถึงแก่นแล้วกระพี้ไม่มี
เข้าไปหาจิตจริงๆ แล้ว เรื่องขี้หมูขี้หมาไม่มีหรอก
เรื่องไฟเผาหัวนี่ไม่มี
ลูบๆ คลำๆ ก็ลูบๆ คลำๆ
ใครๆ ก็ว่า เหมือนกับเอาเชื้อไปใส่ไฟ
เข้าไปหาจุดที่ไฟมันเกิดเหมือนสวิตซ์ไฟอย่างเนี้ย
ดับที่ถูก ถูกที่จุดมันเนี่ยนะ กี่ดวงกี่ดวงดับทันที
ถ้าหากว่าดับไม่ถูกจุดนั่นน่ะ ตายเพราะไฟนั่นล่ะ
นี่ ธรรมทั้งหลายเกิดจากจิต"
หลวงปู่แบน ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร