วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 07:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2018, 05:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


“ในความเป็นจริงแล้ว
ไม่มีใครที่จะเป็นเจ้าของเราได้อย่างแท้จริง
ทุกคนในโลกนี้เข้ามาในชีวิตของเรา
เพียงเพื่อจะจากเราไป ไม่ช้าก็เร็ว”
-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-



"การที่เรา จะพึ่งใครซักคนหนึ่งนี่
มันก็พึ่งได้ ไม่เท่าไหร่หรอก
หรือจะไปพึ่งคนโน้น พึ่งคนนี้
เขาก็ไม่ให้พึ่งเท่าไหร่
แล้วไปอยู่กับเขาไม่กี่วัน
เขาก็อยากไล่หนีแล้ว
เพราะฉะนั้น
บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่ง
เราจะไปเกิดในชาติใด ภพใด
บุญก็ตามช่วยเรา
เหมือนกันกับเงาตามตัว ฉันนั้น"
-:- หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร -:-




การปฏิบัติธรรมภาวนา
ต้องปฏิบัติคนเดียว
อยู่ในสถานที่ สงบ สงัด วิเวก
เพราจิตจะเข้าสู่ความสงบได้ง่าย
การปฏิบัติธรรมรวมกันหลายคน
เหมาะสำหรับผู้ที่ยังปฏิบัติไม่เป็น
อาวุธที่คุ้มครองจิตใจของเราก็คือ สติและปัญญา ปัญญาก็คือ การพิจารณาธรรมอยู่เนืองๆ พิจารณาอยู่เรื่อยๆ เห็นอะไรก็พิจารณาว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์
สิ่งที่เราควรมาสร้างสติและปัญญา การที่เราจะสร้างสติและปัญญาได้อย่างมากมายนั้น ต้องอาศัยสถานที่ ที่สงบ สงัด วิเวก ไม่มีอะไรมารบกวนในการสร้างสติและปัญญานี้ สถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างสติและปัญญา ก็คือ ตามวัดที่มีการปฏิบัติธรรม วัดที่ส่งเสริมการนั่งสมาธิ เดินจงกรม เป็นวัดที่เหมาะต่อการไปสร้างสติเจริญสติ สร้างปัญญาเจริญปัญญา
เราควรต้องหาเวลามาปฏิบัติธรรมภาวนา ด้วยการถือศีล๘ อยู่ในสถานที่สงบสงัดวิเวก ไม่มีอะไรมาคอยรบกวนใจ มีแต่การปฏิบัติธรรมเท่านั้น และต้องเป็นการปฏิบัติลำพังเพียงคนเดียวแบบตัวใครตัวมัน ไม่ต้องมาปฏิบัติรวมกัน ให้แยกกันไปปฏิบัติ ต่างคนต่างปฏิบัติ เพราะถ้ามารวมกันแล้วเดี๋ยวก็คุยกัน หรือรอกันไป รอกันมา แต่ถ้าปฏิบัติคนเดียว อยู่คนเดียว เราจะเดินจงกรมมากหรือน้อย นั่งสมาธิมากหรือน้อย เราก็ทำของเราได้ตามอัธยาศัยของเรา
การที่ไปปฏิบัติรวมกันนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังปฏิบัติไม่เป็น ต้องไปฝึกไปเรียนรู้วิธีปฏิบัติ เดินจงกรมเขาเดินอย่างไร นั่งสมาธิเขานั่นอย่างไร แต่ถ้ารู้แล้วก็สมควรไปปฏิบัติของตนเองจะดีกว่า เพราะเวลาปฏิบัติรวมกันนี้ ความรู้สึกไม่เหมือนกับการปฏิบัติอยู่คนเดียว การปฏิบัติคนเดียวจะรู้สึกวิเวก จิตจะเข้าสู่ความสงบได้ง่ายกว่ากับการไปปฏิบัติอยู่กับหลายๆคน เพราะจิตมันจะนึกถึงคนรอบข้างอยู่นั่นเอง
นี่ก็คือการเตรียมเวลา เตรียมสถานที่ ให้กับการปฏิบัติ การปฏิบัติก็คือ ต้องสร้าง “สติ” เป็นเบื้องต้น ต้องสร้างสติขึ้นมาให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถนั่งสมาธิทำใจให้สงบได้ เมื่อทำใจให้สงบได้แล้วก็จะสามารถเอาปัญญาที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราพิจารณาอยู่เนืองๆ เพื่อมาหยุดความอยากต่างๆได้ เมื่อเรามีสติ สมาธิ ปัญญา แล้วความอยากก็จะไม่หลงเหลืออยู่ภายในใจ ใจของเราก็สงบ มีความสุขไปตลอด
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑




เพลินจนตาย
"...ทำอะไรก็ยังไม่เสร็จจะตายอีกแล้ว มันไม่ยาวพอปรารถนาหรอกชีวิตนี้ เบื่อทุกข์ทำไมแสวงหาทุกข์ ภาวนาดู พ่อแม่เราเป็นไง! เอามาคิดดู อย่าหลงตามกระแสโลก เขาร้องรำกระโดดโลดเต้น เออ..! ก็ระยะเดียวเท่านั้น อีกพักหนึ่งก็หยุดแล้ว มันจะมีอะไร..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ
วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร




"...ให้พยายามรักษาสติให้ได้ เพราะสตินี้จะเป็นฐานสู่ความสงบของจิต จนเข้าสู่กระแสปัญญาได้โดยง่าย
เมื่อสติครบถ้วนมีกำลังแล้ว ท่านให้นักภาวนาเปลี่ยนมาดูกาย กายอันเป็นที่ตั้งของธาตุสี่ขันธ์ห้า อายตนะอินทรีย์ทั้งหลาย
นักปฏิบัติธรรมไม่ต้องไปหาไกล ธรรมะมีอยู่ในตัวทั่วพร้อมแล้ว ขอให้พิจารณาตัวเรา ให้มันเห็นตามความเป็นจริงก็แล้วกัน..."
โอวาทธรรมคำสอน
องค์หลวงปู่บัว สิริปุณโณ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 104 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร