วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 19:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2018, 15:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของความรู้สึก

บางเวลาสุข บางเวลาทุกข์ บางเวลาเบื่อหน่าย

ไม่เที่ยง แปรปรวนตามเหตุและปัจจัย

เป็นทุกข์ เพราะถือมั่น(อุปทานขันธ์ ๕)

เป็นอนัตตา นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
เกิดเพราะเหตุ ดับเพราะเหตุ ยึดมั่นถือมั่นอะไรไม่ได้

ตราบใดที่เหตุมี
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรรม

ผลย่อมมี การให้ผลตามความเป็นจริงของการกระทำนั้นๆ
ไม่ใช่ตามความรู้สึกนึกคิดของใครๆ



กรรมเป็นเรื่องละเอียด

การให้ผลของกรรม ยิ่งละเอียดกว่า
คือ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า กรรมที่ได้กระทำนั้นๆ
จะส่งผลให้รับในช่วงเวลาไหน ในปัจจุบัน ในอนาคต หรืออีกต่อๆไป

และผลที่ได้รับ ไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะได้รับผลแบบไหน
กล่าวคือ ไม่ใช่ตามความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น ขณะที่กระทำ
แต่เป็นการได้รับผลของการกระทำตามความเป็นจริง
จึงเป็นอนัตตา เพราะไม่สามารถคาดเดาได้




อาการรู้โดยตามลำดับ ละโดยตามลำดับ
เป็นแบบนี้นี่เอง

ก็เพิ่งรู้นะว่า ผลของกรรมเป็นอนัตตา
บทจะรู้ ก็รู้ขึ้นมาเอง

สัญญาในจิตนี่เยอะมาก
สุดแต่ว่าสัญญาตัวไหนจะผุดขึ้นมา



เข้าใจความรู้สึกของภิกษุสาติ ที่มีเกิดขึ้นในตอนนั้นเลยนะ
กล่าวคือ รู้แค่ไหน ย่อมรู้ชัดแต่เพียงแค่นั้น
เกินจากนั้น ไม่สามารถรู้ได้
(เกินจากความรู้ความเห็นของตนที่มีอยู่)



ยกเว้นผู้ที่มีศัทธา ในพระธรรมคำสอน ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้
และปฏิบัติตาม ย่อมถึงความสิ้นสงสัยอย่างแน่นอน
เหตุปัจจัยจาก ผลของการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
ย่อมรู้โดยตามลำดับ ละโดยตามลำดับ
จนกระทั่งสิ้นสงสัยลงในที่สุด

หรือแม้มีความสงสัยอยู่ สงสัยสักแต่ว่าสงสัย
เพราะความศรัทธาหยั่งลงมั่นคงแล้ว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 20 ม.ค. 2018, 17:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2018, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


"รูปเป็นอนัตตา เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนัตตา
กรรมที่อนัตตากระทำ จักถูกต้องอัตตาคือกรรมได้อย่างไร"



เกี่ยวกับพระธรรมคำสอน
หากหยิบยกมา ไม่ตรงตามสภาวะ
ความหมายจะเปลี่ยนไปทันที
ดังเช่นในกรณีภิกษุสาติ



กรรม มายถึง การกระทำ

ส่วน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นเรื่องของขันธ์ ๕

คนละส่วน คนละสภาวะกัน

ถ้านำมาปะปนกัน ย่อมไม่สามารถแยกแยะได้ว่า

ตามความเป็นจริง กรรมหมายถึงสิ่งใด
ถ้าให้ความหมายผิด จะตกอยู่ภายใต้ลัทธิกรรมเก่า




กรรม หมายถึง การกระทำ ทางกาย วาจา ใจ
ความหมายของตัวสภาวะของคำที่เรียกว่า กรรม มีแค่นี้



รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หมายถึงสิ่งใด
ถ้าให้ความหมายผิด จะเป็นดั่งเช่นภิกษุสาติ

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เป็นเรื่องของ ขันธ์ ๕ มีแค่นี้





ส่วนความยึดมั่นถือมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ก่อให้เกิดการกระทำ ที่เรียกว่า กรรม
เป็นเรื่องของอวิชชาที่มีอยู่
จึงกระทำตามตัณหา



เน้นตรง "ความยึดมั่นถือมั่น"
หากไม่มีความยึดมั่นถือมั่น กรรมหรือการกระทำ
ไม่สามารถมีเกิดขึ้นได้เลย





พอเขียมาถึงตรงนี้
เออ! เข้าใจเลยนะ ทำไมภิกษุสาติ จึงคิดแบบนั้น



ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง ได้เกิดความปริวิตกแห่งใจขึ้นว่า
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ได้ยินว่า ด้วยประการดังนี้แล
รูปเป็นอนัตตา เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนัตตา

กรรมที่อนัตตากระทำ จักถูกต้องอัตตาคือกรรมได้อย่างไร?






ต้องแยกให้ขาดออกจากกันด้วย
หากยังแยกไม่ขาด ให้กำหนดรู้ต่อไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2018, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรม เป็นเรื่องของ การกระทำทางกาย วาจา ใจ
ไม่เป็นอนัตตา เพราะสามารถหยุดไม่ให้กระทำได้



ผลของกรรม เป็นอนัตตา
เพราะไม่สามารถคาดเดาถึงผลที่จะได้รับได้ว่า
ที่ไหน เมื่อไหร่ หรือจะได้รับผลอย่างไร





สิ่งใด ที่ตกอยู่ภายใต้ "การคาดเดา"
ล้วนเป็นอนัตตา

การคาดเดา เกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕





นิพพาน ที่เกิดจากการคาดเดา

นิพพานจึงเป็นอนัตตา หรือ อัตตา ด้วยเหตุปัจจัยนี้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2018, 17:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรม



กรรม อย่างหยาบ การกระทำทางกาย วาจา ใจ

กรรมอย่างกลาง ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ

กรรมอย่างละเอียด อุปทานขันธ์ ๕


อุปทานขันธ์ ๕ ไม่มี กรรมย่อมไม่มี





การละอุปทานขันธ์ ๕



ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย อันเราได้แนะนำไว้แล้ว
ด้วยการทวนถามในธรรมนั้นๆ ในบาลีประเทศ นั้นๆ
จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน

รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า.

พ. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง?
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า.

พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า.

พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ควรหรือหนอ ที่จะตาม เห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา?
ภิ. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า.


พ. เพราะเหตุนั้นแล ฯลฯ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ
ย่อมทราบ ชัดว่า ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฉะนี้แล.

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2018, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


๙.โปฏฐปาทสูตร

การได้อัตตา ๓ ประการ



ความได้อัตตาที่หยาบเป็นไฉน
คือ อัตตาที่มีรูป
ประกอบด้วยมหาภูต ๔ บริโภคกวฬิงการาหาร
นี้ความได้อัตตาที่หยาบ

[๓๐๔]ดูกรโปฏฐปาทะ บางคราวท่านจะพึงมีความเห็นอย่างนี้ว่า
สังกิเลสธรรมเราจักละได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น

ผู้มีความเพียรจักทำให้แจ้งซึ่งความบริบูรณ์ และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ แต่ความอยู่ไม่สบาย.

ดูกรโปฏฐปาทะ แต่เรื่องนี้ท่านไม่พึงเห็นอย่างนั้น
ที่แท้สังกิเลสธรรมพวกท่านจักละได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น

ผู้มีความเพียรจักทำให้แจ้งซึ่งความบริบูรณ์ และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ได้ ความปราโมทย์
ปีติ ปัสสัทธิ สติสัมปชัญญะ และความอยู่สบายจักมีได้






[๓๐๖] ดูกรโปฏฐปาทะ หากคนเหล่าอื่นจะพึงถามเราอย่างนี้ว่า
ท่าน ความได้อัตตาที่หยาบ

ซึ่งท่านแสดงธรรมเพื่อละเสียนั้น ว่าพวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น

พวกท่านจักทำความบริบูรณ์และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่เป็นไฉน

เมื่อเราถูกถามอย่างนี้แล้ว เราจะพึงพยากรณ์แก่เขาว่า
ท่าน นี้แหละ ความได้อัตตาที่หยาบ

ซึ่งเราแสดงธรรมเพื่อให้ละเสียนั้นว่า พวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น.

พวกท่านจักทำความบริบูรณ์ และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.







ความได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจเป็นไฉน
คือ อัตตาที่มีรูปสำเร็จด้วยใจ
มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง
นี้ความได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจ

[๓๐๗] ดูกรโปฏฐปาทะ หากคนเหล่าอื่นจะถามเราว่า
ท่าน ความได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจ

ซึ่งท่านแสดงธรรมเพื่อละเสียนั้นว่า พวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น
พวกท่านจักทำความบริบูรณ์และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ เป็นไฉน

เมื่อเราถูกถามอย่างนี้แล้ว เราจะพึงพยากรณ์แก่เขาว่า
ท่าน นี้แหละ ความได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจ

ซึ่งเราแสดงธรรมเพื่อให้ละเสียนั้นว่า พวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น.
พวกท่านจักทำความบริบูรณ์และ ความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.









ความได้อัตตาที่หารูปมิได้ เป็นไฉน
คือ อัตตาอันหารูปมิได้ สำเร็จด้วยสัญญา
นี้ความได้อัตตาที่หารูปมิได้

ดูกรโปฏฐปาทะ หากคนเหล่าอื่นจะพึงถามเราว่า
ท่าน ความได้อัตตาที่หารูปมิได้

ซึ่งท่านแสดงธรรมเพื่อละเสียนั้นว่า พวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น

พวกท่านจักทำความบริบูรณ์และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เป็นไฉน

เมื่อเราถูกถามอย่างนี้แล้ว เราจะพึงพยากรณ์แก่เขาว่า
ท่าน นี้แหละความได้อัตตาที่หารูปมิได้

ซึ่งเราแสดงธรรมเพื่อให้ละเสียนั้นว่า พวกท่านปฏิบัติอย่างไร
จึงจักละสังกิเลสธรรมได้ โวทานิยธรรมจักเจริญยิ่งขึ้น
พวกท่านจักทำความบริบูรณ์ และความไพบูลย์แห่งปัญญา
ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.








หมายเหตุ:

"อัตตาที่มีรูป ประกอบด้วยมหาภูต ๔ บริโภคกวฬิงการาหาร
นี้ความได้อัตตาที่หยาบ"

อุปทานขันธ์ ๕ ที่มีเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ได้แก่ กามภพ





"อัตตาที่มีรูปสำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง
นี้ความได้อัตตาที่สำเร็จด้วยใจ"

อุปทานขันธ์ ๕ ที่มีเกิดขึ้น ขณะจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิในรูปฌาน ได้แก่ รูปภพ






"อัตตาอันหารูปมิได้ สำเร็จด้วยสัญญา
นี้ความได้อัตตาที่หารูปมิได้"

อุปทานขันธ์ ๕ ที่มีเกิดขึ้น ขณะจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิในอรูปฌาน ได้แก่ อรูปภพ





"โวทานิยธรรม"
สมถะ วิปัสสนา

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2018, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เขียนตามความเป็นจริงเรื่องของตัวเอง

วิพากย์ วิจารณ์เรื่องของตัวเอง

ดีกว่าปล่อยให้จิตวิ่งพร่านไปนอกตัว
วิพากย์ วิจารณ์เรื่องนอกตัว
เป็นการก่อภพ ก่อชาติ ที่ไม่สิ้นสุด



สัญญา ความจำได้หมายรู้
จึงมีประโยชน์มากสำหรับผู้ปฏิบัติ
หากรู้จักนำมาทบทวนสภาวะที่มีเกิดขึ้นในใจตน
เป็นการถ่ายถอนอุปทาน ความยึดมั่นถือมั่นในอุปทานขันธ์ ๕ ที่มีอยู่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2018, 16:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ผลของกรรมเป็นวิบากกรรมในอดีตคือ
กรรมในอดีตชาติที่เคยทำไว้มาปรากฏ
ให้ได้รับผลทั้งดีและไม่ดีในชีวิตประจำวัน
จึงรู้จึงเห็นเป็นอนัตตาคือเลือกเห็น
ไปตามใจชอบไม่ได้เลยขึ้นกับ
ผลที่ดี/ไม่ดีที่เคยทำเอาไว้
มาแสดงให้รู้ว่าดีหรือไม่ดี
รู้ได้จากที่ลืมตาเห็น
กำลังมีให้เห็นจริงๆ
:b44:
:b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2018, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
จึงรู้จึงเห็นเป็นอนัตตาคือเลือกเห็นไปตามใจชอบไม่ได้เลยขึ้นกับ
ผลที่ดี/ไม่ดีที่เคยทำเอาไว้ มาแสดงให้รู้ว่าดีหรือไม่ดี





walaiporn เขียน:
และผลที่ได้รับ ไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะได้รับผลแบบไหน
กล่าวคือ ไม่ใช่ตามความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น ขณะที่กระทำ




แต่เป็นการได้รับผลของการกระทำตามความเป็นจริง

จึงเป็นอนัตตาเพราะไม่สามารถคาดเดาได้






Rosarin เขียน:
ให้ได้รับผลทั้งดีและไม่ดีในชีวิตประจำวัน



ตรงนี้เป็นเรื่องของอุปทานขันธ์ ๕ ที่เกิดขึ้น
จึงให้ค่าให้ความหมายว่า ดี ไม่ดี ตามแรงผลักดันของตัณหาที่มีเกิดขึ้น
เหตุปัจจัยจาก อวิชชาที่มีอยู่

เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปยาส จึงมีต่อไป
ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร