วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 09:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 05:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ความสุขของคนเรา
อยู่ที่การรู้จักพอ
พอใจ ในการเสียสละ
พอใจ ในการรักษาศีล
พอใจ ในการทำการ ทำงาน
อย่าให้อยาก มันออกหน้าออกตา
จนไปเบียดเบียนตัว และผู้อื่น"
-:- หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม -:-



“มีแต่จิตดวงเดียว”
..ถ้าเร่งเข้า ลงถึงขั้นกลาง ทุกขเวทนาต่าง ๆ มันเจ็บ มันปวด มันแน่นท้องแน่นไส้ ง่วงเหงาหาวนอน ของเหล่านี้หนีหมด นิวรณ์ธรรม ลงปุ๊บของเหล่านั้นแตกหนีหมด มีแต่ความสดชื่นเบิกบานอยู่ในจิตใจ หมดทั้งตัวเราหละ ตัวก็เบา กายก็เบา ไม่กินข้าวทั้งวันก็ไม่หิว ไม่นอนทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ง่วง มีแต่ความสดชื่นเบิกบาน นิ่มนวลอยู่ บอกไม่ถูกเลย บอกยากอยู่นะ ถ้าเกิดขึ้นกับใคร คนนั้นจึงจะรู้ โอ..รสชาติมันเป็นอย่างนี้ จึงค่อยตัดสินได้ ถ้าหากจิตใจอยู่ประจำ ก็ยิ่งสดชื่นเบิกบานหละ คำว่าเจ็บนั้น คำว่าปวดนี้ เป็นนั้น เป็นนี้ เหล่านี้ เป็นเรื่องเล็กไปหมด ตัวนี้เป็นเรื่องใหญ่ มีแต่ใจเท่านั้นหละ ไปสมมุติว่า เจ็บตรงนั้น เจ็บตรงนี้ ว่าเหนื่อย ว่าล้า ว่าหิว หรือว่าเจ็บท้องเจ็บไส้เจ็บอะไร มีแต่ใจนั้นหละมันบอก ดึงมาอยู่ในจุดเดียวแล้ว มันไปว่าไม่ได้ มันไม่รู้จัก มีแต่จิตดวงเดียว หนักเข้า ร่างกายหมดทั้งก้อนไม่มีหละ มีแต่จิตดวงเดียว โลกเหล่านี้ก็ไม่มี เสียงอะไรก็ไม่มี มันไปรวมอยู่ในจุดเดียวกัน นี้ท่านว่ารวมความรู้ มาอยู่ในจุดเดียว แล้วก็สามารถทำได้หมดทุกคน ไม่ใช่ว่าเป็นของเหลือวิสัย..
หลวงปู่ศรี มหาวีโร
เทศนา เรื่อง รู้อยู่ในจิต




"เมื่อเรายังมีสติอยู่
เมื่อนั้นแหละเราได้ภาวนาอยู่
การภาวนาไม่ใช่ว่าเราจะนั่งสมาธิอย่างเดียว
ยืน เดิน นั่ง เราก็รู้จัก
นอนอยู่เราก็รู้จัก
เรารู้จักตัวของเราอยู่เสมอ
จิตของเรามีความประมาท เราก็รู้จัก
ไม่มีความประมาท เราก็รู้จักของเราอยู่
ความรู้อันนี้แหละที่เรียกว่า พุทโธ
เรารู้เห็นนานๆ พิจารณาดีๆ
มันก็รู้จักเหตุผลของมัน มันก็รู้เรื่อง"
พระโพธิญาณเถร
(หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี




“รู้อยู่จุดเดียว”
..เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคน สำหรับผู้ที่ฝึกหัดอบรมเอาจิตเอาใจตัวเอง ต้องพินิจพิจารณา เอาจิตใจเรา ทำอย่างไรมันจึงจะหดตัวเข้ามาสู่ตัวเจ้าของเอง อันนี้ก็เคยพูดหลายครั้งหลายหนมาแล้ว อันนี้เมื่อดึงความรู้เข้ามารวมอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งในตัวเราแล้ว จะมีลักษณะอาการอย่างไร อันนี้ก็พูดให้ฟังอยู่ แต่ถ้าเราไม่เห็น เราก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้างไปอย่างนั้น เหมือนคนหนึ่งกินของเผ็ด มันเผ็ดจนพอแรงแล้ว ส่วนผู้ไม่กิน ก็ไม่เผ็ดด้วย ก็เฉย ๆ อยู่ แล้วถามว่า เผ็ดมันเป็นยังไง อันนี้ฉันใดก็ดี ถ้าหากเรารวบรวมพลังความรู้ทั้งหลายแหล่ ให้มาอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง รู้กว้างขวางใหญ่โตเหมือนแสงสว่าง ไฟดวงใหญ่เท่าไหร่ ก็สว่างไกลเท่านั้น เหมือนอย่างพระอาทิตย์พระจันทร์นี้ก็สว่างไปเกือบทั่วโลก ลักษณะความรู้ก็เหมือนกัน เราดึงความรู้ ความรู้คือใจตัวนี้หละ รวมพลังทั้งหลายมาอยู่ในจุดหนึ่ง ส่งไปทางตา จะเป็นความรู้ทางตา เป็นวิญญาณทางตา ก็ให้มันหดเข้าไปอยู่ใจ วิญญาณทางหูก็ดึงเข้ามาอยู่ใจ จมูก ลิ้น กาย ในอายตนะทั้ง ๖ ดึงเข้ามาอยู่ในจุดเดียวกัน ความรู้มันก็ใหญ่ขึ้นหละ หนักเข้าก็กลายเป็นสมาธิ ตามภาษา คำว่าสมาธิ คือจิตใจหนักแน่น รู้อยู่ในจุดเดียว..
หลวงปู่ศรี มหาวีโร
เทศนา เรื่อง รู้อยู่ในจิต




"พระนั้นมิใช่ว่าจะเป็นได้ง่ายๆ
บวชเข้ามาเป็นผีเฉยๆก็มาก ลงนรกก็แยะไป
เออ...เป็นพระน่ะมันยากที่สุด ไม่ใช่ว่าใครจะคิด
จะทำ จะนึก เอาตามใจตัวเองนั้นไม่ได้หรอก
บวชแล้วลืมตัวว่าเป็นพระก็ลงนรก
เพราะยังพกเอาความหลง มาทำให้พระศาสนาสกปรก"
หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร




"..ถึงจะมีเงินร้อยล้านพันล้าน
ก็ไม่สามารถดับกิเลสในใจได้
เพราะเงินเป็นเพียงสมมุติ
สมบัติของโลก
เป็นสุขแต่เพียงสมมุติ
ปรุงแต่งขึ้นมาเองทั้งนั้น
ไม่ใช่สวรรค์สมบัติ
ไม่ใช่นิพพานสมบัติ
ถ้าใช้เพื่อส่งเสริมกิเลส
ก็เป็นโทษแก่ตน
ถ้าใช้สงเคราะห์ผู้อื่น
ก็เป็นคุณประโยชน์แก่ตน
จึงไว้ใจในความแน่นอน ของมันไม่ได้.."
พระอาจารย์ตั๋น(อัครเดช ถิรจิตโต)




ถ้ามันง่วงนอนมาก จะไม่นอน...
เดินจงกรมถึงรุ่งเช้านี่ก็มี ดัดอยู่อย่างนั้น ดัดตัวเอง...
ถ้าไม่ทำอย่างนั้นแล้ว เวลามันเหนื่อย จิตมันไม่ออกจากกาย
มันจะกลับมารักตัวเองหมดนะ เวลามันจวนจะตายจริงๆน่ะ
ลองนั่งสู้ดูสิ มันจะคิดไปโน่นไปนี่ไม่ได้ สู้เวทนาใหญ่มันดู
ถ้าไม่สู้แล้ว ถ้าไปถึงของเก่าก็จะล้มแป๊กล่ะ
ก็จะได้เท่านั้น ถ้าไม่ชนะมัน
ถ้าชนะตัวเองแล้วมันจะไม่กลับกลอก
ถ้าชนะคนอื่น มันกลับแพ้กลับกลัวกันอยู่อย่างนั้น...
นี่อะไร พอจะทำอะไรก็เหยาะๆแหยะๆ มันไม่ได้อะไรหรอก
บวชมานานเท่าไหร่ ก็เท่านั้นล่ะ...มืดแจ้งๆ อยู่อย่างนั้น
ปีนั้นเดือนนี้ก็ของเก่า พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก็เรื่องหลงของเก่านั่นล่ะ
.
หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
เทศน์เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๙



"สิ่งอะไรอะไรเค้าจะเป็นอย่างนั้น
พระอาทิตย์จะขึ้นตะวันออก
ดันไปอยากให้ขึ้นตะวันตกอย่างเนี้ย มันไม่ได้
วัตถุข้าวของเค้ามีทางเดินของเค้าอย่างนั้น
ร่างกายมีทางเดินแบบนั้น
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีทางเดินแบบนั้น
แล้วความต้องการมันเป็นยังไง มันตรงความจริงมั้ย
เนี่ย ท่านให้ดูทางเดินของเค้า
เค้าต้องเดินแบบนี้ ตามธรรมชาติของมัน
ใครยังไม่รู้จักมันน่ะเหรอ
ความอยากความต้องการผิดไปจากนั้นละก็
ตัวเดือดร้อนแล้ว ตัวเป็นทุกข์แล้ว
เรียนรู้ตามความเป็นจริง
เนี่ย ท่านว่ารู้ตามเป็นจริง เค้ามีทางเดินยังไง
ธรรมชาติเค้าเป็นยังไง
รู้ตามนั้นแล้ว มันก็ไม่ต้องอยากอะไรแล้วล่ะ
เพราะเค้าเป็นอย่างนั้นนี่
มันไม่รู้จะไปเอาอะไรกับสิ่งเหล่านี้
เค้ามีทางของเค้าแน่นอน
เกิดแล้วดับอย่างเนี้ย อนิจจังอย่างเนี้ย
มีทางเดินแน่นอนไปหมดทุกอย่าง
ไล่เรียงดู ทุกสิ่งทุกอย่าง
เห็นทางเดินของเค้า เห็นธรรมชาติของเค้าแล้วเนี่ย
มันจะเอายังไง จิตมันจะเอายังไง
มันเป็นเอง มันไม่เอายังไงหรอก
มันไม่รู้จะเอาอะไรกับอะไร"
พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
วัดภูสังโฆ (วัดสังโฆญาณวิสุทธิโสภณ)
ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี




ปีเก่าปีใหม่ จะไปสำคัญอะไร มันสมมติขึ้นทั้งนั้นแหละ
มืดมา ก็สว่างไป ไม่มีสาระอะไรกับวันกับคืนสักอย่าง
ไปแห่กันตื่นกันฉลองกินเหล้าเมายากัน มันจะเอาอะไรไปดี
ถ้ามันจะดี มันก็ต้องดีด้วยการกระทำ ตั้งใจทำคุณงามความดีตั้ว
ถ้าตั้งใจทำคุณงามความดี อะไรที่ยังไม่เจริญ ทาน ศีล ภาวนา
ก็ทำให้มันเกิดมันมี นี่ ถึงจะเป็นมงคล ไม่ได้ขึ้นกับกาลกับเวลา
เห็นไหมล่ะ ท่านบอกอยู่ว่า อกาลิโก ไม่ขึ้นกับกาลกับเวลา
ไม่ใช่มามงคลกับปีเก่ามีใหม่ ไม่มีสาระอะไรสักอย่าง
..
เรื่องปีใหม่ โดยหลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 66 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร