วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 30, 31, 32, 33, 34  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2020, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
3 มีนา 2544 วันระเบิดเครื่องบิน


https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/ ... e=5EDAF41F

https://www.facebook.com/konthaiuk.prot ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2020, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อเนื่องอีกหน่อย

อ้างคำพูด:
สหภาพการบินไทยลบโพสต์โทษทักษิณไปแล้ว
นึกแล้วเชียว เลยแคปคอมเมนท์เด็ดๆ ไว้ (น่าจะเป็นคนในหรือไม่ก็ outsource)
สรุปคือมันเละไปหมดทั้งองค์กร ผู้บริหาร พนักงาน สหภาพ วัฒนธรรมองค์กร
ที่จริงก็มีคนเมนท์ต่อว่า แม่-เป็นอย่างนี้แทบทุกรัฐวิสาหกิจแหละ
เพียงแต่พวกนั้นผูกขาดโดยไม่ต้องแข่งกับใคร


รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2020, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิกๆๆ :b32:

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2020, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: รักลุงกำนันเท่าฟ้า มอบพัดกะตังให้ลุง

https://www.facebook.com/10001972902063 ... gwNTYzMzM/

อดีตอีกหน่อย

อ้างคำพูด:
เก็บตก จากการบินไทยเมื่อวานค่ะ.. เป็นช่วงที่ลุงกำนันให้แกนนำทุกคนแนะนำตัว คือได้แค่พูดว่าสวัสดีค่ะ จิตภัสร์ ยังพูด กฤดากร ไม่จบ.. พี่น้องการบินไทยก็กรี๊ดดดดดด ไม่มีหยุด จนตั๊นต้องขำๆไปด้วย ขอบคุณนะคะที่มอบความรักและกำลังใจให้พวกเรามวลมหาประชาชนเสมอค่ะ


https://www.facebook.com/chitpas/photos ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2020, 10:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ประชาชนประมาณ 1,000 คน เบียดเสียดแย่งกันรับเงินบริจาคจากเศรษฐีใจบุญ ล้มลงเหยียบกันตาย 3 ศพ บาดเจ็บอีก 9 คน ที่ศรีลังกา


รูปภาพ

แถวๆนี้ยังไม่มีแย่งกันเหยียบกันตายยังไม่ปรากฏข่าว มีแต่แขวนคอตาย กับ เขากำลังแจกๆเงินอยู่มีคนมาชิงเงินเขาไปต่อหน้าต่อตา :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2020, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
:b12: รักลุงกำนันเท่าฟ้า มอบพัดกะตังให้ลุง

https://www.facebook.com/10001972902063 ... gwNTYzMzM/

อดีตอีกหน่อย

อ้างคำพูด:
เก็บตก จากการบินไทยเมื่อวานค่ะ.. เป็นช่วงที่ลุงกำนันให้แกนนำทุกคนแนะนำตัว คือได้แค่พูดว่าสวัสดีค่ะ จิตภัสร์ ยังพูด กฤดากร ไม่จบ.. พี่น้องการบินไทยก็กรี๊ดดดดดด ไม่มีหยุด จนตั๊นต้องขำๆไปด้วย ขอบคุณนะคะที่มอบความรักและกำลังใจให้พวกเรามวลมหาประชาชนเสมอค่ะ


https://www.facebook.com/chitpas/photos ... =3&theater


เจ้าหนี้รุมกันใหญ่

รูปภาพ

https://www.thebangkokinsight.com/36179 ... H0WJzAAHG8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2020, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คิดทุกอย่างที่เห็นนั้นคือฟุ้งซ่านจำผิดส่งออกไปคิดทุกสิ่งที่อยู่นอกกายใจตนเอง
ตายแล้วจำชาตินี้ไม่ได้นะจ๊ะเหมือนกันเลยจำชาติก่อนก็ไม่ได้เข้าใจป่ะว่าไม่มีเรา
ไปเกิดใหม่ชาติหน้าถ้าไปเข้าท้องแมวจะมาพร่ำบ่นเพ้อธัมมะแบบกรัชกายทำอยู่ได้มั๊ย
บอกให้ฟังก่อนตายเพื่อเข้าใจว่าอะไรที่กำลังมีการกระทบที่กายใจตัวเองให้เกิดปัญญา
https://youtu.be/Xd8qPleTsfY
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2020, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
คิดทุกอย่างที่เห็นนั้นคือฟุ้งซ่านจำผิดส่งออกไปคิดทุกสิ่งที่อยู่นอกกายใจตนเอง
ตายแล้วจำชาตินี้ไม่ได้นะจ๊ะเหมือนกันเลยจำชาติก่อนก็ไม่ได้เข้าใจป่ะว่าไม่มีเรา
ไปเกิดใหม่ชาติหน้าถ้าไปเข้าท้องแมวจะมาพร่ำบ่นเพ้อธัมมะแบบกรัชกายทำอยู่ได้มั๊ย
บอกให้ฟังก่อนตายเพื่อเข้าใจว่าอะไรที่กำลังมีการกระทบที่กายใจตัวเองให้เกิดปัญญา
https://youtu.be/Xd8qPleTsfY
onion onion onion


คุณโรสคิดมั่วผสมผสานปนเปกันไปหมด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2020, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความทุกข์ ความสุขของชีวิต

คำสอนเรื่องอริยสัจ ๔ นั้น แสดงให้เห็นภาพของชีวิตแบบรวมๆ หรือเป็นการพูดถึงความทุกข์ของชีวิตในภาพรวม
ในบางพระสูตร พระพุทธองค์ได้ทรงจำแนกให้เห็นความทุกข์ รวมทั้งความสุขของชีวิต ในระดับต่างๆ อย่างละเอียด เช่น ในอิณสูตร (องฺ.ฉ.22/316/393) ทรงแสดงว่า ความทุกข์ของชาวโลก (กามโภคี) มี ๖ อย่าง คือ

-ความจน
-การเป็นหนี้
-การเสียดอกเบี้ย
-การถูกทวงดอกเบี้ย
-การถูกทวงหนี้
-การถูกจองจำ

ในพระสูตรนี้แสดงให้เห็นว่า ชีวิตในทางโลกนั้น พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญแก่ปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ ปัญหาเรื่องปากท้องเป็นอันดับแรก และถือว่าเรื่องเศรษฐกิจนั้น เป็นที่มาของความทุกข์สำหรับชีวิตทางโลกอันดับแรก
กล่าวโดยย่อก็คือ ความจนคือความยากไร้ด้วยปัจจัย ๔ เป็นความทุกข์สำหรับชาวโลก

เมื่อทรงชี้ให้เห็นว่า ความจนเป็นทุกข์ พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงให้เห็นว่า ความจนนั้นแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่เรียกว่า ทิฏฐธัมมิกกัตถะ คือ
-อุฏฐานสัมปทา ขยันทำงาน
-อารักขสัมปทา รู้จักเก็บออม
-กัลยาณมิตตตา คบแต่เพื่อนดี
-สมชีวิตตา เป็นอยู่พอควรแก่ฐานะ

สำหรับชีวิตในทางธรรม พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงว่า ความไม่มีคุณธรรม ถือว่าเป็นความจนในทางธรรม ผู้มีชีวิตอยู่ในทางธรรมด้วยความจน ก็ย่อมจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นทุกข์เช่นกัน ผู้ที่ไม่มี สัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชื่อว่าเป็นคนจนในทางธรรม และคนจนในทางธรรมนั้น
-ย่อมจะกู้หนี้ คือ ทำชั่วทางกาย วาจา ใจ
-ต้องเสียดอก คือ คอยปกปิดความชั่วของตนเอง
-ต้องถูกทวงดอก คือ ถูกคนติเตียน
-ต้องถูกทวงหนี้ คือ อกุศลวิตกครอบงำ
-ต้องถูกจองจำ คือ ตายแล้วไปอบายภูมิ
(อิณสูตร องฺ.ฉกฺก.22/316/394)

คำสอนในพระสูตรนี้ ให้นัยแก่เราว่า
ความจนทางโลก คือ ยากไร้วัตถุ
ความจนทางธรรม คือ ยากไร้คุณธรรม
ความจนทุกอย่าง คือ ทุกข์ของชีวิต หรือ มีชีวิตอย่างเป็นทุกข์

สาเหตุของทุกข์ของชีวิตอีกอย่างหนึ่งก็คือ การวิวาท ซึ่งพระพุทธศาสนาเรียกว่า วิวาทมูลกทุกข์ คือ ทุกข์ที่มีสาเหตุมาจากการวิวาท และการวิวาทนั้น มี ๒ ลักษณะ คือ
ชาวโลก วิวาทกันเพราะกาม
นักบวช วิวาทกันเพราะทิฏฐิ (อง.ทุก. 20/282/84)


และเรื่องของกามนั้น นอกจากเป็นเหตุให้ชาวโลกวิวาทกันแล้ว
ตัวกามเองก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์แก่ชีวิตด้วย โดยพระพุทธศาสนาเปรียบเทียบให้เห็นโทษ หรือ ความทุกข์ที่เกิดจากกามไว้ 7 อย่าง คือ
1) กามเปรียบด้วยกระดูกเปื้อนเลือด ที่สุนัขแทะเท่าไรก็ไม่รู้สึกอิ่ม
2) กามเปรียบด้วยชิ้นเนื้อ ที่นกชนิดต่างๆ พากันเยื้อแย่งจนถึงตัวตายก็มี
3) กามเปรียบด้วยคบไฟ ที่คนถือเดินทวนลมเป็นเหตุให้ไหม้มือไหม้แขน จนบางทีเจ็บปวดถึงตาย
4) กามเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง เมื่อไรตกลงไปก็มีแต่เจ็บปวดจนอาจถึงตาย
5) กามเปรียบด้วยความฝัน ซึ่งดูสวยงามขณะฝัน แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่มีอะไรสักอย่าง
6) กามเปรียบด้วยสมบัติที่ยืมเขามา ชื่นชมได้ชั่วคราว แล้วเจ้าของก็มาเอาคืนไป
7) กามเปรียบด้วยต้นไม้มีผลดก ย่อมเป็นที่หมายปอง แย่งชิงของคนทั้งหลาย ซึ่งต่างก็พยายามตัดโคน แย่งชิงเอาผลมาเพื่อตนเอง เป็นเหตุให้ฆ่าฟันกัน

(โปตลิยสูตร - ม.ม. 13/47-53/41)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2020, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่ออีกหน่อย ตัดลัดมาเพื่อให้เข้ากับ กท.ความจนเป็นทุกข์ในโลก


ในเรื่องความสุขของชีวิตนั้น พระพุทธศาสนาแสดงไว้ ๒ นัย คือ

นัยแรก พูดถึงการดับทุกข์ ซึ่งมีความหมายว่า เมื่อทุกข์ดับ ความสุขก็เกิดขึ้น ดับทุกข์ได้มาก ก็มีความสุข
ดับทุกข์ได้น้อย ก็มีความสุขน้อย
ดับทุกข์ได้สิ้นเชิง ก็มีความสุขสมบูรณ์
ในความหมายนี้ ความสุข คือ ปริมาณลดลงของความทุกข์ หรือว่าความสุขคือ ผลของการลดลงของทุกข์
ดังที่ท่านสรุปไว้ในคัมภีร์อรรถกถาว่า ภาวะไร้ทุกข์ เรียกว่า ความสุข (สารตฺถ. ทุติย. 184)

นัยแรก พูดถึงความสุขโดยตรง โดยจำแนกความสุขเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ระดับต่ำๆ ไปจนถึงระดับสูงสุด ทั้งสุขทางกาย สุขทางใจ พร้อมทั้งแสดงลักษณะและคุณภาพของความสุขในระดับนั้นๆไว้ด้วย

ทั้งความทุกข์และความสุข เป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้รู้ ให้เข้าใจ แล้วปฏิบัติให้ถูกต้อง กล่าวคือ ควรรู้ว่าความทุกข์ คือ อะไร
ความทุกข์ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความทุกข์ ดับอย่างไร
ความทุกข์ ดับด้วยวิธีใด

ส่วนเรื่องของความสุขก็เช่นเดียวกัน ควรรู้ว่า
ความสุขคืออะไร
ความสุขเป็นอย่างไร
ความสุขประเภทใดควรเสพ ไม่ควรเสพ
ความสุขเกิดขึ้นได้อย่างไร

เพราะถ้าไม่ตระหนักชัด ไม่ทราบความเป็นจริงในเรื่องของทุกข์ และสุขที่เกิดขึ้นแก่ตนเองก็ย่อมจะ
- ยินดีต่อสุข
- ยินร้าย ต่อทุกข์

แล้วทั้งทุกข์ และสุขก็จะครอบงำจิตใจเรา เป็นเหตุให้ชีวิตเป็นทุกข์พอๆกัน

(โลกวิปัตติสูตร – องฺ.อฏฺฐ.23/96/195)


ในปัญจังคสูตร (สํ.สฬา. 18/413-424/278) พระพุทธองค์ทรงแบ่งความสุขเป็น ๑๐ ระดับ คือ

1. กามสุข สุขเนื่องด้วยกาม ได้แก่ ความสุขโสมนัสที่เกิดขึ้นด้วยอาศัยกามคุณ ๕
2. ปฐมฌานสุข สุขเนื่องด้วยปฐมฌาน ซึ่งสงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย
3. ทุติยฌานสุข สุขเนื่องด้วยทุติยฌาน
4. ตติยฌานสุข สุขเนื่องด้วยตติยฌาน
5. จตุตถฌานสุข สุขเนื่องด้วยจตุตถฌาน
6. อากาสานัญจายตนสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยอากาสานัญจายตนสมาบัติ ซึ่งล่วงพ้นรูปสัญญาได้สิ้นเชิง ปฏิฆสัญญาล่วงไปหมด ไม่มนสิการนานัตตสัญญา นึกถึงแต่อากาศอันอนันต์เป็นอารมณ์
7. วิญญาณัญจายตน สมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยวิญญาณัญจายตน สมาบัติ ซึ่งคำนึงวิญญาณอันอนันต์เป็นอารมณ์
8. อากิญจัญญายตน สมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วย อากิญจัญญายตน สมาบัติ ซึ่งคำนึงภาวะที่ไม่มีอะไรเลยเป็นอารมณ์
9. เนวสัญญานาสัญญายตนสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ อันถึงภาวะที่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่
10. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วย สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ อันถึงภาวะที่ดับสัญญาและเวทนาทั้งหมด

ความสุขทั้ง ๑๐ ระดับนี้ หากกล่าวโดยสรุปก็มี ๓ อย่าง คือ

1. กามสุข ความสุขเนื่องด้วยกาม

2. ฌานสุข สุขเนื่องด้วยฌาน หรือสุขเนื่องด้วยสมาบัติ ๘ แยกเป็น ๒ ระดับ ย่อย
2.1 สุขในรูปฌาน หรือ สุขเนื่องด้วยรูปฌาน ๔
2.2 สุขในอรูปฌาน หรือ สุขเนื่องด้วยอรูปฌาน ๔

3. นิโรธสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยนิโรธสมาบัติ

สุขทั้ง ๑๐ ขั้นนี้ ท่านยอมรับว่าเป็นความสุขทั้งนั้น หากแต่ว่าเป็นความสุขที่ดีกว่า ประณีตซึ่งซึ้งกว่ากันขึ้นไปตามลำดับขั้น เพราะความสุขขั้นต้นๆ มีส่วนเสีย หรือแงที่เป็นทุกข์แทรกอยู่ด้วยมาก เมื่อเป็นสุขขั้นสูงขึ้นไป ก็ยิ่งประณีตบริสุทธิ์มากขึ้น


เรื่องความสุขดังกล่าว เป็นการกล่าวถึงความสุขในภาพรวมซึ่งมีความหมายครอบคลุมถึงความสุขทุกประเภท
แต่ถ้ากล่าวถึงความสุขของชาวโลก หรือ คนทั่วไปแล้ว พุทธศาสนาก็กล่าวถึงว่ามีอยู่ ๔ อย่างด้วยกัน คือ
อัตถิสุข สุขจากการมีโภคทรัพย์
โภคสุข สุขจากการบริโภคทรัพย์
อนณสุข สุขจากการไม่เป็นหนี้
อนวัชชสุข สุขจากการทำงานที่ไม่มีโทษ
(อันนนาถสูตร - องฺ.จตุกฺก. 21/62/90)

หากกล่าวสั้นๆก็คือ
มีสิน
กินได้
ไร้หนี้
มีงานทำ

ความสุขทั้ง ๔ อย่างดังกล่าวมานี้ก็คือ ภาวะตรงกันข้ามกับความจน อันเป็นที่มาของความทุกข์อีกหลายอย่างของชาวโลกนั้นเอง และความสุขทั้ง ๔ อย่างนี้ พระพุทธศาสนาถือว่า ข้อ ๔ มีความสำคัญกว่า ๓ ข้อแรก.

(พุทธปรัชญา ในสุตตันตปิฎก หน้า 50)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2020, 17:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ลุงทิ้งศพเมียลงแม่น้ำเจ้าพระยา อ้างไม่มีเงินทำศพ วัดไม่เผาเพราะไม่มีเอกสาร

เมื่อ จนท. ได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปากคลองสาน พร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ก็ได้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าของผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ก่อนพบ นาย... อายุ 62 ปี เป็นผู้เช่าบ้าน เขาได้ยอมรับว่า ศพหญิงปริศนาที่พบเป็นภรรยาของตนเอง

เขาให้การว่า ตนมีอาชีพสานตะกร้อครอบปากสุนัขขาย แต่รายได้ไม่ค่อยดีต้องอดมื้อกินมื้อ ก่อนหน้านี้หลายปีเคยเลิกรากับผู้ตายไปแล้ว จนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าผู้ตายป่วยเป็นมะเร็ง ลุกลามไปทั่วร่างกายจนไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีใครดูแล จึงเดินทางไปรับตัวมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อนำมาดูแลที่บ้านเช่า เนื่องจากเห็นว่าเคยเป็นสามีภรรยากัน

จนกระทั่งวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ด้วยความที่ไม่มีเงินทำศพและไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร พยายามติดต่อหาวัดเพื่อเผาศพภรรยา แต่ทุกแห่งยืนยันว่าต้องใช้เอกสารมรณบัตร แต่ตนไม่มี เมื่อหาทางออกไม่ได้
ศพจึงถูกทิ้งไว้ในห้องนาน 3 คืน จนเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น จากนั้น ตนจึงตัดสินใจนำร่างเปลือยเปล่าของภรรยาคลุมด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ก่อนนำขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อไปทิ้งที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธยอดฟ้า จนกระทั่งศพภรรยาลอยขึ้นมาตรงท่าน้ำไม่ไกลจากบ้านเช่าของตน และตำรวจบุกมาจับกุมตัวในที่สุด

ทาง จนท. ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า ช่วงนี้วิกฤตเกิดขึ้นทั่วประเทศ หากครอบครัวใดต้องประสบปัญหาในลักษณะนี้ อย่าได้ด่วนตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีผิดๆ ขอให้ท่านไตร่ตรอง และลองมองหาผู้ช่วยคิดก่อน อย่างน้อยโทรศัพท์ปรึกษาตำรวจที่เบอร์ 191 เพื่อให้ตำรวจท้องที่เข้าช่วยเหลือได้




รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2020, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คิดทุกอย่างที่เห็นนั้นคือฟุ้งซ่านจำผิดส่งออกไปคิดทุกสิ่งที่อยู่นอกกายใจตนเอง
ตายแล้วจำชาตินี้ไม่ได้นะจ๊ะเหมือนกันเลยจำชาติก่อนก็ไม่ได้เข้าใจป่ะว่าไม่มีเรา
ไปเกิดใหม่ชาติหน้าถ้าไปเข้าท้องแมวจะมาพร่ำบ่นเพ้อธัมมะแบบกรัชกายทำอยู่ได้มั๊ย
บอกให้ฟังก่อนตายเพื่อเข้าใจว่าอะไรที่กำลังมีการกระทบที่กายใจตัวเองให้เกิดปัญญา
https://youtu.be/Xd8qPleTsfY
onion onion onion


คุณโรสคิดมั่วผสมผสานปนเปกันไปหมด :b1:

:b1:
ตัวเองนั่นแหละบอกแล้วก็ไม่เข้าใจ
บิกว่าความจริงที่พระพุทธเจ้ารู้จริง
มันกำลังปรากฏว่าเกิดดับเดี๋ยวนี้ค่ะ
ตรงทีละ1ทางใน6ทางที่กำลังมีเนี่ย
มันปนคลุกเคล้ากันจนหลงผิดคิดผิด
เออก็บอกว่าเดี๋ยวนี้ทุกคนกำลังคิดผิด
บอกว่าจะศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรู้รายละเอียดทั้งหมดที่เป็นชื่อต่างๆนั้น
ศึกษาแยกรายละเอียดลงลึกตรงแค่ทางเดียว
เพราะความจริงมันเกิดตรงแค่1ทางเกิดแล้วตามเหตุปัจจัย...ไม่ได้ทำคร่าาาา
ทุกอย่างหมดไปตลอดเวลาเป็นอดีตแล้วแค่กระพริบตาก็คือจิตขณะใหม่ในสังสารวัฏฏ์เมื่อไหร่จะคิดได้
บอกไม่ฟังเลยก็บอกตลอดเลยว่าทำทุกอย่างมาหมดแล้วด้วยความมีตัวตนยกเว้นคือไม่ทำปัญญาจากการฟัง
ทุดคลิปพูดถึงความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ทุกคำพิสูจน์ได้จากการฟังด้วยหูตัวเองทำปัญญาของตัวเองตามปกติ
https://youtu.be/zhApmKuNngM
:b32:
:b29: :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2020, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ต่ออีกหน่อย ตัดลัดมาเพื่อให้เข้ากับ กท.ความจนเป็นทุกข์ในโลก


ในเรื่องความสุขของชีวิตนั้น พระพุทธศาสนาแสดงไว้ ๒ นัย คือ

นัยแรก พูดถึงการดับทุกข์ ซึ่งมีความหมายว่า เมื่อทุกข์ดับ ความสุขก็เกิดขึ้น ดับทุกข์ได้มาก ก็มีความสุข
ดับทุกข์ได้น้อย ก็มีความสุขน้อย
ดับทุกข์ได้สิ้นเชิง ก็มีความสุขสมบูรณ์
ในความหมายนี้ ความสุข คือ ปริมาณลดลงของความทุกข์ หรือว่าความสุขคือ ผลของการลดลงของทุกข์
ดังที่ท่านสรุปไว้ในคัมภีร์อรรถกถาว่า ภาวะไร้ทุกข์ เรียกว่า ความสุข (สารตฺถ. ทุติย. 184)

นัยแรก พูดถึงความสุขโดยตรง โดยจำแนกความสุขเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ระดับต่ำๆ ไปจนถึงระดับสูงสุด ทั้งสุขทางกาย สุขทางใจ พร้อมทั้งแสดงลักษณะและคุณภาพของความสุขในระดับนั้นๆไว้ด้วย

ทั้งความทุกข์และความสุข เป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้รู้ ให้เข้าใจ แล้วปฏิบัติให้ถูกต้อง กล่าวคือ ควรรู้ว่าความทุกข์ คือ อะไร
ความทุกข์ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความทุกข์ ดับอย่างไร
ความทุกข์ ดับด้วยวิธีใด

ส่วนเรื่องของความสุขก็เช่นเดียวกัน ควรรู้ว่า
ความสุขคืออะไร
ความสุขเป็นอย่างไร
ความสุขประเภทใดควรเสพ ไม่ควรเสพ
ความสุขเกิดขึ้นได้อย่างไร

เพราะถ้าไม่ตระหนักชัด ไม่ทราบความเป็นจริงในเรื่องของทุกข์ และสุขที่เกิดขึ้นแก่ตนเองก็ย่อมจะ
- ยินดีต่อสุข
- ยินร้าย ต่อทุกข์

แล้วทั้งทุกข์ และสุขก็จะครอบงำจิตใจเรา เป็นเหตุให้ชีวิตเป็นทุกข์พอๆกัน

(โลกวิปัตติสูตร – องฺ.อฏฺฐ.23/96/195)


ในปัญจังคสูตร (สํ.สฬา. 18/413-424/278) พระพุทธองค์ทรงแบ่งความสุขเป็น ๑๐ ระดับ คือ

1. กามสุข สุขเนื่องด้วยกาม ได้แก่ ความสุขโสมนัสที่เกิดขึ้นด้วยอาศัยกามคุณ ๕
2. ปฐมฌานสุข สุขเนื่องด้วยปฐมฌาน ซึ่งสงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย
3. ทุติยฌานสุข สุขเนื่องด้วยทุติยฌาน
4. ตติยฌานสุข สุขเนื่องด้วยตติยฌาน
5. จตุตถฌานสุข สุขเนื่องด้วยจตุตถฌาน
6. อากาสานัญจายตนสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยอากาสานัญจายตนสมาบัติ ซึ่งล่วงพ้นรูปสัญญาได้สิ้นเชิง ปฏิฆสัญญาล่วงไปหมด ไม่มนสิการนานัตตสัญญา นึกถึงแต่อากาศอันอนันต์เป็นอารมณ์
7. วิญญาณัญจายตน สมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยวิญญาณัญจายตน สมาบัติ ซึ่งคำนึงวิญญาณอันอนันต์เป็นอารมณ์
8. อากิญจัญญายตน สมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วย อากิญจัญญายตน สมาบัติ ซึ่งคำนึงภาวะที่ไม่มีอะไรเลยเป็นอารมณ์
9. เนวสัญญานาสัญญายตนสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ อันถึงภาวะที่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่
10. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วย สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ อันถึงภาวะที่ดับสัญญาและเวทนาทั้งหมด

ความสุขทั้ง ๑๐ ระดับนี้ หากกล่าวโดยสรุปก็มี ๓ อย่าง คือ

1. กามสุข ความสุขเนื่องด้วยกาม

2. ฌานสุข สุขเนื่องด้วยฌาน หรือสุขเนื่องด้วยสมาบัติ ๘ แยกเป็น ๒ ระดับ ย่อย
2.1 สุขในรูปฌาน หรือ สุขเนื่องด้วยรูปฌาน ๔
2.2 สุขในอรูปฌาน หรือ สุขเนื่องด้วยอรูปฌาน ๔

3. นิโรธสมาปัตติสุข สุขเนื่องด้วยนิโรธสมาบัติ

สุขทั้ง ๑๐ ขั้นนี้ ท่านยอมรับว่าเป็นความสุขทั้งนั้น หากแต่ว่าเป็นความสุขที่ดีกว่า ประณีตซึ่งซึ้งกว่ากันขึ้นไปตามลำดับขั้น เพราะความสุขขั้นต้นๆ มีส่วนเสีย หรือแงที่เป็นทุกข์แทรกอยู่ด้วยมาก เมื่อเป็นสุขขั้นสูงขึ้นไป ก็ยิ่งประณีตบริสุทธิ์มากขึ้น


เรื่องความสุขดังกล่าว เป็นการกล่าวถึงความสุขในภาพรวมซึ่งมีความหมายครอบคลุมถึงความสุขทุกประเภท
แต่ถ้ากล่าวถึงความสุขของชาวโลก หรือ คนทั่วไปแล้ว พุทธศาสนาก็กล่าวถึงว่ามีอยู่ ๔ อย่างด้วยกัน คือ
อัตถิสุข สุขจากการมีโภคทรัพย์
โภคสุข สุขจากการบริโภคทรัพย์
อนณสุข สุขจากการไม่เป็นหนี้
อนวัชชสุข สุขจากการทำงานที่ไม่มีโทษ
(อันนนาถสูตร - องฺ.จตุกฺก. 21/62/90)

หากกล่าวสั้นๆก็คือ
มีสิน
กินได้
ไร้หนี้
มีงานทำ

ความสุขทั้ง ๔ อย่างดังกล่าวมานี้ก็คือ ภาวะตรงกันข้ามกับความจน อันเป็นที่มาของความทุกข์อีกหลายอย่างของชาวโลกนั้นเอง และความสุขทั้ง ๔ อย่างนี้ พระพุทธศาสนาถือว่า ข้อ ๔ มีความสำคัญกว่า ๓ ข้อแรก.

(พุทธปรัชญา ในสุตตันตปิฎก หน้า 50)

:b32:
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักทุกขสมุทยอริยะสัจจะธัมมะ
ไม่ได้สอนให้ไปยึดติดสุขหลงตัวตนว่าดีกว่าคนปกติ
ก็บอกว่าความจริงถ้ามีปัญญาต้องรู้ตัวตั้งแต่ฟังแล้ว
ว่าอะไรคือเหตุให้เกิดทุกข์ไม่รู้เหตุก็ไม่ออกจากทุกข์
ก็ติดอยู่ในสุขหลงตัวตนอยู่กับฌานจิตอยู่บอกไม่ฟัง
ตัวตนมันไม่มีอยู่จริงตั้งแต่ฟังเข้าใจถูกแล้วก็ไม่ฟังให้รู้
เข้าใจผิดว่าต้องไปนั่งสมาธิให้หมดตัวตนตอนจตุตฌาน
ก็บอกไม่ฟังเลย...ฌานจิตไม่ใช่ปัญญาจะรู้จักทุกข์ต้องมีปัญญา
คือมีสมาธิสติและปัญญาไตร่ตรองความจริงตั้งแต่ตอนที่กำลังฟังไม่คิดเอง
ศึกษาความจริงที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีที่กายใจตัวเองตรงตามที่กำลังคิดตามได้ทันที
จึงจะมีสมาธิที่มั่นคงต่อความจริงที่เข้าใจชัดประจักษ์ความจริงที่ตัวมีสมาธิฟังจึงเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญาค่ะ
ทุกคนที่มาเฝ้าฟังพระพุทธเจ้าแสดงธรรมจบต่างแยกย้ายกลับบ้านแล้วแต่จะไปทำอะไรต่อพรุ่งนี้ก็มาฟังใหม่
https://youtu.be/kIw6INHNlK4
:b12:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2020, 07:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ลุงวัย 69 ปี เครียดจัด ฆ่าตัวตาย เพราะถูกทวงค่าข้าว 1 ถัง ไม่มีเงินจ่าย

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater

ชีวิตมีราคาเท่าข้าวสาร 1 ถัง :b7:

บอกไม่เชื่อว่า ความจนเป็นทุกข์ในโลก

ช่วงนี้เงินผู้อายุก็ช๊อต เพราะรัฐถังแตก

แตกดังโพละ

https://www.youtube.com/watch?v=mEtUSPMiEyI

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2020, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ลุงวัย 69 ปี เครียดจัด ฆ่าตัวตาย เพราะถูกทวงค่าข้าว 1 ถัง ไม่มีเงินจ่าย

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater

ชีวิตมีราคาเท่าข้าวสาร 1 ถัง :b7:

บอกไม่เชื่อว่า ความจนเป็นทุกข์ในโลก

ช่วงนี้เงินผู้อายุก็ช๊อต เพราะรัฐถังแตก

แตกดังโพละ

https://www.youtube.com/watch?v=mEtUSPMiEyI

:b12:
เหตุปัจจัยที่ทำกรรมมามันทำให้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ทุกคนไหมทำกรรมอะไรเอาไว้ถึงมาเป็นแบบนั้น
รู้ตัวรึเปล่าล่ะว่าคิดผิดใครไม่รู้จักระบบโง่จนเจ็บเกิดแก่เจ็บตายเขารู้แบบนี้ทั้งโลกเลย
ทุกขะอะริยะสัจจะธัมมะเนี่ยคือความจริงของจิตใจภายในร่างกายตัวเองที่หลงผิดตามโลก
ก็บอกว่าให้เริ่มต้นฟังพระพุทธพจน์ตามปกติด้วยหูตัวเองนิพพานไปได้เมื่อหมดความอยากรู้ไง
ยังอยากทำอยากได้อยากเอาเพิ่มแปลว่าไม่รู้จักว่าอะไรเป็นบุญพระพุทธเจ้าสอนให้ลดความอยากได้เพิ่ม
ที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นเงินเป็นทองเป็นวัตถุสิ่งของลาภยศสรรเสริญสักการะต่างๆมันติดข้องโลกธรรม8แบบปลา
รู้จักปลาติดอยู่ในข้องที่เขาขังเอาไว้ไหมค๊ะะะะหลงสมมุติบัญญัติเข้าไม่ถึงสัจจะเพราะไม่ทำปัญญาจากฟัง
แล้วจะว่าอะไรตามข่าวดูมั่งเดือนกันยายนคือเดือนสิ้นปีงบประมาณราชการวันที่1ตุลาคมวันตั้งราชการไทย
ของในหลวงรัชการที่5งบประมาณที่ใช้จ่ายแต่ละปีมีการสรุปเดือนกันยายนและประชุมตั้งเบิกใหม่ตุลาคม
ต้องตัดงบดุลคืนคลังทุกเดือนกันยายนเพื่อเบิกใหม่ในงบปีใหม่ในเดือนตุลาคม(1ปี=1ตุลาคม-30กันยายน)
:b12:
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 30, 31, 32, 33, 34

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร