วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 34  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก


ไปอ่านให้จบ อิอิ มีมากเกิน ๕ บรรทัดนะ


ชอบท่อนนั้นว่างั้นเถอะ

อย่าเลยครับ

อยากลงก็ลงเองครับ

ผมไม่ชงให้อยู่แล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:


คุณกรัธกายต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง ข้อปฎิบัติในทางแห่งพุทธ(โพธิปักขิยธรรม) กับ ความเห็นของคน(ทิฏฐิ) สองอย่างนี้มีความเกี่ยวโยงกันแต่ไม่เหมือนกัน
คุณบอกแนวคิดเรื่องกรรมเป็นแนวคิดออกแนวนิครนถ์(ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิครนถ์ที่ว่าคือลัทธิอะไร
คนพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่เชื่อ จัดเป็นมิจฉาทิฐิ คุณอยากจะพัฒนาตนให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ นั่นแหละ คุณถึงต้องใช้หลัก โพธิปักขิยธรรม มาเป็นแนวทางชีวิต



(ตัดให้ดูเฉพาะข้อที่ว่าเป็นลัทธินิครนถ์ และเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละ จึงเป็นนิครนถ์โดยไม่รู้ตัว)

ลัทธิมิจฉาทิฏฐิ เกี่ยวกับสุขทุกข์ และความเป็นไปในชีวิตของมนุษย์อยู่ ๓ ลัทธิ
ได้แก่


๑. ปุพเพกตเหตุวาท การถือว่าสุขทุกข์ทั้งปวง เป็นเพราะกรรมเก่า (past-action) เรียกสั้นๆว่า ปุพเพกตวาท


(เมื่อนิครนถ์คิดยังงั้นแล้ว พระพุทธเจ้าจึง) ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสมณพราหมณ์ ๓ พวกนั้น เราเข้าไปหา (พวกที่ ๑) แล้ว

ถามว่า “ทราบว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะ มีทิฐิอย่างนี้...จริงหรือ ?”

ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้ว รับว่าจริง เราก็กล่าวกะเขาว่า

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จักต้องเป็นผู้ทำปาณาติบาต เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ทำอทินนาทาน เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุ
จะต้องเป็นผู้ประพฤติอพรหมจรรย์...
.เป็นผู้กล่าวมุสาวาท...ฯลฯ เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิ เพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อนเป็นเหตุน่ะสิ”


“ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ
ฉันทะก็ดี
ความพยายามก็ดี ว่า “สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ” ก็ย่อมไม่มี

เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำ และสิ่งไม่ที่ควรทำ โดยจริงจังมั่นคง ดังนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ ก็เท่ากับอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้ นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ ผู้มีวาทะ มีทิฐิ อย่างนี้” * (องฺ.ติก.20/501/222)


เอาอีกรอบครับ
" สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ" ในสาระนี้ความเข้าใจผมนั้นคือ โพธิปักขิยธรรมครับ คุณกรัธกายจะเข้าใจว่าอะไรผมไม่รู้(เจ้าตัวไม่เคยอธิบายอยู่แล้วว่าเข้าใจอะไร)

ชาวนิครนถ์ ที่เป็นมิจฉาทิฐิเพราะไม่ยอมรับเอา หลักการฝึกตน เพราะยึดถือเอากรรมว่าเดี๋ยวก็วกกลับมาสนองอยู่ดี คือพูดง่ายๆ รอให้กรรมกำหนดชีวิต

คำถามของพระพุทธเจ้า (ตามที่ผมเข้าใจ) เมื่อไม่มีธรรมเป็นเครื่องรักษา ก็อยู่อย่างหลงสติ

พุทธก็ต้องมีธรรมเป็นเครื่องรักษาจึงจะเป็นสัมมาทิฏฐิ

ความยากจน การถูกโกง อะไรต่างๆ เป็นความยากจน ****ของคนที่บริโภคกาม****

แล้วธรรมอะไรล่ะครับ ที่เป็นธรรมะข้อปฎิบัติ "การไม่ชื่อว่าบริโภคกาม"

"ของคนที่บริโภคกาม" เป็นสมุทัยเหตุของทุกข์(ความจน และอื่นๆ)

ส่วน ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค (อริยสัจ4) เป็น โพธิปักขิยธรรม (มีเหตุ มีผล)เป็นธรรมของผู้ที่ละเว้นการบริโภคกาม
พุทธศาสนา ย่อมมีเนื้อหาของเหตุและผล ไม่มีอะไรปรากฎขึ้นมาลอยๆ

คุณกรัธกาย ใจเย็นๆนะครับ

อย่าพึ่งโดดเข้ามาสรุป ว่าจับบัญญัติมาผสม มั่วและผิดเพี้ยนไปหมดอย่างนั้นอย่างนี้

อันนี้เอาไว้ให้ท่านอิ่นๆเข้ามาอ่านบ้าง หากทุกๆคนว่าผิดเพี้ยน จะได้ยอมรับความผิดพลาด ไม่อยากให้คุณกรัธกายรีบกระโดดเข้ามา



เอาทีละข้อ กามโภคี แปลว่า ผู้บริโภคกาม ได้แก่ ชาวบ้าน,คฤหัสถ์ ดูหลัก

ในการจำแนกผู้ครองเรือน หรือชาวบ้าน (กามโภคี) เป็น ๑๐ ประเภท พระพุทธเจ้าทรงแสดงผู้ครองเรือนประเภทที่ ๑๐ ว่าเป็นผู้ครองเรือนที่ประเสริฐเลิศสูงสุด จากคุณสมบัติของผู้ครองเรือนอย่างเลิศนั้น จะเห็นหลักการปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์ ที่ถูกต้องตามหลักธรรม สรุปได้ดังนี้ *(องฺ.ทสก.24/91/194)

๑) การหา แสวงหาทรัพย์โดยชอบธรรม ไม่ข่มเหงเบียดเบียน

๒) การใช้ (ขั้นนี้มีการวางแผน ซึ่งถือว่ารวมทั้งการเก็บรักษา และการเป็นอยู่พอดีไว้ด้วยในตัว)

ก. เลี้ยงตน (และคนที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ) ให้เป็นสุข
ข. เผื่อแผ่แบ่งปัน
ค. ใช้ทรัพย์ทำสิ่งดีงามเป็นประโยชน์เป็นบุญ (รวมทั้งใช้เผยแผ่ส่งเสริมธรรม)

๓. การมีปัญญาที่ทำให้เป็นอิสระ ไม่ลุ่มหลงหมกมุ่นมัวเมา กินใช้ทรัพย์อย่างรู้เท่าทันเห็นคุณ โทษ มีจิตใจเป็นอิสระด้วยนิสสรณปัญญา และอาศัยทรัพย์ได้โอกาสที่จะพัฒนาจิตปัญญายิ่งๆขึ้นไป

ขอยกพุทธพจน์ที่ตรัสสอนในเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์มาดูเป็นตัวอย่าง

“ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก สามจำพวกไหน ? คือคนตาบอด คนตาเดียว คนสองตา”

“บุคคลตาบอดเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่มีดวงตาชนิดที่ช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน กับทั้งไม่มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้รู้จักธรรม ที่เป็นกุศล เป็นอกุศล...ธรรมมีโทษ...ไม่มีโทษ... ธรรมทราม ธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำ หรือของขาว นี้เรียกว่า บุคคลตาบอด

“บุคคลตาเดียวเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ มีดวงตาชนิดที่ช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน แต่ไม่มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้รู้จักธรรม ที่เป็นกุศล เป็นอกุศล...ธรรมมีโทษ...ไม่มีโทษ... ธรรมทราม ธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำ หรือของขาว นี้เรียกว่า บุคคลตาเดียว

“บุคคลสองตาเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ มีดวงตาชนิดที่ช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน อีกทั้งมีดวงตาชนิดที่ช่วยให้รู้จักธรรม ที่เป็นกุศล เป็นอกุศล...ธรรมมีโทษ...ไม่มีโทษ... ธรรมทราม ธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำ หรือของขาว นี้เรียกว่าบุคคลสองตา

“คนตาบอด ตาเสีย มีแต่กาลีเคราะห์ร้ายทั้งสองทาง คือโภคทรัพย์อย่างที่ว่า ก็ไม่มี คุณความดี ก็ไม่ทำ

“อีกคนหนึ่ง ที่เรียกว่าตาเดียว เที่ยวเสวงหาแต่ทรัพย์ถูกธรรมก็เอา ผิดธรรมก็เอา ไม่ว่าจะเป็นการลักขโมยคดโกง หรือโกหกหลอกลวงก็ได้ เขาเป็นคนเสวยกามที่ฉลาดสะสมทรัพย์ แต่จากนี้ ไปนรก คนตาเดียวย่อมเดือดร้อน

“ส่วนคนที่เรียกว่าสองตา เป็นคนประเสริฐ ย่อมแบ่งปันทรัพย์ ซึ่งได้มาด้วยความขยัน จากกองโภคะที่ได้มาโดยชอบธรรม ออกเผือแผ่ มีความคิดสูง ประเสริฐ มีจิตใจแน่วแน่ ย่อมเข้าถึงสถานะดีงาม ที่ไปแล้วไม่เศร้าโศก

“พึงหลีกเว้นคนตาบอดและคนตาเดียวเสียให้ไกล ควรคบหาแต่คนสองตา ผู้ประเสริฐ” *(องฺ.ติก.20/468/162)


พระอริยบุคคล แตกต่างกับ กามโภคี อย่างไรบ้างครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)



ถามคุณว่าเขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน เออ

1.ส่งออกนอก

2. ส่งเข้าใน

ข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)



ถามคุณว่าเขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน เออ

1.ส่งออกนอก

2. ส่งเข้าใน

ข้อไหน 1 หรือ 2


กรณีคุณกรัธกายดูหมิ่นคนอื่นนั้นเรียกส่งจิตออกนอก

กรณีนี้เขากำลังสู้กับตนเอง ควรจะเรียกอะไรครับ

หุหุ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าพึ่งเลยคำถามผมนะครับ

พระอริยบุคคล ต่างกันกับ กามโภคีอย่างไร?

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)



ถามคุณว่าเขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน เออ

1.ส่งออกนอก

2. ส่งเข้าใน

ข้อไหน 1 หรือ 2


กรณีคุณกรัธกายดูหมิ่นคนอื่นนั้นเรียกส่งจิตออกนอก

กรณีนี้เขากำลังสู้กับตนเอง ควรจะเรียกอะไรครับ

หุหุ



คุณ student อะไรที่จำเขามาพูด แต่ตัวเองไม่ได้รู้เรื่อง มันไม่ประเทืองปัญหาหรอกขอรับ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
อย่าพึ่งเลยคำถามผมนะครับ

พระอริยบุคคล ต่างกันกับ กามโภคีอย่างไร?


นั่นๆ กำลังจะอวดตนว่าเป็นอริยบุคคลอีกแระ อิอิ

คุณจะออกแนวๆนี้

ศิลปินดังเขียนจม.สารภาพ จ้างคนจีนวาดภาพโชว์

https://www.matichon.co.th/news/766410

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)



ถามคุณว่าเขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน เออ

1.ส่งออกนอก

2. ส่งเข้าใน

ข้อไหน 1 หรือ 2


กรณีคุณกรัธกายดูหมิ่นคนอื่นนั้นเรียกส่งจิตออกนอก

กรณีนี้เขากำลังสู้กับตนเอง ควรจะเรียกอะไรครับ

หุหุ



คุณ student อะไรที่จำเขามาพูด แต่ตัวเองไม่ได้รู้เรื่อง มันไม่ประเทืองปัญหาหรอกขอรับ :b32:


คนเขาพูดไม่กี่บรรทัด ผมไม่เข้าไปวิจารณ์การปฎิบัติของเขาเหล่านั้นครับ แค่นิดหน่อยพอแล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
อย่าพึ่งเลยคำถามผมนะครับ

พระอริยบุคคล ต่างกันกับ กามโภคีอย่างไร?


นั่นๆ กำลังจะอวดตนว่าเป็นอริยบุคคลอีกแระ อิอิ

คุณจะออกแนวๆนี้

ศิลปินดังเขียนจม.สารภาพ จ้างคนจีนวาดภาพโชว์

https://www.matichon.co.th/news/766410


ทำไมครับ

คำว่าพระอริยบุคคล ก็เป็นบัญญัติอยู่แล้ว

เอามาเปรียบเทียบกันเป็นความรู้ ไม่เห็นเป็นไรเลย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
อย่าพึ่งเลยคำถามผมนะครับ

พระอริยบุคคล ต่างกันกับ กามโภคีอย่างไร?


นั่นๆ กำลังจะอวดตนว่าเป็นอริยบุคคลอีกแระ อิอิ

คุณจะออกแนวๆนี้

ศิลปินดังเขียนจม.สารภาพ จ้างคนจีนวาดภาพโชว์

https://www.matichon.co.th/news/766410


ผมยังไม่ได้สารภาพผิดอะไรเลย
แนวหลอกลวง(ตามลิ้งค์) สมัยนี้มันเกิดขึ้นทุกวงการอยู่แล้วครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2017, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
นักแต่งหนังสือ กับคุณกรัธกาย ดูอีกทีก็คล้ายๆกันนะครับ

เพ่งเล็งแต่คนอื่น "น่าเสียดง เสียดายชาวพุทธอย่างโน้นอย่างนี้"

แต่เรื่องของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะรู้


หนังสือนั่นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มันจึงเท่ากับรู้เรื่องตัวเองด้วย คนอื่นด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนคน คิกๆๆ


ขอโทษนะครับ

ขี้ตู่นะครับ คำว่า"เสียดายชาวพุทธ อย่างนั้นอย่างนี้" พอแปลพระไตรปิฎกได้ท่อนหนึ่งจบแล้ว เอาอีกละ
ต้องสอดความคิดเห็นตนเองลงไป อย่างนี้เรียกส่งจิตออกนอก ยังไม่รู้ตัวอีก

จะบอกให้ทราบนะครับว่า พระไตรปิฎก สังคายนาในประเทศไทยช่วงหลังๆมาทุก100ปี ล่าสุดปี2535
คุณนักเขียนก็เหมือนกับ ไปเอาพระไตรปิฎกที่สังคายนาในประเทศไทยมาเขียนตีความหมาย สุดท้ายก็ไม่วายหมิ่นคนไทยพุทธ คุณกรัธกายนี่สุดยอดเลยครับ ถึงได้เกร่นไว้ตอนแรกว่าอยู่คนเดียวในโลก



ทดสอบนักส่งจิตเข้าในหน่อยดิ

นี่เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ
พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อีกตัวอย่างหนึ่ง

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


แว็บขึ้นมา ก็เป็นเรื่องของจิตที่เป็นกุศลบ้าง
ไม่เป็นกุศลบ้าง แต่นักปฎิบัติทั้งสองท่านก็บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พยายามระงับจิตที่เป็นอกุศล ก็เป็นเรื่องของการต่อสู้อยู่แล้วครับกับตัวเองอยู่แล้ว


ถามว่ามันส่งออกนอกหรือส่งเข้าใน


คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว

คุณกรัธกายตีแบบไหนล่ะครับ(มาแล้วนักสอบอารมณ์)



ถามคุณว่าเขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน เออ

1.ส่งออกนอก

2. ส่งเข้าใน

ข้อไหน 1 หรือ 2


กรณีคุณกรัธกายดูหมิ่นคนอื่นนั้นเรียกส่งจิตออกนอก

กรณีนี้เขากำลังสู้กับตนเอง ควรจะเรียกอะไรครับ

หุหุ



คุณ student อะไรที่จำเขามาพูด แต่ตัวเองไม่ได้รู้เรื่อง มันไม่ประเทืองปัญหาหรอกขอรับ :b32:


คนเขาพูดไม่กี่บรรทัด ผมไม่เข้าไปวิจารณ์การปฎิบัติของเขาเหล่านั้นครับ แค่นิดหน่อยพอแล้ว



ก็เห็นคุณพูดเรื่องส่งจิตออกนอกหลายครั้งไง

ไม่ใช่ให้วิจารณ์ แต่ถามว่า เขาส่งจิตออกนอก หรือส่งจิตเข้าใน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 510 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 34  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron