วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2017, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


การระวังตนของผู้มุ่งนิพพาน

ปัญหา ภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อบรรลุถึงพระนิพพาน ควรจะระมัดระวังตนอย่างไร?

พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเห็นท่อนไม้ใหญ่โน้น อันกระแสน้ำพัดลอยมาในแม่น้ำคงคาหรือไม่ ถ้าท่อนไม้นั้นจะไม่เข้ามาใกล้ฝั่งนี้หรือฝั่งโน้น จักไม่จมเสียในท่ามกลาง จักไม่เกยบก ไม่ถูกมนุษย์หรืออมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกวังน้ำวนพัดวนเอาไว้ จักไม่เน่าในภายใน ท่อนไม้นั้นจักลอยไหล เลื่อนไปสู่มหาสมุทรได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่ากระแสน้ำแห่งแม่น้ำคงคาลุ่มลาดไหลไปสู่มหาสมุทรฉันใด....
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าท่านทั้งหลายจะไม่แวะเข้าฝั่งข้างนี้หรือฝั่งข้างโน้น ไม่จมลงในท่ามกลาง ไม่เกยบก ไม่ถูกมนุษย์หรืออมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำพัดวนเอาไว้ จักไม่เน่าในภายในไซร้ ท่านทั้งหลายจักโน้มน้อมโอนเอียงไปสู่นิพพาน ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่า สัมมาทิฏฐิย่อมโน้มน้อมโอนเอียงไปสู่นิพพานฉันนั้นเหมือนกัน
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฝั่งนี้หมายถึงอายตนะภายใน ๖ ฝั่งโน้นหมายถึง อายตนะนอก ๖ คำว่าจมลงในท่ามกลาง หมายถึง ความกำหนัดยินดี ค่ำว่า เกยบก หมายถึง อัสมิมานะ
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ว่าถูกมนุษย์จับไว้ คือ อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้คลุกคลี เพลิดเพลินโศกเศร้าอยู่กับพวกคฤหัสถ์.... มั่วสุมในกิจการงานอันบังเกิดแล้วของเขา นี้เรียกว่ามนุษย์จับไว้
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ว่าถูกอมนุษย์จับไว้คืออย่างไร ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ประพฤติพรหมจรรย์ ปรารถนาเป็นเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่งว่า ด้วยศีล พรต ตบะ หรือด้วยพรหมจรรย์นี้ เราจักได้เป็นเทวดาหรือเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง นี้เรียกว่าถูกอมนุษย์จับไว้
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เกลียวน้ำวน หมายถึง กามคุณ ๕ ความเป็นผู้เน่าในภายในคืออย่างไร ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก ไม่สะอาด มีความประพฤติน่ารังเกียจ มีการงานลึกลับไม่เป็นสมณะก็ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี ก็ปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เป็นผู้เน่าในภายใน มีใจชุ่มด้วยกาม เป็นดุจกองขยะ นี้เรียกว่าเป็นผู้เน่าในภายใน....”


ทารุขันธสูตร ที่ ๑ สฬา. สํ. (๓๒๒-๓๒๓)
ตบ. ๑๘ : ๒๒๓-๒๒๕ ตท. ๑๘ : ๒๑๒-๒๑๔
ตอ. K.S. ๔ : ๑๑๓-๑๑๕

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร