วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2017, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"เมื่อเราทำความดี
ในวันหนึ่งๆ อยู่ทุกวัน
จะตายวันไหน ก็ดีทั้งนั้น"
-:- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ -:-



"บุญ เหมือนกับเนื้อ
กุศล เหมือนกับเกลือ
ถ้าจะเอาบุญอย่างเดียว
ก็เหมือนกับเนื้อที่ไม่มีเกลือ
จะเอาบุญ ก็ต้องเอากุศลด้วย
แต่อย่าฉลาดมาก จนลืมบุญ
และก็อย่าหลงบุญ จนลืมฉลาด
บุญมันจะทับเอา"
-:- หลวงปู่ชา สุภัทโท -:-



"คนมีธรรม มิใช่อ่านเก่ง จำเก่ง พูดเก่ง
แต่ต้องสามารถ นำธรรมไปปรับปรุงแก้ไข
ความคิด การพูด และการกระทำของตน
ให้ดีขึ้น จนตนเองรู้นั่นแหละของจริง"
-:- หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -:-



หายใจให้มีสติ
หายใจให้มีพุทโธ
จึงจะเรียกว่าไม่หายใจทิ้ง
หลวงปู่หา สุภโร




ประเทศไทยมีแต่อำเภอพล
แต่ไม่มีอำเภอพอ
อำเภอพออยู่ที่ไหน
ก็อยู่ที่อำเภอใจนั่นไง
หลวงปู่หา สุภโร




วิปัสสนาเป็นรถ
สมถะเป็นน้ำมัน
รถที่ขาดน้ำมัน
มันจะวิ่งมั๊ยล่ะ
หลวงปู่หา สุภโร




จิตตภาวนาท่านให้มีสติระลึกอยู่ตลอด ใครบริกรรมอะไร เช่นกำหนดลมหายใจ ก็อยู่กับลมหายใจเข้าออก ใครภาวนาอะไรก็ให้จับคำบริกรรมอันนั้นให้อยู่คู่กับจิต สติอย่าให้ขาด ให้ระลึกอยู่เสมอ นี่ล่ะ การปฏิบัติ การรักษาใจคือรักษาธรรม ธรรมที่นำมาประกอบกับการปฏิบัติ เช่นภาวนาพุทโธ ก็ให้อยู่กับคำบริกรรมพุทโธ ส่วนมากเรารักษาไม่ค่อยได้นาน เดี๋ยว ๆ ก็ลืม กิเลสเอาไปกินอีกแล้ว นั่งได้เดี๋ยวเดียว สติขาดอีกแล้ว นี่ไงนักปฏิบัติเรา ทำไม่ได้ประติดประต่อ ทำไม่ได้จริงจัง พวกเราเหลาะแหละ ทำไม่จริงไม่จัง ต้องเด็ดขาดสิ ใจหาความเด็ดไม่ได้ มันเด็ดกิเลสไม่ขาดออกจากจิตใจถ้าทำหยุด ๆ หย่อน ๆ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อย่างนี้
ต้องทำให้จริงให้จังอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสละเป็นสละตายแม้กระทั่งชีวิตจะหาไม่ ท่านจึงได้รู้อรรถเห็นธรรม ถ้าเราทำไป ๆ ปล่อยไป ๆ มันก็เรื่อยเปื่อย ความเรื่อยเปื่อยเป็นนิสัยของกิเลส ความอ่อนแอเป็นนิสัยของกิเลส ความไม่จริงจังเป็นนิสัยของกิเลส เวลาครูบาอาจารย์ท่านเจอคนเหลาะแหละจึงไม่เข้ากับองค์ท่านไง เราทำไม่จริงจัง ธรรมก็เสีย มันก็แพ้วันแล้ววันเล่า มันก็เสียแล้วเสียเล่า
พวกเราท่านทั้งหลายเสียมากี่ปีแล้ว ปฏิบัติมากี่ปีกี่เดือนแล้ว ถ้าตามความเป็นจริงปฏิบัติมาขนาดนี้แล้ว มันน่าจะได้มรรคได้ผลไปแล้ว แต่ทำไมเราไม่ได้ เพราะใจเราปักธรรมไม่แน่น ปักแล้วก็ถอน ปักแล้วก็ล้มมันอยู่อย่างนี้ ใจมันก็หาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้ หาความจริงจังไม่ได้ กิเลสมันจริง แต่ธรรมเหลาะแหละ จะไปรื้อไปถอนได้ยังไง จะไปแก้กันได้ยังไง ต้องจริงจังเด็ดเดี่ยวสิ นั่งภาวนานั่งให้มันเห็นทุกข์ขึ้นมาแล้วพิจารณาสิ ดูทุกข์สิ นี่ยังไม่ทันไรเลย อ้าปากขึ้นมาอรหังสัมมาก็ยังง่วงนอนแล้ว คิดดูสิ มันจะขนาดไหน กิเลสเอาไปกินหมด เพราะอะไร เพราะเราฝากใจโยนใจให้กิเลสขยำย่ำยีหมด ดึงมาเป็นสมบัติของเจ้าของสิ สติไปไหน ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญให้ตลอด อย่าเผลอ อย่าให้ขาดสติ เอาอยู่อย่างนี้ ทำไปเรื่อย ๆ สักวันต้องได้
พระอาจารย์โสภา สมโณ
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 111 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร