วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 01:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2017, 06:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"สิ่งที่วิเศษที่สุด ก็คือ ศีล
ถ้ามีศีลบริสุทธิ์แล้ว ไม่ต้องไปคำนึงถึงอะไร
สิ่งที่จะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ในปัจจุบันนี้

ใครมีเมีย รักสงสารเมียของตนเองให้มากๆ
ใครมีผัว รักสงสารผัวของตัวเองให้มากๆ
ใครมีลูก รักเมตตาปรานีต่อลูกให้มากๆ
ใครมีพ่อมีแม่ รักเคารพบูชาพ่อแม่ให้มากๆ
เลี้ยงดูท่าน ให้มีความสุข

ถ้าใครทำได้ มันจะมีฤทธิ์เดช
เรียกว่า บุญฤทธิ์ คนมีบุญฤทธิ์นี่
ไปที่ไหน ก็สงบเยือกเย็น
ไม่ไปก่อกรรมทำเข็ญ ให้ใครเดือดร้อน
มีแต่พวกภูตผีปิศาจ ที่มันไม่นิยมชมชอบ
ในคุณธรรมนั่นแหละ มันจะร้อนเป็นไฟ"

-:- หลวงพ่อพุธ ฐานิโย -:-





"ถ้าแตงโมนี้ ไม่หวานอย่างที่ควรจะเป็น
และขนมนี้ ไม่อร่อยตามแบบฉบับของมัน
ก็ถือเสียว่า มันเป็นของใหม่ หรือแบบใหม่
ที่ทำให้เรา ได้กินแปลกใหม่ออกไป
ควรจะนับว่าเป็นโชคดี หรือความเจริญ
ดีกว่าจะขัดเคือง ให้เปลืองใจ"

-:- ท่านพุทธทาสภิกขุ -:-






" นายโคบาลต้อนโคเข้าคอกประจำวัน
แก่ เจ็บ ตาย ก็ต้อนสัตว์เข้าคอกอยู่เช่นเดียวกัน
สังขารต้อนสังขารเข้าคอก
ธรรมฝ่ายสังขารต้อนธรรมฝ่ายสังขารเข้าคอก
คอกอะไร? คอกอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
คอกอะไร? คอกดิน น้ำ ไฟ ลม
ดินน้ำไฟ ลมล้วนๆ ก็เป็นสังขารล้วนๆ
ดิน น้ำ ไฟ ลมที่มีผู้ยึดถือเอาเป็นเจ้าของ ไม่รู้จักปล่อย ไม่รู้จักวาง
กำไม่วาง ผูกไม่วาง เป็นโลกฝ่ายกิเลสของสัตว์ทั้งหลายผู้มาท่องเที่ยว
มาท่องเที่ยวในโลกดิน โลกน้ำโลกไฟ โลกลม
มาท่องเที่ยวในปัญหาของตน มาท่องเที่ยวในความหลงของตน
มาท่องเที่ยวในความเคยชินของตน ไม่รู้จักทางออก."

โอวาทธรรม...
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต






พระมีหน้าที่สร้างธรรมในจิตใจของตน สร้างความสงบให้กับใจ

"สมัยนี้พระไปทำงานภายนอกกันส่วนใหญ่
ผ้าป่าบ้าง สร้างโบรถ์ สร้างเจดีย์ สร้างอะไรต่างๆ
ซึ่งงานเหล่านี้ไม่ได้เป็นงานของพระ
เป็นเรื่องของศรัทธาของญาติโยมที่อยากจะทำบุญ

พระไม่มีหน้าที่ พระมีหน้าที่สร้างธรรมในจิตใจของตน สร้างความสงบให้กับใจ
พระก็เลยหลงทางกันเป็นส่วนใหญ่ หลงไปกับ ลาภ ยศ ของทางโลก"

"งานหลักของพระคืองานภายใน งานปราบกิเลส งานกำจัดกิเลส แต่พระก็มีงานภายนอก งานภายนอกก็เพียงแต่ งานที่จำเป็นคือการเลี้ยงดูร่างกาย เช่นไปบิณฑบาตนี้ ก็เป็นงานภายนอก กวาดถูศาลา ซักผ้าจีวร พักผ่อนหลับนอนก็ถือว่าเป็นงานภายนอก งานทางร่างกายที่ยังต้องมีอยู่ เพราะยังต้องใช้ร่างกายในการที่จะมาปฏิบัติธรรม แต่งานจริงๆก็คืองานภายใน งานสร้างสติ สร้างสมาธิ สร้างปัญญา ขึ้นมา เพื่อทำใจให้สงบ เพื่อตัดความอยากต่างๆให้ได้ อันนี้เป็นงานของพระโดยตรง งานแบบนี้ฆราวาสมักไม่ทำกัน ฆราวาสจะทำแต่งานภายนอกอย่างเดียว งานหาเงินหาทองหาปัจจัย๔ แล้วก็หาความสุขทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย อันนี้เป็นงานภายนอกที่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีวันอิ่มวันพอ เพราะมันไม่ได้เข้าไปสู่ใจ มันไม่ได้ไปเลี้ยงใจ มันไม่ได้ไปทำให้ใจเกิดความอิ่มความพอ แต่มันกลับไปกระตุ้นความอยากความหิวให้มีมากขึ้นไปเรื่อยๆ

งานของพระคือ สร้างความอิ่มความพอให้กับใจ สิ่งเดียวที่จะอิ่มจะพอก็คือ ความสงบ ความสงบก็เกิดจากการเจริญสติ ก็พุทโธ พุทโธ ไป ไม่ให้ไปคิดอะไร แล้วก็นั่งสมาธิ ให้ใจรวมเป็นสมาธิเป็นหนึ่ง พอใจรวมใจสงบก็มีความสุข แล้วขั้นต่อไปก็ใช้ปัญญาสอนใจ ไม่ให้ไปหลง ไปทำอะไรตามความอยากต่างๆ พอไม่ไปทำตามความอยาก ก็จะไม่มีความทุกข์ตามมา อันนี้เป็นงานภายในล้วนๆ งานภายในใจ
แต่สมัยนี้พระท่านก็ไปทำงานภายนอกกันส่วนใหญ่ ท่านก็ออกไปทาง ผ้าป่าบ้าง สร้างโบรถ์ สร้างเจดีย์ สร้างอะไรต่างๆ ซึ่งงานเหล่านี้ไม่ได้เป็นงานของพระ เป็นเรื่องของศรัทธาของญาติโยม ที่อยากจะทำบุญ พระไม่มีหน้าที่ พระมีหน้าที่สร้างธรรมในจิตใจของตน สร้างความสงบให้กับใจ พระก็เลยหลงทางกันเป็นส่วนใหญ่ หลงไปกับ ลาภ ยศ ของทางโลก"

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559





แต่ก่อนข่อยก็ผู้หนึ่ง พอมารู้จักเรื่องบาปเรื่องบุญ มันบ่มีจั๊กเม็ดที่เจตนาอันเป็นกุศลในบั้งไฟ มีแต่เรื่องเล่น สกปรก กินเหล้าเมายา เซิ้ง มันจั่งได๋กัน บ่อนได๋มันเป็นบุญแท้ เอาบุญมาอ้างซือ ๆ นี่ละ มันไปเล่นบุญจั่งซั่นซือๆ บุญเอาเฮ็ดเป็นของเล่นแล้วบ่เป็นท่า บุญบั้งไฟดีบ่ดีตายไปเป็นพญานาคเล่นบั้งไฟอยู่ มีฤทธิมีเดชอยู่ แต่หากเป็นสัตว์เดรัจฉาน สู้มนุษย์บ่ได้ มนุษย์สูงกว่าผู้ใด สูงกว่าบรรดาสัตว์ในแผ่นดิน สัตว์โลกที่เด่นที่สุดคือพระพุทธเจ้า เป็นมนุษย์คือกัน เฮาเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าอย่าให้เสียเกียรติของเพิ่น

เรื่องบุญบั้งไฟพระพุทธเจ้าบ่สอนดอก แม่นเกิดทันพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็บ่สอน เจตนาในส่วนบ่ดีเป็นพื้นเพของคนอันธพาล ธรรมที่พวกเฮาเรียนอยู่นี่ ตั้งใจเอาอีหลี ไผเฮ็ดได้หลาย ถูกต้องที่สุด ก็ได้ผลปัจจุบัน อกาลิโกไม่เลือกกาล สมน้ำสมเนื้อ คือว่าของนั้นได้ราคาเท่าไหร่ก็ขายตามราคาของนั้น บ่ขึ้นอยู่กับความอยากได้กำไรขาดทุน เอาตามความเหมาะสมกัน

อันนี้เพิ่นว่า การปฎิบัติธรรมต้องปฎิบัติให้สมควรแก่ธรรมข้อใดข้อหนึ่ง แตโดยมากเฮ็ดน้อย ๆแต่อยากได้หลาย คือบ่เห็นหยัง เป็นไปบ่ได้หมู่นี้ มันเป็นจั๋งได๋ รู้ชัดเห็นแจ้ง เห็นคือแนวเจ้าของเห็น ให้มันถูกอีหลีเจ้าของเห็น ผู้อื่นบ่เห็นบ่สำคัญเลย เจ้าของเห็นบ่ตั๋วหมู่ ตั๋วหมู่ลงนรก

พวกเฮาทั้งหลายต่างร่วมบุญร่วมกุศล มาวัดมาศาสนา มาสร้างตัวให้ได้ดี ตามกำลังของตัวแต่ละคน ๆ สมกับความเป็นมนุษย์ อย่าให้มันผ่านไปซือ ๆตายเปล่า ไผเฮ็ดยามได๋ก็ได้มื่อนั้น มื้อละ ๕๐๐ เดือนหนึ่ง ๑๕,๐๐๐ มันสั่งสมคือจั่งฝนตกทีละน้อย ๆ แต่ท่วมบ้านท่วมเมือง ๆ ได้ ตกบ่เซา หากหม้อบ่แตกน้ำก็เต้มได้.. นั่น หากหม้อแตกไปรองน้ำ มันก็ไม่เต็มซักที ถ้าหม้อไม่แตกฝนตกทีละนิดละหน่อยก็เต็ม ดังนั้น ให้เราพยายามทำบุญ อยู่บ้านทำก็เป็นบุญ อยู่ป่าทำก็เป็นบุญ อยู่ที่ไหนทำก็เป็นบุญ

หลวงปู่บุญมี ปริปุญโณ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร