วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 00:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2017, 20:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะคิดหนอๆ เป็นทุกขสัจ

จะคิดหนอๆ เปลี่ยนแปลง ดับไป เป็นนิโรธสัจ

รู้ทันจะคิดหนอๆ ดับให้เห็นเป็นมรรคสัจ


เพราะไม่ทันอริยสัจสี่ จึงริษยาว่าร้าย เพ่งโทษ โกรธแค้น ส่อเสียด เพ้อเจ้อ หลอกลวงตน หลงตน ลืมตาย วุ่ยวาย เดือดร้อน เศร้าโศก ร่องไห้ บ่นเพ้อรำพัน รู้ทันจะคิดหนอๆ ก็เข้าใจถึงความเข้าจริงได้ทุกเรื่อง


จากสายสืบนิสัยศาสตร์


แก้ไขล่าสุดโดย muisun เมื่อ 19 ก.ย. 2017, 16:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2017, 06:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
จะ....คิด....หนอ

จะคิด....เป็นจิตล่วงอนาคต

คิด....เป็นปัจจุบัน

หนอ....เป็นคำบริกรรมมาตัดให้ดับ

ทั้งหมดถูกกำหนด จึงเป็นธรรมที่คิดสร้างเอา กำหนดเอา มิได้เกิดโดยธรรมชาติ อริยสัจที่ได้ จึงเป็นอริยสัจ สร้างเอา ใส่เจตนาเอา ไม่ใช่อริยสัจตามธรรม
เรียกว่า

"เอาบัญญัติ หาบัญญัติ เห็นบัญญัติ ได้บัญญัติ เป็นบัญญัติ"

อริยสัจตามธรรมต้องเกิดขึ้นเอง เป็นเองตามกำลังแห่งเหตุและปัจจัย การไปรู้สภาวะที่เกิดก็ต้องรู้ตามธรรมคือรู้เองด้วยหน้าที่ของสติปัญญาโดยไม่มีใครกำหนด
เรียกว่า

[color=#FF0000]"ปรมัตถ์ หาปรมัตถ์ เห็นปรมัตถ์ ได้ปรมัตถ์ เป็นปรมัตถ์"

ทิ้งหนอ แล้ว นิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์อยู่เฉยๆ
สภาวธรรมหรือปรมัตถธรรมหรืออนัตตาธรรมเขาจะเกิดขึ้นมาให้รู้ให้เห็นเองตามลำดับและกำลังแห่งเหตุปัจจัยหรือวิบากเฉพาะตนของแต่ละคน แล้วแปรปรวนเป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์ให้รู้ให้เห็น ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจิตนั้นจะฉลาด เห็นความจริง ยอมรับคามจริง จนเบื่อหน่ายคลายจาง สลัดคืนความเห็นผิด(สักกายทิฏฐิ) ยึดผิด(มานะทิฏฐิ) หมดไปจากจิตใจ กิเลสตัณหาทั้งหลายก็มลายหายไปตามในที่สุด
[/color]
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2017, 21:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
จะ....คิด....หนอ

จะคิด....เป็นจิตล่วงอนาคต

คิด....เป็นปัจจุบัน

หนอ....เป็นคำบริกรรมมาตัดให้ดับ

ทั้งหมดถูกกำหนด จึงเป็นธรรมที่คิดสร้างเอา กำหนดเอา มิได้เกิดโดยธรรมชาติ อริยสัจที่ได้ จึงเป็นอริยสัจ สร้างเอา ใส่เจตนาเอา ไม่ใช่อริยสัจตามธรรม
เรียกว่า

"เอาบัญญัติ หาบัญญัติ เห็นบัญญัติ ได้บัญญัติ เป็นบัญญัติ"


:b37:


อยู่มานานปี..ดีดัก..ยังไม่พัฒนาอีกหรือ?

เลิกตลก..ได้แล้ว...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2017, 17:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า เราเข้าใจในบัญญัติทั้งปวง และรู้ทันซึ่งบัญญัติทั้งปวง อีกทั้งไม่ยึดติดในบัญญัติ
ทั้งปวง เราจึงสร้างความหลุดพ้นเฉพาะตัว

การละความยึดถือต้องละด้วยการรู้การเห็น เรามิได้กล่าวว่า ละด้วยการไม่รู้ไม่เห็น

บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร ต้องรู้ทันในทุกข์ รู้ทันในเหตุเกิดแห้งทุกข์ รู้ทันในการดับทุกข์ ก็ย่อมจะรู้หนทางดับทุกข์

รู้ทันในจิตที่หลุดพ้นหรือไม่หลุดพ้นด้วยอาการใดต้องรู้ทันทุกอย่าง

การที่จะได้อริยมรรคอริยผลต้องได้ด้วยการรู้ทัน ไม่ใช่รู้ด้วยการนิ่งเฉยๆ แบบโง่เขลา ไม่รู้เหตุเกิด เหตุดับ คุณ โทษ และทางออก

เพราะผู้ที่รู้เห็นตามความเป็นจริง ว่าความเกิดเป็นความเกิด ความดับเป็นความดับ คุณเป็นคุณ โทษเป็นโทษ ทางออกเป็นทางออก ย่อมจะปฎิญาณตนได้เลยว่าเป็นพระอริยเจ้า รู้เห็นเองโดยที่ไม่ได้ฟังใครมา

จะคิดหนอๆ ก็ฉลาดได้ทุกเรื่อง ที่ไม่เชื่อเพราะไม่เคยรู้ทันเลยสักอย่าง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2017, 17:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004
จะ....คิด....หนอ

จะคิด....เป็นจิตล่วงอนาคต

คิด....เป็นปัจจุบัน

หนอ....เป็นคำบริกรรมมาตัดให้ดับ

ทั้งหมดถูกกำหนด จึงเป็นธรรมที่คิดสร้างเอา กำหนดเอา มิได้เกิดโดยธรรมชาติ อริยสัจที่ได้ จึงเป็นอริยสัจ สร้างเอา ใส่เจตนาเอา ไม่ใช่อริยสัจตามธรรม
เรียกว่า

"เอาบัญญัติ หาบัญญัติ เห็นบัญญัติ ได้บัญญัติ เป็นบัญญัติ"


:b37:


อยู่มานานปี..ดีดัก..ยังไม่พัฒนาอีกหรือ?

เลิกตลก..ได้แล้ว...

:b12:
ถ้าสัจจธรรมสามารถพัฒนาให้แปลกใหม่กว่าเก่าได้ ขอคุณกบช่วยพัฒนา อริยสัจ 4 ให้มีรูปแบบใหม่กว่าที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้เมื่อสองพันกว่าปีก่อนให้ดูหน่อยเถอะครับ อยากเห็นจังเลยว่านักพัฒนาอย่างกบจะทำอย่างไร
:b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2017, 20:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004
จะ....คิด....หนอ

จะคิด....เป็นจิตล่วงอนาคต

คิด....เป็นปัจจุบัน

หนอ....เป็นคำบริกรรมมาตัดให้ดับ

ทั้งหมดถูกกำหนด จึงเป็นธรรมที่คิดสร้างเอา กำหนดเอา มิได้เกิดโดยธรรมชาติ อริยสัจที่ได้ จึงเป็นอริยสัจ สร้างเอา ใส่เจตนาเอา ไม่ใช่อริยสัจตามธรรม
เรียกว่า

"เอาบัญญัติ หาบัญญัติ เห็นบัญญัติ ได้บัญญัติ เป็นบัญญัติ"


:b37:


อยู่มานานปี..ดีดัก..ยังไม่พัฒนาอีกหรือ?

เลิกตลก..ได้แล้
ว...


asoka เขียน:
:b12:
ถ้าสัจจธรรมสามารถพัฒนาให้แปลกใหม่กว่าเก่าได้ ขอคุณกบช่วยพัฒนา อริยสัจ 4 ให้มีรูปแบบใหม่กว่าที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้เมื่อสองพันกว่าปีก่อนให้ดูหน่อยเถอะครับ อยากเห็นจังเลยว่านักพัฒนาอย่างกบจะทำอย่างไร
:b17:


พระสัทธรรม..คือพระสัทธรรม

แต่ที่อยากเห็นการพัฒนา..ก็เพราะที่อโศกะพูดมิไม่ใช่พระสัทธรรม...นะซิครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 31 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร