ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54109 |
หน้า 4 จากทั้งหมด 5 |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 07 ส.ค. 2017, 22:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
กบนอกกะลา เขียน: คนดูจิตเป็น..นะดูง่าย.. หากไม่เห็นอาการที่แสดงออกทางกาย..ต่อจิตใดจิตหนึ่งเกิด..กระผมว่า..หลงแล้วละ..หลงว่าได้ดูจิต คงประมาณนั้นแหละคร้าบ55 กายจิต รูปนาม แยกกัน แต่เนื่องด้วยกัน กายอาศัยจิต จิตอาศัยกาย รูปประกอบนาม นามประกอบรูป เป็นกายใจ ขันธ์ห้า ตามกระแสสังขาร ผมก็แยกไม่เก่งนะ แต่อาศัยรู้กายเคลื่อนไหว เจริญสติ ดูเวลาจิตเคลื่อน รู้สึกเวลา ผัสสะ อารมณ์ต่างๆ ตามแนวทางครูอาจารย์ ก็ดูไปเรื่อยๆ ดูไม่เล่น เป็นคนดูไม่เข้าไปเป็น รู้ไปวางไป ผ่านไปผ่านไป..... |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 ส.ค. 2017, 07:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
ขณะจิต เขียน: ผมคิดทีไรจมไปทุกทีเรื่องจิตเนี่ย เลยได้แต่ตามดูอย่างเดียว เลยอาศัยมาศึกษาจากพวกท่านๆเอา ติดตามครับ การดูจิตหรือเจริญจิตตานุปัสสนานั้น ให้สังเกตุดูจิตที่กำลังนึกคิดเรื่องราวต่างๆ ในขณะปัจจุบันว่าคิดเรื่องราวอะไรอยู่ ตามให้ทัน เข่น ฟุ้งก็ให้รู้ฟุ้ง โกรธก็ให้รู้โกรธ โลภก็ให้รู้ว่าโลภ จนเกิดการเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เกิดดับอยู่ตลอดเวลา เป็นกฎของไตรลักษณ์ เมื่อมาถึงตรงจะเกิดความเบื่อหน่ายจากการที่เราเคยยึดถือว่ามันเป็น "อัตตา" เมื่อคลายออกจากอัตตาจิตก็จะเข้าสู่ความเห็นว่ามันเป็น"อนัตตา" คือ เข้าสู่ความเป็นจริงของมัน |
เจ้าของ: | asoka [ 08 ส.ค. 2017, 09:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
มีอีกทางหนึ่งนะครับ คุณขณะจิต คือ "การพิสูจน์ อนัตตา" "อนัตตา " สำหรับผู้ใหม่หรือปัญญายังไม่พอ ให้แปลว่า "บังคับบัญชาไม่ได้" เสียก่อน แล้วจะเข้าใจง่าย หลังจากนั้นลงมือพิสูจน์ทั้งตัวและใจของคุณเอง ว่ามีอะไรบังคับบัญชาให้เป็นไปดั่งใจได้บ้าง ถ้าพบว่า ไม่มีอะไรบังคับได้เลย นั่นแหละเริ่มรู้จักอนัตตาอย่างง่าย ส่วนที่ละเอียดลึกซึ้งกว่านั้น ต้องมาพิสูจน์ธรรมร่วมกันต่อไป ในกระบวนการพิสูจน์อนัตตานั้นเขาจะกลายเป็น สติปัฏฐาน 4 มรรค 8 และวิปัสสนาภาวนาโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องคิดมาก จำมาก หลายเรื่อง มีเพียงเรื่องเดียวคือ "พิสูจน์อนัตตา" |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 08 ส.ค. 2017, 10:17 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ | ||
คิดอะไรไม่ออกผมยกมือไว้ก่อนเลย
|
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 10 ส.ค. 2017, 05:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
ขณะจิต เขียน: s007 คิดอะไรไม่ออกผมยกมือไว้ก่อนเลย เคยไปยกมือ..มาแล้วหรือคับ? |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 10 ส.ค. 2017, 08:54 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ | ||
กบนอกกะลา เขียน: ขณะจิต เขียน: s007 คิดอะไรไม่ออกผมยกมือไว้ก่อนเลย เคยไปยกมือ..มาแล้วหรือคับ? ยกทุกวันแหละครับ สร้างนิสัย
|
เจ้าของ: | asoka [ 14 ส.ค. 2017, 18:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
ช่วงนี้ยุคสมัยปัจจุบันนี้ "กรรมฐานยกมือ" หรือการเจริญสติกับอาการยกและวางของมือ หรือบางท่านก็เรียกว่าการทำจังหวะ ตามแบบฉบับที่หลวงพ่อเทียนค้นพบ กำลังฮิตติดอันดับ และไปเจริญรุ่งเรืองในต่างประเทศหลายที่หลายแห่ง น่าอนุโมทนายินดี และเพราะด้วยวิธีนี้จะสามารถแก้ไขความฟุ้งซ่านได้ดีกว่าวิธีอื่นและไม่มีปัญหาเรื่องการติดนิมิตหรือผลของฌาณต่างๆเพราะลืมตาภาวนาและเคลื่อนไหวกายตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยบ้างนิดหน่อยกับการที่ต้องยกมือวางมืออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อสมาธิเกิด จิตมีสติเข้มแข็งแรงกล้าขึ้น สัมปชัญญะสมบูรณ์ควรแก่งานก็สามารถจะยกขึ้นสู่วิปัสสนาภาวนาพิจารณาจนเห็นไตรลักษณ์และบรรลุธรรมได้เช่นกัน ถนัดใครถนัดมัน ชอบใครชอบมันนะครับ "แมว จะสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน" ภาษิตของท่านประธานเหมาเจ๋อตุง |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 15 ส.ค. 2017, 11:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
asoka เขียน: :b43: ช่วงนี้ยุคสมัยปัจจุบันนี้ "กรรมฐานยกมือ" หรือการเจริญสติกับอาการยกและวางของมือ หรือบางท่านก็เรียกว่าการทำจังหวะ ตามแบบฉบับที่หลวงพ่อเทียนค้นพบ กำลังฮิตติดอันดับ และไปเจริญรุ่งเรืองในต่างประเทศหลายที่หลายแห่ง น่าอนุโมทนายินดี และเพราะด้วยวิธีนี้จะสามารถแก้ไขความฟุ้งซ่านได้ดีกว่าวิธีอื่นและไม่มีปัญหาเรื่องการติดนิมิตหรือผลของฌาณต่างๆเพราะลืมตาภาวนาและเคลื่อนไหวกายตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยบ้างนิดหน่อยกับการที่ต้องยกมือวางมืออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อสมาธิเกิด จิตมีสติเข้มแข็งแรงกล้าขึ้น สัมปชัญญะสมบูรณ์ควรแก่งานก็สามารถจะยกขึ้นสู่วิปัสสนาภาวนาพิจารณาจนเห็นไตรลักษณ์และบรรลุธรรมได้เช่นกัน ถนัดใครถนัดมัน ชอบใครชอบมันนะครับ "แมว จะสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน" ภาษิตของท่านประธานเหมาเจ๋อตุง ดูกายเห็นจิต ดูความคิดเห็นธรรม... |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 08 ม.ค. 2019, 07:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
asoka เขียน: ช่วงนี้ยุคสมัยปัจจุบันนี้ "กรรมฐานยกมือ" หรือการเจริญสติกับอาการยกและวางของมือ หรือบางท่านก็เรียกว่าการทำจังหวะ ตามแบบฉบับที่หลวงพ่อเทียนค้นพบ กำลังฮิตติดอันดับ และไปเจริญรุ่งเรืองในต่างประเทศหลายที่หลายแห่ง น่าอนุโมทนายินดี และเพราะด้วยวิธีนี้จะสามารถแก้ไขความฟุ้งซ่านได้ดีกว่าวิธีอื่นและไม่มีปัญหาเรื่องการติดนิมิตหรือผลของฌาณต่างๆเพราะลืมตาภาวนาและเคลื่อนไหวกายตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยบ้างนิดหน่อยกับการที่ต้องยกมือวางมืออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อสมาธิเกิด จิตมีสติเข้มแข็งแรงกล้าขึ้น สัมปชัญญะสมบูรณ์ควรแก่งานก็สามารถจะยกขึ้นสู่วิปัสสนาภาวนาพิจารณาจนเห็นไตรลักษณ์และบรรลุธรรมได้เช่นกัน ถนัดใครถนัดมัน ชอบใครชอบมันนะครับ "แมว จะสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน" ภาษิตของท่านประธานเหมาเจ๋อตุง อยู่ ๆ เช้านี้มาเจอคำนี้ได้ไง หว๋า จริง ๆ เอกอนไม่ค่อยชอบวาทะนี้ของท่านเหมา เลย เพราะ ในวงการทำงาน เขาชอบใช้คำนี้ เพราะเวลาในวงการทำงาน ผู้ที่ศึกษาปฏิบัติธรรมที่ปะปนอยู่ในโลกปัจจุบัน เขามีการดูแลรักษาสุจริตกาย-วาจา-ใจ เป็น หัวใจของการดำเนินชีวิตของเขา ซึ่งบางทีเมื่อเขาต้องมาเจอกับวาทะ แมว แมว อย่างนี้ ปวดตับ ว่าแต่คุณ อโศกะ ไปไหนน๊อออออ |
เจ้าของ: | sssboun [ 08 ม.ค. 2019, 08:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
อ้างคำพูด: ปวดตับ ว่าแต่คุณ อโศกะ ไปไหนน๊อออออ คงไปเปิดสำนักใหม่แล้วกระมังครับ การปฏิบัตินี้ก็คือการตามดูกายนั้นเอง ผมก็ใช้ดูการเดิน โดยส่วนมาก ดูลมหายใจยังไม่ค่อยชัดกำลังฝึกพยายามอยู่ เพราะลมหายใจละเอียดกว่าดูได้อยากกว่า |
เจ้าของ: | asoka [ 27 ก.พ. 2019, 16:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
sssboun เขียน: :b8: อ้างคำพูด: ปวดตับ ว่าแต่คุณ อโศกะ ไปไหนน๊อออออ คงไปเปิดสำนักใหม่แล้วกระมังครับ การปฏิบัตินี้ก็คือการตามดูกายนั้นเอง ผมก็ใช้ดูการเดิน โดยส่วนมาก ดูลมหายใจยังไม่ค่อยชัดกำลังฝึกพยายามอยู่ เพราะลมหายใจละเอียดกว่าดูได้อยากกว่า กลับมาเยี่ยมเยียนและสังเกตการณ์แล้วครับ "การปฏิบัตินี้ก็คือการตามดูกายนั้นเอง ผมก็ใช้ดูการเดิน" กาย ยังไม่ใช่ที่อยู่ของสมุทัย เฝ้าดูและสังเกตอาการที่จิตใจได้เมื่อไหร่ จึงจะได้พบสมุทัยตัวจริงแล้วสลายทิ้งได้ ชีวิตจึงจะสุขสดใสและมีหลักประกันที่แน่นอนครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 27 ก.พ. 2019, 16:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
ไม่น่าใช่ท่านอโศกตัวจริงเสียงจริง |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 27 ก.พ. 2019, 18:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
กรัชกาย เขียน: ไม่น่าใช่ท่านอโศกตัวจริงเสียงจริง นั่นสิ่ แต่เอกอนก็ยังคิดว่าก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคุณอโศกะ นะคะ |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 27 ก.พ. 2019, 18:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
asoka เขียน: :b38: อุปมาเปรียบเทียบระดับการชำระจิตของบุคคลระดับต่างๆ ปุถุชน จิตแปดเปื้อน 100% กัลยาชน เตรียมชาวพุทธ ชาวพุทธ เป็นผู้มีกาย วาจา ความคิดนึก สะอาด จุลโสดาบันบุคคล จิตขาวไปแล้วเกือบถึง 1% โสดาบันบุคคล จิตขาวตั้งแต่ 1 - 25% สกิทาคามีบุคคล จิตขาวตั้งแต่ 26 - 50% อนาคามีบุคคล จิตขาวตั้งแต่ 51 - 75% อรหันตบุคคล จิตขาวรอบ 76 - 100% คงพอทำให้นึกภาพ จินตนาการกันออกได้ว่า เมื่อเจริญการชำระจิตของตนให้ขาวรอบแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้างนะครับ เอ่? โสดาบันบุคคล จิตขาวตั้งแต่ 1 - 25% ไม่ต้องถึงเขาพระสิเนรุ มั๊งน๊อ เอ่? เอาแค่ขนาดเขาหิมาลัยหิมะคุมขาวรอบ เหลือดำแค่ ถั่วลิสงต้ม 7 เม็ด ส่วนขาว ยังมากกว่า 25 เปอร์เซนต์ไปแระน้อค่ะ พุทธพจน์ “ทุกข์ส่วนที่หมดไปแล้วของพระโสดาบันเปรียบเหมือนกับขุนเขาสิเนรุ ส่วนทุกข์ที่ยังเหลือเปรียบเหมือนก้อนหินขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว 7 ก้อน” (สิเนรุสูตร, 19/1745-1746) เอ่? |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 27 ก.พ. 2019, 19:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ |
asoka เขียน: :b43: ช่วงนี้ยุคสมัยปัจจุบันนี้ "กรรมฐานยกมือ" หรือการเจริญสติกับอาการยกและวางของมือ หรือบางท่านก็เรียกว่าการทำจังหวะ ตามแบบฉบับที่หลวงพ่อเทียนค้นพบ กำลังฮิตติดอันดับ และไปเจริญรุ่งเรืองในต่างประเทศหลายที่หลายแห่ง น่าอนุโมทนายินดี และเพราะด้วยวิธีนี้จะสามารถแก้ไขความฟุ้งซ่านได้ดีกว่าวิธีอื่นและไม่มีปัญหาเรื่องการติดนิมิตหรือผลของฌาณต่างๆเพราะลืมตาภาวนาและเคลื่อนไหวกายตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยบ้างนิดหน่อยกับการที่ต้องยกมือวางมืออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อสมาธิเกิด จิตมีสติเข้มแข็งแรงกล้าขึ้น สัมปชัญญะสมบูรณ์ควรแก่งานก็สามารถจะยกขึ้นสู่วิปัสสนาภาวนาพิจารณาจนเห็นไตรลักษณ์และบรรลุธรรมได้เช่นกัน ถนัดใครถนัดมัน ชอบใครชอบมันนะครับ "แมว จะสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน" ภาษิตของท่านประธานเหมาเจ๋อตุง เอ่? ตั้งภาษิตใหม่ให้ดีกว่า ขยายความเห็นข้างบน สาม บันทัดสุดท้าย ก่อนภาษิต ให้น๊อค๊ะ หนูที่ตายจนหมดสภาพเละตุ้มเป๊ะ ไปแล้ว แมวจับมาแทะ ก็ติดเชื้อและตายตามไป เม เอ่? |
หน้า 4 จากทั้งหมด 5 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |