วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2017, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"10 คำสอน" ของ "หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน"

1. ความดีเป็นศัตรูของชีวิต ความดีต้องมีอุปสรรค เขามาร้าย อย่าร้ายตอบ เขาไม่ดีมา จงใช้ความดีเข้าไปแก้ไข คนตระหนี่ ให้ของที่ต้องใจ คนพูดเหลวไหล เอาความจริงใจ ไปสนทนา

2. จงอย่าหวั่นไหว จงทำใจให้ได้เมื่อมีทุกข์ คนที่ทำใจได้เพราะมีสติควบคุมใจได้ ถ้าผู้ใดเจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน จิตมั่นคง ต้องช่วยตัวเองได้ ทำใจได้ จะไม่เสียใจ ไม่น้อยใจต่อบุคคลใด คนทำใจได้นั่นแหละ จะได้รับผลดี มีสติเป็นอาวุธของตนตลอดไป

3. คนโบราณท่านมีคติดี เวลาไปไหนมาไหนต้อง 1.นิ่งได้ 2.ทนได้ 3.รอได้ 4.ช้าได้ 5.ดีได้ คนสมัยนี้นิ่งไม่ได้ ปากไม่ดี ทนไม่ได้ อยู่ไม่ได้อีก รอก็ไม่ได้ ช้าก็ไม่ได้ จึงเอาดีกันไม่ค่อยจะได้ ในยุคสมัยใหม่ปัจจุบันนี้ สิ่งเหล่านี้มีความหมายมาก แต่ทุกคนไม่เคยคิด

4. ใครตั้งใจ "ทำดี" อย่าไปกังวลเรื่อง "ปากคน" เพราะต่อให้เรา "ดี" ขนาดไหน หากไม่ถูก "กิเลส" เขา เขาก็ไม่ชอบ ไม่เข้าใจ เขาก็ตำหนิ ดังนั้น ดี-ชั่ว ไม่ได้อยู่ที่เขาว่าเรา แต่อยู่ที่เราเองทั้งหมด

5. ชาวพุทธแท้ๆ ควรจะได้ดีมีสุขจากการนับถือศาสนาพุทธ โดยแก้ปัญหาที่เกิดด้วยอริยสัจ 4 ทุกข์เกิดแล้วหาสาเหตุของทุกข์ด้วยการกำหนดทุกข์หนอ มันทุกข์ตรงไหนหนอ บำเพ็ญจิตภาวนา สมาธิ ปัญญาจะบอกทุกข์เกิดขึ้นตรงนั้น ต้องแก้ตรงนั้น อย่าไปแก้ผิดจุด อย่าไปให้ผีให้เจ้ามาแก้ หรือเอาหมอดูมาแก้ มันไม่ถูกเรื่อง

6. ความอดทนเป็นคุณสมบัติของนักต่อสู้ ความรู้เป็นคุณสมบัติของนักปราชญ์ ความสามารถเป็นคุณสมบัติของนักประกอบกิจ ความมีระเบียบทุกชนิดเป็นคุณสมบัติของผู้ดี

7. วันไหนโยมถูกด่ามากวันนั้นเป็นมงคล วันไหนโดยถูกป้อยอเขาจะล้วงไส้เราโดยไม่รู้ตัว หลงเชื่อเราจะประมาท จะเสียท่าเสียทีต่อมารร้าย และที่เขามาป้อยอกับเรา ระวังให้ดี เขาไม่ได้รักเราจริง

8. สร้างบุญใช้สติ ไม่ต้องใช้สตางค์ พวกเราหาแต่สตางค์ ไม่หาสติกันเลย

9. คนเราจะทำอะไรได้ก็ช่วงมีชีวิตอยู่เท่านั้นเมื่อตายแล้วไม่สามารถจะทำความดีหรือความชั่วได้เลยฉะนั้นในช่วงที่มีชีวิตอยู่ควรที่จะทำความดีใช้ชีวิตให้เป็นสาระ จะต้องต่อสู้กับความไม่ดีงามทั้งหลายที่มีอยู่รอบตัวเรา

10. จงพอใจในชีวิตของตัวเอง โดยมิต้องไปเปรียบเทียบชีวิตของผู้อื่น (ข้อความสุดท้ายใน ส.ค.ส.2559 ที่หลวงพ่อจรัญ เขียนไว้ก่อนละสังขาร)แม้วันนี้หลวงพ่อจรัญจะละสังขารไปแล้วแต่ทุกคำสอนของท่านยังมีคุณค่าและเป็นจริงเสมอ






"เมตตาที่แท้จริง ไม่มีขอบเขต
คือไม่เลือกผู้รับ ไม่เลือกของเรา ของเขา
ไม่เลือกชาติศาสนา และไม่เลือกมิตร
และศัตรู"

-:-สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ-:-






วันนี้ท่านนักใจบุญทั้งหลายได้อุตส่าห์สละทั้งเวล่ำเวลา สละทั้งทรัพย์สมบัติอันมีค่า ตลอดทั้งชีวิตด้วยความไม่เสียดาย ทั้งนี้เพื่อบูชาแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ และมีมากท่านด้วยกัน มีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณท่านเป็นประธาน นับว่าเป็นมงคลอย่างยิ่งในวัดป่าบ้านตาด และท่านทั้งหลายมีความมุ่งอยากจะฟังพระธรรมเทศนา เพื่อเป็นการอบรมจิตใจเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนอื่นขออภัยทุกๆ ท่านว่าการแสดงธรรมะนี้ โดยมากเป็นธรรมะป่าๆ ทั้งนั้น ซึ่งแสดงตามความรู้สึกที่ได้ปฏิบัติมาอย่างไร จะถูกหรือผิดอย่างไรนั้น จึงขออภัยไว้ล่วงหน้า

การแสดงธรรมวันนี้ก็จะเริ่มแสดงเรื่องการปรับปรุง คำว่าการปรับปรุงเป็นประโยคกว้างขวาง ทางโลกทางธรรมต้องอาศัยการปรับปรุง ไม่เช่นนั้นก็ไม่สำเร็จประโยชน์ตามความต้องการ เช่นอาหาร แม้จะสำเร็จชื่อว่าเป็นอาหารแล้ว ก็ยังต้องอาศัยการปรับปรุงจากแม่ครัว แม่ครัวมีความฉลาดมากน้อยเท่าไร การปรับปรุงอาหารก็ย่อมมีรสมีชาติมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นทุกๆ สิ่งจึงต้องอาศัยการปรับปรุง บ้านเรือน วัดวาอาวาส รถรา เป็นต้นเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่อาศัยการปรับปรุงขึ้น เพียงแต่จะเป็นไม้อยู่เท่านั้น เป็นเหล็กอยู่เท่านั้น จะไม่สำเร็จประโยชน์เป็นบ้านเป็นเรือนขึ้นมา

ดังนั้นการปรับปรุงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราจะต้องการสิ่งใดต้องอาศัยการปรับปรุงสิ่งนั้นด้วยความขยันหมั่นเพียร และทรัพย์สมบัติ พร้อมทั้งความฉลาด สิ่งที่จะสำเร็จรูปขึ้นมาจากการปรับปรุงก็ถูกต้องตามความประสงค์ของเรา ศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน เช่น เรานับถือพระพุทธศาสนา หลักของพระศาสนามีเหตุผลอย่างไรบ้าง เราจึงมีความเชื่อความเลื่อมใสหรือสนใจ การสนใจต่อพระศาสนานั้นสนใจเพื่ออะไร ก็เพื่อจะนำหลักธรรมะที่ให้นามว่าสวากขาตธรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชอบแล้วนั้นมาปรับปรุงตนเอง

เพราะเราถ้าหากจะเทียบเหมือนไม้ก็เป็นไม้ทั้งท่อน หรือไม้ทั้งต้น เพียงแต่เป็นรูปร่างของไม้อยู่เท่านั้น จะเป็นไม้ประเภทที่มีเนื้อดีหรือเนื้ออ่อนเนื้อแข็ง ประเภทใดๆ ก็ยังเป็นเพียงชื่อว่าไม้เท่านั้น เมื่อยังไม่ได้ปรับปรุงไม้นั้นๆ ให้ถูกต้องตามความประสงค์ซึ่งสมควรจะปรากฏให้เป็นบ้านเป็นเรือนขึ้นมาแล้วก็สำเร็จไปไม่ได้ ความที่ว่าเป็นมนุษย์เป็นบุรุษหญิงชายก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ต้องอาศัยสิ่งที่สำเร็จรูปจากการปรุง ได้แก่ธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ท่านทรงปรุงไว้อย่างเรียบร้อยแล้วจนกลายเป็น สวากขาตธรรม คือตรัสไว้ชอบหนึ่ง และเป็น นิยยานิกธรรม จะนำผู้ประพฤติปฏิบัติคือปรับปรุงตนเองนั้น ให้ได้ผ่านพ้นอุปสรรคเป็นลำดับๆ ไป ดังนั้นเราท่านทั้งหลายที่ได้อุตส่าห์พยายาม เสาะแสวงหาธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องปรับปรุงกายวาจาใจของตนให้เดินถูกทางแห่งสวากขาตธรรม จึงเป็นการปรับปรุงตนเองให้ถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมคณะหมออวย เกตุสิงห์ ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๘







"ให้พากันสร้างกรรมดีนะ
เวลามีชีวิตอยู่ อย่าพากันเพลิดเพลิน
ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ได้นะ ต้องระวัง

เราเป็นผู้ประกันตัวของเราเอง
รักษาตัวของเราเอง พึ่งตัวเอง
ให้ระมัดระวัง การกระทำของเรา

อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดี เป็นการทำลายตัวเอง
ต้องได้คิดได้อ่านเสียก่อน จะทำอะไร
เพราะทำแล้ว ไม่หายไปไหน

บาปกับบุญ มันติดอยู่กับผู้ทำนั่นแหล่ะ
ให้พากันระวังให้ดี"

-:-หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน-:-





ถ้าพวกเราไม่ต้องการเป็นพระอริยบุคคล
ต้องการเพียงแต่สวรรค์สมบัติ
ก็พึงดำเนินเพียงชั้น สีลขันธ์ คือ
สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)
สัมมากัมมันโต (การงานของกายชอบ)
สัมมาอาชีโว (เลี้ยงชีวิตโดยชอบ)
ให้แน่วแน่ อย่าให้พลาดเผลอ
เป็นอันได้สวรรค์แน่
ชื่อว่าขี่ขับสรีรยนต์ส่งถึงสวรรค์.
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท จันทร์)







แผ่เมตตาไม่มีประมาณ

ให้ทุกคนได้หัดแผ่เมตตา คือส่งความปรารถนาดีแก่คน สัตว์ ศัตรูหมู่มาร โดยแผ่ไปให้ทั่วจักรวาล ยิ่งแผ่มาก ก็ยิ่งทำให้ในสบาย รักชีวิตและทรัพย์สิน คนอื่นเหมือนกับของตนเอง สังคมก็จะมีความสุขสงบอย่างถ้วนทั่ว

วิธีแผ่เมตตาให้บังเกิดผล โดยให้ทำตนและจิตใจเหมือนมารดาที่เลี้ยงลูก ให้ความรัก ความเอ็นดูสงสาร มุ่งหวังจะให้ลูกสุขกายสบายใจ มีอาชีพการงาน มีวิชาเลี้ยงตนเอง ได้ ความรักที่แม่ให้กับลูกเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย และไม่ต้องการผลตอบแทนจากลูก มีแต่ให้อย่างเดียว

ถ้าเราแผ่เมตตาเหมือนกับพระอาทิตย์ส่องแสง เมตตานั้นจะมีพลังสูงยิ่ง เพราะธรรมชาติของพระอาทิตย์ขณะที่ส่องแสงไม่ได้เลือกชุมชน สรรพสัตว์ยากดีมีจน อยู่ที่สูงหรือที่ต่ำ จะใกล้หรือไกล ก็ได้รับความร้อนเท่ากัน
เมตตาธรรมก็เช่นกัน ขอให้แผ่ไปให้แก่ชนทุกชั้นทุกระดับ ใครจะรับได้มากน้อย สุดแต่วาสนาบารมีของผู้นั้น

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ





ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ ต้องดับเหตุก่อนผลจึงดับ
ธรรมทั้งหลายเกิดที่ใจ ดับต้องดับที่ใจ
ใจเป็นมหาเหตุ
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน





"...ความทุกข์ทั้งหลายย่อมเกิดมาแต่เหตุ เมื่อเรารู้จักเหตุ เราก็จะรู้จักวิธีกำจัดทุกข์ได้ เหตุของความทุกข์นั้นก็ย่อมเกิดจากตัวของเราเอง คือเครื่องกังวลใจต่างๆ ที่สะสมรุมรอบอยู่ในตัวเรา ดวงใจที่ไม่มีอิสรภาพ ต้องตกเป็นทาสของสิ่งอื่น..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อลี ธัมมธโร





"...เพราะไม่มีที่พึ่งทางจิตใจ หรือไม่รู้ที่พึ่งอันเกษมอันอุดม จึงกลัวการตาย แต่ไม่กลัวการเกิด เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงคว้าโน้นคว้านี่เป็นที่พึ่ง

บางคนกลัวตาย คว้าเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่งที่เคารพนับถือ ด้วยความงมงาย นอกจากนี้ ยังมีการทรงเจ้าเข้าผี สะเดาะเคราะห์ สะเดาะนาม สืบชะตาราศี ตัดกรรมตัดเวร โดยวิธีการต่าง ๆ

ที่พึ่งอันอุดมมั่นคงนั้น คือการภาวนา น้อมรำลึกนึกเอาพระคุณอันวิเศษของพระพุทธเจ้า พร้อมพระธรรม และพระอริยสงฆ์มาเป็นที่ยึดเหนี่ยว ทางด้านจิตใจ จึงจะเป็นการถูกต้อง..."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท..
พระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ – ๒๔๙๒)





"...เพราะไม่มีที่พึ่งทางจิตใจ หรือไม่รู้ที่พึ่งอันเกษมอันอุดม จึงกลัวการตาย แต่ไม่กลัวการเกิด เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงคว้าโน้นคว้านี่เป็นที่พึ่ง

บางคนกลัวตาย คว้าเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่งที่เคารพนับถือ ด้วยความงมงาย นอกจากนี้ ยังมีการทรงเจ้าเข้าผี สะเดาะเคราะห์ สะเดาะนาม สืบชะตาราศี ตัดกรรมตัดเวร โดยวิธีการต่าง ๆ

ที่พึ่งอันอุดมมั่นคงนั้น คือการภาวนา น้อมรำลึกนึกเอาพระคุณอันวิเศษของพระพุทธเจ้า พร้อมพระธรรม และพระอริยสงฆ์มาเป็นที่ยึดเหนี่ยว ทางด้านจิตใจ จึงจะเป็นการถูกต้อง..."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท..
พระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ – ๒๔๙๒)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 102 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร