กบนอกกะลาดูนี่

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

อัคคิ ไฟ, ไฟกิเลส, กิเลสดุจไฟเผาลนจิตใจให้เร่าร้อน มี ๓ คือ

๑. ราคัคคิ ไฟคือราคะ

๒. โทสัคคิ ไฟคือโทสะ

๓. โมหัคคิ ไฟคือโมหะ

อบาย, อบายภูมิ ภูมิกำเนิดที่ปราศจากความเจริญ มี ๔ อย่าง คือ

๑. นิรยะ นรก

๒. ติรัจฉานโยนิ กำเนินติรัจฉาน

๓.ปิตติวิสัย ภูมิแห่งเปรต

๔. อสุรกาย พวกอสุรกาย


นิรยะ นรก, ภพที่ไม่มีความเจริญ, ภูมิที่เสวยทุกข์ของคนผู้ทำบาปตายแล้วไปเกิด

นิรยบาล ผู้คุมนรก, ผู้ลงโทษสัตว์นรก

นรก ภาวะเร่าร้อนกระวนกระวาย, เหวแห่งความทุกข์, ที่อันไม่มีความสุขความเจริญ, ที่ไปเกิดและสวยความทุกข์ของสัตว์ผู้ทำบาป

สังกิเลส ความเศร้าหมอง, ความสกปรก, สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ธรรมที่อยู่ในหานภาค คือในฝ่ายข้างเสื่อม ได้แก่ ธรรมจำพวกที่ทำให้ตกต่ำเสื่อมทราม เช่น อโยนิโสมนสิการ อคติ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ อวิชชา ตรงข้ามกับโวทาน


โวทาน ความบริสุทธิ์, ความผ่องแผ้ว, การชำระล้าง, การทำให้สะอาด, ธรรมที่อยู่ในวิเสสภาค คือ ในฝ่ายข้างวิเศษ ได้แก่ ธรรมจำพวกที่ทำให้เจริญงอกงามดียิ่งขึ้นไปจนปลอดพ้นจากประดาสิ่งมัวหมองบริสุทธิ์บริบูรณ์ เช่น โยนิโสมนสิการ กุศลมูล สมถและวิปัสสนา ตลอดถึงนิพพาน ตรงข้ามกับสังกิเลส

ไม่มีใครว่า แล้วพูดต่อทำไร กรัชกาย...

ทางวัดให้ความร่วมมือตรงไหน? มิเห็น เห็นแต่พาทัวร์วัด
.....ไม่หนี แต่ไม่ให้จับ จะหลบซะอย่าง

กระแสข่าวเผ่นไปนอกก็มี หลบซ่อนอยู่ก็มี ฟังกันกี่ฝ่ายล่ะ...ข่าวลอยโคมตรึม ต้องค้นทุกตารางมิลลิเมตร ค้นสักสามปี พอดีๆ...

ใช้ ม.44 ดีแล้วสำหรับผู้มีอิทธิพลหนุนหลังวัด ทำวัดเป็นรัฐซ้อนรัฐ ก็สมควรแล้ว รึกรัชกาย อยากเข้าไปคอยเทกระโถนให้ ไชยบูรณ์ สุทธิผล

แรงๆนะน่า อย่าเครียดน่ะเช่นโน้น ค่อยๆพูดค่อยจากันนิ

เอาแต่นั่งดูทีวีกับสื่อเสี้ยมดังที่ยกมาให้ดู

ไหนลองบอกสิเขานำกองทัพ + ม.44 รบกับ ไชยบูลย์ คนเดียว จนชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นเข้าบ้านของตัวเองไม่ได้ เป็นต้นเนี่ย ข้อหาอะไร ไหนลองว่าไปสิเช่นโน้น

รึเช่นโน้นอยากจะช่วยสุวิทย์เช็ดก้น

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/e72 ... ?s=737x720

รู้นะว่าหมายถึงใคร ก็บอกแล้วไงว่า เช่นโน้น ไม่ได้ประสีประสาการเมือง

เช่นไหน ฟังยัง

https://www.youtube.com/watch?v=apWSdsVHl8s

ดูนี่ด้วย

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/128 ... ?s=600x520

เหตุเผชิญหน้าเมื่อเช้านี้(23ก.พ.) ที่อาคารบุญรักษา วัดพระธรรมกาย มีพระสงฆ์บาดเจ็บ ระหว่างการผลักดันกันกับฝ่ายทหาร




https://pbs.twimg.com/media/C5U-_oiUkAAB_-Q.jpg

อย่าหลงกล อย่าลืม ปวศ เรื่องเคยมีมาแล้ว

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_229566

อย่าหลงกลเกม เรื่องเคยมีมาแล้วหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ

............

พระมหาไพรวัลย์ ให้ข้อคิด ไม่ชอบ “ธัมมชโย” ไม่ผิด แต่จับไม่ได้ก็ยึดวัด-ไล่คนไม่ชอบธรรม

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระภิกษุวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย บริเวณพื้นที่ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่5/2560 ซึ่งวานนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีประกาศให้พระภิกษุที่ไม่ใช่พระของวัดพระธรรมกายออกจากพื้นที่ โดยจะตรวจสอบหนังสือใบสุทธิของพระภิกษุ รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ที่พักอยู่ภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์ หากพบว่าไม่มีรายชื่อก็จะต้องออกจากพื้นที่วัด ทำให้มีศิษยานุศิษ์จำนวนมาก เริ่มทยอยเดินทางออกมาจากวัด โดยต่างพากันวิพากวิจารณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจให้คนออกจากพื้นที่ควบคุม



พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า เราอาจไม่ชอบพระอย่างธัมมชโยอย่างไรก็ได้ ต้องการให้พระธัมมะชโยเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในเร็ววันนี้อย่างไรก็ได้ แต่เราจะเห็นด้วยกับการใช้วิธีการแบบไหนก็ได้ในการจัดการกับวัดพระธรรมกาย อย่างนี้ไม่ได้นะครับ


เราจะไปวางใจว่า อำนาจเผด็จการจะให้ความเป็นธรรม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในวัดพระธรรมกายตอนนี้ ทั้งพระเณรและฆราวาส ทั้งคนแก่ทั้งเด็กเล็ก ไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ


เราต้องไม่ลืมนะครับว่า ทหารตำรวจนี่เขาถนัดในการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง เพราะเขาถูกฝึกมาแบบนี้ แล้วในประวัติศาสตร์บาดแผลที่ผ่านมา ก็ทหาร ตำรวจนี่แหละ ที่มีส่วนในการสังหารเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งนั้นเลย ไม่ว่า

จะกลุ่มนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ หรือชาวบ้านที่ราชประสงค์ คนตายไปเท่าไหร่ เราลืมกันหมดแล้ว ทหารไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไรเลยครับ

อ้างความมั่นคงในการเข่นฆ่าบีฑาคนในชาติเดียวกันโดยไม่ผิดกฎหมาย แล้วแบบนี้เรายังจะคาดหวังความปรองดองความสมานฉันท์ได้อยู่หรือ


อาตมาอยากจะเตือนอย่างกัลยาณมิตรนะครับว่า มาตรา 44 นี่ให้โทษมากกว่าให้คุณ มันทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบ้าอำนาจ ลุแก่โทสาคติ โดยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม อะไรที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งกฎหมายให้การคุ้มครอง ถูกละเมิดหมดเลย


นี่ทราบว่า น้ำไฟในวัดก็จะตัด พระเณรก็จะถูกไล่ออกจากวัด หรือไม่ก็ถูกขังอยู่ในนั้น ไม่ต่างจากนักโทษที่ไร้อิสระภาพ นี่เป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างที่สุดเลย จับคนทำผิดไม่ได้ ก็จะยึดวัดเขา มันชอบธรรมที่ไหนกัน การทำแบบนี้ เป็นการทำลายน้ำใจ ทำลายศรัทธาของคนพุทธจำนวนไม่น้อย ทั้งที่ศรัทธาวัดพระธรรมกาย และทั้งที่เฉยเฉยนะครับ


ถ้าคนมีอำนาจจะพอสำเนียกรู้อยู่บ้าง หรือมีหิริโอตัปปะ อย่างที่ชอบพร่ำจริง ควรจะมีโยนิโสมนิการ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้อำนาจอะไรก็ตาม ควรรู้จักการวางท่าที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงและความสูญเสียกับผู้บริสุทธิ์


บ้านเมืองเราแตกแยกเป็นเสี่ยงเสี่ยง มานานแล้วนะครับ ขอให้ยอมรับข้อเท็จจริงอันนี้ ถ้าขืนยังคิดว่า

จะต้องกำจัดกันให้สิ้นซากไปข้างหนึ่ง แทนที่จะประนีประนอม โดยเห็นแก่ความสันติสุขอันจะพึงเกิดมีกับสังคม หรือเห็นแก่คนบริสุทธิ์ ทั้งพระเณรและฆราวาส ซึ่งศรัทธาในแนวทางของวัดพระธรรมกาย เกรงว่า บ้านเมืองของเราจะหาความสงบอีกไม่ได้เลย หรือเราไม่อยากเห็นคนในชาติมีความเป็นอยู่อย่างปกติสุขกันกระนั้นหรือครับ



อาตมาจะฝากแง่คิดไว้นะครับว่า ถึงต่อให้คุณจัดการกับพระธัมมชโยได้ จัดการกับพระเณรทั้งหมดในวัดพระธรรมกายได้ ยึดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของธรรมกายได้

แต่หากสิ่งที่ทำไปนั้น เป็นไปโดยวิถีทางของความรุนแรงและใช้กำลังในการบีฑาข่มเหง คุณคิดหรือครับว่า

คุณจะเปลี่ยนคนเป็นล้านที่นับถือพระธัมมชโยได้ จะเปลี่ยนคนเป็นล้าน ที่เข้าวัดพระธรรมกายได้ จะเปลี่ยนความคับแค้นใจ และความเห็นใจของคนเหล่านั้นที่มีต่อธรรมกายได้ ไม่มีทางเลยครับ

อำนาจที่ปราศจากความเป็นธรรม ไม่เคยนำชัยชนะมาให้กับผู้ที่ถืออำนาจอันนั้นนะครับ นี่อยากจะฝากไว้ด้วยความหวังดี

https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_25378

ไม่รู้เช่นโน้น อ่านแล้วจะเข้าใจหรือป่าว เห็นเก่งพระสูตรนัก อิอิ


(จาริกบุญ จารึกธรรม หน้า ๑๓๖ )

วิธีอริยสัจ ได้ผลชะงัด ตั้งแต่สอนนักเรียน จนถึงการปลุกระดมคน

ขอนอกเรื่องสักนิดหนึ่ง ใช้อย่างไร วิธีปลุกระดมคนตามแนวของอริยสัจ ๔

1. จาระไนปัญหา จะต้องแจกแจง หรือแถลงก่อนว่า เดี๋ยวนี้อะไรต่ออะไรมันเสียหายร้ายแรง เลวทรามอย่างไร เช่น จะปฏิวัติสังคม ก็ต้องพูดนำให้เห็นก่อนว่า ขณะนี้ สังคมมันเลวร้าย มีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ พูดจนกระทั่งคนเห็นว่าสังคมนี้ ไม่ไหวแล้ว


2. ชี้หน้าตัวการ พอพูดจาระไนปัญหา จนกระทั่งคนเห็นด้วยว่า ไม่ไหวจริงๆ เลวเต็มทีแล้ว จะต้องแก้ไข นักปลุกระดมก็พูดต่อไปว่า ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ ตัวการคืออะไร ใครเป็นตัวการ
เอาแล้วสิทีนี้ พอชี้ตัวการว่าตัวการอยู่ที่ไหน พวกนั้น พวกนี้ อันนั้น อันนี้เป็นตัวการ นี่ละตัวเหตุละ พอชี้ตัวการแล้ว คนก็ฮึ่มกระเหี้ยนกระหือรือขึ้นมาจะลงมือ พร้อมที่จะปฏิวัติเลย


3. หันไปจ้องจุดหมาย พอชี้เสร็จ ก็บอกจุดหมายเลยว่า นี่ๆ ถ้าเราแก้ไขเสร็จแล้วนะ มันจะดีอย่างนั้น อย่างนี้ บรรยายสภาพที่เป็นจุดหมายว่า จะดีเลิศประเสริฐศรีอย่างไร จนกระทั่งคนกระหาย อยากจะเข้าถึงจุดหมายอันนั้น

พอถึงขั้นนี้ คนก็พร้อมที่จะปฏิบัติการทุกอย่าง (กล่าวคือ ปิดนั่น ยึดนี่ เตะตีผู้คน แล้วจับโยนแม่น้ำ..... ) เพราะมองเห็นและคิดหมายใฝ่ปรารถนาจุดหมายที่ดีงามแล้ว ก็อยากจะไปเต็มที แล้วก็โยงมาด้วยว่า จะไปถึงจุดหมายนั้นได้ ก็ต้องกำจัดไอ้เจ้าตัวร้ายทั้งหลาย ที่เป็นต้นเหตุให้หมด แล้วปัญหาต่างๆ ความทุกข์ ความเดือดร้อนทั้งปวงก็จะหมดไป


4. สาธยายวิธีทำการ พอคนพร้อมอย่างนี้แล้ว ก็บอกวิธีปฏิบัติ ตอนนี้ จะให้ลงมือทำ จะให้ทำอะไร ทำได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะยากจะเย็นจะซับซ้อนอย่างไร เอาทุกอย่าง



นี่แหละวิธีสอนแบบอริยสัจ ใช้มา ๒๕๐๐ กว่าปี จนบัดนี้ ไม่มีล้าสมัย และใครทุกพวก ไม่ว่าจะฝ่ายดี ฝ่ายร้าย ต้องใช้ มีแต่ว่าจะใช้ในทางดี หรือทางร้าย เท่านั้นเอง

ฉะนั้น ในวงการศึกษาเวลานี้ จึงยอมรับมาก ในเรื่องวิธีสอนแบบอริยสัจ ถือได้ว่า เป็นต้นแบบของวิธีสอนทุกอย่าง พระพุทธเจ้าทรงนำเอาสัจธรรมมาแสดงแก่มนุษย์ ในรูปที่เรียกว่าอริยสัจ ๔

(หนังสือข้อความในวงเล็บไม่มีใส่เอง เพื่อให้นึกภาพออก )

เรื่องเคยมีมาแล้วหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ




26 ปี 'รัฐประหาร' รสช. บทเรียนซ้ำปวศ.ไทย

ย้อนรำลึกเหตุการณ์รัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. เมื่อ 26 ปีที่แล้ว อะไรคือสาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมของประวัติศาสตร์ไทย 23 กุมภาพันธ์ 2534 กองทัพภายใต้การนำของพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ หรือ บิ๊กจ็อด ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสูงสุด ขณะนั้นเข้ายึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นครั้งที่ 11 และประกาศจัดตั้งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. ควบคุมการบริหารประเทศในเวลาต่อมา

ในห้วงเวลานั้นเศรษฐกิจประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุครุ่งเรือง ภายใต้การบริหารปะเทศ โดยพลเอกชาติชาย ชุณหะวันนายกรัฐมนตรี ที่โด่งดังจากนโยบายเปลี่ยน "สนามรบเป็นสนามการค้า" ส่งผลให้ไทยสามารถเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา และมาเลเซียมากจนเป็นประวัติการณ์ ดอกเบี้ยธนาคารสูงถึงร้อยละ 5.5 แต่สุดท้ายก็หยุดชะงักลงจากรัฐประหาร

ต่อมาคณะทหารนามว่า รสช. ได้อ้างเหตุผล 5 ข้อ ในการรัฐประหาร คือหนึ่ง รัฐบาลฉ้อราษฎร์บังหลวง จนได้รับฉายา บุฟเฟ่ต์ คาร์บิเนต , แทรกแซงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ,ยุติระบอบเผด็จการรัฐสภา, ปกป้องสถาบันทหาร ไม่ให้ถูกกลุ่มการเมืองครอบงำ และปกป้องสถาบันจากการคุกคามของพลโทมนูญ รูปขจร แต่มีการระบุว่า สาเหตุที่แท้จริง คือการแย่งอำนาจกันเองของเหล่าผู้มีอำนาจ


ขณะเดียวกันข่าวลือยึดอำนาจ แพร่สะพัดเป็นระยะ ซึ่งพลเอกชาติชายได้เตรียมความพร้อม โดยสั่งให้พลตำรวจตรี เสรี เตมียเวส ผู้บังคับกองปราบขณะนั้น เตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ทั้งมีคำสั่งประกบทหารชั้นผู้ใหญ่หลายนาย แต่ก็ไม่พบพิรุธ

จนกระทั่งเวลา 11.00 น. พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เดินทางถึงห้องรับรองพร้อมหน่วยรักษาความปลอดภัย เพื่อเดินทางขึ้นเครื่องบิน ซี-130 ที่สนามบินกองทัพอากาศ ดอนเมือง เพื่อเดินทางไปเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่

แต่ทันทีที่เครื่องบินออกตัวได้ไม่นาน ทหารสองนายในชุดซาฟารีสีน้ำตาล ก็กระชากปืนออกจากเอว ควบคุม รปภ. ทั้ง 20 นาย พร้อมกับที่เครื่องบินลดความเร็วลง และพลเอกชาติชาย ถูกควบคุมตัวเรียบร้อย

ขณะที่พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ พร้อมด้วยพลเอกสุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการทหารบก ,พลอากาศเอกเกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ,พลเรือเอกประพัฒน์ กฤษณจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และมีพลเอกอิสระพงศ์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารบก ออกแถลงการณ์ต่อประชาชนประกาศควบคุมประเทศในนามคณะ รสช.

อย่างไรก็ตามการรัฐประหารในวันนั้น เป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ด้วยหลังจากนายอานันท์ ปันยารชุน ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้น 20 คน ได้ร่างรัฐธรรมนูญเปิดทางให้มีนายกคนนอก

กลายเป็นใบเบิกทางให้ "พลเอกสุจินดา คราประยูร" ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงวิจารณ์สืบทอดอำนาจ ส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารให้บกให้แก่ พลเอกอิสระพงศ์ หนุนภักดี ผู้เป็นพี่เขย ก่อนที่กระแสต่อต้านนายกฯ คนนอก และ รสช.จะลุกลามไปสู่เหตุนองเลือด "พฤษภาทมิฬ"

http://news.voicetv.co.th/thailand/464439.html

รุ่นพี่กับรุ่นน้องพ้องกันในงานศพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

พระมหาไพรวัลย์ พูดถึง "สมานฉันท์"

ความหมายดังนี้

สมานฉันท์ มีฉันทะเสมอกัน, มีความพอใจร่วมกัน, พร้อมใจกัน, มีความต้องการที่จะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตรงกันหรือเสมอเหมือนกัน ในทางที่ร้าย หรือดี ก็ได้,

ในทางร้าย เช่น หญิงและชายที่มีสมานฉันท์ในการประกอบกาเมสุมิจฉาจาร (เป็นตัวอย่างที่ท่านใช้ในการอธิบายบ่อยที่สุด) และหมู่คนร้ายที่มีสมานฉันท์ในการทำโจรกรรม


ส่วนในทางดี เช่น หมู่คนดีสมานฉันท์ที่จะไปทำบุญร่วมกัน เช่น ไปปรับถนนหนทาง สร้างสะพาน ขุดสระ ปลูกสวน สร้างศาลาพักร้อน ให้ทาน รักษาศีล (ชา. อ.1/294 เป็นตัวอย่าง)

เด็กกลุ่มหนึ่ง มีสมานฉันท์ที่จะบรรพชา

ภิกษุหลายรูป มีสมานฉันท์ที่จะถือปฏิบัติธุดงค์ข้อนั้นข้อนี้,

คนผู้มีสมานฉันท์ในทางร้ายนั้น ไม่ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองพิจารณา เพียงชอบใจอยากทำก็ประกอบกรรมไปตามอำนาจของราคะ หรือโลภะ โทสะ และโมหะ


ส่วนคนที่จะมีสมานฉันท์ในทางดี เบื้องแรกมองเห็นด้วยปัญญาแล้วว่ากรรมดีงามเป็นประโยชน์มีเหตุผลควรทำ จึงเกิดฉันทะคือความพอใจใฝ่ปรารถนาที่จะทำ โดยเข้าใจตรงกัน และ พอใจเหมือนกัน ร่วมด้วยกัน

ยังมีปรองดองอีกตัวอีก ส่วนเข่นฆ่าบีฑาชัดแล้วคือทำให้ตาย

ความหมายปรองดอง

ปรองดอง (ปฺรอง-) ก. ออมชอม, ประนีประนอม, ยอมกัน, ไม่แก่งแย่งกัน, ตกลงกันด้วยความไกล่เกลี่ย, ตกลงกันด้วยไมตรีจิต

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ หน้า ๔๙๑