ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53474
หน้า 2 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 19:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

ตัวอย่างเดินจงกรมแล้วรู้สึกฉะนี้

อ้างคำพูด:
เดินจงกรมซักพัก แว้บนึงก้มไปมองที่เท้า เห็นว่าเท้าที่เดินอยู่ไม่ใช่ตัวเรา ความรู้สึกเหมือนเรามองศพคนอื่น แต่ว่าพอเห็นเช่นนั้นความกลัวผุดขึ้น จิตมันก็เลยถอยออกมาจากความรู้สึกนั้น

ที่เห็นเช่นนี้ ปฏิบัติถูกต้องไหมครับ?
ถ้าผิด/ถูก ควรทำอย่างไรต่อไป?


ผิดไหม ? บ่ผิดดอก แต่อย่างที่บอก แต่ยังกำหนดไม่ชัด เป็นธรรมดาของผู้เริ่มฝึกสติ ต้องค่อยๆฝึกกำหนดให้ชัด ก้าวเท้าไหนออกไป ก็รู้ชัด ซ้ายก็ซ้าย ขวาก็ขวา ฝึกกำหนดฝึกทำต่อไปแล้วจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

แต่เมื่อรู้สึกเช่นว่านั้น ให้กำหนดความรู้สึกนั่นสะด้วย เช่น รู้หนอๆๆๆ (คือรู้ว่าตนเองรู้สึกยังงั้นๆ) กลัวหนอๆๆ เมื่อรู้สึกกลัว กำหนดแว้บเดียว แล้วก็เดินซ้าย ย่างหนอ ขวา ย่าง หนอ ต่อไป

ถามท่านอโศกกรัชกายบอกเนี่ยชัดไหม ทำตามได้ไหม :b32:

เจ้าของ:  asoka [ 18 ธ.ค. 2016, 20:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

Kiss
ปัจจุบันอารมณ์จริงๆมีอย่างเดียว คือปัจจุบันอารมณ์ที่เกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ ถ้าติดตามปัจจุบันอารมณ์ชนิดนี้จะเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยเร็ว

แต่ในขั้นฝึกหัด มีการกำหนดและสร้างอารมณ์ขึ้นมาให้เป็นปัจจุบัน อย่างเช่นการกำหนดยุบหนอพองหนอตามอาการที่ท้องยุบท้องพองลมออกลมเข้า ปัจจุบันอย่างนี้เป็นสมถะภาวนาเป็นเครื่องฝึกสติและปัญญาคิดนึกตามตำราเท่านั้น

เมื่อชำนาญแล้วปล่อยให้เป็นปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติ วิปัสสนาภาวนาที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้น

:b38:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
Kiss
ปัจจุบันอารมณ์จริงๆมีอย่างเดียว คือปัจจุบันอารมณ์ที่เกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ ถ้าติดตามปัจจุบันอารมณ์ชนิดนี้จะเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยเร็ว

แต่ในขั้นฝึกหัด มีการกำหนดและสร้างอารมณ์ขึ้นมาให้เป็นปัจจุบัน อย่างเช่นการกำหนดยุบหนอพองหนอตามอาการที่ท้องยุบท้องพองลมออกลมเข้า ปัจจุบันอย่างนี้เป็นสมถะภาวนาเป็นเครื่องฝึกสติและปัญญาคิดนึกตามตำราเท่านั้น

เมื่อชำนาญแล้วปล่อยให้เป็นปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติ วิปัสสนาภาวนาที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้น

:b38:


การฝึกมันต้องมีหลักขอรับท่านอโศก

อ้างคำพูด:
อะไรที่รู้ขึ้นมาในจิตขณะนั้น อันนั้นแหละ ปัจจุบันอารมณ์
ตั้งสติให้ดี มีโยนิโสมนสิการให้มาก สติ ปัญญาจึงจะรู้ทันปัจจุบันอารมณ์


อย่างนี้ใครทำตามได้ ตั้งสติให้ดี มีโยนิโสมนสิการให้มาก คิกๆๆ ใครทำตามได้ใครนำไปฝึกหัดพัฒนาตนได้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
Kiss
ปัจจุบันอารมณ์จริงๆมีอย่างเดียว คือปัจจุบันอารมณ์ที่เกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ ถ้าติดตามปัจจุบันอารมณ์ชนิดนี้จะเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยเร็ว

แต่ในขั้นฝึกหัด มีการกำหนดและสร้างอารมณ์ขึ้นมาให้เป็นปัจจุบัน อย่างเช่นการกำหนดยุบหนอพองหนอตามอาการที่ท้องยุบท้องพองลมออกลมเข้า ปัจจุบันอย่างนี้เป็นสมถะภาวนาเป็นเครื่องฝึกสติและปัญญาคิดนึกตามตำราเท่านั้น

เมื่อชำนาญแล้วปล่อยให้เป็นปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติ วิปัสสนาภาวนาที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้น

:b38:


พูดได้เรื่อยเจี้อย

ถามท่านอโศกนะ ก่อนที่เราจะก้าวถึงบันไดขั้นสุดท้าย ท่านอโศกเหยียบขั้นที่ 1 ขั้น 2 เป็นต้นก่อนไหม ตอบสิ

1 ไม่เหยียบ โดดไปขั้นสุดท้ายเลย

2. เหยียบขั้นแรกก่อน แล้วก็ขั้นสอง สาม จนถึงขั้นสุดท้าย

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
Kiss
ปัจจุบันอารมณ์จริงๆมีอย่างเดียว คือปัจจุบันอารมณ์ที่เกิดเองเป็นเองโดยธรรมชาติ ถ้าติดตามปัจจุบันอารมณ์ชนิดนี้จะเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยเร็ว

แต่ในขั้นฝึกหัด มีการกำหนดและสร้างอารมณ์ขึ้นมาให้เป็นปัจจุบัน อย่างเช่นการกำหนดยุบหนอพองหนอตามอาการที่ท้องยุบท้องพองลมออกลมเข้า ปัจจุบันอย่างนี้เป็นสมถะภาวนาเป็นเครื่องฝึกสติและปัญญาคิดนึกตามตำราเท่านั้น

เมื่อชำนาญแล้วปล่อยให้เป็นปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติ วิปัสสนาภาวนาที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้น

:b38:


ท่านอโศก ยังไม่รู้ความหมาย ปัจจุบัน กับ อารมณ์ เลย จะไปเอาอะไรอีกเล่า :b32: ก็แค่พูดไปเรื่อยๆ

เจ้าของ:  asoka [ 18 ธ.ค. 2016, 20:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

s004
เป็นกรัชกายมากกว่ามั้งที่ รู้จักแต่ปัจจุบันตามตำราและตัวหนังสือ ไม่รู้จักปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติเพราะขาดประสบการณ์จริงในการทำวิปัสสนาภาวนา
grin
จงทำความสงบใจ ตั้งใจ ตั้งสติปัญญา หลับตา รู้เข้าไปในกายและใจเดี๋ยวนี้ สังเกตดูกายดูใจด้วยตาปัญญาแลตาสติ
ดูให้ดีๆซิว่าปัจจุบันอารมณ์โดยธรรมชาติมันคือตัวไหน?
ทำแบบฝึกหัดแล้วให้รีบมาตอบมาสนทนาสอบและส่งอารมณ์
onion

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
s004
เป็นกรัชกายมากกว่ามั้งที่ รู้จักแต่ปัจจุบันตามตำราและตัวหนังสือ ไม่รู้จักปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติเพราะขาดประสบการณ์จริงในการทำวิปัสสนาภาวนา[/size]
grin
จงทำความสงบใจ ตั้งใจ ตั้งสติปัญญา หลับตา รู้เข้าไปในกายและใจเดี๋ยวนี้ สังเกตดูกายดูใจด้วยตาปัญญาแลตาสติ
ดูให้ดีๆซิว่าปัจจุบันอารมณ์โดยธรรมชาติมันคือตัวไหน?
ทำแบบฝึกหัดแล้วให้รีบมาตอบมาสนทนาสอบและส่งอารมณ์


ก็ยังพูดไปเรื่อย :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
s004
เป็นกรัชกายมากกว่ามั้งที่ รู้จักแต่ปัจจุบันตามตำราและตัวหนังสือ ไม่รู้จักปัจจุบันอารมณ์ตามธรรมชาติเพราะขาดประสบการณ์จริงในการทำวิปัสสนาภาวนา
grin
จงทำความสงบใจ ตั้งใจ ตั้งสติปัญญา หลับตา รู้เข้าไปในกายและใจเดี๋ยวนี้ สังเกตดูกายดูใจด้วยตาปัญญาแลตาสติ
ดูให้ดีๆซิว่าปัจจุบันอารมณ์โดยธรรมชาติมันคือตัวไหน?
ทำแบบฝึกหัดแล้วให้รีบมาตอบมาสนทนาสอบและส่งอารมณ์
onion


อ้อ สอบและส่งอารมณ์หรอ

เอ้านี่

อ้างคำพูด:
มีใครพออธิบายสาเหตุของอาการที่ดิฉันเป็นได้บ้างคะ ดิฉันมักจะได้ยินเสียงพระสวดเกือบตลอดเวลา เป็นร้อยๆรูป กัณฑ์ใหญ่ หรือบางทีก็เปลี่ยนเป็นเสียงดนตรีบรรเลงโหมโรงแบบไพเราะมาก ดังก้องเหมือนกำลังจะมีพิธีใหญ่อะไรสักอย่าง และสลับกับเสียงดังกังวานทั่วบ้านเป็นเสียง ผญ และ ผช ลักษณะเป็นกลุ่มมากกว่าสองคน กำลังคุยกันเหมือนประชุมอยู่ตลอด แต่ฟังไมชัดเจนเนื่องจากเสียงพึมพำมาก ดิฉันจะได้ยินเสียงเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา จนเริ่มชินกับเสียงเหล่านี้ จนคิดว่า เป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่บางทีเสียงก็ดังชัดแบบแปลกกว่าทุกทีที่เคยขึ้นมาเฉยๆ ทำให้ดิฉันรู้สึก เหมือนตัวเองผิดปกติหรือป่าวหรือกำลังป่วยเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับโสตการรับฟังของตัวเองอยู่รึป่าว
เลยอยากขอคำแนะนำเพื่อประกอบการพิจารณาในการปฎิบัติตัวที่เหมาะสมต่อไปค่ะ


ว่างไง :b10:

เจ้าของ:  asoka [ 18 ธ.ค. 2016, 20:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

:b12:
ทำมาจนชำนาญแล้ว ได้รับผลแล้วจึงมาพูดให้กรัชกายฟัง

ไม่ใช่นั่งก้อปตำรามแสดงภูมิอยู่อย่างกรัชกายหรอกนะครับ

กรัชกายก็ลงมือทำจริงๆจังๆเสียทีสิจะได้หมดสงสัย
onion
ปัญหาของศิษย์ที่ถามนั้นเพราะสติไม่ทันปัจจุบันอารมณ์
จึงเกิดนิมิตและติดนิมิตสลัดไม่หลุด

ต้องใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนาเข้าไปแก้ไข

กรัชกายสอนไม่เป็นหรือ คนสติช้าไม่คมแก้อย่างไร?

คนติดนิมิตอารมณ์แก้อย่างไร?
s006

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
:b12:
ทำมาจนชำนาญแล้ว ได้รับผลแล้วจึงมาพูดให้กรัชกายฟัง

ไม่ใช่นั่งก้อปตำรามแสดงภูมิอยู่อย่างกรัชกายหรอกนะครับ

กรัชกายก็ลงมือทำจริงๆจังๆเสียทีสิจะได้หมดสงสัย


เหมือนเดิม วาทกรรมคือเก่า :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

กรัชกาย เขียน:
ตย. เข้าใจผิด ตรงขีดเส้นใต้


อ้างคำพูด:
สนใจอยากรู้ว่าอโศกะเคยทำภาวนาแบบไหน แล้วไปเกิดญาณ 16 จากการภาวนาแบบไหน เชนนั้นหรือ?

ถ้าสนใจก็จะเล่าให้ฟังคร่าวๆเป็นวิทยาทาน

ภาวนาที่อโศกะเคยทำมา

1.พองหนอยุบหนอ....หรือหนอให้ทันปัจจุบันอารมณ์

2.ท่องคาถาปลุกพระ ท่องคาถาหัวใจต่างๆเป็นคาบๆ

3.กำหนดต้นธรรม ตามแบบเจ้ามาวหลวง อ.อริยวังโส(ไทยใหญ่)

4.พิจารณาอนิจจัง ตามแบบหลวงพ่อพุทธวาที (พม่า)

5.สมาธิหมุน (พระอาจารย์รัตน์ รัตนยาโน)

6.พุทโธ (สายหนองป่าพง)

7.อนัตตา (หลวงพ่อธี)

8.กำหนดกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย(ท่านโกเอ็นก้า)

9.เจริญสติปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์(ตามภัทเทกรัตคาถา)
ใช้อยู่ประจำในปัจจุบัน

ตอนที่จะรู้ชัดญาณ 16 และปฏิจจสมุปบาทนั้นเป็นการเจริญภาวนาตามแบบที่ 9 โดยธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งท่า ไม่ได้เข้ากรรมฐานมันเกิดขึ้น เจริญไปและไหลไปเองตามธรรมตอน
วันแรม 14 ค่ำหลังวิสาจะบูชาปี 2542 เริ่มประมาณตีสามกว่า
จบปัจจเวกตอนเกือบหกโมงเช้า

แค่นี้ก็พอละมั้งครับกรัชกาย


viewtopic.php?f=1&t=53339&p=402763#p402763



มันเกิดขึ้นเจริญไปและไหลไปเองตามธรรมตอน วันแรม 14 ค่ำหลังวิสาจะบูชาปี 2542 เริ่มประมาณตีสามกว่า จบปัจจเวกตอนเกือบหกโมงเช้า


ปัจจเวก แบบท่านโศกเห็นหลายคน บางคนก็บรรลุตอนเข้าห้องน้ำ บางคนก็บรรลุตอนยืนเยี่ยว

ท่านอโศกขอรับ ปัจจเวกขณญาณนะ มันชั่วขณะจิตเดียว วิบเดียว ไม่ห่างกันสองสามชั่วโมงหรอก เออ คิกๆๆ

อย่าโกหกตัวเองเลยขอรับ

เจ้าของ:  asoka [ 18 ธ.ค. 2016, 20:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

:b13:
ก็สติปัญญาของกรัชกายมันรัยได้แค่นี้เอง
อธิบายจนข้เกียจอธิบายให้ฟังแล้ว
grin

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
:b13:
ก็สติปัญญาของกรัชกายมันรัยได้แค่นี้เอง
อธิบายจนข้เกียจอธิบายให้ฟังแล้ว
grin


อธิบายอารัย :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 18 ธ.ค. 2016, 20:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

asoka เขียน:
:b12:
ทำมาจนชำนาญแล้ว ได้รับผลแล้วจึงมาพูดให้กรัชกายฟัง

ไม่ใช่นั่งก้อปตำรามแสดงภูมิอยู่อย่างกรัชกายหรอกนะครับ

กรัชกายก็ลงมือทำจริงๆจังๆเสียทีสิจะได้หมดสงสัย
onion
ปัญหาของศิษย์ที่ถามนั้นเพราะสติไม่ทันปัจจุบันอารมณ์
จึงเกิดนิมิตและติดนิมิตสลัดไม่หลุด

ต้องใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนาเข้าไปแก้ไข

กรัชกายสอนไม่เป็นหรือ คนสติช้าไม่คมแก้อย่างไร?

คนติดนิมิตอารมณ์แก้อย่างไร?
s006


แก้อย่างไร แนะนำเขาสิขอรับ

เจ้าของ:  asoka [ 22 ธ.ค. 2016, 21:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรรมฐาน, กัมมัฏฐาน

กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ทำมาจนชำนาญแล้ว ได้รับผลแล้วจึงมาพูดให้กรัชกายฟัง

ไม่ใช่นั่งก้อปตำรามแสดงภูมิอยู่อย่างกรัชกายหรอกนะครับ

กรัชกายก็ลงมือทำจริงๆจังๆเสียทีสิจะได้หมดสงสัย
onion
ปัญหาของศิษย์ที่ถามนั้นเพราะสติไม่ทันปัจจุบันอารมณ์
จึงเกิดนิมิตและติดนิมิตสลัดไม่หลุด

ต้องใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนาเข้าไปแก้ไข

กรัชกายสอนไม่เป็นหรือ คนสติช้าไม่คมแก้อย่างไร?

คนติดนิมิตอารมณ์แก้อย่างไร?
s006


แก้อย่างไร แนะนำเขาสิขอรับ

:b38:
ทางสายหนอ วิปัสสนาจารย์ท่านจะพูดย้ำอยู่คำนี้ จำไปใช้
ได้เลย

"กำหนดถี่ๆ กำหนดให้ทันปัจจุบันอารมณ์"


สูตรนี้แก้ได้เบ็ดเสร็จหมดทุกอย่างเลยเชียว กรัชกาย
onion

หน้า 2 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/