"...คนที่ไม่มี 'สมาธิ' จิตใจมีนิวรณ์ความกังวล ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงคนโน้นคนนี้ เวลาที่ตาย วิญญาณก็ไปเกาะอยู่ที่ลูกที่หลาน บางคนกลับไปเกิดเป็นลูกของลูกตัวเองก็มี

บางคนที่พ่อแม่ทิ้งมรดกที่สวนไร่นาไว้ให้ ก็เป็นห่วงทรัพย์สมบัติของตน พอตายไปก็ไปเกิดเป็นสัตว์ในสวนในนาก็มี บางคนตายไปไปเกิดเป็นผีสางนางไม้ เฝ้าทุ่งนาป่าเขาก็มี พวกนี้เป็นพวก 'สัมภเวสี' คือ วิญญาณลอยไปเที่ยวหาที่เกาะ

ถ้าจิตของเราตั้งอยู่ใน 'บุญกุศล' เราก็จะมี 'สุคติ' เป็นที่ไป ถ้าจิตของเราตั้งอยู่ใน 'บาป'อกุศล วิญญาณของเราก็ไปสู่ 'ทุคติ' ไม่ได้ไปเกิดในโลกที่ดี..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อลี ธัมมธโร





"...วิสุทธิมรรคนั้นมีอะไร มีศีลนิเทศ สมาธินิเทศ ปัญญานิเทศ นิเทศนี้คืออะไร ก็คือนิทาน เป็นนิทานเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ใช่ความจริงของศีล สมาธิ ปัญญาหรอก ถ้าต้องการรู้ความจริงต้องปฏิบัติให้มีขึ้นในกาย วาจา ใจ ของตน..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต







"...หน้าเศร้าๆ เพราะใจมันไม่อยู่กับที่ ไม่อยู่กับหนัง กับจิต มันไปอยู่กับอารมณ์ ประเดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็หัวเราะ

มันแน่นอนเมื่อไรน่ะโลกน่ะ ชอบใจก็หัวเราะ ไม่ชอบใจก็ร้องไห้..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่บุดดา ถาวโร






".. แดดร้อนหรือ? อากาศหนาวหรือ? ถามเขาดูซี่ แดดเขาว่าร้อนไหม? อากาศเขาว่าหนาวไหม? เขาไม่ได้ว่าอะไรไม่ใช่เรอะ ?

เราต่างหาก เป็นตัวร้อน ตัวหนาว มันเกิดตรงไหน ก็ดับตรงนั้น ไม่รู้จักที่เกิด ไปดับที่อื่น มันก็ไม่ดับซี่ !

อุปมาเหมือนดับไฟฟ้า ดับดวงนี้ดวงนั้น ดวงอื่นยังอยู่ คนผู้ฉลาด ดับที่หม้อแบตเตอรี่ มันมืดมิดทั่วพระนคร

อันนี้ ไปดับจิตดวงเดียวก็หมด ไม่ต้องไปดับตา ดับหู ดับจมูก ดับลิ้น ดับกาย ดับใจ ดับที่ใจดวงเดียว แล้วดับมืดเลย เพราะทั้งหมด มันเกิดจากใจ .."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร






ติดดี ก็เป็นทุกข์

“... ถ้าเป็นคนดีแล้วต้องรำคาญคนที่ไม่ดี ทุกวันนี้คนที่ไม่ดีมากกว่าคนดีเยอะ ไปที่ไหนก็กลุ้มใจ มีแต่ความไม่พอใจ

เหมือนกับคนที่สูบบุหรี่ เลิกแล้วดูคนอื่นสูบก็ไปเทศน์ให้เขาฟัง นี่เรียกว่า ติดดี ท่านไม่ให้ติด

แม้จะเป็นความดีท่านก็ไม่ให้เราติด เพราะว่า ความติดเป็นทุกข์ สร้างความทุกข์แก่ใจ ...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ

สมถะหรือสมาธิเป็นคู่ปรับหรือศัตรูของนิวรณ์ธรรมทั้งหมด
แต่สมถะเป็นเพียงการกลบ บัง ทับถม นิวรณ์ทั้งหลายเหล่านั้นมิให้แสดงตัวเป็นการชั่วคราว เหมือนกับเบรค ห้ามนิวรณ์ไว้

วิปัสสนาภาวนา เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการขุดถอนนิวรณ์ธรรมออกทิ้ง ขุดได้ถึงรากถึงโคนไม่มีเหลือ

การสยบและขุดถอนนิวรณ์ธรรมจึงควรกระทำร่วมกันพร้อมกันไปทั้ง สมถะและวิปัสสนาภาวนา จึงจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรม

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุๆๆๆ