"...ท่านทั้งหลายอย่าได้นั่งเฝ้าร่างกายอยู่เฉย ๆ มันไม่เกิดปัญญา ปัญญามันเกิดจากการภาวนาคือการอบรมจิต เพื่อจะทำลายกิเลสให้หลุดหายไปในที่สุด..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ






"...กิเลสมันมีอุบายหลายอย่างที่มักจะเอาชนะคน ผู้จะปราบมันเสมอ แทนที่จะปราบมัน กลับถูกมันปราบเอา ฉะนั้น วันคืนล่วงไปอย่าให้ล่วงไปเปล่า ต้องประกอบความพากเพียรภาวนา อย่าเห็นแก่กินแก่นอนเป็นใหญ่

ให้มุ่งชำระกิเลสเป็นของจำเป็น เป็นหน้าที่สำคัญ ยิ่งเจริญ ยิ่งภาวนาเท่าใด จิตใจมันก็มีกำลัง เมื่อใจมีกำลัง มีความสามารถอาจหาญแล้ว สิ่งที่เราว่ายากก็ไม่มีอะไรยาก สิ่งที่เราคิดว่าเหลือวิสัยก็ไม่เหลือวิสัย อยู่ในวิสัยทุกคนจะทำได้ทั้งนั้น..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร







ด่าตำหนิสงฆ์ที่ไม่สมบูรณ์ในศีล ๒๒๗ ท่านว่าเป็น “พวกอลัชชี” พวกไม่มี “หิริละอายต่อบาป” ไม่ตกไตรสรณะคมน์

หากว่าเราไปติเตียน ว่ากล่าว พระสงฆ์ที่ไม่มีศีลธรรม เป็นผู้หลอกลวงโลกเขากินนั้น อันนี้พระไตรสรณะคมน์เราก็ไม่ขาดหรอก ท่านพูดไว้เฉพาะสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

ถ้าสงฆ์สะเปะสะปะเที่ยวบอกบุญอันโน้นอันนี้ อะไรที่มันผิดศีลผิดธรรม ด่าหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก

หากพระสงฆ์ทั้งหลายจะเป็นนิกาย จะเป็นธรรมยุต จะเป็นพระบ้าน จะเป็นพระป่า ก็แล้วแต่ หากตั้งอยู่ในสิกขาบทวินัย ๒๒๗ ข้อนั้นแหละเป็นพระที่น่ากราบไหว้ น่าสักการบูชา

ก่ารติเตียนหมู่พระสงฆ์ เห็นสงฆ์ไม่ดีไม่งาม ไม่อยู่ในระเบียบธรรมวินัย จะว่ากล่าวตักเตือน ไม่เป็นไรหรอก เพราะท่านจะลงนรกอเวจี เราก็ดึงเอาไว้ซิ ดึงไว้ลากเอาไว้ ได้บุญเสียด้วย เราผู้ตักเตือนว่ากล่าวอย่าเข้าใจว่าเป็นบาป ไม่เป็นบาปเป็นกรรมหรอก

จากหนังสือ สีลธโนนุสรณ์ พระอาจารย์สีทน สีลธโน หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ๗ เมษายน ๒๕๓๙

พระธรรมเทศนาพระครูอดิสัยคุณาธาร (หลวงพ่อสีทน สีลธโน)
วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย