วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 17:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 58 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2016, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ครับท่านกบ

ไม่ได้บอก

ส.อุปาทิเสสนิพพาน. หรือ. อนุปาทิเสสนิพพาน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2016, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2016, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2016, 06:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2016, 11:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ....
ขอบคุณทุกท่านค่ะที่ร่วมสนทนา
:b46: เหตุที่ตั้งคำถามนี้
เพราะช่วงนี้ได้ยินจากคนรอบข้างเค้าคุยๆกันอยุ่
เห็นเป็นเรื่องที่เกินตัว
ไม่อยากคิดฟุ้งปรุงแต่งไปไกล
เลยขอฟังจากท่านทั้งหลายที่เคยผ่านหูผ่านตามาจากการศึกษาธรรม
:b8:

อ้างคำพูด:
.จะไม่มีได้ไง ก็จขกทไงครับ ไอ้ที่จขกทเอามาถาม ในขณะที่ถามอย่าลืมว่า...เขายังไม่ใช่พระอรหันต์
จขกทเป็นเพียงปุถุชน ....เขายังมีความกลัว(ตาย)ครับ พอมีเรื่องเกี่ยวกับความตาย
ก็เลยเอามาถามเพราะความกลัวที่จะต้องตายนั้นเอง
ส่วนอรหันต์จะกลัวตายจึงต้องบวช ...มันเป็นเรื่องของความมั่วของคนที่สอนธรรมบางคน

สรุปให้คนอื่นชัดเจนดีค่ะ..อิๆ
แต่จขกท.ไม่ชัดเจนด้วยเลยค่ะ
สงกะสัย..แหย่เล่นเหรอ????
:b29: :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2016, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)




ว่าจะเฉยๆ ไม่ตอบแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้ :b32:

เอางี้ก่อนพี่โฮ ไปหาความลงตัวศัพท์และความหมายนี่ให้ได้ก่อนนะ


อ้างคำพูด:
สอุปาทิเสส

อนุปาทิเสส


แล้วค่อยมาเซด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 01:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
idea เขียน:
Kiss ตามหัวข้อเลยค่ะ
ใครมีข้อมูลอะไร?..ยังไง?..จากไหน?
ร่วมแชร์เข้ามาหน่อย..
อยากเข้าใจหนออออค่ะ..
tongue tongue tongue
:b27:
:b18:
:b46: :b40: :b46:


ไม่มีการแสดงไว้เป็นพุทธวจนะครับ

มีการศึกษาถึงคำถามนี้โดย พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ซึ่งเกี่ยวโยงกับมิลินทปัญหา และใช้เป็นการพูดถึงในปัจจุบัน
ตามลิงค์นี้ครับ รองพิจารณาอ่านดู
http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=401&articlegroup_id=101
"พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส (2548)
คฤหัสถ์บรรลุพระอรหัตผล:
ทำไม? ต้องบวช ถ้าไม่บวช ทำไม? ต้องตาย

๑. เกริ่นนำ: ประเด็นที่มาของปัญหา

คำกล่าวที่ว่า “คฤหัสถ์ที่บรรลุความเป็นพระอรหัตผล คฤหัสถ์ผู้นั้น ย่อมมีคติเป็น ๒ เท่านั้น ไม่เป็นอื่น คือ ต้องบวช หรือไม่ก็ต้องปรินิพพานในวันนั้นนั่นแหละ ไม่ล่วงวันนั้นไปได้เลย”[๔]ตามที่ปรากฏในมิลินทปัญหานั้น ได้ทำให้เกิดคำถามว่า “ทำไม? ต้องบวชในวันนั้นเท่านั้น” และ “ถ้าไม่บวช ทำไม?คฤหัสถ์ที่บรรลุพระอรหัตผลจึงต้องตายในวันนั้นเช่นกัน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอเหตุผลขึ้นมารองรับข้อเท็จจริงดังกล่าวว่า “เพศคฤหัสถ์ไม่สงบ มีภูมิหยาบ ต่ำช้า และมีกำลังทราม” ฉะนั้น “เพศคฤหัสถ์จึงไม่อาจจะรองรับสภาวะของพระอรหัตผล” ก็ทำให้ถูกตั้งคำถามเช่นเดียวกันว่า “เป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้” และ “สมเหตุสมผล” หรือไม่?
กลุ่มพระเถระที่เห็นด้วยกับการให้เหตุผลในลักษณะดังกล่าวนั้น ประกอบไปด้วยพระพุทธโฆษาจารย์ พระธัมมปาลเถระ พระอภิธรรมาจารย์ และพระพรหมโมลี (วิลาส ญาณวีโร) แต่ในขณะที่พุทธทาสภิกขุได้ออกมาชี้ให้เห็นว่า การอ้างเหตุผลในลักษณะดังกล่าวนั้น เป็นประดุจ “การอนุมาน” เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งสอดรับกับปราณี สำเริงราชย์ที่มองว่าเป็น “อนุมานปัญหา” แต่ในขณะเดียวกัน นักวิชาการด้านพุทธศาสนาบางท่านก็มองว่า การให้เหตุผลในลักษณะดังกล่าวดูประหนึ่งว่า “ไม่สมเหตุสมผล” ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นก็ระบุเอาไว้ค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยกับการให้เหตุผลในลักษณะดังกล่าวเช่นกันว่า “คฤหัสถ์เป็นพระอรหันต์แล้วต้องบวช แต่ไม่น่าจะตายทันที”
การให้เหตุผลดังกล่าว ค่อนข้างจะสวนทางกับหลักการเดิม และดูประหนึ่งว่าจะไม่เห็นด้วยกับการให้เหตุผลของพระนาคเสน และกลุ่มพระเถระที่เห็นด้วย ประเด็นที่น่าสนใจก็คือว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับการให้เหตุผลของพระนาคเสนดังกล่าวนั้น “ไม่ถูกต้อง ปราศจากข้อเท็จจริง และไม่สมเหตุสมผล” หรือว่า “ข้อมูลดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยข้อเท็จจริง” ซึ่งพระนาคเสนได้พยายามอย่างยิ่งที่จะให้เหตุผล ซึ่งการให้เหตุผล อาจจะสอดรับกับบริบทสังคมสมัยนั้น จึงทำให้พระยามิลินท์ยอมรับได้ แต่เมื่อถึงจุดเปลี่ยนแห่งยุคสมัย จึงทำให้บางท่านยอมรับไม่ได้เกี่ยวกับการให้เหตุผลเช่นนั้น หรือว่าในความเป็นจริงแล้ว เราควรตีความ หรือให้เหตุผลในลักษณะใด จึงจะทำให้เกิดการยอมรับได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนจะเริ่มต้นด้วยการนำเสนอประเด็นที่ว่าด้วยข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคัมภีร์มิลินทปัญหาก่อน เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาและสารัตถะโดยละเอียด หลังจากนั้นจึงจะนำข้อมูลนี้ไปเป็นฐานในการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ต่อไป........"

อ้างถึง มิลินทปัญหา
คีหิปัพพชิตานัง ขีณาสวปัญหา ที่ ๖
http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=160

"ราชา อาห สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีบรมกษัตริย์มีพระราชโองการตรัสถาม
ว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐ ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้กับโยมว่า โย
คีหิ อรหตฺตํ ปตฺโต คฤหัสถ์ผู้ใดถ้าสำเร็จแก่พระอรหัตแล้ว จะมีคติ ๒ ประการ คือให้บรรพชา
เป็นภิกษุเสียในวันสำเร็จพระอรหัตนั้น ๑ ถ้าไม่บรรพชาก็จะเข้าพระนิพพานไม่อาจล่วงวันนั้นไปได้
๑ นี่แหละโยมจะถาม ที่ว่าท่านเป็นคฤหัสถ์ได้พระอรหัตในวันนั้นก็จะบวชแล แต่ทว่าบางทีจะ
ขัดบาตรและจีวรด้วยหามิได้ทัน บางทีจะขัดพระอุปัชฌาย์อาจารย์หาไม่ทันกาลเพลาวันนั้น
คฤหัสถ์นั้นจะบวชตัวเอาได้หรือจะต้องรอให้พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์อื่นมาบวชให้หรือจะปรินิพ-
พาน เป็นประการใด......"

คีหิอรหัตตปัญหา ที่ ๓[ถามถึงความเป็นพระอรหันต์แห่งคฤหัสถ์]
http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=147

"สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ขัตติยาธิราชผู้มีบุพพวาสนาจะได้สำเร็จแก่พระปวราม-
ฤตยาธิคตธรรมอันประเสริฐคือจะได้พระนิพพานในปัจจุบัน จึงมีพระราชโองการถามปัญหา
พระนาคเสนสืบไปเล่าว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าพระนาคเสนเถระผู้มั่นในอริยศีล
สังวรวินัย ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้กับโยมแต่เดิมว่า ฆราวาสได้พระอรหัตนั้นมีคติ ๒
ประการ คือจะต้องบวชเสียในวันอันได้พระอรหัตนั้นประการ ๑ ข้อหนึ่งบุคคลเป็นฆราวาส
ได้สำเร็จพระอรหัตแล้ว ไม่บวชเสียในวันนี้จะเข้าสู่พระนิพพานในวันที่ได้พระอรหันต์นั้ประการ
๑ เป็นคติสิริเป็น ๒ ประการแน่ ดังนี้หรือกระไร...."

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 06:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)




ว่าจะเฉยๆ ไม่ตอบแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้ :b32:

เอางี้ก่อนพี่โฮ ไปหาความลงตัวศัพท์และความหมายนี่ให้ได้ก่อนนะ


อ้างคำพูด:
สอุปาทิเสส

อนุปาทิเสส


แล้วค่อยมาเซด :b1:


เร็วรีบไปเปิดพจนานุกรมดูเร็ว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 07:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)




ว่าจะเฉยๆ ไม่ตอบแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้ :b32:

เอางี้ก่อนพี่โฮ ไปหาความลงตัวศัพท์และความหมายนี่ให้ได้ก่อนนะ


อ้างคำพูด:
สอุปาทิเสส

อนุปาทิเสส


แล้วค่อยมาเซด :b1:


เร็วรีบไปเปิดพจนานุกรมดูเร็ว :b32:



นี่แหละ นกแก้วแบรนด์เนม ของแท้ไม่ลอกไม่ดำ คือพูดไปเรื่อยๆ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร คิกๆๆ :b13:

แล้วจะพูดทำไม ไม่เข้าใจ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)




ว่าจะเฉยๆ ไม่ตอบแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้ :b32:

เอางี้ก่อนพี่โฮ ไปหาความลงตัวศัพท์และความหมายนี่ให้ได้ก่อนนะ


อ้างคำพูด:
สอุปาทิเสส

อนุปาทิเสส


แล้วค่อยมาเซด :b1:


เร็วรีบไปเปิดพจนานุกรมดูเร็ว :b32:



นี่แหละ นกแก้วแบรนด์เนม ของแท้ไม่ลอกไม่ดำ คือพูดไปเรื่อยๆ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร คิกๆๆ :b13:

แล้วจะพูดทำไม ไม่เข้าใจ :b32:


เท่าที่ดูมาพี่โฮว่า......เป็นเอ็งซะละมากกว่ามั้ง

พี่โฮถึงได้บอกไงว่า ไปตามหลวงพ่อปยุตมาคุยเอง

......................................รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 18:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12: เข้ามาเป็นกองแต๊กนั่งแถวหน้ารอดูคำตอบ อิอิ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:



เท่าที่ดูมาพี่โฮว่า.....เป็นเอ็งซะละมากกว่ามั้ง

พี่โฮถึงได้บอกไงว่า ไปตามหลวงพ่อปยุตมาคุยเอง





นกพูดภาษาคนได้ ร้อง สติๆๆๆ สตังๆๆๆ พอเราถามนกว่า สติ หมายถึงอะไรจ๊ะพ่อขุนทอง

มันก็ยังร้อง สติๆ สตังๆ อยู่นั่น ฉันใด

(เอาตัวอย่างหน่อย)

https://www.youtube.com/watch?v=p287WRzp9wk

โฮฮับก็ฉันนั้น คือ ร้องไปเรื่อย สอุปาทิเสส อนุปาทิเสส เป็นต้น พอเราถามว่า หมายถึงอะไรน่ะที่พูดน่ะ ร้อง อึๆๆ นี่แหละพ่อขุนทองตัวจริง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน๒. ก็มีส่วนต่างกันอยู่น่า..คุณmes

ไม่ต่างกัน เพราะนิพพานมีอย่างเดียว
นิพพานธาตุ จึงจะต่างกัน เพราะมันต่างกันด้วยธาตุ ไม่ใช่นิพพาน



เขายักเยื้องเรียกนิพพานธาตุ ก็ทำนอง สอุปาทิเสสนิพพาน, อนุปาทิเสสนิพพาน, ทั้งสองชื่อสองศัพท์นี้ เอาธาตุไปใส่ข้างท้ายก็เป็น สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แค่นี้เอง :b1:


นกแก้วแก้วไม่มีธัมมวิจยะ อ่านอะไรก็บอก "แค่นี่เอง"

ธาตุในที่นี้หมายถึง กายใจของ สอุปาทิเสสบุคคลและกายใจของอนุปาทิเสสบุคคล

สอุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย .....สุตตมยปัญญา(อินทรีย์ห้า)

อนุปาทิเสสบุคคลคือผู้เจริญปัญญาด้วย......ภาวนามยปัญญา(ฌาน)




ว่าจะเฉยๆ ไม่ตอบแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้ :b32:

เอางี้ก่อนพี่โฮ ไปหาความลงตัวศัพท์และความหมายนี่ให้ได้ก่อนนะ


อ้างคำพูด:
สอุปาทิเสส

อนุปาทิเสส


แล้วค่อยมาเซด :b1:


เร็วรีบไปเปิดพจนานุกรมดูเร็ว :b32:



นี่แหละ นกแก้วแบรนด์เนม ของแท้ไม่ลอกไม่ดำ คือพูดไปเรื่อยๆ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร คิกๆๆ :b13:

แล้วจะพูดทำไม ไม่เข้าใจ :b32:


เท่าที่ดูมาพี่โฮว่า......เป็นเอ็งซะละมากกว่ามั้ง

พี่โฮถึงได้บอกไงว่า ไปตามหลวงพ่อปยุตมาคุยเอง




แม้แต่คำว่า นกแก้วนกขุนทองพูดภาษาคนได้ โฮฮับยังไม่เข้าใจเลย คิกๆๆ

ก็เหมือนโฮฮับนั่นแหละ นำศัพท์แสงบาลีเขามา แต่ตัวเองไม่รู้ความหมายเขาสักตัว นี่ความหมายนกแก้วนกขุนทอง อยู่ตรงนี้ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 20:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:


นกพูดภาษาคนได้ ร้อง สติๆๆๆ สตังๆๆๆ พอเราถามนกว่า สติ หมายถึงอะไรจ๊ะพ่อขุนทอง

มันก็ยังร้อง สติๆ สตังๆ อยู่นั่น ฉันใด

(เอาตัวอย่างหน่อย)

https://www.youtube.com/watch?v=p287WRzp9wk

โฮฮับก็ฉันนั้น คือ ร้องไปเรื่อย สอุปาทิเสส อนุปาทิเสส เป็นต้น พอเราถามว่า หมายถึงอะไรน่ะที่พูดน่ะ ร้อง อึๆๆ นี่แหละพ่อขุนทองตัวจริง :b32:


อย่า..รู้จักสติแค่คำแปล..ละกันกรัชกาย

จะเป็นว่า...ว่าแต่เขา..อิเหนาเป็นเอง

เวลาพูดการเมือง...เห็นโชว์อคติซะหร่า..

ไร้สติ..

:b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2016, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:


นกพูดภาษาคนได้ ร้อง สติๆๆๆ สตังๆๆๆ พอเราถามนกว่า สติ หมายถึงอะไรจ๊ะพ่อขุนทอง

มันก็ยังร้อง สติๆ สตังๆ อยู่นั่น ฉันใด

(เอาตัวอย่างหน่อย)

https://www.youtube.com/watch?v=p287WRzp9wk

โฮฮับก็ฉันนั้น คือ ร้องไปเรื่อย สอุปาทิเสส อนุปาทิเสส เป็นต้น พอเราถามว่า หมายถึงอะไรน่ะที่พูดน่ะ ร้อง อึๆๆ นี่แหละพ่อขุนทองตัวจริง :b32:


อย่า..รู้จักสติแค่คำแปล..ละกันกรัชกาย

จะเป็นว่า...ว่าแต่เขา..อิเหนาเป็นเอง

เวลาพูดการเมือง...เห็นโชว์อคติซะหร่า..

ไร้สติ..

:b9: :b9:



ไหนกบลองว่าไปสิ สติ เป็นไง :b32:

เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 58 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 146 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร