วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 12:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2016, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20180531_160836.jpg
20180531_160836.jpg [ 61.65 KiB | เปิดดู 1821 ครั้ง ]
สุข ทุกข์ คือ ผล เกิดจาก เหตุ จาก ปัจจัย
เหตุปัจจัย คืออะไรล่ะ = เหตุ + ปัจจัย
เหตุมาในพระอภิธรรม ได้แก่ เหตุ ๖
ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัย ๒๔

เหตุทั้ง ๖ มาจากไหน ? เหตุ ๖ ก็มากจากการกระทำทั้งกายวาจาใจ ที่มีตัว"เจตนา"เป็นตัวสร้างขึ้น
ส่วนปัจจัยนั้นมีมากมาย ทั้งที่ภายนอก ภายใน (ไม่ขอกล่าวถึง)

แต่จะขออุปมาให้เห็นภาพกว้างๆว่า เมล็ดพันธุ์พืช คือเหตุ .. ถ้าเมล็ดพันธ์ นี้วางอยู่ในที่ๆ
ไม่สามารถงอกงามได้ ผลก็ไม่เกิดเพราะขาดปัจจัย อย่างเอาเมล็ดพันธุ์วางบน พื้นหิน พื้นคอนกรีต
แต่ถ้าเมล็ดพันธุ์นี้ ถูกหย่อนลงบนพื้นดิน ได้น้ำที่ชุ่มชื้น ได้แสงแดด .. นี่เท่ากับมีปัจจัยให้เมล็ดเกิดแล้ว
เมื่อเมล็ดพันธ์ได้ปัจจัยครบแล้วเมล็ดจะส่งผลให้เมล็ดงอกทันทีจะห้ามไม่ได้เลย

พุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า "ทุกข์คือความจริงอันประเสริฐ"
ฉะนั้นเราพร้อมกันหรือยังที่จะเห็นทุกข์นี้เป็นของ ประเสริฐสุด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2016, 08:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2010, 23:02
โพสต์: 93

ชื่อเล่น: tongka
อายุ: 36
ที่อยู่: tongka34@gmail,com

 ข้อมูลส่วนตัว


s007 s007 s007
ยังเห็นทุกข์เป็นสิ่งประเสริฐไม่ได้เลย คุณลุง
เห็นได้แต่เพียงว่า
เรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด บุคคลอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ฉันนั้น
rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2018, 09:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20180531_150229.jpg
20180531_150229.jpg [ 67.46 KiB | เปิดดู 1807 ครั้ง ]
Kiss Kiss Kiss

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2018, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2018, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


tongka เขียน:
s007 s007 s007
ยังเห็นทุกข์เป็นสิ่งประเสริฐไม่ได้เลย คุณลุง
เห็นได้แต่เพียงว่า
เรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด บุคคลอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ฉันนั้น
rolleyes rolleyes rolleyes


ยังเห็นทุกข์เป็นของประเสริฐอย่างไร ?

ทุกข์เป็นสภาวะปรมัตถ์ของจริง ที่พระองค์ตรัสว่าทุกข์เป็นสิ่งที่ควรรู้
ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดละ เพราะทุกข์เป็นผลหรือวิบาก แต่เราไม่เข้าใจ มักจะหนีทุกข์ไปหาสุข
เมื่อเราปวดเมื่อยเราก็มักเปลี่ยนอิริยาบถใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าอิริยาบถใหม่เป็สุข
ไม่เข้าใจว่าที่เราคิดว่าสุขนั้นมันก็คือทุกข์นั่นเอง เราจึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
เพื่อจะไม่ให้เกิดทุกข์ที่ไม่พึงปรารถนา

เมื่อเราเปลี่ยนอิริยาบถใหม่เข้าใจว่าสุข แม้ว่าสุขนั้นก็ตั้งอยู่ไม่นานต้องเปลี่ยนมาเป็นทุกข์อีก
อาการที่เปลี่ยนแปลงอันนี้แหละที่พระองค์ตรัสว่าเป็นทุกข์ เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้

เห็นได้แต่เพียงว่า
เรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด บุคคลอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ฉันนั้น


ถ้าเรายังรักสุขเกลียดทุกข์ฉันนี้ ก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของบุคคลที่ยังเข้าใจไม่ถึงทุกข์ที่แท้จริง
ต่อเมื่อปฏิบัติให้ถูกต้องก็สามารถที่จะเห็นเอง โดยที่จะไม่ขัดแย้งต่อธรรมที่พระองค์ทรงสอนอยู่

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2018, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ ก็สุขนั้นเที่ยงหรือไม่?
แม้ตัวทุกข์เองก็ไม่เที่ยงเช่นกัน สองสิ่งผัสเปลี่ยนกันดั่ง
ความมือและแสงสว่าง เมื่อแสงมาความมืดย่อมหายไป
แต่ความจริงความมืดนั้นก็ยังมีอยู่ก็แต่ว่าแสงสว่างมาบัง
ไว้ อุปมาเหมือนหน้ากระดาษสองแผ่น มีสีดำและสีขาว
เมื่อเรานำแผ่นสีดำวางไว้ข้างหน้า ก็ย่อมจะมองไม่เห็น
สีขาว แต่เมื่อนำแผ่นขาววางไว้ข้างหน้าบ้างก็เช่นกันไม่
เห็นสีดำ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร