วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 07:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2016, 05:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ศีลนั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้ว ก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ..ศีลอยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนาคือจิตใจ ร่างกายกับจิต ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่างๆมีโทษต่างๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียน ไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอ

ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้มีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ สมบูรณ์ ไม่ยากไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์
..จิตดวงเดียวเท่านั้นเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวร ผู้มีศีลแท้เป็น ผู้หมดภัย..

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต







" ในปกติชีวิตประจำวัน เมื่อเกิดอารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจ เราชอบระบายความรู้สึกออกไป โดยการดุหรือพูดอะไรให้คนอื่นเจ็บใจ แต่ถ้าเรารู้สึกตัวแล้วไม่พูดอย่างนั้น เราก็จะได้ธรรมะหลายข้อ

ความรู้สึกตัวว่ากำลังหงุดหงิดคือตัวสติ

และการไม่ทำตามความรู้สึกนั้น คือ ความอดทน

เมื่อความเศร้าหมองในใจเราหาย เกิดสำนึกในความไม่เที่ยงของอารมณ์ ความไม่เป็นตัวเป็นตนของอารมณ์ นั่นคือตัวปัญญา

การปฏิบัติในชีวิตประจำวันเป็นอย่างนี้ "

พระอาจารย์ฌอน ชยสาโร






ท่านจึงสอนว่า
คบคนดีเป็นศรีแก่ตัว คบคนชั่วอปราชัย
มันเป็นอย่างนั้นน่ะ ให้คบคนดี
คนดีก็คือคนมีศีลธรรม มีภาวนานั่นแหละ
พระดี ก็พระมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา
จึงให้พากันสนใจในหลักพระพุทธศาสนา.
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม





ธรรมะก่อนนิทรา : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
คืนที่ ๙๘๖ บารมีและอาสวะ : โมกขุปายะ (๓) จบ

ข้อที่ ๒ ความสำรวมอินทรีย์นั้น ต้องปฏิบัติด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระ ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ คือความที่มีสติคอยรักษาใจ

ในขณะที่ตาได้เห็นรูปอะไร หูได้ยินเสียงอะไร จมูกได้ทราบกลิ่นอะไร ลิ้นได้ทราบรสอะไร กายได้ถูกต้องสิ่งที่ถูกต้องอะไร ใจได้คิดได้รู้เรื่องอะไร ระวังที่จะมิให้อารมณ์เหล่านั้นมาก่อกิเลสไหลเข้าสู่ใจเป็นความยินดีความยินร้าย ทั้งนี้โดยที่มีสติกำกับ เหมือนอย่างกำกับตา กำกับหู จมูก ลิ้น กาย และกำกับใจอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมให้วิ่งไปยึดถือรูปที่ตาเห็น เสียงที่หูได้ยินเป็นต้นด้วยอำนาจของกิเลส หรือเข้ามาก่อกิเลสอยู่ในใจของตัวเอง มีสติคอยระมัดระวังใจอยู่เสมอที่จะไม่ก่อกิเลสขึ้น

เพราะเรื่องที่เห็นทางตาทางหูเป็นต้นดังกล่าวมานี้ เรียกว่าเป็นความสำรวมอินทรีย์ ทุกคนต้องมีทั้งนั้น และเมื่อปฏิบัติอยู่ก็จะทำให้จิตใจนี้มีความสงบมากขึ้น ลดความวุ่นวายมากขึ้น และอาชีพที่บริสุทธิ์นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ กับการพิจารณาผ้านุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยาแก้ไข้เป็นต้น ที่จะบริโภคใช้สอย ให้สำเร็จประโยชน์ สำหรับบำรุงชีวิตและร่างกายเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น ศีลทั้ง ๔ นี้จึงเป็นข้อที่พึงปฏิบัติทั้งบรรพชิตทั้งคฤหัสถ์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2016, 05:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร