ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50536
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  kanminiza [ 18 ก.ค. 2015, 12:14 ]
หัวข้อกระทู้:  เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

สวัสดีครับผม จริงๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นได้นานมากแล้ว แล้วก็เรื่องนั้นก็กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งเหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนั้นเอง เรื่องมีอย่างนี้ครับ ผมกับครูท่านนึงซึ้งเขานั้น เป็นคนค่อนข้างดี นะสำหรับผมไม่ว่าผมจะถามการบ้านเขา ถามอะไรเกี่ยวกับความรู้และให้กำลังใจเขา และเขาให้กำลังใจผม เวลาผมมีปัญหาไรผมจะถามเขาตลอด จนมาช่วงนี้ครับ แน่นอนผมเข้าหาพระธรรมตั้งแต่เด็กแล้ว จะเอาปัญหาแก้ไขโดยแบบ ธรรมะ ง่ายๆ ซึ้งๆมาโดยตลอดเข้าวัดทำบุญบ่อยมากครับ ซึ้งมีวันนึงผมก็พูดคุยกับคุณครูตามปกตินั้นแหละ ผมก็ถามเขาว่าครูเชื่อเรื่อง พระสงที่มีอภิญญา หรือ อภินิหาร แบบนี้หรือเปล่าครับ ครูเขาเองก็ตอบกลับแบบรุ่นแรงเลย ไม่เชื่อหรอกมันขึ้นอยู่กับตัวเราเองแหละ เรื่องพวกนี้บ้าบอปัญญาอ่อนงมงายมากๆ เราก็โต้ตอบกลับไม่ใช่นะมันมี จริงๆนะผมเชื่ออย่างนั้น ไป บลาๆ ครูก็เถียงจนผมทะเลาะกันแล้วขาดกันติดต่อกัน แล้วสักพัก 3 สัปดาต่อมาผมก็มาขอโทษคุณครูเขาคุณครูเขาก็ไม่ได้ ว่าอะไรเลย ไม่โกรธ ผมก็ว่าผมไม่ผิดนะ ผมก็เถียงในสิ่งที่ผมเข้าใจแล้วรู้แท้จริงนะ แล้วครั้งนี้ผมก็นำเรื่องราวของผมไป คือ บ้านผมอะไม่มีเงินมีทองมากมายหรอกครับ หรือ จนนั้นเองผมก็ อายุ 15 นะตอนนี้ ผมก็หาเงินผ่านเว็บ คือผมมีความสามารถด้านนี้ครับ เรียนคอมพิวเตอร์มา แล้วผมก็เอากุมารเข้าบ้านมาช่วยกันทำมาหาเงินเนาะ ขอโทษนะถ้าใครไม่ชอบอะไรแบบนี้ ก็มีวันนึง ผมก็บนกับกุมารว่าให้เงินเข้าบัญชี วันละ พันๆๆ ให้ได้เห้ยมันก็เข้าได้จริงๆอะ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะ แล้วก็มีพระแนะนำว่า ท่องคาถาอันนี้สิ คือปกติผมจะสวดมนทุกวันทำวัดเย็นกับพระทุกวันอยู่แล้วไงครับ ท่านก็แนะนำมา ผมก็เอามาสวดแล้วก็ได้ผลคือ ตอนเราสวดดแน่นอนตอนทำบุญผมไมไ่ด้หวังผลนะ ผมก็สวดเฉยๆ ซึ้งมันได้ผลมากๆ เงินทองผมมีไม่ขาดมือมีให้ใช้ให้จ่ายให้คนรอบข้างให้พ่อแม่ตายายพี่สาว อะไรแบบนี้ผมก็เอาเงินให้ทุกคนเพราะต่อเดือนอะครับ ผมอายุ 15 ทำเงินได้ 30000/เดือนเลยทีเดียว ผมก็เลยเห็นว่าครูผมนั้นกินมาม่าอะ แทบจะไม่ค่อยมีเงินผมก็เลยแนะนำเขาว่า ลองทำบุญเข้าวัดบ่อยๆสิ ปฎิบัติธรรมบ่อยๆสิ แล้วก็ขอพร แล้วก็ ท่องคาถานี้ดู ครูเขาก็ตอบกลับว่าไม่เชื่อนู้นนี้นั้นอะ แล้วก็หาว่าผมงมงาย แล้วมาบอกว่า อ่อ ที่ผมนั้นสวดไปทำไปเพราะหวังเงินอย่างด้วยสินะ ไม่ได้ศรัทธาเลยสินะ โห..ผมเจ็บมาก :b7: :b7: โดนคุณครูว่าแบบนี้ ผมก็ อะนะ วันนี้จะเอาแชทมาให้ดูกัน ว่าเป็นยังไง
รูปภาพ
คือผมแค่ต้องการจะไปเล่าให้ฟังเฉยๆ ผมก็ไม่ได้บอกให้เขาเชื่อตามสิ่งที่ผมทำนะ ผมแค่เล่าให้ฟัง แล้วแนะนำเขาเฉยๆ แต่มันเจ็บอะโดนมาว่าแบบนี้ ประโยคสุดท้าน ทำไมไม่ไปตั้งกระทรวงเวทมนเลยละ. แล้วทำไมไม่สวดวันละ 100ๆร้อยจะได้รวยๆ :b7: :b7: :b7:
กระทู้นี้ไม่มีไรมากครับแค่ระบายความในใจของเด็กคนนึงซึ้งทุกคนอาจจะผ่านเรื่องนี้มาเยอะแล้วแต่สำหรับผมนั้นผมพึ่งเจอครับ ขอบคุณที่ฟังผมครับ เชิญคอมเม้นตามสบายเลย :b9:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 18 ก.ค. 2015, 12:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

555..
:b32: :b32: :b32:

คนเรามันก็มีบ้าต่างกัน...จะบังคับใครให้บ้าอย่างเราก็คงยาก...ก็เขายังบังคับให้บ้าแบบเขา..เราก็ยังไม่เอาด้วยเลย..

เจ้าของ:  nongkong [ 24 ก.ย. 2015, 22:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

งงแฮะ นึกไงไม่รู้มีไรดลใจให้มันเจอกระทู้นี้ ปกติคุนน้องไม่เคยจะย้อนไปอ่านกระทู้ที่ตกไปหน้า 2 หรือ 3 แต่นี้นึกอยากลองค้นหากระทู้ตกหล่น อิอิ
คนที่ไม่เชื่อว่าการบูชาสักการะมีผล คนที่เขาไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อนะ และคนพวกนี้จะบุญน้อย เพราะเขาไม่เคยทำทาน พอไม่ทำบุญทำทาน ขออะไรก็ไม่เคยสำเร็จตามที่ตนขอ..เลยพาลมีทิฏฐิว่า การขอรึอธิษฐานไม่สามมรถดลบัลดาลให้เกิดผลจริง..พวกเขาเลยไม่เชื่อในสิ่งนั้นเพราะพิสูจน์แล้ว..ส่วนคนที่ขอแล้วได้บ่อย เพราะเป็นคนมีบุญเก่าเยอะหรือเป็นคนขยันทำบุญทำทาน..พอขออะไรมักจะได้แบบฟลุคๆ พวกเขาเลยปักใจเชื่อว่า สิ่งศักสิทธิ์มีจริง..และช่วยพวกเขา..คนที่ถูกหวยบ่อยๆ พวกนี้เค้าเป็นประเภทบุญเก่าที่เป็นลาภลอยเยอะ..
คนที่ไม่รู้จักการให้ทาน ส่วนใหญ่คนพวกนี้จะไม่ชอบเข้าวัด ไม่ชอบทำบุญ และยังเพ่งโทษคนอื่นว่าทำบุญหวังผล พวกเขาเชื่อในหลักเหตุผล..
และไม่หวังพึงดวงรึโชคลาภ..
ปล.จะบอกว่า น้าคุนน้องเป็นคนทำบุญบ่อย วัดแถวอยุธยา รึที่ไหนดังๆ แกตระเวนไปมาหมดแล้วล่ะ
แกถูกหวยบ่อยมากกกกก เคยถูกเป็นแสน เพราะซื้อหลายใบ แถมเลี้ยงกุมารทองเหมือนกันนะ..เหอๆ ลูกค้าเต็มร้านเกือบทุกวัน..ถึงบอกเรื่องแบบนี้พิสูจน์ไม่ได้ด้วยตา..แต่มันเห็นได้ด้วยตนเอง อิอิ ส่วนคนไม่เห็นก็น่าสงสาร เพราะบุญไม่พอ :b32: :b32:

เจ้าของ:  asoka [ 25 ก.ย. 2015, 06:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

tongue
หตุทำบุญให้ทานรักษาศีลมาดีนั้นใช่ที่จะได้รับผลเป็นโภคทรัพย์โชคลาภเงินทองต่างๆ
:b27:
แต่เหตุสวดคาถาเลี้ยงกุมารทองเหล่านั้นมันไม่ใช่ มันเป็นความงมงายที่ได้โอกาสแทรกเข้ามามอมเมาให้เขลาไปตาม

มีเศรษฐีมหาเศรษฐีเยอะแยะไปในโลกที่ไม่ได้เลี้ยงกุมารทอง ไม่ได้ท่องคาถาให้เหนื่อย ไม่ได้กระทำการอันเขลาเมามัวงมงายต่างๆ จงพยายามมองในมุมนี้บ้าง


เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเป็นชาวพุทธผู้เชื่อในกฎแห่งกรรมกฎของเหตุและผลอย่าพากันเอาเรื่องที่งมงายมาแทรกใส่ในคำสอนบริสุทธิ์สะอาดของพระพุทธเจ้ากันอยู่เลย อย่าพากันเกรงใจกิเลสตัณหา อมนุษย์ สัมภเวสี หมู่มารทั้งหลาย อย่าพากันติดใจไหลหลงได้ปลื้มหรือหลงไปเป็นผู้ช่วยส่งเสริมเผยแพร่ไปกับเรื่องของพราหมณ์ประเพณีพิธีกรรมไสยศาสตร์ เวทศาสตร์เดรัจฉานวิชชาทั้งหลายกันอยู่เลย

ตื่นๆๆๆ มาเป็นชาวพุทธที่แท้ ที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานจริงๆด้วยธรรมกันเถอะ
onion

เจ้าของ:  ศิริพงศ์ [ 25 ก.ย. 2015, 06:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

nongkong เขียน:
งงแฮะ นึกไงไม่รู้มีไรดลใจให้มันเจอกระทู้นี้ ปกติคุนน้องไม่เคยจะย้อนไปอ่านกระทู้ที่ตกไปหน้า 2 หรือ 3 แต่นี้นึกอยากลองค้นหากระทู้ตกหล่น อิอิ
คนที่ไม่เชื่อว่าการบูชาสักการะมีผล คนที่เขาไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อนะ และคนพวกนี้จะบุญน้อย เพราะเขาไม่เคยทำทาน พอไม่ทำบุญทำทาน ขออะไรก็ไม่เคยสำเร็จตามที่ตนขอ..เลยพาลมีทิฏฐิว่า การขอรึอธิษฐานไม่สามมรถดลบัลดาลให้เกิดผลจริง..พวกเขาเลยไม่เชื่อในสิ่งนั้นเพราะพิสูจน์แล้ว..ส่วนคนที่ขอแล้วได้บ่อย เพราะเป็นคนมีบุญเก่าเยอะหรือเป็นคนขยันทำบุญทำทาน..พอขออะไรมักจะได้แบบฟลุคๆ พวกเขาเลยปักใจเชื่อว่า สิ่งศักสิทธิ์มีจริง..และช่วยพวกเขา..คนที่ถูกหวยบ่อยๆ พวกนี้เค้าเป็นประเภทบุญเก่าที่เป็นลาภลอยเยอะ..
คนที่ไม่รู้จักการให้ทาน ส่วนใหญ่คนพวกนี้จะไม่ชอบเข้าวัด ไม่ชอบทำบุญ และยังเพ่งโทษคนอื่นว่าทำบุญหวังผล พวกเขาเชื่อในหลักเหตุผล..
และไม่หวังพึงดวงรึโชคลาภ..
ปล.จะบอกว่า น้าคุนน้องเป็นคนทำบุญบ่อย วัดแถวอยุธยา รึที่ไหนดังๆ แกตระเวนไปมาหมดแล้วล่ะ
แกถูกหวยบ่อยมากกกกก เคยถูกเป็นแสน เพราะซื้อหลายใบ แถมเลี้ยงกุมารทองเหมือนกันนะ..เหอๆ ลูกค้าเต็มร้านเกือบทุกวัน..ถึงบอกเรื่องแบบนี้พิสูจน์ไม่ได้ด้วยตา..แต่มันเห็นได้ด้วยตนเอง อิอิ ส่วนคนไม่เห็นก็น่าสงสาร เพราะบุญไม่พอ :b32: :b32:
คนที่เขาปรารถนาความเป็นอริยะ เขาทำสิ่งที่คุณกล่าวมาไม่ได้หรอกนะ. ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อว่าการบูชาไม่มีผล แต่นั้นมันสัมมาทิฎฐิเบื้องตน ที่จะนำตนเข้าสู่ความดีบ้างยังมีหลักที่พึ่งบ้างพระองค์กล่าวไว้เยอะ. ดีกว่าพวกที่ไม่เชื่ออะไรเลยเพราะพวกนั้นสามารถทำบาปได้ทุกอย่าง. แต่ผู้ที่ปรารถนาอริยะชน. ต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นขึ้นไปอีกผมไม่รู้หรอกว่าท่านๆทั้งหลายจะเข้าใจตรงนี้หรือไม่. สิ่งที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ผมไม่เคยทำไม่เคยมีมา ผมก็ติดหนึบมาก่อน. และกว่าจะข้ามได้ต้องอาศัยความรู้จากการฟังพระสัทธรรมเป็นอย่างมากและควบคู่กับการปฎิบัติที่เข้าถึงธรรม.ษุรุษที่คั้นเมล็ดงาด้วยมือต่างก็ได้น้ำมันกันทั้งคู่ตราบใดมือของเขาทั้งสองข้างยังไม่หยุดคั้นแต่ ผู้ขออ้อนวอนเป็นปุถุชน. ผู้ไม่ขอย่อมมีโอกาสเป็นอริยะชนนี่คือความต่าง ฟังพุทธวจนที่ออกจากพระโอฐษ์เถอะนั้นคือคำตอบ

เจ้าของ:  student [ 25 ก.ย. 2015, 12:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

การสวดอ้อนวอน มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ไม่ใช่พึ่งมามี

ถ้าไม่ได้สมปราถนา คนคงจะเลิกล้มไปนานแล้ว

แต่ที่สมปราถนานั้น

ล้วนแล้วแต่เป็นทางโลก

ในทางธรรมแล้ว

การที่จะข้ามพ้นความสงสัยต่างๆ ต้องมาจากการประพฤติปฎิบัติตน หาใช่ได้มาเพราะการสวดอ้อนวอนไม่

การสวดที่ถือปฎิบัติ เป็นบทสวดสรรเสริญคุณพระศาสดา และมีคำสอนอยู่ในบทสวดนั้นด้วย

แต่การสวดมนต์ยังมีปรานีตเกิดขึ้นกับจิตใจอยู่ตามการพิจารณาถ้ามุ่งหวังความรู้ตามสัจธรรม

เจ้าของ:  student [ 25 ก.ย. 2015, 12:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

สมมุติสวดมนต์ แต่ไม่หวังอะไร

จู่ๆก็มีเงินไหลมาเทมาจากรายได้อะไรสักอย่าง

อยากถามว่า นี่เป็นความสมหวังหรือไม่?

ถ้าไม่หวังอะไร แต่เงินไหลมาเทมา แสดงว่าไม่สมหวัง.

เพราะถ้าสมหวังแล้วต้องไม่ได้อะไร

แต่ก็นี่แหละ ถ้าทางธรรมแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับสวดแล้วสมหวังหรือผิดหวัง

แต่เกี่ยวกับความรู้ ถ้าสวดมนต์แล้วเป็นคนใจเย็นขึ้น รักสันติภาพขึ้น มีอุเบกขาขึ้น แสดงว่า เป็นคนรู้

ไม่ใช่เป็นคนสมหวัง เพราะการเป็นคนที่พัฒนาขึ้น ต้องจำแนกแยกแยะว่า อะไรถูก อะไรควร คนที่ดีขึ้น พัฒนาขึ้น จึงเรียกว่าเป็นคนรู้ ไม่ใช่เป็นคนสมหวัง

อยากได้คนรักแต่งงาน ทำทุกอย่าง ก็สมหวังได้ อยากได้ธรรม ต้องรู้ ไม่ใช่ต้องสมหวัง

เจ้าของ:  Rosarin [ 29 ก.ย. 2015, 16:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

Kiss
บารมี 10 ทัศ คูณ 3 ระดับ (หยาบ กลาง ละเอียด) เท่ากับบารมี 30 ทัศ
หนึ่งในบารมีทั้งสิบก็คือ อธิษฐานบารมี ไม่ใช่ทำทาน รักษาศีล ภาวนาลอยๆ
ทุกการกระทำรวมบารมีทั้ง 30 ทัศ ฉะนั้นจึงไม่ขาดการอธิษฐานตลอดชีวิตทุกชาติ
เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมบารมีเต็มเปี่ยม ทุกสิ่งที่ได้ทำไว้ทั้งกาย วาจา ใจ ย่อมสำเร็จเป็นบารมี
คือบารมีแปลว่าทำให้มีแล้วทำให้เกิดขึ้นแล้วตามเหตุที่ได้ทำหรือแม้ไม่อธิษฐานแต่ทำตรงเหตุ
ผลก็ย่อมปรากฎไม่นอกเหนือไปจากเหตุนั้นเอง เหมือนปลูกผักผลไม้ปลูกกล้วยผลย่อมเป็นกล้วย
ฟังธัมมะเสริมปัญญาต่ออีกสักหน่อยเผื่อจะได้ความเข้าใจเรื่องการบำเพ็ญบารมีจะได้ไม่เกิดมาเปล่า
onion onion onion

http://www.YouTube.com/watch?v=nx-qOYkJ3cg

เจ้าของ:  ศิริพงศ์ [ 29 ก.ย. 2015, 21:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เล่าเรื่องราวของนักเรียนกับครูท่านนึงครับ

Onion_L
Rosarin เขียน:
Kiss
บารมี 10 ทัศ คูณ 3 ระดับ (หยาบ กลาง ละเอียด) เท่ากับบารมี 30 ทัศ
หนึ่งในบารมีทั้งสิบก็คือ อธิษฐานบารมี ไม่ใช่ทำทาน รักษาศีล ภาวนาลอยๆ
ทุกการกระทำรวมบารมีทั้ง 30 ทัศ ฉะนั้นจึงไม่ขาดการอธิษฐานตลอดชีวิตทุกชาติ
เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมบารมีเต็มเปี่ยม ทุกสิ่งที่ได้ทำไว้ทั้งกาย วาจา ใจ ย่อมสำเร็จเป็นบารมี
คือบารมีแปลว่าทำให้มีแล้วทำให้เกิดขึ้นแล้วตามเหตุที่ได้ทำหรือแม้ไม่อธิษฐานแต่ทำตรงเหตุ
ผลก็ย่อมปรากฎไม่นอกเหนือไปจากเหตุนั้นเอง เหมือนปลูกผักผลไม้ปลูกกล้วยผลย่อมเป็นกล้วย
ฟังธัมมะเสริมปัญญาต่ออีกสักหน่อยเผื่อจะได้ความเข้าใจเรื่องการบำเพ็ญบารมีจะได้ไม่เกิดมาเปล่า
onion onion onion

http://www.YouTube.com/watch?v=nx-qOYkJ3cg
Onion_L

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/