ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สอบถามเรื่องการเดินจงกรม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50304
หน้า 1 จากทั้งหมด 5

เจ้าของ:  idea [ 18 มิ.ย. 2015, 14:57 ]
หัวข้อกระทู้:  สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

เวลาเริ่มเดิน...พยายามมีสติอยู่กับการเดิน ที่เท้า
คือรู้ที่เท้ายก...ย่าง...เหยียบ
แต่ไม่ทันไร
จิตมันคอยจะจับภาพท่อนเท้าที่ยก...แวบไปท่อนย่าง ตามจุดที่เรา พยายามทำความรู้ตัวอยู่
ไม่ได้เห็นเป็นภาพต่อเนื่องนะคะ......มันตัดเป็นฉากไป ซึ่งเดินไม่เร็วมาก
แต่ก็ทำให้สับสน...รู้กับเห็น
มันเพิ่งเริ่มต้นทำ...มันทำให้หงุดหงิด จนต้องหยุดกลับมานั่งอย่างเดียวตามความเคยชินค่ะ
จะแก้ไขกับอาการนี้ยังไงดีค่ะ
:b8:

เจ้าของ:  muisun [ 18 มิ.ย. 2015, 17:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

สักแต่ว่า สังเกตต้น กลาง สุด ของสิ่งนั้นๆ เพราะว่าสิ่งที่เลยแล้ว ยังไม่ต้องดู ปัจจุบันเกิดก็ดูแค่ปัจจุบันไป..เราต้องการรู้เห็นตามความเป็นจริงเท่านั้น มีก็รู้ว่ามี หมดก็รู้ว่าหมด เน้นที่ต้นเหตุคือตัวจะ ไม่ต้องเลือก ยากก็บอกยากดับๆ ง่ายดับๆ จะเกิดดับๆ ทำไม่ถูกดับๆ จะคิดดับๆ เอาสักแต่ว่ารู้ทันทุกอย่าง เพราะว่าจิตดวงเก่าดับไป จิตดวงใหม่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไวหลายล้านเท่าต่อวินาที รู้ทันเกิดดับมาชั่วแว็บเดียวก็แจ่มแจ้งหมด..สังเกตตัวจะให้ต่อเนื่องกันตลอดเวลา จะยากดับ จะหายดับ จะมาดับ..
จากสายสืบนิสัยคน

เจ้าของ:  kanminiza [ 18 มิ.ย. 2015, 19:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

โทษทีนะครับผมไม่มีความรู้ในด้านปฏิบัติเท่าไหร่ แต่อยากจะบอกว่า ฝึกไปเรื่อยๆ จะดีเองครับ ^^ :b42:

เจ้าของ:  idea [ 18 มิ.ย. 2015, 20:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

อ้างคำพูด:
โทษทีนะครับผมไม่มีความรู้ในด้านปฏิบัติเท่าไหร่ แต่อยากจะบอกว่า ฝึกไปเรื่อยๆ จะดีเองครับ ^^ 


tongue
ขอบคุณครับ
ในกรณีนี้ คงมีแต่คนที่ไม่รู้,,ที่อยากรู้,,ที่อวดรู้,,อวดเก่ง,,อยากทำความเข้าใจ.......ที่จะมาถาม
คนเก่งๆ มีปัญญา เขาไม่ค่อยจะทำกันหรอกครับ :b9: :b3:
:b54: :b54: :b54:

s005 คิดได้เลย :b46: :b40: :b46: สมัยมัธยมต้น..ครูให้นร.ผลัดกันยืนขึ้นบอกคติธรรมประจำใจ :b5:
ปกติเป็นคนขี้อายมาก..แค่ให้ลุกยืนที่โต๊ะนั่นแหละ ยังสั่นไปหมด
แต่พอพูดออกไป...รู้ใหม โดนคนทั้งห้องหัวเราะลั่น
ยิ่งซ้ำเติมให้ต่อมากลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจที่จะแสดงความคิดเห็น
:b39: :b39: :b29: ผมทำให้พี่คิดถึงเหตุการณ์นี้ ขึ้นมาตอนนี้
ตอนที่เขาหัวเราะกันนั้น...พี่คิดนะ คิดมาเรื่อยๆ จนจบ จนโต จำฝังใจ :b34:
ว่าทำไมพวกเขาหัวเราะแบบ เราเป็นตัวตลก ทั้งคุณครูด้วย
ในมุมมองของพี่..คิดว่ามันก็เป็นความหมายที่ดี..แม้จะฟังไม่สวยงาม..แต่มันเตือนตนดีออก
พี่ไม่เข้าใจพวกเขาเลย คิดๆๆๆๆๆ
:b3: :b3: :b44: แต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ พี่เข้าใจละ
เพราะว่า...มันแสดงถึงตัวตนของเรา
""ความรู้ท่วมหัว...แต่เอาตัวไม่รอด""

เจ้าของ:  หัสพล พวงแก้ว [ 18 มิ.ย. 2015, 22:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

แสดงว่าทำไปด้วยความเกร็งมากเกินไปจนทำให้จิตเป็นกังวลกลัวว่าจะผิดพลาดขึ้น
ถ้าเป็นเช่นนี้สมาธิจะเกิดขึ้นยาก ต้องทำไปด้วยความเป็นปกติไปตามธรรมชาติของเราเอง
เพราะจริตทุกคนย่อมแตกต่างกันครับ เพียงแต่ตอนที่เราไปฝึกนั้นก็เป็นแค่เพื่อให้ได้รู้หลักการปฏิบัติเดินจงกรมว่าเดินแบบไหน มีจังหวะยังไง แต่พอเข้าใจแล้วเราก็สามารถปลีกตัวไปปฏิบัติเองได้ครับ เรื่อง
การปฏิบัติทั้งหลายนั้นเราควรต้องเข้าใจจริตของเราให้ได้ก่อนครับเพราะไม่ยังงั้นจิตของเราจะเกิดอาการเกร็งและฝืนมากเกินไป เพราะเราต้องการให้จิตเกิดมีสมาธิให้ได้ก่อนแล้วถ้าทำจนให้เกิดความคุ้นชินอยู่บ่อยๆแล้วสติและปัญญาเห็นสภาวะธรรมก็จะมีตามมาเองครับ ขอให้ท่านมีความพยายามต่อไปเรื่อย ๆครับ
อย่าท้อและอย่าไปคาดหวังผลอะไรมาก เราเพียงแต่ปฏิบัติไปตามกำลังของเราเท่านี้ก็พอแล้วครับ

เจ้าของ:  idea [ 19 มิ.ย. 2015, 06:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

อ้างคำพูด:
แสดงว่าทำไปด้วยความเกร็งมากเกินไปจนทำให้จิตเป็นกังวลกลัวว่าจะผิดพลาดขึ้น
ถ้าเป็นเช่นนี้สมาธิจะเกิดขึ้นยาก ต้องทำไปด้วยความเป็นปกติไปตามธรรมชาติของเราเอง
เพราะจริตทุกคนย่อมแตกต่างกันครับ เพียงแต่ตอนที่เราไปฝึกนั้นก็เป็นแค่เพื่อให้ได้รู้หลักการปฏิบัติเดินจงกรมว่าเดินแบบไหน มีจังหวะยังไง แต่พอเข้าใจแล้วเราก็สามารถปลีกตัวไปปฏิบัติเองได้ครับ เรื่อง
การปฏิบัติทั้งหลายนั้นเราควรต้องเข้าใจจริตของเราให้ได้ก่อนครับเพราะไม่ยังงั้นจิตของเราจะเกิดอาการเกร็งและฝืนมากเกินไป เพราะเราต้องการให้จิตเกิดมีสมาธิให้ได้ก่อนแล้วถ้าทำจนให้เกิดความคุ้นชินอยู่บ่อยๆแล้วสติและปัญญาเห็นสภาวะธรรมก็จะมีตามมาเองครับ ขอให้ท่านมีความพยายามต่อไปเรื่อย ๆครับ
อย่าท้อและอย่าไปคาดหวังผลอะไรมาก เราเพียงแต่ปฏิบัติไปตามกำลังของเราเท่านี้ก็พอแล้วครับ


เกร็งมากๆจริงค่ะ เดียววันนี้ลองใหม่
มันรู้สึกแปลกๆโล่งๆ ไม่เหมือนตอนไปร่วมปฏิบัติที่วัด ก็เลยตึงๆ
:b8: :b8:

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 19 มิ.ย. 2015, 07:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกลม

แต่ก่อนตอนผมเดินก็เคยเอาจิตมาอยู่กลางอก แล้วดูร่างกายเดิน แต่จะเห็นแค่ท่อนล่างมันเดิน ตอนหลังถึงรู้ว่าน่าจะเป็นการทำสมถะ

ตอนนี้ ทำตัวตามสบายๆ ไม่มีการกำหนดให้จิตมาอยู่กลางอกแล้ว พอไม่กำหนด มันจะเห็นทั้งร่างกายกำลังเดิน
ก็เดินไปแบบสบายๆ ก็ถือเป็นการเดินจงกรม ได้แล้วครับ

พอจะเข้าใจคำว่า รู้สึกตัวทั่วพร้อม ขึ้นมาบ้างละครับ

ถ้าเราเอาจิตไปจ้องไว้ที่ใดที่หนึ่งมันจะกลายเป็นสมถะ และที่น่ากลัวคือ เราไปจ้องโดยที่เราไม่รู้ว่าเรากำลังจ้องอยู่ มันพลาดตรงนี้ละครับ :b34: :b34: :b34:

เจ้าของ:  idea [ 19 มิ.ย. 2015, 07:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

อ้างคำพูด:
ถ้าเราเอาจิตไปจ้องไว้ที่ใดที่หนึ่งมันจะกลายเป็นสมถะ และที่น่ากลัวคือ เราไปจ้องโดยที่เราไม่รู้ว่าเรากำลังจ้องอยู่ มันพลาดตรงนี้ละครับ   


ออค่ะ จ้องที่เท้าเลย :b9: :b9:
ขอบคุนค่ะ

เจ้าของ:  muisun [ 27 มิ.ย. 2015, 11:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

พระอรหันต์เค้าไม่อวดกันหรอก มีแต่คนพาลที่ยังเลิกว่าไม่ได้

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 27 มิ.ย. 2015, 13:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

idea เขียน:
เวลาเริ่มเดิน...พยายามมีสติอยู่กับการเดิน ที่เท้า
คือรู้ที่เท้ายก...ย่าง...เหยียบ
แต่ไม่ทันไร
จิตมันคอยจะจับภาพท่อนเท้าที่ยก...แวบไปท่อนย่าง ตามจุดที่เรา พยายามทำความรู้ตัวอยู่
ไม่ได้เห็นเป็นภาพต่อเนื่องนะคะ......มันตัดเป็นฉากไป ซึ่งเดินไม่เร็วมาก
แต่ก็ทำให้สับสน...รู้กับเห็น
มันเพิ่งเริ่มต้นทำ...มันทำให้หงุดหงิด จนต้องหยุดกลับมานั่งอย่างเดียวตามความเคยชินค่ะ
จะแก้ไขกับอาการนี้ยังไงดีค่ะ
:b8:

การเดินจงกรม ด้วยอาการหุ่นยนต์เช่นนี้ ไม่ใช่การเดินจงกรม
การเดินจงกรม ไม่ยากและบังคับท่าทางร่างกายจนวุ่นวายเป็นความฟุ้งอย่างนั้น
พุทธภาษิตให้กระทำเพียงเท่านี้ครับ
Quote Tipitaka:
[๓๔๘] ดูกรอานนท์ หากเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้ จิตย่อม
น้อมไปเพื่อจะจงกรม เธอย่อมจงกรมด้วยใส่ใจว่า อกุศลธรรมลามกคืออภิชฌา
และโทมนัส จักไม่ครอบงำเราผู้จงกรมอยู่อย่างนี้ได้ ด้วยอาการนี้แล เป็น
อันเธอรู้สึกตัวในเรื่องการจงกรม ฯ


รู้ได้อย่างไรว่า ไม่ต้องบังคับควบคุมร่างกายให้เหมือนหุ่นยนต์ หรือด้วยอาการเดินไม่เต็มเท้า
พุทธภาษิต ปรารภอาการ ความเป็นผู้มีสติ มีความเพียรดังนี้ครับ
Quote Tipitaka:
[๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์
สมบูรณ์ จงเป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสังวร สมบูรณ์ด้วยอาจาระและโคจร
มีปรกติเห็นภัยในโทษอันมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
เมื่อเธอทั้งหลายมีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ สำรวมในปาติโมกข์สังวร
สมบูรณ์ด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษอันมีประมาณน้อย สมาทาน
ศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย กิจที่ควรทำยิ่งกว่านี้ จะพึงมีอะไรเล่า ถ้าแม้ภิกษุ
กำลังเดินไป อภิชฌาไปปราศแล้ว พยาบาทไปปราศแล้ว ละถีนมิทธะได้แล้ว
ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน
มีสติมั่นไม่หลงลืม มีกายสงบไม่ระส่ำระสาย มีจิตมั่นคง มีอารมณ์เป็นหนึ่ง
ภิกษุแม้เดินอยู่เป็นอย่างนี้ เราเรียกว่า ผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ มีความเพียร
อันปรารภแล้วเป็นนิจนิรันดร มีใจเด็ดเดี่ยว ถ้าแม้ภิกษุยืนอยู่ ... ถ้าแม้ภิกษุ
นั่งอยู่ ... ถ้าแม้ภิกษุนอนตื่นอยู่ อภิชฌาไปปราศแล้ว พยาบาทไปปราศแล้ว
ละถีนมิทธะได้แล้ว ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความ
เพียรไม่ย่อหย่อน มีสติมั่นไม่หลงลืม มีกายสงบไม่ระส่ำระสาย มีจิตมั่นคง
มีอารมณ์เป็นหนึ่ง ภิกษุแม้นอนตื่นอยู่เป็นอย่างนี้ เราเรียกว่า ผู้มีความเพียร
มีโอตตัปปะ มีความเพียรอันปรารภแล้วเป็นนิจนิรันดร มีใจเด็ดเดี่ยว ฯ
ภิกษุพึงเดินตามสบาย พึงยืนตามสบาย พึงนั่งตามสบาย พึง
นอนตามสบาย พึงคู้ตามสบาย พึงเหยียดตามสบาย ตลอด
คติของโลก ทั้งเบื้องบน ท่ามกลาง และเบื้องต่ำ และพิจารณา
ตลอดความเกิด และความเสื่อมไปแห่งธรรม และขันธ์
ทั้งหลาย นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวภิกษุอย่างนั้น ผู้มีสติทุก
เมื่อ ศึกษาปฏิปทาอันสมควรแก่ความสงบใจเสมอ ว่ามีใจ
เด็ดเดี่ยว ฯ


เลิกๆ ซะ การเดินกระโหย่ง การเดินแบบหุ่นยนต์ นั่นไม่ใช่การเดินจงกรม ครับ

เจ้าของ:  student [ 27 มิ.ย. 2015, 13:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

เราพยายามเห็นด้วยสัญญา หรือพยายามรู้ตามความเป็นจริงของธรรมครับ

ขาที่เห็นนั้น ตาเห็นจริง แต่จิตเข้าไปตั้ง ตรงวิเคราะห์นี่แหละครับ ใช้อะไรวิเคราะห์

เจ้าของ:  ศรีสมบัติ [ 28 มิ.ย. 2015, 01:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

ขอให้กำลังใจในการปฏิบัติธรรมครับ :b8: การเดินจงกลม ก็เป็น อริยาบถหนึ่ง ของการ ปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทั้ง อริยาบถใหญ่ ยืน เดิน นั่ง นอน หรือ อริยาบถย่อยลงไปอีก..ก็แล้วแต่ถนัด บางท่านอาจจะนั่งได้นานๆ แต่บางท่าน อาจจะเดินแล้วได้สมาธิความสงบได้เร็ว หรือบางท่านก็ว่า ยืนกำหนด อันนี้ก็แล้วแต่ จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่สุดแล้วก็เพื่อมุ่งจะ ฝึกจิต การเจริญสติ ให้อยู่กับ กาลปัจจุบัน...และถ้ามีความเพียร ใส่ใจแล้ว ปฏิบัติอยู่เป็นนิจ เป็นนิสัยแล้ว มันย่อมเป็นเรื่องที่ดี บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่า กิเลสมันค่อยๆได้ลดน้อย สึกกร่อนลงไปๆ พระท่านเปรียบเหมือนลูกกะพรวนเรือ ที่สึกลงไปๆโดยการลาก โดยที่ไม่รู้ว่ามันสึกไปตอนไหน ครั้งที่เท่าไหร่...นั่นล่ะ คือผลของมัน ขอเจริญในธรรม :b8:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 มิ.ย. 2015, 06:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

--------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มาจากดิน

ลุงหมานอ่านแล้วพอเข้าใจความรู้สึกเขาไหมครับ
viewtopic.php?f=1&t=49158&p=371922#p371922

นั่นคือประสบการณ์จริง ไม่ใช่นั่งนึกเอา ความรู้สึกต่างกัน อุปมาเหมือนกับทหารสู้รบอยู่ในสนามรบ กับ ทหารที่เรียนอยู่ในห้องเรียน ฉะนั้น ความรู้สึกต่างกัน

ยกมาซะเยอะแยะ ของจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียว มันไม่เลอะเทอะได้ขนาดนั้นหลอก
ไอ้ที่มันเยอะแยะขนาดนั้นโดนหลอกมาทั้งนั้นแหละ อย่าไปงมงายเชื่อง่ายเลย มั่นศึกษาหาความรู้ให้มากๆกว่านี้สักหน่อยแล้วค่อยไปปฏิบัติ แล้วจะเห็นจริง
เซียนพระกว่าจะดูเหรียญเก่ง สะสมพระเก๊มาเป็นโอ่ง

http://board.palungjit.org/f4/%E0%B9%80 ... 50767.html

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 มิ.ย. 2015, 06:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

ลุงหมาน เขียน:
--------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มาจากดิน

ลุงหมานอ่านแล้วพอเข้าใจความรู้สึกเขาไหมครับ
viewtopic.php?f=1&t=49158&p=371922#p371922

นั่นคือประสบการณ์จริง ไม่ใช่นั่งนึกเอา ความรู้สึกต่างกัน อุปมาเหมือนกับทหารสู้รบอยู่ในสนามรบ กับ ทหารที่เรียนอยู่ในห้องเรียน ฉะนั้น ความรู้สึกต่างกัน

ยกมาซะเยอะแยะ ของจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียว มันไม่เลอะเทอะได้ขนาดนั้นหลอก
ไอ้ที่มันเยอะแยะขนาดนั้นโดนหลอกมาทั้งนั้นแหละ อย่าไปงมงายเชื่อง่ายเลย มั่นศึกษาหาความรู้ให้มากๆกว่านี้สักหน่อยแล้วค่อยไปปฏิบัติ แล้วจะเห็นจริงเซียนพระกว่าจะดูเหรียญเก่ง สะสมพระเก๊มาเป็นโอ่ง

http://board.palungjit.org/f4/%E0%B9%80 ... 50767.html


ปริยัติ..ปฏิบัติ...ปฏิเวธ...เป็นของสาวกภูมิ

ทำพร้อมๆกัน...จะได้ไม่งมงายในปริยัติ...ไม่งมงายในปฏิบัติ...ไม่งมงายในปฏิเวธ

หากไม่ครบ 3 องค์..ปริยัติอยู่ก็งมงาย..ปฏิบัติอยู่ก็งมงาย...ปรากฎผลอะไรขึ้นมาก็งมงาย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 มิ.ย. 2015, 06:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามเรื่องการเดินจงกรม

กบนอกกะลา เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
--------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มาจากดิน

ลุงหมานอ่านแล้วพอเข้าใจความรู้สึกเขาไหมครับ
viewtopic.php?f=1&t=49158&p=371922#p371922

นั่นคือประสบการณ์จริง ไม่ใช่นั่งนึกเอา ความรู้สึกต่างกัน อุปมาเหมือนกับทหารสู้รบอยู่ในสนามรบ กับ ทหารที่เรียนอยู่ในห้องเรียน ฉะนั้น ความรู้สึกต่างกัน

ยกมาซะเยอะแยะ ของจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียว มันไม่เลอะเทอะได้ขนาดนั้นหลอก
ไอ้ที่มันเยอะแยะขนาดนั้นโดนหลอกมาทั้งนั้นแหละ อย่าไปงมงายเชื่อง่ายเลย มั่นศึกษาหาความรู้ให้มากๆกว่านี้สักหน่อยแล้วค่อยไปปฏิบัติ แล้วจะเห็นจริงเซียนพระกว่าจะดูเหรียญเก่ง สะสมพระเก๊มาเป็นโอ่ง

http://board.palungjit.org/f4/%E0%B9%80 ... 50767.html


ปริยัติ..ปฏิบัติ...ปฏิเวธ...เป็นของสาวกภูมิ

ทำพร้อมๆกัน...จะได้ไม่งมงายในปริยัติ...ไม่งมงายในปฏิบัติ...ไม่งมงายในปฏิเวธ

หากไม่ครบ 3 องค์..ปริยัติอยู่ก็งมงาย..ปฏิบัติอยู่ก็งมงาย...ปรากฎผลอะไรขึ้นมาก็งมงาย


พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย มันจะพร้อมๆ กันที่เดียวได้ไง

หน้า 1 จากทั้งหมด 5 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/