หลัง4ทุ่มไปแล้ว และต้องตื่นตอนตี3-4

ช่วงระหว่างคืน เขาเว้นกริยานอน เลยหรือเปล่าครับ เพราะแป๊บๆก็ต้องตื่นมาทำวัตรแล้ว ตอนตี3-4

หรือนั่งสมาธิ ผสมกับ ออกมาเดินจงกรมกันข้างนอกเรือนนอน

ประมาณนี้แหละคับ....4 - 5 ทุ่ม

สวัสดีค่ะ คุณจขกท

ทำวัตรเย็น เจริญสติ นั่งสมาธิ จะเลิกประมาณ 3ทุ่ม โดยทั่วไปน่าจะหลัง 4 ทุ่ม ไปแล้วถึงได้นอน ประมาณ ตี3-4 ต้องตื่นกันแล้วเพราะตี5 ต้องเริ่มทำวัตรเช้า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าปฏิบัติธรรมและความเพียงพอของห้องน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องรอคิวเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเลยต้องตื่นเช้าเพื่อเผื่อเวลา..กลางวันจะปฏิบัติทั้งวันแต่จะมีช่วงเบรคให้พักอิริยาบถเป็นช่วงๆ..วัดที่เราไปจะค่อนข้างเคร่งเรื่องกฏระเบียบ กลางวันเขาจะปิดเรือนนอนเลย ห้ามนอน! ถ้าไม่ปฏิบัติตามระเบียบไล่กลับบ้านเลย

...สำหรับผู้ใหม่ที่ไม่เคยชินร่างกายจะอ่อนเพลียและง่วงซึมบวกกับความหิวประมาณ 3 วันร่างกาย
จะเริ่มปรับตัวและจะปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้นในวันถัดๆไป ดังนั้นถ้าจะไปปฏิบัติธรรมควรเลือกเข้าคอร์สสักประมาณ 7 วันกำลังดี..

เจริญธรรมค่ะ

หากปกติอยู่ที่บ้าน..ไม่ได้นอน..ไม่ได้ตื่น..ไม่ได้ทำวัตร...ในเวลาดังกล่าว...ก่อนไปปฏิบัติก็ควรเวอร์มอัพ..หัดนอน..หัดตื่น...ในเวลาดังกล่าวก่อน...เพื่อไม่เป็นภาระไปเวอร์มอัพในช่วงปฏิบัติธรรม....

จริงๆ..เลย...เรื่องห้องน้ำนี้.. ..เพราะคนเยอะ..ต้องกะเวลาให้ดี...ดีไม่ดี..ต้องตื่นก่อนเป็นชั่วโมงๆ อย่างที่คุณปลีกวิเวกว่ามา...เลย

ปฏิบัติธรรมอยู่บ้าน
นอน 3 ทุ่ม ตื่นตีสามไหว้พระภาวนาถึงตีห้าแล้วเตรียมตัวไปทำงาน

จะได้ภาวนาในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน ร่างกายก็ได้พักผ่อนอิ่มเต็มที่

นอนตั้งวันละ 6 ชม. นะนี่
พักในสมาธิอีก 2 ชม. ...



อโศกะนอนเยอะไปนะนี่ ....

อยู่วัด..นอน4 ชั่วโมง..กะลังพอดี

อยู่บ้าน..ยานไปนิด..นอน5 ชั่วโมง...แต่ก็ไม่ได้ภาวนาอะไรมากนักหรอก..

เอกอนขอนอนวันละ 8 ชม. ได้มั๊ย ...
เพราะนั่นเป็นเวลาที่มีคุณภาพสำหรับเอกอนน่ะ ...

ง่วง...ก็นอน

หลวงพ่อคำเขียน..สอนว่า..ให้รู้กาย..กายมันง่วง..มันต้องการพัก...ก็พามันไปนอน...นี้รู้กาย...ไม่ใช่มันง่วงก็กินยาให้หายง่วง..นี้ไม่รู้กาย

นี่เป็นคำแนะนำสำหรับคนที่ยังต้องทำมาหากินแต่อยากภาวนาครับคุณเอก้อน

แต่ถ้าเป็นคนที่เกษียณตัวเองจากงานโลกได้แล้วไม่บวชแต่มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมก็อาจนอนรอบแรก 4 ชั่วโมง 3 ทุ่มถึงตีหนึ่งแล้วลุกภาวนาสลับพักไปจนถึงหกโมงเช้าพักทำงานบ้าน ทานอาหารเชัา 9-11 น.ภาวนารอบสอง 11-14 ทำงานบ้านอาหารกลางวัน 14-16 ภาวนารอบสาม 16 - 21 ใช้ชีวิตธรรมดาๆ สนทนาศึกษา แบ่งปันธรรมะ อาหารค่ำ แล้วก็เริ่มรอบใหม่

สรุปได้ภาวนาวันละ 3 รอบ 7-8 ชั่วโมง ภาคกลางวันอาจมีการยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์แต่ภาคกลางคืนค่อนข้างจะตายตัวเพราะเป็นอิสระจากงานโลก

อ่อ..ที่นอน 6 ชม. ไม่ได้นอนเอง...แต่แนะนำคนอื่นเขา..รึเนี้ย??



งั้นผม..ก็ขอแนะนำคนที่ยังทำงานเลี้ยงชีพอยู่..ว่า..นอนอย่างมากแค่ 5 ชม. ก็พอ

ถ้ารู้สึกว่ายัง...ง่วง ๆ..เวลาทำงาน...เหมือนพักผ่อนไม่พอ..ให้สัณนิฐานว่า..สติ..สมาธิ...ระหว่างทำงานยังไม่ดีพอ...

สมัยทำงานได้ทำดูแล้วนอน 6 ชั่วโมง ภาวนาเต็มที่ 2 ชั่วโมง ทำงานในหน้าที่ 8 ชั่วโมง ใช้ชีวิตธรรมดาๆ 8 ชั่วโมง ก็ลงตัวได้ดีพอสมควร

อนึ่งการภาวนาในชีวิตประจำวันนั้นเป็นส่วนเสริมที่แทรกไปได้ทุกขณะตามมติที่สรุปไว้ว่า

"ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส"

แต่การจะจัดตารางเวลาชีวิตเพื่อให้มีโอกาสได้ภาวนาปฏิบัติธรรมในชีวิตจริงนั้น คงไม่ต้องมีกฏเกณฑ์ตายตัวให้เป็นแบบปฏิบัติเหมือนกันไปหมด คงต้องแล้วแต่เหตุปัจจัยของใครของมันหลักการสำคัญมีเพียงว่า

1.จะทำอย่างไรที่จะกู้เวลาชีวิตวันละ 24 ชั่วโมงให้กลับมาเป็นเวลาของตัวเอง เพื่อตัวเองจะได้เจริญมรรค 8 หรือเจริญสติปัฏฐาน 4 ได้อย่างเต็มที่สักวันละ 1-3 ชั่วโมง
2.การภาวนาหรือเจริญสติปัญญาในชีวิตจริงนั้นต้อง
"ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส