ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50140
หน้า 3 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 พ.ค. 2015, 12:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

สาธุครับคุณสุชาวดี :b8:

เอ่อ...มีท่านพระสารีบุตร มีพระสาวกอีกหลายรูป แม้แต่พระองค์เองก็
เจริญอานาปานสติ อย่างเดียวก็มีครับ สว่างในที่นี้ สว่างจากถีนมิทธะก็มี!

ที่ว่าสว่างในใจ ไม่ต้องมาติดตา เป็นภาพก็มี มีจิตตั่งมั่นปราศจากอุปกิเลส
ก็ถือว่าเป็นความบริสุทธิ์ของใจได้ พอจะพิจารณาสู่ไตรลักษณ์ต่อไปได้ครับผม rolleyes rolleyes rolleyes

อานาปานสติ พอถึงดับวจีสังขาร (ละวิตกวิจารไปแล้ว [ไม่บริกรรม ไม่ตามลมเข้าลมออก])
ดับกายสังขารหยาบๆ(ถูกต้องปิติสุขด้วยนามกาย ด้วยเวทนา,สัญญา,เจตนา,สังขาร,ผัสสะ)
ดับจิตตสังขาร (ดับเวทนาและสัญญาที่เนื่องด้วยกาม เนื่องด้วยรูป(ลมเข้าออก) ก็เรียกว่าดับจิตตสังขาร)

ขั้นตอนโดยย่อๆ ก็มีเท่านี้ครับ ที่ว่าสว่างที่ใจ เพราะว่า ดับวจี ดับกาย ดับจิตตสังขารหยาบๆ เรียบร้อยแล้วนั่นเอง ก็พิจารณาสู่ไตรลักษณ์ไป ว่า กาย เวทนา จิตก่อนๆ หยาบไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา แม้กายเวทนาจิตที่ละเอียดในปัจจุบันก็ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตาเพราะอาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิด หมดเหตุปัจจัยก็ดับ แล้วก็กลับไปสู่ความเป็นอย่างเดิมอย่างเก่าอีก ฯลฯ อนุโมทนาครับสาธุ :b8:

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 28 พ.ค. 2015, 12:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

:b8: สาธุค่ะแจ่มแจ้งเลย ก่อนคิดว่าดิฉันบารมีน้อย วาสนาได้แค่นี้ เลยเพ่งตามลมทั้งตอนธรรมดาและใน
สมาธิ จิตเลยสว่างทั้งในและนอกสมาธิ นะตอนนี้ดิฉันมีความรู้เห็นในธรรมว่างานของดิฉันคือเร่ง
ฝึกจิตให้ใสยิ่งๆขึ้นไป จิตยังใสไม่พอ สาธุค่ะคุณฏีกาน้อย

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 28 พ.ค. 2015, 13:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

nongkong เขียน:
แล้วรู้ได้ไงว่าคุนน้องไม่มีครูบาอาจารย์..และอีกอย่างคุนน้องไม่รับองค์ไม่ได้ลงองค์..ขอประธานโทษอย่างคุนธรรมมาเนียะอยากลองพิสูจน์ป่ะละ
ว่าคุนน้องพูดจริงรึโกหก..คุนก็ต้องพาคุนน้องไปหาวัดศักสิทธิ์หน่อยนะ..แล้วคุนน้องจะอธิษฐานจิต
แต่คุนกล้าเอาชีวิตคุนเข้าแลกป่าวล่ะ..คุนธรรมมา
คุนธรรมมาเชื่อมั้ยว่าคุนน้องสามารถสาปคนที่มีคุนธรรมต่ำกว่าตนให้พินาศได้...คือคุนน้องยังไม่เคยลองเลย..คุนน้องอยากลองพิสูจน์เหมือนกันว่าที่แท้ตนแค่บ้า..หรือมันคือเรื่องจริง..ถ้าครั้งนี้เป็นอีกถึงจะปักใจเชื่อ..คือคุนน้องแช่งคนตายมา2 คนแล้ว แต่คนที่คุนน้องแช่งไร้ศีล พูดแต่คำโกหกหลอกลวงกับคุนน้อง..ทำร้ายคุนน้องโดยเจตนา..คนน้องเลยยกมืออธิษฐานจิตให้เขาตาย..คุนน้องถึงเชื่อไงว่าคนที่สามารถทำแบบนี้ได้มีเพียงบารมีของพระยามารเท่านั้น


เก่งขนาดกาจนั้นช่วยหน่อยได้ไหมล่ะคุณ ช่วยแช่งไอ่คนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายตายหน่อยได้ไหมล่ะ จะเป็นกุศลอย่างแรงเลยหละ เอาน่ะอีกสักคนสองคนคงไม่เป็นไรเพื่อความสุขของประเทศ

แล้วจะให้ไปหาที่ไหนล่ะจะได้ฝากตัวเป็นผู้รับใช้ เป็นบริวารให้ด้วย มองเห็นช่องทางได้ตังส์ใช้เลยนะนี่ เพื่อเผลอขอเรียนมนต์ผีบอกด้วย

เจ้าของ:  nongkong [ 28 พ.ค. 2015, 15:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

ธรรมมา เขียน:
nongkong เขียน:
แล้วรู้ได้ไงว่าคุนน้องไม่มีครูบาอาจารย์..และอีกอย่างคุนน้องไม่รับองค์ไม่ได้ลงองค์..ขอประธานโทษอย่างคุนธรรมมาเนียะอยากลองพิสูจน์ป่ะละ
ว่าคุนน้องพูดจริงรึโกหก..คุนก็ต้องพาคุนน้องไปหาวัดศักสิทธิ์หน่อยนะ..แล้วคุนน้องจะอธิษฐานจิต
แต่คุนกล้าเอาชีวิตคุนเข้าแลกป่าวล่ะ..คุนธรรมมา
คุนธรรมมาเชื่อมั้ยว่าคุนน้องสามารถสาปคนที่มีคุนธรรมต่ำกว่าตนให้พินาศได้...คือคุนน้องยังไม่เคยลองเลย..คุนน้องอยากลองพิสูจน์เหมือนกันว่าที่แท้ตนแค่บ้า..หรือมันคือเรื่องจริง..ถ้าครั้งนี้เป็นอีกถึงจะปักใจเชื่อ..คือคุนน้องแช่งคนตายมา2 คนแล้ว แต่คนที่คุนน้องแช่งไร้ศีล พูดแต่คำโกหกหลอกลวงกับคุนน้อง..ทำร้ายคุนน้องโดยเจตนา..คนน้องเลยยกมืออธิษฐานจิตให้เขาตาย..คุนน้องถึงเชื่อไงว่าคนที่สามารถทำแบบนี้ได้มีเพียงบารมีของพระยามารเท่านั้น


เก่งขนาดกาจนั้นช่วยหน่อยได้ไหมล่ะคุณ ช่วยแช่งไอ่คนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายตายหน่อยได้ไหมล่ะ จะเป็นกุศลอย่างแรงเลยหละ เอาน่ะอีกสักคนสองคนคงไม่เป็นไรเพื่อความสุขของประเทศ

แล้วจะให้ไปหาที่ไหนล่ะจะได้ฝากตัวเป็นผู้รับใช้ เป็นบริวารให้ด้วย มองเห็นช่องทางได้ตังส์ใช้เลยนะนี่ เพื่อเผลอขอเรียนมนต์ผีบอกด้วย

555 ธรรมมาเอ้ย งั้นชาติหน้าธรรมมา..มาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวคุนน้องนะ..แล้วคุนน้องแช่งพวกโกงกินบ้านเมืองให้ตายห่าไม่ได้หรอก..เพราะเค้าไม่ได้มาผูกเวรเป็นการส่วนตัวกับคุนน้อง..แต่ถ้าธรรมมาอยากลองพิสูจน์ว่าคุนน้องบ้า..ธรรมมาก็ต้องให้คุนน้องพิสูจน์ก่อนสิ..ไม่ใช่จะมากล่าวตู่ว่าร้ายคุนน้องเป็นเปรต เป็นอสูรกาย..คุนน้องย่อมมีสิทธิ์..ร้องขอความเป็นธรรม..ให้ตนเองได้มะใช่หรอธรรมมา..คุนน้องจะรู้ได้ไงว่าตนบ้าจริง..เมื่อธรรมมามากล่าวว่าคุนน้องบ้าคิดเองเออเองว่าเป็นลูกหลานเมียพระยามาร...คุนน้องไม่เก่งหรอก..แต่ธรรมมาอยู่ห่างๆคุนน้องไว้ดีกว่านะ..แต่ถ้าอยากให้คุนน้องพิสูจน์..ธรรมมาก็ต้องผูกเวรกับคุนน้องนะ..คุนน้องก็อยากรู้ใครมันจะเหนือกว่ากัน..ใครบำเพ็ญบารมีมามากกว่ากัน..แล้วคุนน้องไม่เสียดายถ้าจะต้องนับ1 ใหม่ แต่อยากสั่งสอนคนให้สะใจเล่นๆ

ปล.คนปฏิบัติธรรมย่อมพูดจริงทำจริง..อย่าเก่งแต่ปาก แน่จริงหลังไมค์ ถ้าคิดว่าคุนน้องบ้า..ก็พาคนบ้าไปพูดในวัดเพื่อพิสจน์ เพราะคนอื่นไม่มีใครใส่ใจ เห็นมีธรรมมาคนเดียว กล่าวว่าคุนน้องไม่มีครูอาจารย์บ้างล่ะ เป็นพวกเปรต อสูรกาย หาว่าเราบ้า.. คุนน้องขอใช้คำสุภาษิตนี้

ธรณีนี่นี้ ................. เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ ....... หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร ...... เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมล้าง ....... ดาบนี้คืนสนอง ฯ

เจ้าของ:  nongkong [ 28 พ.ค. 2015, 16:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

คุนน้องสารภาพความสัตย์จริงก็ได้..ก่อนหน้านี้คุนน้องอธิษฐานจิตขอพึ่งบารมีพระยามาร..เพื่อแลกกับสิ่งที่คุนน้องปราถนาทางโลก..โดยที่บารมีทั้งหมดชาตินี้ที่คุนน้องทำ..คุนน้องแบ่งให้พระยามารคือคุนน้องให้พระยามารมาอาศัยจิตคุนน้องเพื่อบำเพ็ญบารมีร่วมกัน..คุนน้องก็อยากพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้ว พระยามารเป็นแค่นิทานแต่งหลอกเด็ก หรือมีตัวตนจริงๆในพระไตรปิฎก..
คุนน้องจะได้เลิกคิดไปเองเสียที แต่คุนน้องก็ได้ในสิ่งที่คุนน้องขอนะ.นั่นคือเงิน..มีคนให้เพราะความสเน่หา..ให้คุนน้องเฉยๆ..ส่งให้ทุกเดือน..

เจ้าของ:  idea [ 28 พ.ค. 2015, 17:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
ได้ความรู้ในเรื่องที่สุชาวดีไม่เคยเกิดกับตัวเองในเรื่องเพ่งรูปกสิน ลองทำแล้ว
แต่ไปต่อไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยค่ะ สุชาวดีอยู่แต่กับตามลมหายใจ สว่างก็เกิดในใจ
ไม่เกิดที่ดวงตาเห็นแสงสว่างเลย   



:b8: สาธุค่ะ
ไอเดียก็อยู่กับลมหายใจนะคะคุณสุชาวดี
ไม่ได้เพ่งกสิน....รู้เลยว่ามีใจชอบนะคะ มันตั้งแต่เริ่มมีใจอยากทำสมาธิ
แต่พอตั้งใจจะทำ....มันก็เกิดกลัวอะไรๆไม่รู้บอกไม่ถูก คงเป็นสัญญาเก่าๆมั้งคะ
ไอเดียก็เลยภาวนาพุทโธ..ดูลมหายใจไปค่ะ
ถึงจุดๆหนึ่ง มันก็จะเริ่มมีแสงสาดมาที่ตาสว่างจ้ามากๆขึ้น
เป็นงี้บ่อยๆ ไอเดียจะพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงค่ะ
ก็จะไปสู่ความสว่างไสวทางใจ
คือก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
เพราะไม่ได้ตั้งใจ... พอสงบ...เกิดแสงเจิดจ้า....ก็เลือกพิจารณา ไปตามเห็นจริงตอนนั้น

เจ้าของ:  idea [ 28 พ.ค. 2015, 17:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
อนุโมทนาสาธุ!  

ทั้งหมด เป็นอุปกิเลส ๑๑ รวมๆ รวบยอดแล้ว ก็ยังติดใน "ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไปเป็น
เครื่องเกาะจิตให้เศร้าหมอง" ว่าจะย้ายไปคุยสองคนหลังไมค์ เพราะบางท่านอาจชอบเจริญสติปัฏฐาน แต่คุณ idea ก็ไปทำพองยุบมาสามรอบแล้ว ก็คงไม่น่าจะเป็นไร จริตคนไม่เหมือนกัน การเดินวิปัสสนาอาศัยสมถะนำก็มี บางท่านอาศัยวิปัสสนานำสมถะก็มี เอาเป็นว่า รายละเอียดที่เล่ามาทั้งหมด ใช่หมดเลย อนุโมนาสาธุครับ เก่งๆ แปะพระสูตรเอาไว้ ว่าลำดับขั้นตอน ที่เล่ามา มันเป็นตามนี้จริงๆ เช่น "มันติดตาก่อความรำคาญมากใจเลยค่ะ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน" <---- คุณ idea ลองอ่านดูครับ ตั้งแต่ข้อความที่ [๔๕๑]-[๔๖๕] อุปักกิเลสสูตร http://www.84000.org/tipitaka/read/?14/451-466

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้กับ ท่านพระอนุรุทธ ท่านเป็นเลิศด้าน ทิพยจักษุ เลยทีเดียว! 



เหมือนอย่างที่บอกคุณสุชาวดี...ไอเดียไม่ได้ตั้งใจ ทำกสิน
ไหงมันมาติดตาติดใจละคะ
สมาธิก็ถอยออกมาอ่อนกำลังไปละ...แต่ต่อจากวันนั้น
3ปี ยังติดตาติดใจไอเดียอยู่เลยค่ะ พี่ฏีกาน้อย :b9: :b9:
ยิ่งถ้าช่วงทำสมาธิถัดๆกัน2-3วัน มันเห็นแสงอะไร จับชัดง่ายมากขึ้นไปอีก
ไอเดียจะทำไรไม่ค่อยถูกค่ะ.....ตามที่แสดงความเห็นไปว่ารำคาญใจนั่นหละค่ะ :b14:
บ้างก็ไม่ใช่แสงนะคะ......จะเป็นคล้ายเมฆหมอกขาวนวล บ้างก็เหมือนเมฆเป็นก้อนลอยเคล้าเคลียบ้าง
ตรงนี้เหมือนจะได้เห็นอะไรๆด้วย :b14: มันเหมือนเราจะมองผ่านกลุ่มควัน กำลังจะเห็นภาพอยู่แล้ว
ไอเดียจะถอยเลยทุกครั้ง...เพราะเป็นคนขี้กลัว :b55: :b9:
บ้างก็ขาวนวลไปไม่มีขีดจำกัด :b9:
ไอเดียไม่ค่อยเข้าใจอ่ะค่ะ....ก็จะมองๆไป แล้วจะเน้นพิจารณา^^
:b8: :b8:
สาธุในความกรุณาค่ะ
ช่วงนี้ไอเดียติดธุระเหมือนกัน :b1: หลังจากจบคอรสเจริญสติปัฏฐาน
อย่างเข้มข้นประมาณ4วัน...อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
จะศึกษา...และถ้าสงสัยจะขอถามไปนะคะ

:b55: ปล. หลังจากได้เข้าปฏิบัติสติปัฏฐาน....ทำให้ไอเดีย....ได้รู้ว่า
คือ ตามความคิดของไอเดียนะ :b9: ............ไปทางนี้เร็วกว่าแน่
แต่ก็ตรวจสอบใจตัวเองแล้วซ้ำๆ ว่าก็ยังมั่นคง...
ในความต้องการที่จะเดินไปทางที่ถามหาอยู่ตอนนี้ค่ะ
ขอใช้คำว่ามั่นคงนะคะ.....เพราะจะอยากได้อะไรๆ ก็ไม่เห็นว่าจะใช่ค่ะ
มันอาจจะถูกจริต อย่างที่พี่ฏีกาน้อยว่ามั้งคะ
คือ...ถ้าไม่ได้เรียนรู้ สติปัฏฐาน จนได้พื้นฐานในระดับหนึ่ง
ไอเดีย...ก็คงยังไม่ถามหา....เพราะว่าจะยังกลัวที่....จะเดินไปแบบหลงทาง
แต่วันนี้...ไอเดียมั่นใจ...ว่าจะไม่หลงทางแน่ค่ะ...
คือขอเตรียมความพร้อม...ความเข้าใจ
เพราะถ้าพร้อม...จะออกเดินแบบเต็มกำลัง....
แบบว่าต้องให้แน่ใจก่อน...ว่ามีกำลังเต็มที่....ที่จะช่วยให้ไม่ติด,,ไม่หลงทาง :b39:

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 28 พ.ค. 2015, 18:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

เสียตังส์เพราะอยากได้บุญ
ทำคุณเพราะอยากได้ชิดเชื้อ
เสียเหยื่อเพราะอยากได้ปลา
อยากได้สิ่งมามันต้องลงทุน
สิ่งที่เขาค้ำจุลมันไม่ใช่ของฟรีๆ

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 28 พ.ค. 2015, 19:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
:b8: สาธุค่ะ
ไอเดียก็อยู่กับลมหายใจนะคะคุณสุชาวดี
ไม่ได้เพ่งกสิน....รู้เลยว่ามีใจชอบนะคะ มันตั้งแต่เริ่มมีใจอยากทำสมาธิ
แต่พอตั้งใจจะทำ....มันก็เกิดกลัวอะไรๆไม่รู้บอกไม่ถูก คงเป็นสัญญาเก่าๆมั้งคะ
ไอเดียก็เลยภาวนาพุทโธ..ดูลมหายใจไปค่ะ
ถึงจุดๆหนึ่ง มันก็จะเริ่มมีแสงสาดมาที่ตาสว่างจ้ามากๆขึ้น
เป็นงี้บ่อยๆ ไอเดียจะพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงค่ะ
ก็จะไปสู่ความสว่างไสวทางใจ
คือก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
เพราะไม่ได้ตั้งใจ... พอสงบ...เกิดแสงเจิดจ้า....ก็เลือกพิจารณา ไปตามเห็นจริงตอนนั้น


rolleyes สาธุด้วยค่ะที่คุณไอเดียเจอแบบที่ชอบในการฝึกสมาธิ เหมือนสุชาวดี ชอบแบบสมาธิตามลม ตามความคิดเฉยๆ แบบอื่นจะรู้เลยค่ะไม่มีความเพียร
สุชาวดีคิดว่าถ้าเราถนัดแบบไหนจะไปได้เร็วค่ะ ลองผิดลองถูกมาหลายวิธี เริ่มนั่งใหม่ๆสุชาวดีก็มีความกลัวค่ะ :b32: รู้สึกว่าสัมผัสบางอย่างที่เกิดมาเพิ่งเคยสัมผัส ในใจคิดว่าผี :b32: (ไม่รู้ว่าจิตคิดไปเองรึเปล่า) แล้วจิตก็ปรุงสิคะทีนี้ นั่งก็กลัวนอนก็กลัว บางวันนั่งสมาธิไประวังหลังไป จนเหงื่อแตกก็หลายครัง :b32: สุชาวดีกลัวแต่สู้ไม่ถอย จนความกลัวค่อยๆลดลง คุณไอเดีย สู้ให้ผ่านความกลัวนะคะ เตะให้มันกระจายเลยค่ะพี่เอาใจช่วย บางทีอาจเจอผลที่สวยงามค่ะ

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 พ.ค. 2015, 21:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

เห็นคุยเรื่อง รู้สึกกลัวๆ กล้าๆ มีนะครับ อุปกิเลส ๑๑
ที่ให้ link เอาไว้ เชิญศึกษาทำความเข้าใจดูนะครับ
ที่คุณสุชาวดีว่า ไม่เจอ แสงติดตา แต่ความสว่างของจิต
(หรือสมาธิ) ก็หายไป นั่นก็แปลว่า สมาธิเคลื่อน! พระองค์ก็ตรัสไว้แล้ว :b8:

อ้างคำพูด:
 [๔๕๕] ดูกรอนุรุทธ เรานั้นผู้ไม่ประมาท ฯลฯ ดูกรอนุรุทธ เรานั้นได้
มีความรู้ดังนี้ว่า ความหวาดเสียวแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความหวาดเสียวเป็นเหตุ
สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่างและการเห็นรูปจึงหายไป

ได้ ดูกรอนุรุทธ เปรียบเหมือนบุรุษเดินทางไกล เกิดมีคนปองร้ายเขาขึ้นที่สอง
ข้างทาง เขาจึงเกิดความหวาดเสียว เพราะถูกคนปองร้ายนั้นเป็นเหตุ ฉันใด ดูกร
อนุรุทธ ฉันนั้นเหมือนกันแล ความหวาดเสียวแลเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความ
หวาดเสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจึงเคลื่อน เมื่อสมาธิเคลื่อนแล้ว แสงสว่าง
และการเห็นรูปจึงหายไปได้ เราจักทำให้ไม่เกิดวิจิกิจฉา อมนสิการ ถีนมิทธะ
และความหวาดเสียวขึ้นแก่เราได้อีก ฯ


ไม่ว่า ลมหายใจเข้าออก หรือ เพ่งรูป เมื่อทำสมาธิแล้วต้องเจอแน่นอน
เมื่อเจอ ก็ต้องสงสัย เลยไม่ใส่ใจ นานๆ ไปเบื่อหน่าย ทำใหม่ก็กลัวๆ กล้าๆ (หวาดเสียว) :b15:

คนละตัวกำหนด แต่สภาวะเดียวกัน อนุโมทนาครับ :b39:

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 พ.ค. 2015, 21:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
ช่วงนี้ไอเดียติดธุระเหมือนกัน :b1: หลังจากจบคอรสเจริญสติปัฏฐาน
อย่างเข้มข้นประมาณ4วัน...อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
จะศึกษา...และถ้าสงสัยจะขอถามไปนะคะ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 29 พ.ค. 2015, 10:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

:b8: คุณฎีกาน้อยคะช่วยขยายคำว่า สมาธิเคลื่อนนิดค่ะยังไม่ค่อยเข้าใจเลย ขอบคุณค่ะ

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 29 พ.ค. 2015, 11:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

เช่นกำลังตั่งมั่น เป็นสมาธิ ไปสักพัก มีแสงสว่างเกิดขึ้นภายในใจ
สงบ มีปิติสุข สักเดี่ยวจิตปรุงแต่ง ให้กลัวกังวล ความตั้งมั่น คลาย!
ความสงบปิติสุขหล่นหาย! เหมือนความสว่างภายในนั้น หายไป!
ลักษณะที่เรียกว่า สมาธิเคลื่อน คลาย ไม่ตั้งมั่นครับผม :b8:

หน้า 3 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/