ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50140
หน้า 2 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 08:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

- "เพราะช่วงนี้..การทำสมาธิ จะเปลี่ยนๆไป และไม่ได้ทำบ่อยด้วยค่ะ" มีผลยังไงกับคุณภาพจิตของคุณ idea ครับผม เปลี่ยนๆ ไป เปลี่ยนตัวกำหนด หรือว่าอย่างไร?
ที่ว่าเปลี่ยน คือกำหนดลมเหมือนเดิมแหละค่ะ จิตมันคอยจะรู้ทันสิ่งที่เกิด ทางกาย เวทนา จิต ธรรม
ตามความคิดของไอเดียนะ้ ไม่รู้ว่าจะเข้าใจถูกรึเปล่า
หรือคิดไปเอง มันเหมือนไม่เป็นระเบียบเหมือนก่อน
เช่นเริ่มบริกรรม ที่ว่า วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกัคตา
จนมันจะเริ่มลดๆจนเหลือแค่ เอกัคตา เปรียบกับการทำเมื่อก่อน จะเป็นแบบนี้ใช่เลย
แต่ตอนนี้มันคอยจะไปรู้ เหมือนมันอีกแบบ
มีผลยังไงเหรอ...ก็พยายามเข้าถึง่ในความสงบเหมือนกันนะ
เหมือนทำงานภายใน แต่คนละหน้าที่
แต่ถ้าจะถามว่าฌานไหนยังไง ในแบบหลัง
มันอาจจะมีเข้ามา แต่ไม่เป็นลำดับ และเหมือนไม่ใช่เป็นไปเพื่ออย่างนั้น
มันจะไม่นิ่งอยู่นานๆอ่ะค่ะ
คือตอบได้ไม่ชัดเจนด้วย อาจจะเพราะช่วงนี้ห่างๆ
เว้นพักมากกว่าทำ เวลาทำก็ไม่ถึงชม. แย่มากค่ะ
แต่4-5วันมานี้ มีความตั้งใจมากขึ้น ก็เปลี่ยนมาใช้คำบริกรรม
พุทโธ ตามลมตลอดสาย ก็เริ่มเห็นเป็นลำดับ
แต่ก็ยังได้แค่ปล่อยคำบริกรรมได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่เหมือนกำลังใจมาเลย เดียวฉันก็ทำได้(ถ้าใช้พุทโธ..มันเหมือนมีแรงผลักดันมากกว่า)
เลยตั้งกระทู้ ปูทางไปซะไกล แต่จะเดินได้แค่ไหน
ค่อยลุ้นอีกทีค่ะ
:b55: ไม่รู้เป็นไง..ในเรื่องนี้..มีความมั่นใจที่จะทำได้
คือมองไม่เป็นเรื่องยากเลย :b9: :b9:
แต่อุปสรรคใหญ่ มันไม่ยอมทำนี่สิ
คือถ้าทำต่อเนื่องสักพัก ก็ไปยาว
แต่ก็มีเหตุให้หยุดอีกจนได้อ่ะค่ะ :b3:

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 08:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

:b8: ขอบคุณคุณนายฏีกาน้อย สำหรับคำถามนะคะ
ไอเดียตอบซะยาว ประสบการณ์โดยย่อๆหน่ะค่ะ :b9: :b9:
เผื่อคุณจะได้ช่วยแนะนำถูก...ไอเดียอาศัยการลงมือทำบ้าง..ไม่ค่อยรู้เรื่องคำศัพท์ค่ะ
:b55: หลังมานี่ไม่ได้ทำซะส่วนมากจริงๆค่ะ...ก็เลยไม่ค่อยคล่องแล้ว :b5: :b5:
Kiss ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 27 พ.ค. 2015, 10:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

ก็ติดตามอ่านอยู่นะ ฌานที่เป็นไปในอรูปฌาน
ดั้งที่เจ้าของกระทู้ถาม แต่ถูกถามกลับเลยเป๋ไปทางไหนก็ไม่รู้
เลยกลับเป๋เหมือนกระทู้เก่า เล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคย

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ค. 2015, 11:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

ธรรมมา เขียน:
nongkong เขียน:
ถามจริงทำไมเวลาทำสมาธิต้องไปให้ความสำคัญกับบัญญัติมากมาย ทำไมจะต้องนั่งสมาธิให้ได้ฌานโน่นฌานนี้ฌานนั้น..นั่งสมาธิทำใจว่างๆสงบๆระงับนิวรณ์..นี่แหละคือจิตตั้งมั่น...ถ้ามันจะเป็นฌานมันก็เป็นไปของมันเองโดยไม่จำเป็นต้องมีคำเรียกใดๆ..ขนาดคุยน้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ไม่ได้..แต่ทำไมคุนน้องรู้สึกว่าตนเองมีปัญญาเข้าใจ คำสอนพระพุทธองค์ ในเรื่อง อริยสัจสี..


คนที่ทำสมาธิโดยที่ไม่มีครูบาอาจารย์บ้ากันมาเยอะแยะแล้ว
อย่างคุณเนี่ยก็ถืออยู่ในขั้นที่จะต้องรีบรัษาแล้วครับ ปำๆเปอๆ อยู่เหมือนกันนะ เปรต อสุรกายเข้าแทรกแซง ที่เขาเรียกว่ามีองค์ลงองค์ อะไรนั่นน่ะ
เห็นเพ้อว่าเป็นลูกเป็นเมียพยามารอะไรในกระทู้ นั้นน่ะ นั่นแหละบ้าแล้ว มีผัวก็ไม่ได้ผัวตายหมด
รู้ตัวมั่งไหมว่าบ้า พอๆกันกับเจ้าของดระทู้เลย
จะเป็นพระโพธิสัตว์อะไรน่ะ

แล้วรู้ได้ไงว่าคุนน้องไม่มีครูบาอาจารย์..และอีกอย่างคุนน้องไม่รับองค์ไม่ได้ลงองค์..ขอประธานโทษอย่างคุนธรรมมาเนียะอยากลองพิสูจน์ป่ะละ
ว่าคุนน้องพูดจริงรึโกหก..คุนก็ต้องพาคุนน้องไปหาวัดศักสิทธิ์หน่อยนะ..แล้วคุนน้องจะอธิษฐานจิต
แต่คุนกล้าเอาชีวิตคุนเข้าแลกป่าวล่ะ..คุนธรรมมา
คุนธรรมมาเชื่อมั้ยว่าคุนน้องสามารถสาปคนที่มีคุนธรรมต่ำกว่าตนให้พินาศได้...คือคุนน้องยังไม่เคยลองเลย..คุนน้องอยากลองพิสูจน์เหมือนกันว่าที่แท้ตนแค่บ้า..หรือมันคือเรื่องจริง..ถ้าครั้งนี้เป็นอีกถึงจะปักใจเชื่อ..คือคุนน้องแช่งคนตายมา2 คนแล้ว แต่คนที่คุนน้องแช่งไร้ศีล พูดแต่คำโกหกหลอกลวงกับคุนน้อง..ทำร้ายคุนน้องโดยเจตนา..คนน้องเลยยกมืออธิษฐานจิตให้เขาตาย..คุนน้องถึงเชื่อไงว่าคนที่สามารถทำแบบนี้ได้มีเพียงบารมีของพระยามารเท่านั้น

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 11:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
ก็ติดตามอ่านอยู่นะ ฌานที่เป็นไปในอรูปฌาน 
ดั้งที่เจ้าของกระทู้ถาม แต่ถูกถามกลับเลยเป๋ไปทางไหนก็ไม่รู้
เลยกลับเป๋เหมือนกระทู้เก่า เล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคย


tongue
บางทีเจ้าของกระทู้ก็คิดเกินไปเลยเถิดหน่ะค่ะ คุณธรรมมา
อาจจะไม่มีพื้นฐาน...แล้วยังอยากจะ...ก้าวกระโดดไปไกล :b12:
แต่ถ้าโชคดีเจอผู้รู้..พอแนะแนวทางได้..ก็จะได้จำๆ..เอาไว้ก่อน

คือ..ไอเดียยังถามถึงแค่การเตรียมตัวด้วยหน่ะค่ะ
ยังไม่ใช่วิธีที่จะทำเดี๋ยวนี้เลย..ไม่รู้คุณธรรมมาอยากติดตามเรื่องแบบไหนเอ่ย :b1:

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ค. 2015, 12:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

คุนน้องมีความรู้สึกว่า..คุนน้องเรียนเก่งนะ..และพอรู้ว่าตนเองเก่งก็เป็นธรรมดาที่คุนน้องจะภาคภูมิใจนะ..เชื่อป่ะน้องคนนึงมาปรับทุกข์ในลานแห่งนี้..ทั้งที่ไม่ได้มีแต่คุนน้องนะให้คำแนะนำ..ถ้าคุนน้องได้แนะนำใคร...คุนน้องสามารถทำให้เทอหายทุกข์ได้..แถมหลังไมค์มาถามเรา :b32: ..คุนน้องถึงได้มั่นใจว่าคุนน้องเก่ง..คุนน้องเก่งกว่าจิตแพทย์บางคนด้วยซ้ำ..เพื่อนคุนน้องที่เป็นดอกเตอร์..เป็นครูาจารย์..ยังต้องมาปรึกษาปัญหาชีวิตกับคุนน้องเลย..แล้วคุนน้องก็สอนในสิ่งที่คุนน้องปฏิบัติมา จากประสบการณ์ตนล้วนๆ..ไม่มีอ้างอิงตำรา..แต่สอนเรื่องทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ วิธีหลุดพ้นทุกข์..สอนให้เข้าใจเรื่อง กรรม.. :b13:

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 13:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
ถามจริงทำไมเวลาทำสมาธิต้องไปให้ความสำคัญกับบัญญัติมากมาย ทำไมจะต้องนั่งสมาธิให้ได้ฌานโน่นฌานนี้ฌานนั้น..นั่งสมาธิทำใจว่างๆสงบๆระงับนิวรณ์..นี่แหละคือจิตตั้งมั่น...ถ้ามันจะเป็นฌานมันก็เป็นไปของมันเองโดยไม่จำเป็นต้องมีคำเรียกใดๆ..ขนาดคุยน้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ไม่ได้..แต่ทำไมคุนน้องรู้สึกว่าตนเองมีปัญญาเข้าใจ คำสอนพระพุทธองค์ ในเรื่อง อริยสัจสี..



tongue
ปัญญาเข้าใจ..ในอริยสัจ4
แบบท่องจำ..ปัญญาแบบพยายามเข้าใจ..คิดว่า..ใครก็น่าจะ..ทำได้ไม่ยากนะคะคุนน้อง
แต่ถ้าเป็นปัญญาแบบรู้แจ้งในอริยสัจ4 คงยากบ้างอยู่ :b9: :b9:
แล้วคำสอนพระพุทธองค์ :b8:
ก็เหมือนจะมี..พูดเรื่องฌาน
คือ :b1: ..หนทาง ก็คงจะมีหลายทางไป ก่อนจะถึงทางสายเดียวอีกที
มันคงอยู่ที่ เราจะให้ความสนใจ เรื่องแบบไหน..ไปทางไหน
ซึ่งโดยรวมแล้ว..ก็เพื่อจะให้รู้แจ้ง ในอริยสัจ4เหมือนกันนะคะ
บางที..เราก็อาจจะคิดแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา Kiss
:b55: :b55: เหมือนอย่างคุนน้อง....อาจจะ......ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกทางด้านปัญญา
แต่ไอเดีย.....อาจจะ......ปรารถนาเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาน
การให้ความสำคัญก็คงอยู่ที่ตรงนี้รึเปล่าคะ :b9: :b9:
คือ บรรลุพระนิพพานเหมือนกัน..แต่โดยทางแล้ว..เดินกันมาคนละทางไงคะ
การสะสมบารมี..ก็เลยมีเหตุให้มุ่งทำ..แตกต่างกัน แต่เพื่อจุดหมายสูงสุดที่เหมือนกัน

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ค. 2015, 13:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
ถามจริงทำไมเวลาทำสมาธิต้องไปให้ความสำคัญกับบัญญัติมากมาย ทำไมจะต้องนั่งสมาธิให้ได้ฌานโน่นฌานนี้ฌานนั้น..นั่งสมาธิทำใจว่างๆสงบๆระงับนิวรณ์..นี่แหละคือจิตตั้งมั่น...ถ้ามันจะเป็นฌานมันก็เป็นไปของมันเองโดยไม่จำเป็นต้องมีคำเรียกใดๆ..ขนาดคุยน้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ไม่ได้..แต่ทำไมคุนน้องรู้สึกว่าตนเองมีปัญญาเข้าใจ คำสอนพระพุทธองค์ ในเรื่อง อริยสัจสี..



tongue
ปัญญาเข้าใจ..ในอริยสัจ4
แบบท่องจำ..ปัญญาแบบพยายามเข้าใจ..คิดว่า..ใครก็น่าจะ..ทำได้ไม่ยากนะคะคุนน้อง
แต่ถ้าเป็นปัญญาแบบรู้แจ้งในอริยสัจ4 คงยากบ้างอยู่ :b9: :b9:
แล้วคำสอนพระพุทธองค์ :b8:
ก็เหมือนจะมี..พูดเรื่องฌาน
คือ :b1: ..หนทาง ก็คงจะมีหลายทางไป ก่อนจะถึงทางสายเดียวอีกที
มันคงอยู่ที่ เราจะให้ความสนใจ เรื่องแบบไหน..ไปทางไหน
ซึ่งโดยรวมแล้ว..ก็เพื่อจะให้รู้แจ้ง ในอริยสัจ4เหมือนกันนะคะ
บางที..เราก็อาจจะคิดแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา Kiss
:b55: :b55: เหมือนอย่างคุนน้อง....อาจจะ......ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกทางด้านปัญญา
แต่ไอเดีย.....อาจจะ......ปรารถนาเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาน
การให้ความสำคัญก็คงอยู่ที่ตรงนี้รึเปล่าคะ :b9: :b9:
คือ บรรลุพระนิพพานเหมือนกัน..แต่โดยทางแล้ว..เดินกันมาคนละทางไงคะ
การสะสมบารมี..ก็เลยมีเหตุให้มุ่งทำ..แตกต่างกัน แต่เพื่อจุดหมายสูงสุดที่เหมือนกัน

คุนน้องแนะนำกระทู้พี่วลัยพร ถ้าทีศรัทรา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา อย่างแท้จริง..รับรองพี่ไอเดียจะสามารถตอบคำถามท่านฏีกาน้อยได้..ไม่ว่าท่านฎีกาน้อยจะถามเกี่ยวกับอะไร..

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ค. 2015, 14:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

พระพุทธองค์ตรัสเรื่องฌานไว้ในพระสูตรนี้
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 041&Z=9145
คุนน้องเข้าใจตรงกับพระสูตร..ไม่ว่าจะเจริญสติปัฏฐาน4 หรือแม้ขณะทำสมาธิจนจิตตั้งมั่น..ย่อมน้อมจิตไปพิจารณาให้รู้ความเป็นจริงว่า ขันธ์5 ไม่เที่ยง
ขันธ์5เป็นกองทุกข์ เวลานั่งสมาธิพอจิตเข้าถึงความว่างความสงบ..เราจะสามารถแยกรูป แยกนามออกจากกันได้ คือ แยกกาย กับจิต ออกจากกัน..ทำให้รู้ชัดใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่ามีเกิดขึ้น..ดับลง..เกิดขึ้น..ดับลง..ตามธรรมดา..
พอออกจากสมาธิ..มาเจริญสติคุนน้องก็เห็นว่าจะนั่งสมาธิหรือไม่นั่ง..ขันธ์5ก็เป็นของมันเช่ยนั้น..ไอ้ตัวที่เข้าไปยึดในขันธ์5 ต่างหาก!!!!
การรู้ตามความเป็นจริงในขันธ์5 ทำให้เราสามารถค้นหาความจริงของเหตุแห่งกองทุกข์ทั้งหลาย

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 27 พ.ค. 2015, 15:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อนุโมทนาด้วยครับคุณ idea! :b8:

คิดหาคำชื่นชมที่ดีไม่ได้ แต่อยากชื่นชม :b44:

แล้วก็อนุโมทนาคุณธรรมมา กับคุณnongkong ด้วยนะครับ.

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
ก็ติดตามอ่านอยู่นะ ฌานที่เป็นไปในอรูปฌาน 
ดั้งที่เจ้าของกระทู้ถาม แต่ถูกถามกลับเลยเป๋ไปทางไหนก็ไม่รู้
เลยกลับเป๋เหมือนกระทู้เก่า เล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคย


tongue
บางทีเจ้าของกระทู้ก็คิดเกินไปเลยเถิดหน่ะค่ะ คุณธรรมมา
อาจจะไม่มีพื้นฐาน...แล้วยังอยากจะ...ก้าวกระโดดไปไกล :b12:
แต่ถ้าโชคดีเจอผู้รู้..พอแนะแนวทางได้..ก็จะได้จำๆ..เอาไว้ก่อน

คือ..ไอเดียยังถามถึงแค่การเตรียมตัวด้วยหน่ะค่ะ
ยังไม่ใช่วิธีที่จะทำเดี๋ยวนี้เลย..ไม่รู้คุณธรรมมาอยากติดตามเรื่องแบบไหนเอ่ย :b1:

ประเด็นนี้ก็ดีครับ คุณธรรมมา ฏีกาน้อยว่า ทุกกระทู้ก็จะมีทั้งน้ำทั้งเนื้อ
สลับๆ กันไป แปลว่าคุณธรรมมา อ่านอย่างพิจารณาอย่างใคร่ควร สาธุครับ :b8:

ในความเห็นคุณ idea ช่วงเช้า ก็ทำให้ได้ข้อมูลว่า ทำสมาธิอาศัยอะไรบริกรรม
และอาศัยสมาธิเป็นวิหารธรรม ถึงความตั้งมั่นแห่งจิตได้เพียงไหนอย่างไร
ตรงที่บอกว่า "มันจะนึกถึงสภาวะอ่ะค่ะ มันไม่ใช่แบบตั้งใจมากนะ มันนึกก็เหมือนกลืนเข้าไปค่ะ
แบบจับความรู้สึกเข้าไป ..คือมันเป็นเรื่องปกติมั้งคะ
และตอนกลางคืนจะนอน จะจับภาพเปลวเทียน ก็ไม่ยากค่ะ จิตจะจับนิ่งๆอยู่ที่ภาพนั้น
จนบางทีตื่นพร้อมภาพเปลวเทียนนั้น(ตรงนี้ทำในรอบ1เดือน)
"

ฏีกาน้อย ขอยกตัวอย่างตรงนี้ว่า นี่แหละ รูปฌาน! มีแสงสว่างเป็นอารมณ์
ส่วนลมหายใจ พองยุบสติปัฏฐาน รวมถึงว่าช่วงหลังๆ มาทำในรูปแบบและ
ได้เข้าไปปฏิบัติบ่อยๆ บวกกับศึกษา ทำความเข้าใจใน กายเวทนาจิตธรรม
ความย่อหย่อนในการภาวนาที่ลดลง ก็เหมือนต้อง เริ่มสะสมชั่วโมงบินใหม่
ทั้งหมดนี้ นี่คือขั้นตอนการเตรียมความพร้อม จากสัมมาสมาธิ ที่ได้แล้ว :b44:

คุณ idea จะทราบได้เองครับ ว่าอารมณ์ที่ทรงสมาธิได้เอง อัตโนมัติเป็นอย่างไร
รู้สึกตัว ตื่นโพลง ตั้งมั่น ก็ขอย้อนกลับไป ในประเด็นเก่าคำถามในตอนต้น

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
ต้องคล่องในฌานทั้ง4นานแค่ไหน?หรือยังไง?
ใครมีข้อแนะนำ หรือตัวช่วยในการปฏิบัติให้ได้เร็วใหมคะ

เรื่องคล่อง ต้องนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ ความพอใจของเราเองครับ
ตัวช่วย ตัวเร่ง คือความรู้พื้นฐานครับ การบ้านที่ให้ไว้ แต่ละองค์ธรรม
ที่เป็นคู่ปรับ คู่ปฏิปักษ์กับนิวรณ์มีอะไรบ้าง เหมือนที่คุณลุงหมานบอก
นั่นหมายถึง มีแผนที่ จึงค่อยออกเดินทาง!

เชิญคุณธรรมมา นะครับหรือกัลยาณมิตรท่านใด จะแนะนำวิธีต่อยอดจาก
จตุตถฌานเป็นบาทฐานอารมณ์ แล้วขึ้นสู่ อรูปฌาน (โดยติ๊ต่าง)ว่า ทรง
อารมณ์ในจตุตถฌาน มีเอกัคคตามีอุเบกขา จิตตั่งมั่นดีแล้ว

ฏีกาน้อยถามคำถาม คุณ idea เพื่อทราบส่วนตัวเฉยๆ ว่าอาศัยอะไรบริกรรม
เป็นสัมมาสมาธิรึเปล่า ได้คำตอบแล้ว ว่าเคยได้เคยทำและยกตัวอย่างในตอน
ที่กำหนด เปลวเทียน ฏีกาน้อยก็เคยใช้ มันกึ่งๆ ระหว่างเตโชกสิน กับอาโลกกสิน
ถ้าไม่มีความรู้! ก็ไปไม่ถูกอีก จากไฟนวลๆ จะกลายเป็น แสงสว่างแบบกลางวัน
เจิดจ้า! เหมือนคนส่องไฟใส่ตาได้อย่างไร จะยังเป็นเพียงแค่ อุคคหนิมิต
ภาพติดตาติดใจ ยังไม่เป็นปฏิภาคนิมิต :b15:

ที่คุณ idea ตื่นมาพร้อมนิมิตเปลวเทียน นั่นแหละ อุคคหนิมิต เป็นอุปจารสมาธิ
ในฌานนั้นๆ (ไม่ต้องระบุ ติ๊ต่างว่าได้ฌาน) การจะขึ้นอรูปได้ ก็ต้องทำรูปคล่องๆ
กำหนดย่อ กำหนดขยาย(ปฏิภาคนิมิต)ได้ จะมีอยู่ไม่กี่ กรรมฐานจำไม่ได้

ที่แน่ๆ ก็กสิณนี่แหละครับ ถึงจะต่อไป อรูปได้ง่าย....... (เอ่อ...มีธุระ)

@@@@@


เชิญอีกครั้งนะครับคุณธรรมมา ผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่นๆ คุณลุงหมาน ที่เข้าใจเรื่อง
อรูปฌาน (ติ๊ต่าง เรื่องฌานก็ปัจจัตตังเนาะครับ :b8: ) มาช่วยกันแนะนำแนวทาง
ต่อยอด จากรูปฌาน ขึ้นอรูปฌานด้วยกันครับ ถ้ายังมีประเด็นเรื่องอรูป :b15:

สาธุกับคุณ idea ด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุ :b8:

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 17:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

:b8: สาธุค่ะคุนน้อง
Kiss ไอเดียก็หวังว่า...จะมีศรัทธา,,วิริยะ,,สติ,.สมาธิ,,ปัญญา ให้มากแบบเท่าเทียมกัน
จะได้พัฒนาให้มากขึ้นค่ะ :b29:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

อ้างคำพูด:
กำหนด เปลวเทียน ฏีกาน้อยก็เคยใช้ มันกึ่งๆ ระหว่างเตโชกสิน กับอาโลกกสิน
ถ้าไม่มีความรู้! ก็ไปไม่ถูกอีก จากไฟนวลๆ จะกลายเป็น แสงสว่างแบบกลางวัน
เจิดจ้า! เหมือนคนส่องไฟใส่ตาได้อย่างไร จะยังเป็นเพียงแค่ อุคคหนิมิต
ภาพติดตาติดใจ ยังไม่เป็นปฏิภาคนิมิต 


ขอโทษนะคะพี่ฏีกาน้อย(ขอเรียกพี่นะคะ)
ไอเดีย..ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะค่ะ :b9: :b9:
สรุปว่า
แสงสว่างแบบกลางวันเจิดจ้า! เหมือนคนส่องไฟใส่ตาได้อย่างไร
อันนี้ถูกหรือไม่ถูกคะ :b10:
คือมันเป็นแบบนั้นเวลานั่งสมาธิ จากน้อยๆมากขึ้นๆ อันนี้เป็นปกติสำหรับไอเดีย..ถ้าทำไปถึงจุดๆหนึ่งนะ
ทุกวันนี้เวลาเห็นแสงแฟรช,,,แสงไฟ,,แม้แต่ไฟแดงเบรคท้ายรถ,,หรือสีสดๆ,,แสงลอดช่องประตู,,ฯลฯ
มันติดตาก่อความรำคาญมากใจเลยค่ะ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน
บางทีแค่มองไปลอยๆ เช่นท้องฟ้าขาวๆกลางวันนะคะ มันจะเห็นเป็น เหมือนลูกแก้วใสๆเม็ดเล็กๆ
บางทีซ้อนๆกันหลายๆเม็ด หากพยายามเพ่งมันจะรวมตัวกันเป็นเม็ดเดียว
ใหม่ๆคิดว่ามีปัญหาทางสายตาอ่ะค่ะ ..แต่ไปตรวจมาหมดแล้ว :b9: :b9:
:b43: คือ ถ้าช่วงไหนพอมีสมาธิมากก็พอดีอยู่..ก็แค่รู้ไง
แต่ถ้าพอมีๆหายๆ คงที่ไม่ได้ ก็ยังทำให้เป็นทุกข์
เพราะมันคอยแต่จะเข้าไปควบคุมอ่ะค่ะ มองตาม มันก็ไหลๆ ปวดตามากเลย
คือ ถ้าสติมันไม่เต็มที่ มันจะเป็นแบบนี้ มันติดตา ทั้งที่ลืมตาเลยนะคะ
ก็ไม่รู้จะทำไง..บางทีก็ได้แต่พิจารณาให้เห็นทุกข์ ไปค่ะ :b9: :b9:
อันนี้เป็นปัญหามากเลย..สำหรับไอเดีย..
หรือ ควรจะเอามาฝึกต่อยอด บางทีคิดอย่างนั้น เพราะไอเดียจะจับภาพได้ง่าย แต่หลีกเลี่ยงอ่ะค่ะ

เจ้าของ:  idea [ 27 พ.ค. 2015, 18:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

อ้างคำพูด:
การจะขึ้นอรูปได้ ก็ต้องทำรูปคล่องๆ


หมายถึงจับภาพ
นึกเวลาไหนก็ได้
รวมทั้งสามารถให้อยู่ได้นานเท่าที่พอใจ
ใช่ใหมคะ
ถ้างั้น....การนั่งสมาธินานๆ อยู่กับรูปฌาน ตรงนี้สำคัญ
ต้องทำบ่อย ให้ชิน ถึงจะคล่องตัว :b5: :b5: :b5:
:b8: :b8: :b8:
ขอบคุณพี่ฏีกาน้อยมากนะคะ
Kiss

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 พ.ค. 2015, 11:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
กำหนด เปลวเทียน ฏีกาน้อยก็เคยใช้ มันกึ่งๆ ระหว่างเตโชกสิน กับอาโลกกสิน
ถ้าไม่มีความรู้! ก็ไปไม่ถูกอีก จากไฟนวลๆ จะกลายเป็น แสงสว่างแบบกลางวัน
เจิดจ้า! เหมือนคนส่องไฟใส่ตาได้อย่างไร จะยังเป็นเพียงแค่ อุคคหนิมิต
ภาพติดตาติดใจ ยังไม่เป็นปฏิภาคนิมิต 


ขอโทษนะคะพี่ฏีกาน้อย(ขอเรียกพี่นะคะ)
ไอเดีย..ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะค่ะ :b9: :b9:
สรุปว่า
แสงสว่างแบบกลางวันเจิดจ้า! เหมือนคนส่องไฟใส่ตาได้อย่างไร
อันนี้ถูกหรือไม่ถูกคะ :b10:
คือมันเป็นแบบนั้นเวลานั่งสมาธิ จากน้อยๆมากขึ้นๆ อันนี้เป็นปกติสำหรับไอเดีย..ถ้าทำไปถึงจุดๆหนึ่งนะ
ทุกวันนี้เวลาเห็นแสงแฟรช,,,แสงไฟ,,แม้แต่ไฟแดงเบรคท้ายรถ,,หรือสีสดๆ,,แสงลอดช่องประตู,,ฯลฯ
มันติดตาก่อความรำคาญมากใจเลยค่ะ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน
บางทีแค่มองไปลอยๆ เช่นท้องฟ้าขาวๆกลางวันนะคะ มันจะเห็นเป็น เหมือนลูกแก้วใสๆเม็ดเล็กๆ
บางทีซ้อนๆกันหลายๆเม็ด หากพยายามเพ่งมันจะรวมตัวกันเป็นเม็ดเดียว
ใหม่ๆคิดว่ามีปัญหาทางสายตาอ่ะค่ะ ..แต่ไปตรวจมาหมดแล้ว :b9: :b9:
:b43: คือ ถ้าช่วงไหนพอมีสมาธิมากก็พอดีอยู่..ก็แค่รู้ไง
แต่ถ้าพอมีๆหายๆ คงที่ไม่ได้ ก็ยังทำให้เป็นทุกข์
เพราะมันคอยแต่จะเข้าไปควบคุมอ่ะค่ะ มองตาม มันก็ไหลๆ ปวดตามากเลย
คือ ถ้าสติมันไม่เต็มที่ มันจะเป็นแบบนี้ มันติดตา ทั้งที่ลืมตาเลยนะคะ
ก็ไม่รู้จะทำไง..บางทีก็ได้แต่พิจารณาให้เห็นทุกข์ ไปค่ะ :b9: :b9:
อันนี้เป็นปัญหามากเลย..สำหรับไอเดีย..
หรือ ควรจะเอามาฝึกต่อยอด บางทีคิดอย่างนั้น เพราะไอเดียจะจับภาพได้ง่าย แต่หลีกเลี่ยงอ่ะค่ะ

อนุโมทนาสาธุ! rolleyes

ทั้งหมด เป็นอุปกิเลส ๑๑ รวมๆ รวบยอดแล้ว ก็ยังติดใน "ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไปเป็น
เครื่องเกาะจิตให้เศร้าหมอง" ว่าจะย้ายไปคุยสองคนหลังไมค์ เพราะบางท่านอาจชอบเจริญสติปัฏฐาน แต่คุณ idea ก็ไปทำพองยุบมาสามรอบแล้ว ก็คงไม่น่าจะเป็นไร จริตคนไม่เหมือนกัน การเดินวิปัสสนาอาศัยสมถะนำก็มี บางท่านอาศัยวิปัสสนานำสมถะก็มี เอาเป็นว่า รายละเอียดที่เล่ามาทั้งหมด ใช่หมดเลย อนุโมนาสาธุครับ เก่งๆ แปะพระสูตรเอาไว้ ว่าลำดับขั้นตอน ที่เล่ามา มันเป็นตามนี้จริงๆ เช่น "มันติดตาก่อความรำคาญมากใจเลยค่ะ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน" <---- คุณ idea ลองอ่านดูครับ ตั้งแต่ข้อความที่ [๔๕๑]-[๔๖๕] อุปักกิเลสสูตร http://www.84000.org/tipitaka/read/?14/451-466

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้กับ ท่านพระอนุรุทธ ท่านเป็นเลิศด้าน ทิพยจักษุ เลยทีเดียว! :b8:

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 พ.ค. 2015, 11:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

idea เขียน:
อ้างคำพูด:
การจะขึ้นอรูปได้ ก็ต้องทำรูปคล่องๆ


หมายถึงจับภาพ
นึกเวลาไหนก็ได้
รวมทั้งสามารถให้อยู่ได้นานเท่าที่พอใจ
ใช่ใหมคะ
ถ้างั้น....การนั่งสมาธินานๆ อยู่กับรูปฌาน ตรงนี้สำคัญ
ต้องทำบ่อย ให้ชิน ถึงจะคล่องตัว :b5: :b5: :b5:
:b8: :b8: :b8:
ขอบคุณพี่ฏีกาน้อยมากนะคะ
Kiss

ตรงนี้หมายถึง จะต่อยอดนะครับ สรุปให้เข้าใจง่ายๆ พระสูตรข้างบน พูดเรื่องหมายถึง พระองค์แสดงเรื่องที่พระองค์เอง พระสาวก ทำรูปฌาน แล้วเกิดแสงสว่าง(อาโลกกสิณ) เกิดรูป(สัญญาต่างๆ) คนที่ภาวนาเป็นแต่เอาแค่ฌานต้นๆ ก็จะติดแค่ รูปสัญญาต่างๆ ไม่ไปไหน หลงว่าตัวเองเก่งซะเยอะ ถ้าพอใจฌานต้นๆ ตรงนี้ก็ไม่ว่ากัน ก็ทำไป ในพระสูตรจะพูดถึง อุปกิเลสตัวหนึ่ง ตัวตัณหาคอยกระซิบ อันนี้แหละ ทำให้หลงว่าฉันรู้ฉันเห็น ฉันมีตาทิพย์ ตรงนี้คือ เพ่งรูปเกินไป ในรูปฌาน จะต้องไม่ไปติดทั้งแสงสว่าง ไม่ไปติดทั้งรูปนิมิตรูปสัญญาต่างๆ เพราะถ้าติด รูปสัญญาต่างๆ ติดตัณหาคอกระซิบ ก็อยู่ตรงนี่แหละ จบ

แต่ถ้าจะต่อยอด ก็ต้องกำหนดให้ถูก เพราะขึ้นอรูปต้อง เพิกแสงสว่าง และเพิก....สัญญาอีก ๓ ตัวในอรูป! อุบไว้ก่อน ค่อยๆ ไปทีละนิดๆ ค่อยๆ ทำความเข้าใจ ว่าตัวเราเองติดอะไรใน อุปกิเลส ๑๑ ตัว ตั้งแต่ วิจิกิจฉา อโยนิโสมนสิการ เพียรเกิน เพียรหย่อน สมาธิน้อย สมาธิมาก ลองศึกษาดู ค่อยๆ ไปครับ หากอ่านพระสูตรแล้ว มีข้อส่งสัย สอบถามมานะครับผม อนุโมทนาสาธุ :b8:

เจ้าของ:  สุชาวดี [ 28 พ.ค. 2015, 12:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อรูปฌาน ควรเตรียมความพร้อมยังไงคะ

:b8: :b8: :b8: ได้ความรู้ในเรื่องที่สุชาวดีไม่เคยเกิดกับตัวเองในเรื่องเพ่งรูปกสิน ลองทำแล้ว
แต่ไปต่อไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยค่ะ สุชาวดีอยู่แต่กับตามลมหายใจ สว่างก็เกิดในใจ
ไม่เกิดที่ดวงตาเห็นแสงสว่างเลย s002 s002 s002

หน้า 2 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/