มีอจลศรัทธาพุทธภูมิแต่อนาคตถึงเบื่อหน่าย
อะไรเป็นเหตุให้ลาพุทธภูมิ สาเหตุ
1.วัฏสงสารยาวนาน
2.หลงสงสารไปเป็นสัตว์หลายชาติ
3.เบื่อหน่าย
4.อินทรีย์หย่อน
5.หมดบุญ

เหตุที่จะช่วยให้พุทธภูมิสำเร็จ
1.บารมี30ทัศ
2.อจลศรัทธา
3.สร้างธาตุตนเองจนเข้มแข็ง เรียกว่าปรักมธาตุ
4.ปฏิบัติธรรม
5.อธิษฐานให้เกิดเป็นชายในสมัยพระพุทธเจ้าและบวชในสมัยพระพุทธเจ้า
6.พุทธการกธรรมกับพระพุทธเจ้า
7.อธิษฐานคู่บารมี
8.พหุสูตร
9.ฉลาดในธรรมฉลาดในบุญ คือการพบอรหันต์และทำบุญ
10.คบสัตบุรุษ
11.ฝึกฝนความรู้หรือฝึกตรัสรู้ ความรู้ใหม่ๆ
12.ฉลาดในเจโตวิมุติและปัญญาวิมุติ
13.บันลือสีหนาทสรรเสริญพระพุทธเจ้าและสวดมนต์บ่อยๆ
14.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายทั้งปวง ถ้าประมาทเป็นหนทางแห่งความตายคือขาดโอกาสทำความดี

เหตุที่จะช่วยให้พุทธภูมิสำเร็จ หาอ่านได้จากพระอาการวัตตาสูตร

ตัวแดงๆ...นั้น..ผมไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น..นะ

ไม่รู้ว่าคุณยุตเอามาจากไหน...

แต่ที่ผมพบ..ท่านลาพุทธภูมิ..มี 2 อย่าง
ท่านหนึ่ง...เบื่อหน่าย..สังคมพระ...หากไม่หมดกิเลสตอนนี้..คงได้ฆ่าพระตกนรกไปอีกนาน (แล้วก็คงพาสาวกลงไปด้วย)
อีกท่าน...สงสารผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อมาเป็นสาวก..มาด้วยกัน...บางส่วนบางคน...จะหลงบุญ..จะหมดบุญ.....แล้วก็ตกนรกไปอีกนาน (ท่านนี้ตัดสินใจตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว..)

อันนี้ไม่เข้าใจง่ะ

ไม่เข้าใจตรงไหนคับ..อิอิ

เอาใหม่...

สงสารคนที่บำเพ็ญสะสมบุญมาด้วยกัน..(เป็นสาวก)...บางคนจะต้องตกนรก..เพราะ..หลงบุญจนหมดบุญ...หลงฤทธิ์จนไปทำบาป(บางทีมันก็จำเป็นแบบโลกๆ...คือไม่ฆ่าเขา..เขาก็ฆ่าพวกเรา)...แล้วก็จะตกนรกไปอีกนาน...จนคลาดจากกันในวันที่ท่านตรัสรู้

ท่านยอม..สละ...ความเป็นพระพุทธเจ้า...เพื่อ...คนอื่น...(น้ำตาจะไหล)

ความเป็นพระพุทธเจ้าของท่าน..สวยงามมาก...สวยงามจนขนาดที่ว่า..เรางง..ว่า..สละได้งัย

อย่าลืมนะค่ะว่า..นักสร้างบารมีตามกันมา..เค้ามีกระแสบุญชนิดนึง...คือเป็นจิตใต้สำนึกติดตัวมานะ..เป็นจิตที่มีลักษณะเฉพาะตนคือมีวาสนาเก่า ความคิดจะแตกต่างคนทั่วไป.มีความรู้สึกละอายเวลาจะทำเรื่องผิด.มันจะมีสัญญาผุดขึ้นมา..และมักถามตนเองเสมอเวลาทำเรื่องงี่เง่า.. .แม้จะหลงยังไง..ก็มีกลุ่มที่มีสายสัมพันธ์ทางจิต..ดึงกลับเข้ามาสายเดิม..หรือบางทีก็มีแรงผลักดันให้เข้าหาเส้นทางธรรมไปเลย..

ดูจิ น้ำตาจะไหลเชียวนะนี่

แม่น้องก้องมาดูอาการจิ๊ ว่าอาการอย่างนี้หมายความว่า
ท่านอ๊บซ์มีเรื่องแปลก ๆ คับอกคับใจอยู่ใช่อ๊ะป่าวววว

ขนาดมีธาตุขันธ์ร่างกาย..พูดคุยกันตรงๆ..ต่อหน้า.ได้...ยังไม่ค่อยจะฟังกันเลย...

แล้วถ้ามาเป็นเพียง..ในฝันบ้าง...ดลให้คิดได้ในใจบ้าง...เตือนให้ทำสมาธิแบบผีอำบ้าง...ฯลฯ...จะฟังกันหรือ....อิอิ

เห็นแต่หาทางไล่ผีกันก็หลายคน...เห็นๆกันอยู่นิ...

มันเป็นไปไม่ได้ที่สาวกที่สร้างบารมีร่วมกับพระพุทธเจ้าจะคลาดกัน...องคุลีมาร..ฆ่าคนมาตั้งมาก..พระพุทธเจ้ายังเสด็จไปโปรด...หมู่คณะที่บำเพ็ญเป็นสาวก..พระพุทธเจ้าไม่ปล่อยให้ตกนรกค่ะ...ถ้าจะมีเหตุให้ตก..ยังงัยก็ต้องรอมันขึ้นมาก่อน..รึลงไปช่วยมันก่อน..คุนน้องเชื่อมั่นเช่นนี้นะ แต่ส่วนใหญ่ไม่ตกหรอก..ถ้าจะตกก็คงแนวพระนางมัลลิกา..คือจิตเศร้าหมองตอนตาย..แต่ยังไงก็ไปโผล่ที่สวรรค์อยู่ดีแหละนะ

ยุคสมัยพระพุทธเจ้าของเรา...ผมว่า..คนมาสละพุทธภูมิกันเยอะนะคับ

เพราะ...อายุศาสนา 5000ปี..แต่พระชนมายุพระพุทธองค์แค่ 80 ปี

ส่วนที่เหลือ..จึงต้องช่วยๆกัน..หลายๆคน

ทั้ง...ที่อยู่ในพุทธภูมิอยู่..และสละพุทธภูมิ

อ่อ..เพิ่มเติม..คือ...แล้วก็มีพระไตรปิฎก...ใว้เป็นKey word รอบางคน

อันนี้ก็ต้องขอบคุณ..คนท่องมนต์..เรียนมนต์...สืบต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน..และสืบต่อๆกันไป

ใช่ครับ...
ส่วนใหญ่ 95 % ไม่ตก

ส่วนน้อย..5 % ตก

พระพุทธเจ้าไม่สามารถทำหน้าที่ ความเป็นพระพุทธเจ้าได้..ถ้าขาดอัครสาวก..การปราถนาโพธิญาณต้องทำกันเป็นทีมเป็นหมู่คณะ..เหมือนมีประธาน..ก็ต้องมีพนักงาน..ดูแลหน่วยต่างๆ..เพื่อความสมดุล..เพื่อความพร้อม..เพื่อกิจที่จะทำ..ทุกคนถึงต้องรวมตัวกันให้ครบ...

แม่นแล้ว....

ท่าจะเป็นเรื่องเป็นราวที่ทำให้อ๊บซ์สะเทือนใจจริง ๆ
ดูเหมือนอารมณ์จะตกค้างมาตั้งแต่ที่สนทนากับคุณเต้แล้ว

ไม่เข้าใจค่ะ รึท่านกบจะคิดมากว่า..ตนเองจะเป็นคนส่วนน้อย คือ กลุ่ม 5%