ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อารมณ์ ไม่ใช่ จิต http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48991 |
หน้า 11 จากทั้งหมด 17 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 06 ม.ค. 2015, 07:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: สมาบัติ8 พอคุ้นหูอยู่บ้างค่ะ ก็คือผู้ได้ฌาน1-8 ก็สามารถเข้าถึง นิโรธสมาบัติได้ คือทำให้เกิดขึ้นได้ใช่ใหม ตรงนี้ต้องเกิดจากความตั้งใจ ตั้งแต่ครั้งแรกเลยใหม เมื่อไปถึงแล้วถึงรู้(คือเมื่อออกมาถึงค่อยรู้)หรือรู้ตั้งแต่ก่อนไป เป็นเรื่องที่ต้องฝึกกันใหมคะ หรือได้แล้วก็สามารถทำได้ง่ายๆ **คำถามต่อนี้ขอไม่เปรียบเทียบสมาบัติ เพราะอาจจะมีคำอะไรที่ใกล้เคียงอีก ฟังแล้วเป็นเรื่องที่คนธรรมดาทำได้ยาก เอาเป็นว่าเป็นความดับสิ้นตัวรู้ ทุกอย่าง มีใหม ที่จะมีบางคนได้สัมผัสแล้ว สุขล้ำ(เมื่อออกมาแล้วนะ เพราะในขณะนั้นคงไม่รับรู้อารมณ์ใด แล้วยังจะมีความ*หวั่น *กลัวก็ไม่เชิง เพราะเชื่อมั่นสัมผัสได้แล้ว ถึงการหายไปหมดสิ้นจริง การเข้านิโรธสมาบัติจะต้องชำนาญในการเข้าออกจากฌานจนคล่องแคล่ว หมายถึงจะเข้าตรงไหนออกตรงไหนก็ได้ หรือจากต้นไปหาปลายหรือจากปลายไปหาต้นก็ได้ แต่การเข้านิโรธสมาบัติจะต้องออกจากฌานก่อนตรงฌานที่ ๔ ตรงจตุตถฌานเพื่อตรวจดู ทำบุพพกิจ ๔ อย่างก่อน ทำบุพพกิจ ๔ อย่าง เหล่านี้ คือ ๑. การอธิษฐานให้บริขารต่าง ๆ ของตนพ้นจากภัยอันตราย (นานาพัทธอวิโกปนะ) ๒. การอธิษฐานให้ออกจากนิโรธสมาบัติได้ทันที เมื่อพระพุทธเจ้าต้องการพบตัว (สัตถุปักโกสนะ) แต่สมัยนี้ ยกเว้นข้อนี้ ๓. การอธิษฐานว่า เมื่อสงฆ์ประชุมกัน หากต้องการพบตัวข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ออกจากนิโรธสมาบัติ ทันเวลาประชุม (สังฆปฎิมานนะ) ๔. การอธิษฐานกำหนดเวลาเข้านิโรธสมาบัติ (อัทธานปริจเฉทะ) จะต้องตรวจดูก่อนว่า จะมีอายุอยู่ถึง ๗ วันหรือไม่ถ้าไม่ถึง ๗ วันท่านก็จะไม่เข้า การเข้านิโรธสมาบัติ จิตเจตสิก ดับ ลมหายใจดับ กรรมไม่ดับ กรรมยังอยู่ ชีวิตยังอยู่ อุตุยังอยู่ตลอดไป อาหารจะยังอยู่ได้ไม่เกิน ๗ วัน การเข้านิโรธสมาบัติก็เหมือนกับเข้านิพพานเพียงชั่วคราว เมื่อเข้านิโรธสมาบัติอยู่ จิตเจตสิกก็ดับ การรับรู้อะไรก็ต้องดับด้วย เมื่อออกจากนิโรธสมาบัติ จิตเจตสิก ลมหายใจก็มีเหมือนเดิม |
เจ้าของ: | idea [ 06 ม.ค. 2015, 08:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
แล้วถ้าไม่ใช่การเข้านิโรธสมาบัติ การทำสมาธิ มีสติรู้กับปัจจุบันอารมณ์ แล้วเกิดความดับสิ้นทุกอย่าง ไปเพียงชั่วขณะ คล้ายสัมผัสได้ถึงความเบาหวิว ดั่งเส้นใยใหมจะขาดออกจากกันอย่างแผ่วเบาที่สุด หรือเหมือนเราค่อยหรี่แสงตะเกียงที่ละน้อยๆๆจนดับไป แล้วเร่งคืนกลับคืนมา เรียกว่าอะไรคะ ขอบคุณ คุณลุงหมาน ให้ความรู้ในบทสนทนามากมายค่ะ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 06 ม.ค. 2015, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: แล้วถ้าไม่ใช่การเข้านิโรธสมาบัติ การทำสมาธิ มีสติรู้กับปัจจุบันอารมณ์ แล้วเกิดความดับสิ้นทุกอย่าง ไปเพียงชั่วขณะ คล้ายสัมผัสได้ถึงความเบาหวิว ดั่งเส้นใยใหมจะขาดออกจากกันอย่างแผ่วเบาที่สุด หรือเหมือนเราค่อยหรี่แสงตะเกียงที่ละน้อยๆๆจนดับไป แล้วเร่งคืนกลับคืนมา เรียกว่าอะไรคะ ขอบคุณ คุณลุงหมาน ให้ความรู้ในบทสนทนามากมายค่ะ สภาวะแบบนี้สัมผัสมาจริงหรือนึกเอามาเพียงเพื่อถาม |
เจ้าของ: | idea [ 07 ม.ค. 2015, 06:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
เรื่องที่เล่าไม่ใช่เป็นปัญหา เพราะหากไม่ถามก็ไม่คิดจะเล่าอยู่แล้วค่ะ ชั่งใจอยู่ แต่คิดว่าคุณลุงตอบมาให้อยู่เรื่อย หากถามกลับมาบ้างก็คงต้องตอบ ตรงนี้เห็นชัด เป็นเรื่องที่ยังแคลงใจอยู่ค่ะ ยังติดอยู่ ถึงได้พยายามถามถึงแต่ละอารมณ์จาก หลายๆคำถามก่อนหน้านี้ ว่านั่นคืออะไร นี่เรียกอะไร เป็นไปได้ใหม ทำแล้วอันตรายใหม ทำแบบนี้ แล้วต่อจากนี้ๆ คืออะไร แล้วแต่จังหวะในคำตอบ จะทำให้ถามต่อไปได้ *เพราะหลังจากวันนั้นจนวันนี้หนึ่งเดือนก็ยังไม่ได้ทำสมาธิ คำถามจึงออกจะถามอะไรแปลกๆ เพราะคิดว่าใช่/ไม่ใช่ มีแนวไหนที่จะเป็นไปได้อีก ซึ่งไม่ถามต่อก็ได้ค่ะ ก็พยายามด้วยตนเองต่อไป ขอบคุณคุณลุงอีกครั้งค่ะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 ม.ค. 2015, 07:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
ทำไมถึงลบ...ข้อปฏิบัติที่ทำ...ที่พบมา...ละครับ |
เจ้าของ: | idea [ 07 ม.ค. 2015, 07:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
ที่ตรงนี้ เริ่มจากมีเหตุจูงใจให้ตั้งคำถาม มาเรื่อยๆ ด้วยการอยากรู้คำตอบ เพื่อเป็นประโยชน์ ชนิดที่แบบเฝ้าติดตามเลยค่ะ *เพราะเป็นปัญหาสำหรับตัวเอง แต่เมื่อต้องจบท้ายด้วย เจ้าของกระทู้ท่านคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล่า ไม่จำเป็นต้องตอบอีก เลยเกรงใจ และผิดประเด็นของตัวเอง คงเพราะไอเดียสื่อไปไม่ชัดเจนหน่ะค่ะคุณกบ ว่าเป็นปัญหาที่ต้องการคำตอบ จึงลบออก แต่ก็ได้ความชัดเจนมาประมาณหนึ่ง |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 ม.ค. 2015, 09:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
ลองไปตั้งกระทู้...ของตัวเองดูซิครับ..คุณไอเดีย |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 ม.ค. 2015, 09:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
เมื่อเดินทางบนถนนสายเกิดยังไงเสียมันก็ดับ เมื่อมันมีดับมันก็ต้องมีเกิดตามวงจรของถนนสายนี้ จะแตกต่างกับผู้ที่เดินบนถนนสายดับ เมื่อมันดับมันก็จะไม่มีเกิดอีก http://www.youtube.com/watch?v=hpwydcrA-rE คงอาจจะพอเข้าใจได้ง่ายๆ |
เจ้าของ: | idea [ 08 ม.ค. 2015, 12:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
b8: ค่ะลุงหมาน ตั้งใจจะไปให้ถึงพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้ อธิษฐานไว้มาก แต่ปฏิบัติไม่มาก แค่เป็นช่วงๆ แต่ก็พยายามหมั่นตรวจดูใจตัวเองถึงสิ่งดีชั่วบ่อยๆ อันไหนละได้ ละยังไม่ได้ เมื่อปฏิบัติไม่มาก พอถึงซึ่งความดับไปตรงนี้ เลยไม่มั่นใจ ว่าถ้าหากใช่สภาวะนิพพาน คงจะเร็วเกินไปที่จะเกิดขึ้น จึงกลัวหลงไปทางไหนหน่ะค่ะ ปัญญาไม่ถึง ถึงกับคิดว่าเมื่อใช่แล้ว ไม่อยากไป ตรงนี้น่าอายจังค่ะ แต่อย่างที่บอกทบทวนดูแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่ตามรู้ ปล่อยไปตามธรรมชาติ คงต้องค้นดูใจตัวเองให้ได้ละค่ะ ว่าติดอะไร |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 08 ม.ค. 2015, 12:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: แล้วถ้าไม่ใช่การเข้านิโรธสมาบัติ การทำสมาธิ มีสติรู้กับปัจจุบันอารมณ์ แล้วเกิดความดับสิ้นทุกอย่าง ไปเพียงชั่วขณะ คล้ายสัมผัสได้ถึงความเบาหวิว ดั่งเส้นใยใหมจะขาดออกจากกันอย่างแผ่วเบาที่สุด หรือเหมือนเราค่อยหรี่แสงตะเกียงที่ละน้อยๆๆจนดับไป แล้วเร่งคืนกลับคืนมา เรียกว่าอะไรคะ เรียกว่า จิตตกภวังค์ แล้วก็ออกจากภวังค์ |
เจ้าของ: | idea [ 08 ม.ค. 2015, 13:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
จิตตกภวังค์คืออะไร สติตามไม่ทันหรือคะ |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 08 ม.ค. 2015, 13:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: จิตตกภวังค์คืออะไร สติตามไม่ทันหรือคะ จิตตกภวังค์ ด้วยอำนาจสติสมาธิ สติตามอยู่ตรงนั้นครับ ถ้าหลับหรือ สัปปะหงก ไม่ใช่ตกภวังค์ครับ จึงไม่มีสติครับ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 ม.ค. 2015, 15:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: b8: ค่ะลุงหมาน ตั้งใจจะไปให้ถึงพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้ อธิษฐานไว้มาก แต่ปฏิบัติไม่มาก แค่เป็นช่วงๆ แต่ก็พยายามหมั่นตรวจดูใจตัวเองถึงสิ่งดีชั่วบ่อยๆ อันไหนละได้ ละยังไม่ได้ เมื่อปฏิบัติไม่มาก พอถึงซึ่งความดับไปตรงนี้ เลยไม่มั่นใจ ว่าถ้าหากใช่สภาวะนิพพาน คงจะเร็วเกินไปที่จะเกิดขึ้น จึงกลัวหลงไปทางไหนหน่ะค่ะ ปัญญาไม่ถึง ถึงกับคิดว่าเมื่อใช่แล้ว ไม่อยากไป ตรงนี้น่าอายจังค่ะ แต่อย่างที่บอกทบทวนดูแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่ตามรู้ ปล่อยไปตามธรรมชาติ คงต้องค้นดูใจตัวเองให้ได้ละค่ะ ว่าติดอะไร การอธิษฐานมันเป็นเพียงแค่ตั้งใจเท่านั้น เหมือนต้องการอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ แล้วใช้วิธีบนบาลเทวดา เป็นต้น แต่ไม่ได้ลงมือทำมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร นิพพานไม่ได้มาจากการอ้อนวอนหรือการขอเอา การจะเข้าถึงพระนิพพานได้ต้องเจริญองค์มรรค ๘ มี ( ศีล สมาธิ ปัญญา) ให้เกิดพร้อมกัน เรียกอีกอย่างว่าให้มรรค ๘ สมังคีย์ เพื่อทำการประหานกิเลสตามกำลังแห่งมรรค์นั้นๆ เมื่อเข้าถึงพระนิพพานจริงแล้ว พระนิพพานมีขึ้นมาดับกิเลส ถ้ามั่นใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า เราก็เดินทางที่พระองค์ทรงชี้ทางไว้ให้แล้ว ไม่ต้องกลัวหลงทาง ถ้าเห็นความไม่เที่ยงของรูปนาม มันจะเบื่อหน่ายของรูปนามอยากหนีให้พ้น เหมือนเอามือเข้าไปจับก้อนเหล็กที่ร้อนอยู่ จะต้องรีบสลัดออกก็ฉันนั้นเหมือนกัน ที่เราคิดว่ายังไม่อยากไปนั้น เพราะกิเลสที่เป็นตัวตัณหาต่างหาก ที่ยังเกี่ยวข้องอยู่ในภพภูมิ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 ม.ค. 2015, 15:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
idea เขียน: จิตตกภวังค์คืออะไร สติตามไม่ทันหรือคะ ภ น ท ม ช ช ช ช ช ภ จุติ - ปฏิสนธิ ภ ภ แสดงภาพภวังคจิตสีแดง ภวังคจิต เป็น "องค์ของภพ" มักใช้รวมกับจิต เป็นภวังคจิต เป็นจิตมีลักษณะเกิดดับ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการสืบต่อสันตติของจิต ย่อมอาศัยการถ่ายทอดข้อมูลจากภวังคจิตจิตดวงเดิม ไปสู่จิตดวงใหม่ ด้วยกระบวนการของการทำงานของภวังคจิต เพราะเหตุว่าภวังคจิต เป็นเหตุให้สร้างจิตดวงใหม่ตลอดเวลาก่อนจิตดวงเก่าจะดับไป จึงชื่อว่าเป็นเหตุแห่ง "ภพ" หรือเป็นเหตุสร้าง"ภพ" ภวังคจิต มี ๓ อย่าง คือ ๑. ภวังคบาท คือภวังคจิตที่ทรงอารมณ์เก่า อันเป็นอารมณ์ที่ได้มาจากภพหรือจิตดวงก่อน และกำลังกระทบอารมณ์ใหม่ ๒. ภวังคจลนะ คือ เป็นภวังคจิตที่ไหวตัว เพราะเหตุที่มีอารมณ์ใหม่ มากระทบ จึงน้อมไปในอารมณ์ใหม่ (สร้างและถ่ายทอดข้อมูลสู่จิตดวงใหม่) ๓. ภวังคปัจเฉทะ คือเป็นภวังคจิตที่ตัดกระแสภวังค คือ ปล่อยอารมณ์เก่า วางอารมณ์เก่า เพื่อรับอยู่กับ อารมณ์ใหม่หรือจิตดวงใหม่ ภวังคจิต เป็น วิบากจิต คือ จิตใต้สำนึกส่วนลึกที่สุดของจิตเป็นที่สั่งสมอารมณ์จนกลายเป็นอุปนิสัย ภวังคจิต จะเกิดคั่นระหว่างวิถีจิตในแต่ละวาระ ทำหน้าที่สืบต่อและดำรงภพชาติ ภวังคจิต จะเกิดขึ้นเมื่อวิถีจิตดับ และเมื่อเกิดวิถีจิตภวังคจิตจะดับลง เมื่อวิถีจิตดับลงภวังคจิต จะเกิดขึ้นมาใหม่ ถ้าไม่มีภวังคจิต พอขาดวิถีจิต จิตจะไม่มีการสืบต่อสันตติก็เท่ากับสิ้นชีวิต ภวังคจิต ในขณะที่เปลี่ยนภพจุติใหม่สู่ชาติใหม่ จะใช้ชื่อว่า ปฏิสนธิจิตแทน ซึ่งเป็นขณะจิตแรก ของแต่ละชาติ ภวังคจิตจึงสืบต่อภพในระดับเปลี่ยนชาติด้วย ภวังคจิต คือมโนทวารเป็นอายตนะที่ ๖ อันเป็นวิบาก เป็นอัพยากฤต ซึ่งเป็นจิตตามสภาพปกติ เมื่อยังไม่ขึ้นสู่วิถีจิตรับรู้อารมณ์ จะเป็นเพียงมโน ยังไม่เป็นมโนวิญญาณ เมื่อรับอารมณ์คือเจตสิก จะกลายเป็นมโนวิญญาณ มีพุทธพจน์ว่า “จิตนี้ประภัสสร (ผุดผ่อง ผ่องใส บริสุทธิ์) แต่เศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา" จิตที่ประภัสสรในที่นี้พระอรรถกถาจารย์อธิบายว่าหมายถึงภวังคจิต (ไม่ใช่อย่างข้างบนที่อธิบายแบบมั่วๆนึกคิดเอาเองทั้งนั้นแบบหาหลักฐานไม่ได้) |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 14 ม.ค. 2015, 07:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อารมณ์ ไม่ใช่ จิต |
เช่นนั้น เขียน: ลุง เพ้อไปถึงไหน เอาพุทธพจน์มาสนับสนุน ของสกปรก อธิบายภวังคจิต เป็นคุ้งเป็นแคว...... อ้างคำพูด: มีพุทธพจน์ว่า “จิตนี้ประภัสสร (ผุดผ่อง ผ่องใส บริสุทธิ์) แต่เศร้าหมองเพราะอุปกิเลสที่จรมา" ของดีมีแค่นี้ ที่เหลือ เน่า หมด ภวังคจิต .....จิต เป็นองค์แห่งภพ ที่เรียกว่าเป็นองค์แห่งภพ เพราะ อวิชชาตัณหาอุปาทานยังไม่สิ้นไปหมดไป และเป็นจิตที่ยังไม่มีอาการกระเพื่อมแสดงออกโดยอวิชชาตัณหาอุปาทาน ไม่กระเพื่อมคือไม่ยังไม่ทำหน้าที่ จิตก็จิตดวงนั้นนั่นเองที่ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆด้วยอำนาจของสมุทัย.... สำนักอภิธรรมลุงน่ะ.... มันมีจิตหลายดวง จิตดวงใครดวงมัน และไปไม่เป็นไง เลยเอาสันตติมาต่อไว้ ยิ่งอธิบายวิถีจิต ยิ่งชุ่ยมั่กๆ ชวนวิถี 7 ขณะ ก็มั่วสุดๆ หลับตากอดไปเถอะลุง แต่อย่าบอกใครไปทั่วๆ ว่าเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าล่ะ จะเท่ากับ เป็นการยัดคูถให้พระพุทธองค์กล่าว ลูกศิษย์ของพระศาสดาควรทำความเห็นให้ตรง(ทิฏฐุชุกรรม) ไม่ควรทำความเห็นให้ตรงกับสมณะเหล่าอื่น ที่อิงอาศัยพุทธวจนะ |
หน้า 11 จากทั้งหมด 17 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |