วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 241 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
nongkong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
จิตใต้สำนึก...เป็นคำไทยที่ใช้แปลคำของฝรั่ง...Subconscious
ส่วนจิตสำนึก แทน Conscious

ดังนั้น....ไม่มีในตำราธรรมของเราหรอกครับ...แต่สามารถเทียบเคียงตามลักษณะอาการได้

จะว่าไปแล้ว...ทั้ง อนุสัย..ทั้งจิตใต้สำนึก...ทั้งSubconscious แต่ก็แทนอาการ..อาการหนึ่ง..เหมือนกัน..ครับ

จิตสำนึก จิตใต้สำนึก จิตไร้สำนึก??..แทนอาการอย่างไรพอยกตัวอย่างเทียบเคียงสภาวะได้ไหมค่ะ
จิตไร้สำนึก..คือกิเลศรึอวิชชา คุนน้องเข้าใจถูกมั้ย s006

จิตมีสภาพรู้
จิตรู้สำนึก คือ สังขารขันธ์ขณะที่คิดที่ทำครับ
จิตใต้สำนึก หรือจิตไร้สำนึก เป็นสภาวะแสดงถึง อนุสัยครับ

ซิกมันส์ฟรอยด์ เรียกการกระทำอันเกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเฉพาะหน้า ว่าจิตรู้สำนึก หรือจิตสำนึก
และ การกระทำอันเกิดจากการกระตุ้นอนุสัย นั้นเรียกว่าการกระทำจากจิตใต้สำนึก หรือจิตไร้สำนีก

พยายามพิจารณาแปดตลบแต่ยังมีข้อกังขา
สมมุตินะค่ะ คนที่ชอบหยิบของคนอื่นจนเคยชิน..เช่นเห็นของกินคนอื่นวางอยู่ก็หยิบเข้าปากเลย หรือเห็นของใช้ส่วนตัวคนอื่นก็หยิบมาใช้แบบไม่ถาม แบบนี้เนียกว่าการกระทำที่เกิดจากการตอบสนองของสิ่งเร้า..หรือการกระทำอันเกิดจากการกระตุ้นของอนุสัยค่ะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 22:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
จิตใต้สำนึก...เป็นคำไทยที่ใช้แปลคำของฝรั่ง...Subconscious
ส่วนจิตสำนึก แทน Conscious

ดังนั้น....ไม่มีในตำราธรรมของเราหรอกครับ...แต่สามารถเทียบเคียงตามลักษณะอาการได้

จะว่าไปแล้ว...ทั้ง อนุสัย..ทั้งจิตใต้สำนึก...ทั้งSubconscious แต่ก็แทนอาการ..อาการหนึ่ง..เหมือนกัน..ครับ

จิตสำนึก จิตใต้สำนึก จิตไร้สำนึก??..แทนอาการอย่างไรพอยกตัวอย่างเทียบเคียงสภาวะได้ไหมค่ะ
จิตไร้สำนึก..คือกิเลศรึอวิชชา คุนน้องเข้าใจถูกมั้ย s006


จิตสำนึก...คือ...จิตรู้เหตุรู้ผล...รู้อะไรดี..อะไรไม่ดี

จิตใต้สำนึก...คือจิตที่เกิดตามความเคยชิน...เราเคยชินกับอะไรละ..ถ้าไม่ใช่กิเลส..ตัณหา..อวิชชา..แม้จะมีจิตสำนึกเกิดรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร..ก็ห้ามจิตใต้สำนึกไม่ได้ก็มี..(เยอะ)

จิตไร้สำนึก...ถ้าเอาตามคนต้นคิดคือฝรั่ง...ก็เป็นพวกเดียวกับจิตใต้สำนึกแต่ลึกกว่า...แต่ส่วนตัว...กระผมคิดว่า...เป็นจิตที่ทำงานควบคุมการทำงานของร่างกายเป็นอัตโนมัตไร้การใช้ความรู้สึกนึกคิด..เช่น..สั่งให้โฮโมนนั้น..นี้...ให้หลั่งตอนนั้น..ตอนนี้..สั่งให้น้ำลายไหลเมื่อเห็นของที่ตนชอบ..เป็นต้น...ผมอาจจะผิดนะ..อย่าเพิ่งเชื่อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 10:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดี ท่านกบ

เห็นท่านกบให้ความรู้เรื่องของ จิตสำนึก จิตไร้สำนึก จิตใต้สำนึก แล้วผมก็มีเรื่องอยากถามว่า เมื่ออารมณ์ไม่ใช่จิต จิตไม่ใช่อารมณ์แล้ว จิตดีควรเป็นอย่างไร แล้วเราควรทำอย่างไรให้จิตดี อีกประการหนึ่งอยากขอคำนิยามของคำว่าจิต ซึ่งบางครั้งเวลาพูดถึงคำว่าจิต เหมือนมีความสับสนมีความแตกต่างกันในความเข้าใจ ยิ่งในบุคคลที่มีการปฏิบัติธรรมด้วยกัน บางครั้งก็เหมือนกล่าวคำว่าจิตไม่เหมือนกัน เป็นเพราะเหตุใด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
พยายามพิจารณาแปดตลบแต่ยังมีข้อกังขา
สมมุตินะค่ะ คนที่ชอบหยิบของคนอื่นจนเคยชิน..เช่นเห็นของกินคนอื่นวางอยู่ก็หยิบเข้าปากเลย หรือเห็นของใช้ส่วนตัวคนอื่นก็หยิบมาใช้แบบไม่ถาม แบบนี้เนียกว่าการกระทำที่เกิดจากการตอบสนองของสิ่งเร้า..หรือการกระทำอันเกิดจากการกระตุ้นของอนุสัยค่ะ..

แรกๆ ที่หยิบ ก็ด้วยจิตสำนึก แต่ไม่รู้ผิดชอบ ทำตามที่คิดครับ
พอหยิบของคนอื่นได้ เกิดความสุขความพอใจ ก็สั่งสมในจิตสันดานครับ
พอเป็นสันดานเข้า ก็ทำตามความเคยชิน ไม่ต้องคิดอะไรมาก พอเจออะไร แม้จะรู้ว่าไม่ดีก็หยิบครับ
เป็นพฤติกรรมเกิดจากจิตใต้สำนึกหรือไร้สำนึก อันเป็นแรงกระเพื่อมจากอนุสัยครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20170801_203947.jpg
20170801_203947.jpg [ 248.14 KiB | เปิดดู 3799 ครั้ง ]
toy1 เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
สัญญาขันธ์เป็นเจตสิก ที่เกิดร่วมกับจิต อิงอาศัยกันเกิดขึ้น


อยากถามลุงหมานต่อครับ ได้ยินพูดถึง เจตสิกกันบ่อย ๆ แล้วเจตสิกมีหน้าที่อะไรครับ เหมือนวิ่งไปอยู่ ไปร่วมกับเขาเกือบทุกเรื่อง


เพิ่งเห็นคำถามครับ เจตสิกเป็นนามธรรมที่เกิดร่วมกับจิตเสมอ

การรู้สึก สุข ทุกข์ เฉยๆ อันนี้ก็เป็นเวทนาเจตสิก
การจำได้หมายรู้ เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นอดีต อันนี้ได้แก่สัญญาเจตสิก
การนึกคิดเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นปัจจุบัน อดีต อนาคต ที่เป็นไปในกุศลบ้าง อกุศลบ้าง มีความโลภ
ความโกรธ ความหลง เหล่านี้ อันนี้เป็นสังขารเจตสิก

ทั้ง ๓ อย่างนี้เป็นตัวปรุงแต่งจิต จิตก็จะรับรู้ตามเจตสิกปรุงแต่ง บางแห่งจะเรียกเจตสิกขันธ์ ๓
ฉะนั้น หน้าที่ของเจตสิก จะเกิดพร้อมกันกับจิต และดับพร้อมกันจิต อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต
รู้อารมณ์เดียวกันกับจิต

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 19:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
toy1 เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
สัญญาขันธ์เป็นเจตสิก ที่เกิดร่วมกับจิต อิงอาศัยกันเกิดขึ้น


อยากถามลุงหมานต่อครับ ได้ยินพูดถึง เจตสิกกันบ่อย ๆ แล้วเจตสิกมีหน้าที่อะไรครับ เหมือนวิ่งไปอยู่ ไปร่วมกับเขาเกือบทุกเรื่อง


เพิ่งเห็นคำถามครับ เจตสิกเป็นนามธรรมที่เกิดร่วมกับจิตเสมอ

การรู้สึก สุข ทุกข์ เฉยๆ อันนี้ก็เป็นเวทนาเจตสิก
การจำได้หมายรู้ เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นอดีต อันนี้ได้แก่สัญญาเจตสิก
การนึกคิดเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นปัจจุบัน อดีต อนาคต ที่เป็นไปในกุศลบ้าง อกุศลบ้าง มีความโลภ
ความโกรธ ความหลง เหล่านี้ อันนี้เป็นสังขารเจตสิก

ทั้ง ๓ อย่างนี้เป็นตัวปรุงแต่งจิต จิตก็จะรับรู้ตามเจตสิกปรุงแต่ง บางแห่งจะเรียกเจตสิกขันธ์ ๓
ฉะนั้น หน้าที่ของเจตสิก จะเกิดพร้อมกันกับจิต และดับพร้อมกันจิต อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต
รู้อารมณ์เดียวกันกับจิต


ขอบคุณครับ ลุงหมานที่ช่วยให้ผมเข้าเรื่องของเจตสิกมากขึ้นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 21:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


toy1 เขียน:
สวัสดี ท่านกบ

เห็นท่านกบให้ความรู้เรื่องของ จิตสำนึก จิตไร้สำนึก จิตใต้สำนึก แล้วผมก็มีเรื่องอยากถามว่า เมื่ออารมณ์ไม่ใช่จิต จิตไม่ใช่อารมณ์แล้ว จิตดีควรเป็นอย่างไร แล้วเราควรทำอย่างไรให้จิตดี อีกประการหนึ่งอยากขอคำนิยามของคำว่าจิต ซึ่งบางครั้งเวลาพูดถึงคำว่าจิต เหมือนมีความสับสนมีความแตกต่างกันในความเข้าใจ ยิ่งในบุคคลที่มีการปฏิบัติธรรมด้วยกัน บางครั้งก็เหมือนกล่าวคำว่าจิตไม่เหมือนกัน เป็นเพราะเหตุใด


จิตไม่ใช่อารมณ์..อารมณ์ไม่ใช่จิต...เป็นคำทางเทคนิกของอภิธรรม

แต่..จิต...ที่คนทั่วไปใช้...หมายรวมรวม..อาการของนามธรรม

อย่าเอามาปนกัน...มันจะปวดหัว..ครับ

ดังนั้น..จะคุยกะใคร..เราต้องรู้ก่อนว่า...กำลังพูดนแง่อภิธรรม...หรือ..คุยแบบทั่วๆไป

จิตดี..ควรเป็นอย่างไร?

จิตดี....ควรเป็นจิตที่สงบ...ครับ

ทำอย่างไรให้จิตดี?....เราต้องรู้ก่อนว่า...จิตสงบได้เพราะอะไร

จิตสงบ..เพราะ..จิตไม่เอาโลก...(ไม่เอาการเกิด..ไม่เอากาย..ไม่เอาโลกธรรม)
จิตไม่สงบ...เพราะ..จิตเอาโลก
ทำไมจิตถึงเอาโลก?...เพราะ..หลง...หลงว่ากายนี้เป็นเรา..จึงอยากเกิด...หลงว่ากายนี้เป็นเรา...จึงอยากได้โลกธรรมมาเพื่อรูปกาย

เมื่อไร...ทำจิตใจนี้..ให้รู้แจ้งแก่ใจว่า...เราไม่ใช่กายนี้...กายนี้ไม่ใช่เรา..เราคือจิตใจ...อยู่ได้อิสระโดยไม่ต้องอาศัยกายนี้ให้มีภาระต้องรักษา..อันเป็นที่มาของทุกข์ทั้งปวง...
(กาย...หมายรวม...ขันธ์ทั้ง5 )

เมื่อใจไม่เอาโลก...เพราะ..รู้....ใจก็สงบ...
เมื่อใจสงบ...ใจก็เป็นสมาธิ...สมาธิของผู้หมดกิเลสจึงอยู่ได้ตลอดเวลาเป็นธรรมชาติ...ไม่ต้องกำหนด(นี้เกินกว่าคำถามนิดหน่อย)

มรรคทั้งหลาย...ก็เพื่อให้เรารู้แจ้งลงมาที่จุด..เรื่อง..กายนี้ไม่ใช่เรา..เราไม่ใช่กายนี้...ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2014, 21:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณท่านกบ ที่ให้ข้อคิดเห็น เรื่องของจิตดี จิตสงบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2014, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2014, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




77100293_o.png
77100293_o.png [ 142.5 KiB | เปิดดู 3799 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:

จิตไม่ใช่อารมณ์..อารมณ์ไม่ใช่จิต...เป็นคำทางเทคนิกของอภิธรรม

แต่..จิต...ที่คนทั่วไปใช้...หมายรวมรวม..อาการของนามธรรม

อย่าเอามาปนกัน...มันจะปวดหัว..ครับ

ดังนั้น..จะคุยกะใคร..เราต้องรู้ก่อนว่า...กำลังพูดนแง่อภิธรรม...หรือ..คุยแบบทั่วๆไป

จิตดี..ควรเป็นอย่างไร?

จิตดี....ควรเป็นจิตที่สงบ...ครับ

ทำอย่างไรให้จิตดี?....เราต้องรู้ก่อนว่า...จิตสงบได้เพราะอะไร

จิตสงบ..เพราะ..จิตไม่เอาโลก...(ไม่เอาการเกิด..ไม่เอากาย..ไม่เอาโลกธรรม)
จิตไม่สงบ...เพราะ..จิตเอาโลก
ทำไมจิตถึงเอาโลก?...เพราะ..หลง...หลงว่ากายนี้เป็นเรา..จึงอยากเกิด...หลงว่ากายนี้เป็นเรา...จึงอยากได้โลกธรรมมาเพื่อรูปกาย

เมื่อไร...ทำจิตใจนี้..ให้รู้แจ้งแก่ใจว่า...เราไม่ใช่กายนี้...กายนี้ไม่ใช่เรา..เราคือจิตใจ...อยู่ได้อิสระโดยไม่ต้องอาศัยกายนี้ให้มีภาระต้องรักษา..อันเป็นที่มาของทุกข์ทั้งปวง...
(กาย...หมายรวม...ขันธ์ทั้ง5 )

เมื่อใจไม่เอาโลก...เพราะ..รู้....ใจก็สงบ...
เมื่อใจสงบ...ใจก็เป็นสมาธิ...สมาธิของผู้หมดกิเลสจึงอยู่ได้ตลอดเวลาเป็นธรรมชาติ...ไม่ต้องกำหนด(นี้เกินกว่าคำถามนิดหน่อย)

มรรคทั้งหลาย...ก็เพื่อให้เรารู้แจ้งลงมาที่จุด..เรื่อง..กายนี้ไม่ใช่เรา..เราไม่ใช่กายนี้...ครับ



จิตไม่ใช่อารมณ์..อารมณ์ไม่ใช่จิต...เป็นคำทางเทคนิกของอภิธรรม

วิสัชชนา....ไม่ใช่เทคนิกพระอภิธรรมอะไรเลย เป็นสภาวะแท้ๆ ถ้าหากเข้าใจจริงจะไม่ปวดหัว
ตัวอารมณ์ หมายถึง สิ่งที่จิตเข้าไปรู้ ส่วนจิตนั้น หมายถึง ตัวเข้าไปรู้อารมณ์ ก็เท่านั้นเอง
จิตดีก็ไม่ถึงกะต้องเป็นจิตสงบ แค่จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว ถ้าจิตคิดแต่กุศลเกิดสงบขึ้นอีกนั้น
ก็เป็นจิตที่พิเศษขึ้นไปอีก เรียกว่าจิตภาวนากุศล

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2014, 22:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
จิตไม่ใช่อารมณ์..อารมณ์ไม่ใช่จิต...เป็นคำทางเทคนิกของอภิธรรม

วิสัชชนา....ไม่ใช่เทคนิกพระอภิธรรมอะไรเลย เป็นสภาวะแท้ๆ ถ้าหากเข้าใจจริงจะไม่ปวดหัว
ตัวอารมณ์ หมายถึง สิ่งที่จิตเข้าไปรู้ ส่วนจิตนั้น หมายถึง ตัวเข้าไปรู้อารมณ์ ก็เท่านั้นเอง
จิตดีก็ไม่ถึงกะต้องเป็นจิตสงบ แค่จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว ถ้าจิตคิดแต่กุศลเกิดสงบขึ้นอีกนั้น
ก็เป็นจิตที่พิเศษขึ้นไปอีก เรียกว่าจิตภาวนากุศล


จิตไม่ใช่อารมณ์...อารมณ์ไม่ใช่จิต...
ไม่ค้านอะไรครับ...และผมก็ไม่ปวดหัว.. :b9:

แต่ก็ยังคำเดิม..คือ...เป็นคำทางเทคนิคพระอภิธรรม....คือ..เราต้องจำอย่างนี้ก่อน...แต่คนจำก็ยังแยกเองไม่ได้...

เพราะ..ถ้าแยก..หรือ..เห็น...ก็จะต้องเป็นคนไม่มีอารมณ์..เพราะรู้ทัน

ขอถามลุงหมานหน่อยครับ...แบบ..กวน..กวน..อิอิ :b13:

ถ้าจิตหมายถึง..ตัวเข้าไปรู้อารมณ์..ตัวอารมณ์..หมายถึงสิ่งที่จิตเข้าไปรู้...อย่างที่ว่าๆกันมา
ถามหน่อยว่า...แล้วตัวอารมณ์มาจากไหน..อะไรสร้างอารมณ์?...อายตนภายนอกรึ...หรือ..อายตนภายใน..รึอะไร?

อีกคำ...จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว..นี้...จิตตัวนี้เป็นจิตในความหมายของอภิธรรม..หรือ..ความหมายรวมๆอย่างชาวบ้านธรรมดา

ถ้าเป็นความหมายธรรมดาๆ...พอเข้าใจครับว่า..จิตคิดมันใช้อะไรคิด
แต่ถ้าตอบว่า...เป็นความหมายทางพระอภิธรรม..ก็ถามต่อเลยว่า...จิต..เอาอะไรไปคิด?...สังขารขันธ์..หรือ?

"จิตดีก็ไม่ถึงกะต้องเป็นจิตสงบ แค่จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว "

ข้อนี้..กระผมก็ไม่ค้านครับ...ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า...จะตอบแบบดีดี...ดีเล็กดีน้อย..ดีทั่วๆไป...หรือ...จะบอกว่า..ดีที่สุด...อย่างที่พระพุทธเจ้าอยากให้สรรพสัตว์..เป็น

กลับมาคิดว่า..ก็เมื่อเราเป็นลูกพระพุทธเจ้า...ไม่ต้องการดีที่สุด....แล้วจะเรียกว่า...นับถือพระองค์ได้อย่างไร...

จึงบอกที่สุดไปเลยว่า...จิตดี..คือ..จิตสงบ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2014, 06:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




c56a4030.png
c56a4030.png [ 579.31 KiB | เปิดดู 3799 ครั้ง ]
ขอบคุณคำถาม

อ้างคำพูด:
ขอถามลุงหมานหน่อยครับ...แบบ..กวน..กวน..อิอิ

ถ้าจิตหมายถึง..ตัวเข้าไปรู้อารมณ์..ตัวอารมณ์..หมายถึงสิ่งที่จิตเข้าไปรู้...อย่างที่ว่าๆกันมา
ถามหน่อยว่า...แล้วตัวอารมณ์มาจากไหน..อะไรสร้างอารมณ์?...อายตนภายนอกรึ...หรือ..อายตนภายใน..รึอะไร?

คำถามดีมากไม่กวนหรอกครับ

อารมณ์เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีอยู่แล้วในโลก ไม่มีผู้ใดสร้าง
อารมณ์นั้น ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ และ ธรรมารมณ์ อารมณ์ที่เป็นอายตนะ
ภายนอกอย่างเดียว ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ แต่สำหรับธรรมารมณ์เป็นได้ทั้ง อายตนะ
ภายนอกและอายตนะภายใน ที่นี้เราต้องเข้าใจคำว่า อายตนะก่อนว่าแปลว่าอะไร อายตนะแปลว่า
การเชื่อมต่อ หมายถึงสิ่งสองสิ่งมาเชื่อมต่อกันได้จึงเรียกว่าอายตนะ เช่น ตากับรูป หูกับเสียง เป็นต้น
เมื่ออายตนะเชื่อมต่อได้ จิตก็เกิดขึ้นรู้ นึกคิดเรื่องราวต่างๆ มีเวทนาบ้าง สัญญาบ้าง สังขารบ้าง
ถ้าเป็น"ตา"กับ"เสียง"หรือ "หู"กับ"รูป" ก็จะไม่ใช่อายตนะ เพราะว่าเชื่อมต่อกันไม่ได้ดังนี้ เป็นต้น

อ้างคำพูด:
อีกคำ...จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว..นี้...จิตตัวนี้เป็นจิตในความหมายของอภิธรรม..หรือ..ความหมายรวมๆอย่างชาวบ้านธรรมดา

ถ้าเป็นความหมายธรรมดาๆ...พอเข้าใจครับว่า..จิตคิดมันใช้อะไรคิด
แต่ถ้าตอบว่า...เป็นความหมายทางพระอภิธรรม..ก็ถามต่อเลยว่า...จิต..เอาอะไรไปคิด?...สังขารขันธ์..หรือ?

จิตไม่มีในความหมายใดๆ ว่าจะต้องเป็นของพระอภิธรรม หรือชาวบ้านธรรมดา จิตก็คือจิต

จิตไม่ได้คิด แต่จิตเป็นผู้รู้คิด สิ่งที่คิดได้แก่เจตสิกที่เกิดพร้อมกับจิตที่เรียกว่า"สังขาร"ได้แก่เจตสิก
จิตเป็นขันธ์ๆ หนึ่งคือวิญญาณขันธ์ จิตไม่ใช่สังขารขันธ์จึงคิดหรือจะไปปรุงแต่งอะไรไม่ได้
จิตจึงมีสภาพเพียงเป็นผู้รู้เท่านั้น

อ้างคำพูด:
"จิตดีก็ไม่ถึงกะต้องเป็นจิตสงบ แค่จิตคิดเรื่องกุศลก็เป็นจิตดีแล้ว "

ข้อนี้..กระผมก็ไม่ค้านครับ...ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า...จะตอบแบบดีดี...ดีเล็กดีน้อย..ดีทั่วๆไป...หรือ...จะบอกว่า..ดีที่สุด...อย่างที่พระพุทธเจ้าอยากให้สรรพสัตว์..เป็น

กลับมาคิดว่า..ก็เมื่อเราเป็นลูกพระพุทธเจ้า...ไม่ต้องการดีที่สุด....แล้วจะเรียกว่า...นับถือพระองค์ได้อย่างไร...

จึงบอกที่สุดไปเลยว่า...จิตดี..คือ..จิตสงบ....

จิตที่สงบนั้นจะสงบด้วยอำนาจของสมาธิก็มี ที่เรียกว่าสงบด้วยการเจริญสมาธิ(ฌาน)
เป็นสงบจากกิเลสแบบชั่วคราว ไม่ถึงกับสงบโดยสิ้นเชิง
(การสงบด้วยอำนาจฌานเป็นการสงบจากนิวรณ์ ๕)

สงบด้วยอำนาจของวิปัสสนาก็มี เป็นการสงบจากกิเลสโดยสิ้นเชิงไม่กลับมาเกิดอีก
(การสงบด้วยอำนาจของวิปัสสนาเป็นการสงบจากนิวรณ์ ๖ โดยไม่มีเหลือ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2014, 07:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สว้สดีครับ ลุงหมาน

ลุงช่วยอธิบายเรื่อง จิตและเจตสิกธรรม ธรรมที่เป็นกามาวจร ธรรมที่ไม่ใช่กามาวจร ธรรมที่เป็นรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร ธรรมที่เป็นอรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่อรูปาวจร ธรรมที่เป็นโลกิยะ ธรรมที่เป็นโลกุตตระ

ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2014, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




imagesCAMYXGIU.jpg
imagesCAMYXGIU.jpg [ 6.38 KiB | เปิดดู 5229 ครั้ง ]
toy1 เขียน:
สว้สดีครับ ลุงหมาน

ลุงช่วยอธิบายเรื่อง จิตและเจตสิกธรรม ธรรมที่เป็นกามาวจร ธรรมที่ไม่ใช่กามาวจร ธรรมที่เป็นรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร ธรรมที่เป็นอรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่อรูปาวจร ธรรมที่เป็นโลกิยะ ธรรมที่เป็นโลกุตตระ

ขอบคุณครับ


จิต ๘๙ หรือ ๑๒๑

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2014, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




52.PNG
52.PNG [ 54.29 KiB | เปิดดู 5229 ครั้ง ]
ลุงหมาน เขียน:
toy1 เขียน:
สว้สดีครับ ลุงหมาน

ลุงช่วยอธิบายเรื่อง จิตและเจตสิกธรรม ธรรมที่เป็นกามาวจร ธรรมที่ไม่ใช่กามาวจร ธรรมที่เป็นรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่รูปาวจร ธรรมที่เป็นอรูปาวจร ธรรมที่ไม่ใช่อรูปาวจร ธรรมที่เป็นโลกิยะ ธรรมที่เป็นโลกุตตระ

ขอบคุณครับ

เจตสิก ๕๒

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 241 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร